สวัสดีค่ะ ในเวลานี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเราให้ฟัง อ้อเราอายุ13จะดข้า14สิงหานะคะ มีเรื่องๆนึงคาใจเรามาโดยตลอ3-4เดือนแล้ว ย้อนไปในอดีตตอนนั้นเราอายุได้8ขวบ พ่อได้เปิดร้านขายสินค้าพวกเหล็กต่างๆเพราะพ่อเรามีอาชีพเป็นช่าง ในช่วงนั้นชีวิตเราก็ถือว่าดีมากเลยล่ะ ลืมบอกไปเรามีน้องด้วย1คนเป็นผู้ชาย อายุห่างกัน1ปี ตอนนั้นพวกเรา4คนอยู่แบบมีความสุขบ้างไม่มีบ้าง แต่ก็แลกมากับการที่เปิดร้านคือยืมเงินจากธนาคารมาเปิดเกือบสามล้านบาท และเงินที่ได้มาคือเงินจากการเอาที่ดินเข้าจำนอง ตอนนั้นแม่พยายามห้ามพ่อไม่ให้เอาที่ดินนั่นไปเพราะเป็นที่ของตาให้แม่มา แต่พ่อก็ตื้อแม่และบังคับยายให้เอาที่ดินไปจำนอง พ่อเราเป็นคนโลภเห็นคนอื่นมีก็อยากมีเหมือนเขา ในที่สุดพ่อก็ได้เงินมาจำนวนนึงแล้วบอกว่าจะตัดดอกให้เร็วที่สุด หรือพูดไปก่อนแล้วว่าต้องทำยังไงๆ แม่ก็ยอมเชื่อ นิสัยอีกอย่างของพ่อคือเวลาขายของจะชอบแถมนู่นแถมนี้ให้ลูกค้าจนไม่มีกำไรลงทุน และโกงเงินจากงานที่รับเหมา แต่แม่กับคนในบ้านไม่รู้อะไรเลยได้แต่ใช้เงินนั่นไปวันๆ จนมาถึงตอนที่เราอายุได้ 11 ปี ตอนนั้นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเรื่องหนี้สินเพราะหาเงินส่งไม่ทันจึงเกิดการขัดแย้งระหว่างกัน เราผู้ที่ยังเด็กและไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยก็ไม่เข้าใจ และได้ปิดร้านนั่นลงรอเจ้าหนี้มายึดที่ไป พอแยกตัวออกมาจากการค้าขายก็ย้ายออกมาอยู่กับยายที่นาหรือที่ดินที่เอาไปจำนองนั่นแหละ อยู่ไปเรื่อยๆพาอก็ออกลายอย่างเต็มที่เพราะแม่ชอบพูดเรื่องหนี้และพ่อตอนสมัยก่อนๆเพราะพ่อเป็นคนมักมากเคยมีลูกมาแล้ว2คน เป็นผู้ชายหรือพี่ต่างแม่เรานั่นแหละ แม่พูดเจ็บมากจริงๆและไล่ให้พ่อหนีไปเพราะอยู่ก็ไม่ได้อะไรกลับคืนมา พ่อก็เลยเริ่มกินแต่เหล้าทุกวันเริ่มมั่วผู้หญิง ยืมตังค์ไปทั่ว ผ่านไปหลายเดือนแม่ก็เอาแต่พูดใส่พ่อเพราะความเครียดสะสม จนพ่อไปมีเมียน้อยแม่ก็รับรู้และหวงพ่อและทำให้ในตอนนั้นมีการขอพ่อคืนเกิดขึ้น เราก็ไม่เข้าใจแม่เหมือนกันที่ปากบอกเกลัยดนักเกลียดหนาแต่กลับซื้อไว้ พอถึงตอนนั้นแม่กับพ่อก็ลงเอยด้วยการคืนดีด้วยกันเราก็โล่งใจมาก พออยู่ไปเป็นเดือนๆ พ่อก็ไม่ให้หนีก็เพราะไม่มีเวินจ่ายหนี้ จนกระทั่งรับงานๆนึงแต่กลับไปโกงเงินเขาเพื่อเอาเงินไปตัดดอกเบี้ยธนาคาร จึงทำให้ลูกค้าคนนั้นไม่พอใจและขู่จะฆ่าพ่อถ้าไม่เอาเงืนมาคืนให้จำนวนห้าหมื่นกว่าบาท พ่อกลัวมากจึงกลับมาหาแม่และอ้อนวอนเอาใบที่ดินชิ้นสุดท้ายไปจำนองเพือเอาเงินไปให้ลูกค้าคนนั้น ตอนแรกแม่ก็ไม่ให้เพราะที่ดินเหลือที่เดียวและคิดว่าลูกจะอยู่ยังไงถ้าเอาให้หมด แต่ผลสุดท้ายก็ต้องยอมให้อยู่ดีเพราะพ่อไปเป่าหูยายจนเชื่อ ยายเราเป็นคนหูเบา แใ่จึงต้องจำยอมให้ที่ดินไปแลกกับน้ำตาและความเครียดของคนในครอบครัว แม่ในตอนนั้นก็เริ่มกลับสู่โหมดเกลียดพ่ออีกครั้งรวมถึงเราด้วย ในตอนนั้นเราเครียดเรื่องนี้มากๆ จนเคยคิดฆ่าตัวตาย ผ่านไปเร็ววันเข้าพ่อก็กลับมากินเหล้าโดยไม่สนใจว่าลูกเมียจะเป็นยังไง ทั้งยังทิ้งภาระหนี้สินไว้อีกและพ่อชอบอาลวาดกลางดึกทำให้เราไม่ได้นอน พ่อมักบอกว่าทำไมแม่ไม่สนใจเค้าเลยลูกก็ไม่สนใจ นานวันเข้าเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้ทุกวันเราอายคนมากๆที่ต้องมาเห็นภาพที่เจ้าหนี้มานืนด่าฉอดๆที่หน้าบ้านเรา ไม่นานพ่อก็หนีหนี้ไปอยู่ที่บ้านย่า ในตอนนั้นพ่อกับแม่ได้เซ็นใบหย่าเรียบร้อย และแม่ก็มีสามีใหม่ในปัจจุบัน พ่อเราพยายามติดต่อเราแต่เราไม่รับสายหรือจะส่งจ้อความใดๆหากันเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เราคิดได้และรู้สึกผิดต่อพ่อมาก แต่ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่สิ แถมในตอนนี้เรายิ่งไม่ชอบน้องด้วยเพราะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ก่อนพ่อกับแม่โคตรตามใจน้องเลย อยากได้อะไรก็ให้หมด พอโตมาได้อายุปัจจุบันก็กลายเป็นคนขี้เกียจทิ้งงานทุกอย่างไว้ให้เรา น้องเราสกปรกมากนะทุกคน มันไม่ชอบแผลงฟันหรืออาบน้ำเลยติดเกมกับเพื่อนมากๆตอนนี้ที่เล่าอยู่ก็ไปอยู่บ้านเพื่อนนู่น ขอแต่เงินไปวันๆ เราแถบหัวระเบิดเวลาโดยใช้ เหมือนวันนี้เราไปสวนกับแม่เพื่อเอายางพาราไปขายลงมาก็ต้องเจอกับนรกอีก มีอีกหลายๆอย่างเลยที่เรายังเล่าไม่หมด เพราะเรื้องมันยาวมากๆเลยล่ะ ประสบการณ์ในชีวิตคืออย่าย่มหนี้เยอะอย่าโลภ ตอนนี้แม่ทำได้เพียงหาเงินมาใช้หนี้สวนร้านนั่นก็ปล่อยเช่ารอให้โดนยึดไปเท่านั้น ของคุณที่มาอ่านกันนะคะ
ปัญหาความเครียดต่อครอบครัว