คนตาบอดกับประสบการณ์แย่ๆในการทำประกันสุขภาพ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องบอกกับท่านผู้อ่านทุกท่านก่อน ว่าผมเป็นคนตาบอดนะครับ วันนี้ผมมีประสบการณ์แย่ๆกับบริษัทประกันที่ขึ้นต้นด้วยตัว C มาแชร์ให้อ่านกันครับ ถือซะว่าอ่านเป็นอุทาหรณ์ละกันนะครับ เผื่อว่าในครอบครัวของท่านผู้อ่านมีคนพิการอยู่ จะได้รู้ทันและสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงทีครับ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ โดยผมจะให้ข้อมูลเป็นไทม์ไลน์ดังนี้
1. เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว มีเซลล์จากบริษัทประกันที่ขึ้นต้นด้วยตัว C ได้โทรมาเสนอโปรโมชั่นประกันสุขภาพที่มีการ connect กับธนาคารสีฟ้าให้แก่ผม โดยเซลล์มีการบอกรายละเอียดคร่าวๆของกรมธรรม์ แต่ไม่ได้มีการสอบถามถึงความพิการใดๆ (ผมคิดว่าโดยปกติเรื่องพวกนี้เซลล์ควรจะยึดเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากความพิการไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการทำประกันสุขภาพของบริษัท และการหาลูกค้าเป็นการโทรแบบสุ่ม ดังนั้นเซลล์ควรแจ้งเงื่อนไขที่ชัดเจน)
2. เมื่อเซลล์บอกรายละเอียดของกรมธรรม์แล้ว ผมรู้สึกสนใจและคล้อยตาม ผมจึงตัดสินใจทำประกันสุขภาพ เพราะหากเกิดอะไรกับชีวิตผม คนที่อยู่ข้างหลังจะได้สบาย
3. หลังจากตกลงทำประกันสุขภาพแล้ว ผมก็จ่ายเงินค่าประกันตามเงื่อนไข เดือนละ 370 บาท มีรายละเอียดกรมธรรม์ส่งมาทางอีเมลและบัติที่เอาไว้ยื่นที่โรงพยาบาลส่งมาถึงบ้าน
4. ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี จนกระทั่งผมจ่ายค่าประกันไปแล้วได้ประมาณ 6 เดือนก็มีเซลล์จากบริษัทเดิมโทรมาเสนอประกันสุขภาพชุดใหม่ที่ connect กับธนาคารสีม่วงให้ผมอีก ผมฟังพนักงานบอกเล่ารายละเอียดของกรมธรรม์และรู้สึกว่าประกันสุขภาพชุดนี้จะให้ผลตอบแทนดีกว่าอันเก่าที่ผมทำ ผมจึงตัดสินใจสมัครอีกครั้ง
5. ต่อมาไม่นาน ผมได้ตัดสินใจโทรไปยังบริษัทเพื่อขอยกเลิกประกันสุขภาพตัวเก่าที่ผมทำอยู่ ซึ่งพนักงานเขาก็ให้ผมยกเลิกนะ และครั้งนี้ผมก็ได้ลองสอบถามกับพนักงานว่า คนพิการสามารถทำประกันพวกนี้ได้ไหม พนักงานตอบผมมาว่าได้ ผมก็โอเค ถ้าได้ผมก็จ่ายต่อ
6. ต่อมาไม่นาน ผมได้รับการติดต่อจากพนักงานบริษัทประกัน โดยเขาโทรมาถามผมว่าผมมีความพิการใช่ไหมพร้อมกับบอกผมว่าคนพิการไม่สามารถทำประกันได้ ผมงงเลยครับ โดยผลสรุปก็คือผมต้องยกเลิกประกันทั้งหมดโดยพนักงานได้เสนอว่าจะคืนเบี้ยประกันทั้งหมดที่ผมจ่ายไป 6 เดือน เป็นเงินจำนวน 2,220 บาท โดยให้ผมยื่นเอกสารที่แสดงว่าผมเป็นคนพิการ ผมก็ยื่นบัติคนพิการไปตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน
7. เมื่อพนักงานรับเรื่องของผมไปแล้วก็บอกผมว่า ผมจะได้รับเงินเบี้ยประกันคืนภายใน 7 ถึง 15 วันในวันทำการ ไม่รวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผมก็โอเค ผมก็รอ
8. ผมรอมาได้สักระยะหนึ่งก็เริ่มโทรไปสอบถามกับบริษัทเรื่องการคืนเบี้ยประกันว่าผมจะได้รับวันไหน คำตอบที่ได้ก็คือกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ ผมรอแล้วรอเล่าแต่ก็ไม่มีแววว่าผมจะได้รับเงินเบี้ยประกันคืนเลย มิหนำซ้ำยังบอกให้ผมไปอัปสมุดบัญชีดู เพราะเงินอาจเข้าแล้วก็ได้ คือเชยมาก บัญชีที่ผมให้เขาไปผมก็มีแอป มีแจ้งเตือนเงินเข้าเงินออกตลอด
9. ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ (วันที่ 10 มิถุนายน) ผมโทรไปหาบริษัทนับได้ก็ 4/5 รอบ โดยผมได้รับคำตอบซึ่งเป็นลักษณะโยนกันไปโยนกันมา "เดี๋ยวจะส่งเรื่องไปให้พนักงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้และจะมีการตอบกลับภายใน 3/5 วันนะคะ" ผมโทรไป 3 รอบคำตอบก็เป็นแบบนี้ทุกรอบ ผมต้องคิดยังไงหรอครับ ไอ้ที่ว่า 3/5 วันที่พนักงานว่า ผมโทรไปทุกครั้ง วันมันก็จะบวกเพิ่มทุกครั้งหรอครับ
10. วันนี้ ผมแทบไม่มีหวังได้เงินเบี้ยประกันของผมคืนแล้ว ใช่ครับ มันอาจไม่ใช่เงินจำนวนมากมายอะไร แต่เงินมันอยู่ในกระเป๋าผมดีๆแท้ๆ ทำไมผมต้องเอาไปเสียกับอะไรหรือใครก็ไม่รู้ด้วยอะครับ
ข้อสังเกต:
1. บริษัทปล่อยให้เรื่องผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร พนักงานในบริษัทไม่ได้เข้าใจตรงกันเลยว่าคนพิการทำประกันสุขภาพไม่ได้ คนหนึ่งบอกทำได้ อีกคนบอกทำไม่ได้
2. ในเมื่อบริษัทรับรู้แล้วว่าผมเป็นคนพิการ บริษัทยังต้องมีความลังเลอะไรอีกถึงไม่ยอมคืนเงินเบี้ยประกันให้ผมสักที แบบนี้มันชี้ชัดถึงเรื่องความเป็นมืออาชีพได้หรือไม่ เพราะรายละเอียดกรมธรรม์ที่พวกคุณแจ้งมา หากเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยสองล้านนั่นโน่นนี่ แต่กับเงินแค่ไม่กี่พันคุณยังไม่คืนให้ผมเลย
3. ทุกครั้งที่มีการสนทนา พวกคุณเคลมว่าได้มีการบันทึกเสียงสนทนาไว้ทุกๆสาย คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่าสิ่งที่ผมนำมาเขียนในวันนี้มันไม่ใช่เป็นสิ่งเลื่อนลอยหรือเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐาน
4. สุดท้ายนี้ ไม่ว่าผมจะได้เงินเบี้ยประกันคืนหรือไม่ แต่ผมก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับใครอีกแล้ว ผมไม่อยากให้คนที่ไม่รู้มาตกเป็นเหยื่อเช่นผม เอ๊ะ ผมสามารถใช้คำว่าตกเป็นเหยื่อได้รึเปล่านะ555 อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่สละเวลาอ่านกระทู้ของผมจนจบนะครับ ขอขอบพระคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่