มติ ‘กกต.’ ลุยเองคดีหุ้นสื่อ-ม.151 ไต่สวนพิธา-โทษหนักคุก10ปี ตัดสิทธิการเมือง20ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4021825
มติ ‘กกต.’ ลุยเองคดีหุ้นสื่อ-ม.151 ไต่สวนพิธา-โทษหนักคุก10ปี ตัดสิทธิการเมือง20ปี
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนาย
พิธามีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดยกกต.เห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาจะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ
อย่างไรก็ตาม กรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอจะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่านาย
พิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและรู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่กลับสมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้งจะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทลงโทษ ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนดยี่สิบปี
อดีตเลขาฯสมช. เย้ยรัฐโชว์คฝ. รับมือม็อบ มั่นใจหรือเอาอยู่ แค่เขตทหารยังโดนด้อมส้มตีแตก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4020419
อดีตเลขาฯสมช. อัดฝ่ายมั่นคง ฝืนมติประชาชน เจอคนลุกฮือแน่ ถามมั่นใจหรือรอบนี้ คฝ.จะเอาอยู่ เย้ยเขตทหาร-ตร. เจอด้อมส้ม-ติ่งแดงตีแตกหมดแล้ว
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สังคมไทยได้เกิดสภาวะพลิกตัวเร่งเปลี่ยนผ่านสู่การเมืองใหม่ เมื่อมีการใช้เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการนับคะแนนและการจับทุจริตการเลือกตั้งจริงจัง จึงคาดหวังว่า กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการได้รวดเร็วภายใน 15 วัน แต่พอล่าช้า กกต.เลย หมดเครดิตในสายตาของสังคมไป ขณะเดียวกันมีข่าวกระหึ่มว่าขบวนการสืบทอดอำนาจจะใช้สารพัดวิชามารขัดขวางไม่ให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงออกมาโชว์พลังซักซ้อมการควบคุมฝูงชน เชื่อมั่นตัวแบบปี 49,53 และ 57 ว่า จะระงับยับยั้งเอามวลชนอยู่หมัดหากมีการออกมาชุมนุมประท้วง
“
แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ผู้ควบคุมฝูงชนเหล่านี้ไม่เคยมีประสบการณ์เจอเหตุการณ์แบบ 14 ตุลา 16 ที่ทหารถอยกรูดพังไม่เป็นท่า จึงไม่รู้ฤทธิ์เดชประชาชนดีพอ เพราะไม่มีกองกำลังรัฐที่จะเอาชนะประชาชนได้ ถ้าประชาชนฮึดสู้จริง ยิ่งมาถึงพ.ศ.นี้บริบทการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองมันพัฒนาไปหลายรูปแบบจนยากที่รัฐบาลจะควบคุมได้ ถ้าเกิดความไม่เป็นธรรมต่อการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ประชาชนเขาจะโกรธแค้นและฮึดสู้เต็มที่แน่
สมมุติฉากทัศน์ว่า เอาแค่เฉพาะมวลชนบางส่วนของ 14 ล้านเสียงที่เชียร์พรรคก้าวไกล เขาออกมาเดินชมวิวพร้อมกันในเวลาเดียวกันในทุกพื้นที่ชนะเลือกตั้ง ไม่ว่ากทม. ปริมณฑล จังหวัดใหญ่ทุกภาค เหนือ อีสาน ตะวันออก-ตก ใต้ แห่งละแสนคนสลับกันมา จะเอา คฝ.ที่ไหนมายับยั้ง แถมขณะนี้ตำรวจทหารชั้นผู้น้อยต่างเป็นติ่งส้มแดงไปหมดแล้ว เลือกตั้งพื้นที่เขตทหารพรรคก้าวไกลได้คะแนนนำโด่งทั้งหมด จะเอาอะไรไปต่อกรกับประชาชน อำนาจอธิปไตยมันเป็นของปวงชนชาวไทยจะเอาอำนาจอะไรมาขัดขวางพวกเขาได้ แต่ชักเริ่มได้กลิ่นจะมีการแจกกล้วยขวางการจัดตั้งรัฐบาลอีกแล้ว” พล.ท.
ภราดร กล่าว
เอกชนชี้ตั้งรบ.ช้าขาดความต่อเนื่องไม่ดีกับศก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_564844/
ภาคเอกชนมองหากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ขาดความต่อเนื่องไม่ดีกับเศรษฐกิจ ต่างชาติชะลอการลงทุนดูความชัดเจน
จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนเวลานี้และยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะออกมาล่าช้าหรือไม่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หอการค้าฯ
หวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันสนับสนุนให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น การเกิดสุญญากาศทางเศรษฐกิจในระหว่างรอรัฐบาลชุดใหม่ควรใช้เวลาสั้นที่สุด เพราะเกี่ยวเนื่องกับการใช้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะนี้
โดยในระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ภาพที่เห็นคือความลังเล และการชะลอการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ขณะที่เอกชนในประเทศก็ต้องปรับรูปแบบและแนวทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดรับกับหลายนโยบายที่ว่าที่รัฐบาลน่าจะนำมาใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายด้านภาษี เหล่านี้ล้วนต้องรอความชัดเจน ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยิ่งล่าช้าก็จะไม่เป็นผลดีต่อการเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
JJNY : มติ ‘กกต.’ลุยเอง│เย้ยรัฐโชว์คฝ. มั่นใจหรือเอาอยู่│เอกชนชี้ตั้งรบ.ช้า ไม่ดีกับศก.│ศ.ดร.ธเนศเล่ายาว เจอคนขับแท็กซี่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4021825
มติ ‘กกต.’ ลุยเองคดีหุ้นสื่อ-ม.151 ไต่สวนพิธา-โทษหนักคุก10ปี ตัดสิทธิการเมือง20ปี
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนายพิธามีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดยกกต.เห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาจะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ
อย่างไรก็ตาม กรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอจะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่านายพิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและรู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่กลับสมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้งจะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทลงโทษ ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนดยี่สิบปี
อดีตเลขาฯสมช. เย้ยรัฐโชว์คฝ. รับมือม็อบ มั่นใจหรือเอาอยู่ แค่เขตทหารยังโดนด้อมส้มตีแตก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4020419
อดีตเลขาฯสมช. อัดฝ่ายมั่นคง ฝืนมติประชาชน เจอคนลุกฮือแน่ ถามมั่นใจหรือรอบนี้ คฝ.จะเอาอยู่ เย้ยเขตทหาร-ตร. เจอด้อมส้ม-ติ่งแดงตีแตกหมดแล้ว
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สังคมไทยได้เกิดสภาวะพลิกตัวเร่งเปลี่ยนผ่านสู่การเมืองใหม่ เมื่อมีการใช้เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการนับคะแนนและการจับทุจริตการเลือกตั้งจริงจัง จึงคาดหวังว่า กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการได้รวดเร็วภายใน 15 วัน แต่พอล่าช้า กกต.เลย หมดเครดิตในสายตาของสังคมไป ขณะเดียวกันมีข่าวกระหึ่มว่าขบวนการสืบทอดอำนาจจะใช้สารพัดวิชามารขัดขวางไม่ให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงออกมาโชว์พลังซักซ้อมการควบคุมฝูงชน เชื่อมั่นตัวแบบปี 49,53 และ 57 ว่า จะระงับยับยั้งเอามวลชนอยู่หมัดหากมีการออกมาชุมนุมประท้วง
“แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ผู้ควบคุมฝูงชนเหล่านี้ไม่เคยมีประสบการณ์เจอเหตุการณ์แบบ 14 ตุลา 16 ที่ทหารถอยกรูดพังไม่เป็นท่า จึงไม่รู้ฤทธิ์เดชประชาชนดีพอ เพราะไม่มีกองกำลังรัฐที่จะเอาชนะประชาชนได้ ถ้าประชาชนฮึดสู้จริง ยิ่งมาถึงพ.ศ.นี้บริบทการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองมันพัฒนาไปหลายรูปแบบจนยากที่รัฐบาลจะควบคุมได้ ถ้าเกิดความไม่เป็นธรรมต่อการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ประชาชนเขาจะโกรธแค้นและฮึดสู้เต็มที่แน่
สมมุติฉากทัศน์ว่า เอาแค่เฉพาะมวลชนบางส่วนของ 14 ล้านเสียงที่เชียร์พรรคก้าวไกล เขาออกมาเดินชมวิวพร้อมกันในเวลาเดียวกันในทุกพื้นที่ชนะเลือกตั้ง ไม่ว่ากทม. ปริมณฑล จังหวัดใหญ่ทุกภาค เหนือ อีสาน ตะวันออก-ตก ใต้ แห่งละแสนคนสลับกันมา จะเอา คฝ.ที่ไหนมายับยั้ง แถมขณะนี้ตำรวจทหารชั้นผู้น้อยต่างเป็นติ่งส้มแดงไปหมดแล้ว เลือกตั้งพื้นที่เขตทหารพรรคก้าวไกลได้คะแนนนำโด่งทั้งหมด จะเอาอะไรไปต่อกรกับประชาชน อำนาจอธิปไตยมันเป็นของปวงชนชาวไทยจะเอาอำนาจอะไรมาขัดขวางพวกเขาได้ แต่ชักเริ่มได้กลิ่นจะมีการแจกกล้วยขวางการจัดตั้งรัฐบาลอีกแล้ว” พล.ท.ภราดร กล่าว
เอกชนชี้ตั้งรบ.ช้าขาดความต่อเนื่องไม่ดีกับศก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_564844/
ภาคเอกชนมองหากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ขาดความต่อเนื่องไม่ดีกับเศรษฐกิจ ต่างชาติชะลอการลงทุนดูความชัดเจน
จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนเวลานี้และยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะออกมาล่าช้าหรือไม่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หอการค้าฯ
หวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันสนับสนุนให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น การเกิดสุญญากาศทางเศรษฐกิจในระหว่างรอรัฐบาลชุดใหม่ควรใช้เวลาสั้นที่สุด เพราะเกี่ยวเนื่องกับการใช้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะนี้
โดยในระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ภาพที่เห็นคือความลังเล และการชะลอการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ขณะที่เอกชนในประเทศก็ต้องปรับรูปแบบและแนวทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดรับกับหลายนโยบายที่ว่าที่รัฐบาลน่าจะนำมาใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายด้านภาษี เหล่านี้ล้วนต้องรอความชัดเจน ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยิ่งล่าช้าก็จะไม่เป็นผลดีต่อการเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม