เล่าประสบการณ์อุบัติเหตุรถยนต์

เหตุการณ์นี้ เป็นการชนหนักที่สุดตั้งแต่ขับรถมา

สภาพรถ

ในรูปผมวิ่งเลนกลาง ตามรถตู้มา
เลนขวาสุดรถชนกัน 7 คัน ซึ่งผมเห็นแต่ไกลแล้วจึงอยู่เลนกลาง

อยู่ๆคันที่สามในวงอุบัติเหตุ ขับออกมา
แล้วไปครูดกับรถตู้ฝั่งขวาทั้งแถบ

รถตู้เหยียบเบรคแบบกดหมด
ผมก็เหยียบเบรคกดหมด 
แต่ไม่ทันละ 

ผมลงมาจากรถถามเขาว่ามีประกันไหม
ชวนเขาจอดข้างทาง
จอดรถก็ต่างคนต่างเรียกประกันของตัวเอง
เขาก็ขอโทษที่เบรคกระทันหัน

ซักครึ่งชม. ตำรวจพื้นที่มาสอบถามว่าชนกันยังไง
ก็เล่าตามความจริงไป
ตำรวจบอกของพวกคุณเป็นอีกคดีกับรถคันที่ 3
สภาพรถขับไม่ได้ รถยกของ สภอ. ลากไป
ประมาณครึ่งชม. ประกันฝั่งผมขับรถมาสถานที่ ถามผมรถใครลากไป
เราก็บอก สภอ. ประกันแจ้งพี่ต้องสำรองค่าลากรถเองไปก่อนนะ

ประกันพาผมไป สภอ.
รถลากมาเรียกเก็บค่าลาก 1700 
ตร. มาเรียกค่าตรวจรถ 800 อันนี้ประกันบอกเบิกไม่ได้

ขึ้นห้องสอบสวนกับร้อยเวร
มีผม รถตู้ คันที่สาม พร้อมกับประกันของแต่ละคัน
คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง ตร. สรุปให้ว่า คันที่สาม ถ้าคุณไม่โผล่หัวรถออกมา
คันผมกับรถตู้ก้จะไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น ให้คันที่สาม รับผิดชอบซ่อมรถตู้และผม
เหมือนจะจบ แต่.
ประกันคันที่สาม แย้งว่าเขาจะซ่อมให้แค่รถตู้ ทีนี้ประกันของผมและรถตู้แย้ง
โต้เถียงกัน 15 นาที ตร. ไล่ประกันออกไปนอกห้อง
ตร. บอกผมขอนัดพวกคุณมาสอบสวนใหม่สัปดาหืหน้า คุยกันวันนี้ยังไงก้ไม่จบ

สัปดาห์ถัดมาผมไปตามนัดพร้อมกับประกัน
รถตู้กับคันที่ 3 ไม่มา
ตำรวจบอกโทรไปหารถตู้ไม่ว่าง คันที่สามโทรไปติดต่อไม่ได้
บอกกับประกันผมซ่อมใครซ่อมมันจะได้จบๆไป
ขอปรับค่ากีดขวางการจราจร 500 บาท

สรุปซ่อมเอง ตอนนั้นเป็นประกันชั้น 1 เห็นบิลมาเกือบๆ 70000

คดีพลิกสุดๆ 
ด้วยที่ว่าเป็นรถบริษัท ผมก็เลยตามเลย
ถ้าเป็นรถส่วนตัวผมคงสู้คดีไม่ให้จบแบบนี้
เหตุการณ์นี้เกิดในปี 2014 
เผอิญมา back up ข้อมูลลง EXT HDD เจอรูปเก่าเลยเอามาเล่าให้ฟัง

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญในกรณีนี้ ประกัน + กล้องหน้ารถ ควรมีไว้ติดรถ(ตอนนั้นไม่ได้ติด)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่