สาเหตุที่ผมไม่เคยใช้พื้นฐานในการซื้อหุ้นเลย และไม่เคยเชื่อในพื้นฐานเลยเพราะ (ไม่ดูพื้นฐานคือไม่เจาะลึก แต่แค่รู้ว่าหุ้นตัวที่จะซื้อทำอะไร รู้แค่นั้นจริงๆนะครับ)
1.) ผมไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง จบแค่ ป.ตรี ถึงจะจบตรงสายจริง แต่ผมไม่มีความรู้ที่จะวิเคราะห์ งบการเงิน และ model ธุรกิจ ของแต่ละบริษัทให้แตกฉานได้ ผมรู้จุดอ่อนของตัวเอง
2.) งบการเงินมันแต่งกันได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมเลยไม่ให้ความสำคัญกับมันเลย ใครอยากใช้ก็ใช้ไปครับ ผมไม่ใช้
3.) ผมเชื่อว่า พวกเซียนๆทั้งหลายในตลาดล้วนปั่นหุ้น หรือ มี insider ทั้งนั้น ผมไม่มีแก๊งมีก๊วน และไม่มีวาสนาที่จะอยู่วงในกับเค้าผมเลยต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
แล้วถ้าถามว่าใช้อะไรในการเทรด ผมสาย pure technical ครับ มีวินัย, มี MM ที่ดี, และไม่สวนเทรนครับ แค่นี้จริงๆใครว่าอะไรดี ฟังครับแต่ไม่เชื่อ
และไม่กี่ปีมานี้มันยิ่งชัดเจนขึ้นว่าสิ่งที่ผมคิดมันจริงขึ้นทุกวันๆ ไม่ว่าจะเป็นการตบแต่งงบ, ใต้โต๊ะให้ออดิท(เป็นไปได้หรอไม่สงสัยงบเลย), เงินทอนกองทุน(ไม่สงสัยกันบ้างหรอ มีตั้งนานแระ ทำไมกองต้องไป Big lot หุ้นหลายๆตัวที่ราคาข้างบน?), insider 9ล9 ***ยิ่ง social ทั่วถึงความชั่วก็โดนตีแผ่ทั่วถึงเช่นกัน
https://m.pantip.com/topic/42053118? หุ้นตัวล่าสุดนี่น่าจะครบเครื่องสุดนะครับ
ถึงวันนี้ผมไม่ได้มีพอร์ทใหญ่โตร้อยล้านพันล้าน แต่ผมก็ภูมิใจที่พอร์ทที่โตขึ้นมา3-4 เท่า จากวันแรกมันเกิดจากความสามารถของตัวเองจริงๆ
*ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ บางคนอาจจะเคยซื้อหุ้นแล้วถือกำไรเยอะ บางคนอาจจะมีความรู้ความสามารถในการแกะงบ ก็จะมองอีกมุมนึง
**ผมขอใช้ประโยคของน้าเน็ก ปลอบใจคนที่โดนหนักๆในช่วงนี้ (ความสำเร็จที่ไม่มีเหตุผล เค้าเรียกดวง และความ ชห ที่ไม่มีเหตุผลเค้าเรียกว่าซวย ครับ)
***สำหรับคนที่ขาดทุนหนักๆ และไม่เคย cut loss ผมมีทริคดีๆให้ครับ คุณขายไปเหอะครับถ้าคิดว่ามันผิดทาง ขายแล้วบันทีกขาดทุนไว้ แล้วไปเดินห้างหาอะไรอร่อยกินครับ วันพรุ่งนี้ พอร์ทเราก็จะ reset ใหม่แล้วครับ ตัวเลขขาดทุนเยอะๆก็จะหายออกจากพอร์ทไปครับ เชื่อผมการคิดย้อนกลับไป มันไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นครับ มันเอาอะไรกลับมาไม่ได้ แค่เรียนรู้แล้วแก้ไขครับ
เชื่อไหมครับว่า10 ปี ที่ผมเล่นหุ้นมา ผมไม่เคยดูพื้นฐานและงบการเงินเลย ในการตัดสินใจซื้อหุ้นแต่ละครั้ง เพราะอะไรนะหรอ???
1.) ผมไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง จบแค่ ป.ตรี ถึงจะจบตรงสายจริง แต่ผมไม่มีความรู้ที่จะวิเคราะห์ งบการเงิน และ model ธุรกิจ ของแต่ละบริษัทให้แตกฉานได้ ผมรู้จุดอ่อนของตัวเอง
2.) งบการเงินมันแต่งกันได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมเลยไม่ให้ความสำคัญกับมันเลย ใครอยากใช้ก็ใช้ไปครับ ผมไม่ใช้
3.) ผมเชื่อว่า พวกเซียนๆทั้งหลายในตลาดล้วนปั่นหุ้น หรือ มี insider ทั้งนั้น ผมไม่มีแก๊งมีก๊วน และไม่มีวาสนาที่จะอยู่วงในกับเค้าผมเลยต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
แล้วถ้าถามว่าใช้อะไรในการเทรด ผมสาย pure technical ครับ มีวินัย, มี MM ที่ดี, และไม่สวนเทรนครับ แค่นี้จริงๆใครว่าอะไรดี ฟังครับแต่ไม่เชื่อ
และไม่กี่ปีมานี้มันยิ่งชัดเจนขึ้นว่าสิ่งที่ผมคิดมันจริงขึ้นทุกวันๆ ไม่ว่าจะเป็นการตบแต่งงบ, ใต้โต๊ะให้ออดิท(เป็นไปได้หรอไม่สงสัยงบเลย), เงินทอนกองทุน(ไม่สงสัยกันบ้างหรอ มีตั้งนานแระ ทำไมกองต้องไป Big lot หุ้นหลายๆตัวที่ราคาข้างบน?), insider 9ล9 ***ยิ่ง social ทั่วถึงความชั่วก็โดนตีแผ่ทั่วถึงเช่นกัน https://m.pantip.com/topic/42053118? หุ้นตัวล่าสุดนี่น่าจะครบเครื่องสุดนะครับ
ถึงวันนี้ผมไม่ได้มีพอร์ทใหญ่โตร้อยล้านพันล้าน แต่ผมก็ภูมิใจที่พอร์ทที่โตขึ้นมา3-4 เท่า จากวันแรกมันเกิดจากความสามารถของตัวเองจริงๆ
*ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ บางคนอาจจะเคยซื้อหุ้นแล้วถือกำไรเยอะ บางคนอาจจะมีความรู้ความสามารถในการแกะงบ ก็จะมองอีกมุมนึง
**ผมขอใช้ประโยคของน้าเน็ก ปลอบใจคนที่โดนหนักๆในช่วงนี้ (ความสำเร็จที่ไม่มีเหตุผล เค้าเรียกดวง และความ ชห ที่ไม่มีเหตุผลเค้าเรียกว่าซวย ครับ)
***สำหรับคนที่ขาดทุนหนักๆ และไม่เคย cut loss ผมมีทริคดีๆให้ครับ คุณขายไปเหอะครับถ้าคิดว่ามันผิดทาง ขายแล้วบันทีกขาดทุนไว้ แล้วไปเดินห้างหาอะไรอร่อยกินครับ วันพรุ่งนี้ พอร์ทเราก็จะ reset ใหม่แล้วครับ ตัวเลขขาดทุนเยอะๆก็จะหายออกจากพอร์ทไปครับ เชื่อผมการคิดย้อนกลับไป มันไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นครับ มันเอาอะไรกลับมาไม่ได้ แค่เรียนรู้แล้วแก้ไขครับ