ความเคลื่อนไหววันที่ 3
10.00 น.
กวินกับแดนสรวงรีบออกจากโรงแรมครอมเวลเพื่อไปยังวิมานม่านแก้ว
"เห็นว่านายอยากมาที่นี่อยู่แล้ว"
"ใช่ อยากมาสานสัมพันธ์กับคนที่คิดว่าเคยเจอกัน" กวินตอบ
"ใคร"
"ธนัช"
"เคยเจอกันที่ไหน"
"อังกฤษ"
10.30 น.
ขบวนรถพระที่นั่งออกจากโรงแรมครอมเวลเพื่อไปที่วิมานม่านแก้ว
14.00 น.
4 หนุ่มแห่งวิลล่าพาเลซมาถึงวิมานม่านแก้ว พวกเขาไปที่ห้องแต่งตัว
พวกเขาอาบน้ำในห้องใหญ่ที่จัดไว้ให้ โดยอาบพร้อมกันทั้ง 4 คน
ธนัชได้ทักจักรภพก่อน
"เป็นไงไอ้ภพ โหดดีไหม"
"โอเคนะ"
"แล้วพวกนายอ่ะ เป็นไงบ้าง" จักรพันธ์ถามขึ้น
"ทางนี้ไม่โหดหรอก เอาแค่เบาะ ๆ เท่านั้น เออ ได้สั่งสูทให้ทุกคนหมดแล้วนะ
ช่วงเวลาเข้าเฝ้าก็คือ 16.00 น."
"เรื่องการเข้าเฝ้า พี่ก็เป็นคนจัดแจงเหรอ" จักรภพสงสัย
"ไม่อ่ะ คนที่จัดการให้คือคนขอป่าเดือนพันดาว"
"ทำไมพระองค์จึงทรงรับสั่งให้พวกเราเข้าเฝ้านะ" จักรพันธ์สงสัย
แต่กลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ
15.00 น.
ทั้ง 4 หนุ่มพร้อมกันที่ห้องวิมานเมฆ ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่มาก
มุมหนึ่งที่จัดไว้คือที่ประทับของกษัตริย์หลุยส์และราชินีโซเฟีย
รวมทั้ง 4 หนุ่ม
เก้าอี้ทั้ง 6 ตัวจัดเป็นรูปกึ่งตัวยูและกึ่งตัววี สองเก้าอี้ตรงกลางคือ
ที่ประทับของกษัตริย์หลุยส์และราชินีโซเฟีย
เก้าอี้สองตัวที่อยู่ฝั่งกษัตริย์หลุยส์คือที่นั่งของจักพรรดิและธนัช
ส่วนอีกสองตัวที่อยู่ฝั่งราชินีโซเฟียคือที่นั่งของจักพันธ์และจักรภพ
ตรงโถงตรงนั้นจะมีที่นั่งที่หันไปชื่นชมพระบารมีอีกประมาณ 100 ตัว
(แถวละ 10 จำนวน 10 แถว) เป็นที่นั่งของแขกคนสำคัญที่เชิญมาเท่านั้น
หลังจากนั้นจะเป็นกองทัพสื่อมวลชนนับร้อยที่ออกันแน่นด้านหลัง
นายกกวินเดินเข้ามาในห้องและเดินตรงไปทักทายธนัช พวกเขาจำได้ว่า
เคยเจอกันที่อังกฤษ ก็เลยคุยกันเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์
พร้อมแลกข้อมูลในการติดต่อกันภายหลัง
16.00 น.
นายกกวินและ 4 หนุ่ม พร้อมกับเจ้าของป่าเดือนพันดาวออกมายืนรอรับเสด็จ
ตอนนั้นทางเว็บไซต์ธุรกิจชื่อดังได้ประกาศ 5 อันดับของธุรกิจมหาเศรษฐีของโสฬส
อันดับ 1 ได้แก่ ธุรกิจในเครือจักรพันธ์และวิลล่าพาเลซ (อันดับ 35 ของโลก)
อันดับ 2 ได้แก่ ภันดรแห่งมหาเวหน (อันดับ 53 ของโลก)
อันดับ 3 ได้แก่ เมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาวและประภาคารเคียงดาว (อันดับ 66 ของโลก)
อันดับ 4 ได้แก่ ป่าเดือนพันดาว (อันดับ 70 ของโลก)
อันดับ 5 ได้แก่ ธุรกิจในเครือโจนาธาน (อันดับ 84 ของโลก)
พอกษัตริย์และราชินีเสด็จ ทุกคนโค้งคำนับ
ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระเก้าอี้และทรงนั่งลง
ทั้ง 4 หนุ่มได้โค้งคำนับก่อนที่จะเข้าไปนั่งประจำที่
ตอนนั้นนักข่าวถ่ายรูปกันเยอะมากและได้มีการถ่ายทอดสดด้วย
กษัตริย์หลุยส์ทรงกล่าวออกไมโครโฟนในทำนองที่ว่าต้องขอขอบคุณ
ทุกคนจากวิลล่าพาเลซที่ช่วยกันบริหารธุรกิจจนเจริญก้าวหน้า
จนเป็นหน้าเป็นตาของโสฬส หลังจากนั้นจึงทรงแยกคุยเป็นสองกลุ่ม
ทางกษัตริย์หลุยส์ทรงคุยกับธนัชและจักรพรรดิ
ทางราชินีโซเฟียทรงคุยกับจักรพันธ์และจักรภพ
พอราชินีโซเฟียทรงทราบว่ากษัตริย์หลุยส์อยากเสด็จวิมานม่านแก้ว
มันเข้าทางของพระองค์ พระองค์อยากทราบความเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย
จึงดำเนินการประสานงานกับหลายฝ่ายด้วยพระองค์เอง เพียงแต่ทรงใช้
ชื่อปลอมว่ารีเบคกา ความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลทั้งหมด
มีพระองค์ทรงอยู่เบื้องหลัง
ราชินีโซเฟียอยากให้ภาพที่ออกไป แสดงให้เห็นว่าทางกษัตริย์กับวิลล่าพาเลซ
มีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น โดยมีเหตุผล 3 ประการ
1. ลูกสาวนายพลชวนเป็นสะใภ้รองของวิลล่าพาเลซ ทำให้หลายคนรู้สึกว่า
นายพลชวนน่าจะไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับวิลล่าพาเลซ ทำให้มีการคานอำนาจกัน
2. หม่อมป้าของวิลล่าพาเลซมีความสัมพันธ์อันดีกับวังทั้ง 7 ซึ่งก่อให้เกิดการ
คานอำนาจในอีกรูปแบบหนึ่ง
3. ทรงอยากจะเจอจักรภพด้วยพระองค์เอง จึงสั่งป่าเดือนพันดาวให้จัดที่นั่งแบบนั้น
ทรงเชื่อมั่นในตัวจักรภพมากเพราะเพื่อนที่ชิคาโกบอกมาว่าชาวโสฬสคนนี้ไว้ใจได้
อีกทั้งยังมีความสามารถรอบด้าน จักรภพจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ ตอนนี้ทรงรู้สึกว่า
คนในพระราชวังวริศราโดยมากไว้ใจไม่ได้ จึงทรงอยากได้ที่ปรึกษาที่เป็นคนนอก
ตอนทรงมอบของที่ระลึกซึ่งเป็นกล่องแหวนที่ระลึก กล่องที่ทรงมอบให้กับจักรภพ
จะมีไอดีไลน์ส่วนพระองค์แนบไปด้วย
สิ่งเดียวที่ราชินีโซเฟียไม่ได้คาดคิดมาก่อนคือตอนจะเสด็จกลับ และทั้งสองพระองค์
ได้เสด็จไปที่ด้านหน้าของวิมานม่านแก้ว ดันมีกองทหารจำนวนมากมารออยู่และพระองค์
ก็ได้พบกับนายพลชวน ตอนที่ทั้งสองพระองค์เสด็จผ่าน นายพลชวนโค้งคำนับ
แต่แววตาไม่สู้ดี ราชินีรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้คือการข่มขู่
รถพระที่นั่งต้องแล่นท่ามกลางกองทัพทหารเป็นหมื่น และตอนที่เลี้ยวออกไปด้านนอก
ได้สวนกับรถถังหลายร้อยคัน
ราชินีโซเฟียทรงคิดในใจว่า รู้สึกว่าทุกฝ่ายจะมีแผนการเป็นของตัวเอง
ทางพระองค์เองก็เช่นกัน
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 24 ความเคลื่อนไหววันที่ 3 เริ่ม 10.00 น.
10.00 น.
กวินกับแดนสรวงรีบออกจากโรงแรมครอมเวลเพื่อไปยังวิมานม่านแก้ว
"เห็นว่านายอยากมาที่นี่อยู่แล้ว"
"ใช่ อยากมาสานสัมพันธ์กับคนที่คิดว่าเคยเจอกัน" กวินตอบ
"ใคร"
"ธนัช"
"เคยเจอกันที่ไหน"
"อังกฤษ"
10.30 น.
ขบวนรถพระที่นั่งออกจากโรงแรมครอมเวลเพื่อไปที่วิมานม่านแก้ว
14.00 น.
4 หนุ่มแห่งวิลล่าพาเลซมาถึงวิมานม่านแก้ว พวกเขาไปที่ห้องแต่งตัว
พวกเขาอาบน้ำในห้องใหญ่ที่จัดไว้ให้ โดยอาบพร้อมกันทั้ง 4 คน
ธนัชได้ทักจักรภพก่อน
"เป็นไงไอ้ภพ โหดดีไหม"
"โอเคนะ"
"แล้วพวกนายอ่ะ เป็นไงบ้าง" จักรพันธ์ถามขึ้น
"ทางนี้ไม่โหดหรอก เอาแค่เบาะ ๆ เท่านั้น เออ ได้สั่งสูทให้ทุกคนหมดแล้วนะ
ช่วงเวลาเข้าเฝ้าก็คือ 16.00 น."
"เรื่องการเข้าเฝ้า พี่ก็เป็นคนจัดแจงเหรอ" จักรภพสงสัย
"ไม่อ่ะ คนที่จัดการให้คือคนขอป่าเดือนพันดาว"
"ทำไมพระองค์จึงทรงรับสั่งให้พวกเราเข้าเฝ้านะ" จักรพันธ์สงสัย
แต่กลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ
15.00 น.
ทั้ง 4 หนุ่มพร้อมกันที่ห้องวิมานเมฆ ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่มาก
มุมหนึ่งที่จัดไว้คือที่ประทับของกษัตริย์หลุยส์และราชินีโซเฟีย
รวมทั้ง 4 หนุ่ม
เก้าอี้ทั้ง 6 ตัวจัดเป็นรูปกึ่งตัวยูและกึ่งตัววี สองเก้าอี้ตรงกลางคือ
ที่ประทับของกษัตริย์หลุยส์และราชินีโซเฟีย
เก้าอี้สองตัวที่อยู่ฝั่งกษัตริย์หลุยส์คือที่นั่งของจักพรรดิและธนัช
ส่วนอีกสองตัวที่อยู่ฝั่งราชินีโซเฟียคือที่นั่งของจักพันธ์และจักรภพ
ตรงโถงตรงนั้นจะมีที่นั่งที่หันไปชื่นชมพระบารมีอีกประมาณ 100 ตัว
(แถวละ 10 จำนวน 10 แถว) เป็นที่นั่งของแขกคนสำคัญที่เชิญมาเท่านั้น
หลังจากนั้นจะเป็นกองทัพสื่อมวลชนนับร้อยที่ออกันแน่นด้านหลัง
นายกกวินเดินเข้ามาในห้องและเดินตรงไปทักทายธนัช พวกเขาจำได้ว่า
เคยเจอกันที่อังกฤษ ก็เลยคุยกันเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์
พร้อมแลกข้อมูลในการติดต่อกันภายหลัง
16.00 น.
นายกกวินและ 4 หนุ่ม พร้อมกับเจ้าของป่าเดือนพันดาวออกมายืนรอรับเสด็จ
ตอนนั้นทางเว็บไซต์ธุรกิจชื่อดังได้ประกาศ 5 อันดับของธุรกิจมหาเศรษฐีของโสฬส
อันดับ 1 ได้แก่ ธุรกิจในเครือจักรพันธ์และวิลล่าพาเลซ (อันดับ 35 ของโลก)
อันดับ 2 ได้แก่ ภันดรแห่งมหาเวหน (อันดับ 53 ของโลก)
อันดับ 3 ได้แก่ เมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาวและประภาคารเคียงดาว (อันดับ 66 ของโลก)
อันดับ 4 ได้แก่ ป่าเดือนพันดาว (อันดับ 70 ของโลก)
อันดับ 5 ได้แก่ ธุรกิจในเครือโจนาธาน (อันดับ 84 ของโลก)
พอกษัตริย์และราชินีเสด็จ ทุกคนโค้งคำนับ
ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระเก้าอี้และทรงนั่งลง
ทั้ง 4 หนุ่มได้โค้งคำนับก่อนที่จะเข้าไปนั่งประจำที่
ตอนนั้นนักข่าวถ่ายรูปกันเยอะมากและได้มีการถ่ายทอดสดด้วย
กษัตริย์หลุยส์ทรงกล่าวออกไมโครโฟนในทำนองที่ว่าต้องขอขอบคุณ
ทุกคนจากวิลล่าพาเลซที่ช่วยกันบริหารธุรกิจจนเจริญก้าวหน้า
จนเป็นหน้าเป็นตาของโสฬส หลังจากนั้นจึงทรงแยกคุยเป็นสองกลุ่ม
ทางกษัตริย์หลุยส์ทรงคุยกับธนัชและจักรพรรดิ
ทางราชินีโซเฟียทรงคุยกับจักรพันธ์และจักรภพ
พอราชินีโซเฟียทรงทราบว่ากษัตริย์หลุยส์อยากเสด็จวิมานม่านแก้ว
มันเข้าทางของพระองค์ พระองค์อยากทราบความเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย
จึงดำเนินการประสานงานกับหลายฝ่ายด้วยพระองค์เอง เพียงแต่ทรงใช้
ชื่อปลอมว่ารีเบคกา ความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลทั้งหมด
มีพระองค์ทรงอยู่เบื้องหลัง
ราชินีโซเฟียอยากให้ภาพที่ออกไป แสดงให้เห็นว่าทางกษัตริย์กับวิลล่าพาเลซ
มีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น โดยมีเหตุผล 3 ประการ
1. ลูกสาวนายพลชวนเป็นสะใภ้รองของวิลล่าพาเลซ ทำให้หลายคนรู้สึกว่า
นายพลชวนน่าจะไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับวิลล่าพาเลซ ทำให้มีการคานอำนาจกัน
2. หม่อมป้าของวิลล่าพาเลซมีความสัมพันธ์อันดีกับวังทั้ง 7 ซึ่งก่อให้เกิดการ
คานอำนาจในอีกรูปแบบหนึ่ง
3. ทรงอยากจะเจอจักรภพด้วยพระองค์เอง จึงสั่งป่าเดือนพันดาวให้จัดที่นั่งแบบนั้น
ทรงเชื่อมั่นในตัวจักรภพมากเพราะเพื่อนที่ชิคาโกบอกมาว่าชาวโสฬสคนนี้ไว้ใจได้
อีกทั้งยังมีความสามารถรอบด้าน จักรภพจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ ตอนนี้ทรงรู้สึกว่า
คนในพระราชวังวริศราโดยมากไว้ใจไม่ได้ จึงทรงอยากได้ที่ปรึกษาที่เป็นคนนอก
ตอนทรงมอบของที่ระลึกซึ่งเป็นกล่องแหวนที่ระลึก กล่องที่ทรงมอบให้กับจักรภพ
จะมีไอดีไลน์ส่วนพระองค์แนบไปด้วย
สิ่งเดียวที่ราชินีโซเฟียไม่ได้คาดคิดมาก่อนคือตอนจะเสด็จกลับ และทั้งสองพระองค์
ได้เสด็จไปที่ด้านหน้าของวิมานม่านแก้ว ดันมีกองทหารจำนวนมากมารออยู่และพระองค์
ก็ได้พบกับนายพลชวน ตอนที่ทั้งสองพระองค์เสด็จผ่าน นายพลชวนโค้งคำนับ
แต่แววตาไม่สู้ดี ราชินีรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้คือการข่มขู่
รถพระที่นั่งต้องแล่นท่ามกลางกองทัพทหารเป็นหมื่น และตอนที่เลี้ยวออกไปด้านนอก
ได้สวนกับรถถังหลายร้อยคัน
ราชินีโซเฟียทรงคิดในใจว่า รู้สึกว่าทุกฝ่ายจะมีแผนการเป็นของตัวเอง
ทางพระองค์เองก็เช่นกัน