สวัสดี ทุกคนที่เข้ามาอ่านปัญหาชีวิตของคนๆหนึ่ง
เราอายุแค่ 29 ปี ในสองปีที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสทำงานที่บริษัทฝรั่งแห่งหนึ่ง
เรียกได้ว่าพอใจกับชีวิตแล้ว เงินเดือนถือว่าค่อนข้างเยอะ ทำงานแค่ห้าวัน
เลิกงานห้าโมงทุกวัน ไม่ต้องทำโอที ถือว่าชีวิตค่อนข้างบาลานซ์แล้ว ได้มีออกกำลังกายบ้าง
เลิกงานมาดูซีรีย์บ้าง ดูยูทูป อ่านหนังสือบ้าง ภาษาอังกฤษเราไม่เก่งก็พยายามหาวิธีพัฒนาตัวเองอยู่
ชีวิตเราเริ่มเข้าที่เข้าทาง เรื่องที่อยู่รอบข้างก็ดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพื่อนที่ทำงานก็เป็นมิตรดีมากๆ
ถึงจะมีคนที่ไม่ดีบ้าง แต่ถ้าเทียบกับที่เคยผ่านที่เคยเจอ เรียกได้ว่า ดีกว่าเยอะมาก
เรามีโรคประจำตัวที่เคยตรวจเจอก่อน สองปีที่แล้วเป็นโรคไตรั่วแต่เป็นแค่ระดับเริ่มต้น เล็กน้อยมาก
หมอให้กินยาแค่วันละเม็ด เราก็ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ จนปลายปี 2022 ผลตรวจสุขภาพประจำปีออกมา
คือค่าไตเหลือน้อยมากลดฮวบฮาบภายใน 1 ปี เราก็รีบกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลเดิม ผลคือแย่ๆมากๆๆ
หมอก็ตรวจทุกอย่าง คือไตวายไตเสื่อมไปมากแล้ว เป็นระยะสุดท้าย ตอนที่หมอบอกคือใจสั่นไปหมด
หัวสมองว่างเปล่า ถามหมอว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไง เกิดจากพฤติกรรมเราหรอ หมอบอกว่าเป็นโรคไต iga
เราก็ไม่ได้รู้ละเอียดมากว่าเป็นยังไง แต่หมอบอกว่า บางทีมันก็ไม่มีสาเหตุ มันจะเป็นก็เป็นได้...
ตอนนี้ผ่านมาจะหกเดือนแล้ว เราต้องกินยาเยอะๆทุกวัน กินยาสเตยรอยด์ด้วย ผลข้างเคียงมากมาย
แสบท้อง น้ำหนักขึ้นมาเป็นสิบกิโล ขนขึ้นเป็นลิง สิวขึ้นเต็มหน้า เราก็ผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงไม่ได้รักสวยรักงามมาก
แต่มันก็ทำให้จิตใจหดหู่ไปหมด เราเริ่มไม่ใสใจใดๆกับหน้าตาตัวเอง ปล่อยตัวเองโทรม ไปทำงานคนไม่รู้ก็ทัก
ทำไมตัวอ้วนขึ้น กินเยอะหรอ บางคนเค้ารู้เค้าก็เข้าใจ เรื่องอาหารการกินแรกๆเราก็ควบคุมอย่างเข้มงวดมาก
แต่มันทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมากๆ ทั้งเวลาที่ต้องมานั่งทำกับข้าวหลังจากเลิกงานมาเหนื่อยๆ กว่าจะล้างจานเก็บของ
แพ็คใส่กล่องมากินที่บริษัทอีก เพราะกินอาหารปกติไม่ได้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งค่าอาหาร ค่าโรงพยาบาล
ค่ายา สุดท้ายแล้วผลก็ไม่ได้ดีขึ้น เรารู้สึกเบื่อ และเหนื่อย เลยปล่อยเลยตามเลย กินอาหารปกติ เลี่ยงพอเท่าที่จะเลี่ยงได้
หมดนัดทุกๆสองวีค เรารู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เราตัวคนเดียว ต้องพาตัวเองที่ง่อนๆแง่นๆไปโรงพยาบาล
วันธรรมดาก็ไปทำงาน เราเป็นวิศวกร การป่วยเริ่มมีผลกับการทำงานอย่างมาก เราไปทำงานเราพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว
เหมือนกำลังใช้ร่างกายเต็มสูบแบบ 200% ทุกวัน ทำให้เราต้องลางานบ่อยมากขึ้น เพราะทั้งวันที่หมดนัด หรือวันที่รู้สึกป่วย
บางวันตัวก็บวม ความดันขึ้น รู้สึกเหนื่อยง่าย แรกๆหัวหน้าเหมือนจะเข้าใจให้สามารถ WFH ได้บ้างเป็นบางครั้ง
หลังๆเริ่มมีคำพูดว่า เราลาบ่อย เราควรมาทำงานทุกวัน (บริษัทเรา wfh ได้ซึ่งคนอื่นๆ เค้าก็มี wfh กันบ้างสลับๆกันเข้าออฟฟิส)
เราก็พยายามไปทุกวัน เรานอนไม่หลับขั้นรุนแรง ไม่รู้ว่าอาจจะซึมเศร้า เครียด หมอก็ให้กินยานอนหลับทุกวัน ไปทำงานตอนเช้า
ก็ซึมๆ หลงๆลืมๆ เริ่มโดนติมากขึ้นเรื่อยๆ เราพยายามเขียนบันทึกทุกอย่างใส่สมุดแทน อะไรทำเวลากี่โมง วันไหน แต่มันก็แค่พอช่วยได้บ้าง
เราเข้าใจทั้งหัวหน้าและบริษัทนะ ว่าจ้างคนมาทำงาน แต่ลึกๆภายในใจเราก็ต้องการความเห็นใจบ้าง..
นอกจากนี้เราเริ่มเป็นหนี้มากมาย เพราะก่อนหน้านี้แม่ก็เป็นมะเร็ง เราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมาที่เราทั้งหมด
ไร้ที่พึ่ง และกับไม่มีความรู้วินัยด้านการเงิน ใช้เงินจากบัตรเครดิต แม่เราเหมือนแม่ใจร้ายในซีรีย์เกาหลีเลย 55555
ตั้งแต่เด็กจนจบปริญญาตรีไม่เคยส่งเสียเงินเรียนให้ซักบาท เราตะเกียกตะกายเรียนจบมาแบบทุลักทุเล ประคองชีวิตมาแบบ งงๆ
พอโตมาก็มาเป็นปัญหาให้เราอีก จะทิ้งก็ทำใจไม่ลงขนาดนั้น ตอนนี้ปัจจุบันเราก็ป่วย หนี้เก่าหนี้ใหม่ เราหาทางออกไม่เจอ
พยายามหาวิธีแก้จากในหนังสือบ้าง ในยูทูปบ้างแต่มันก็มากจนจะแก้ ดีที่เราไม่มีผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือผ่อนอะไรทั้งสิ้น
ความรู้สึกเราตอนนี้อยู่ดีๆมันก็เกิดความคิดมาในทุกๆวันว่า สุดท้ายเราจะเหลือทางรอดอยู่อีกหนึ่งทางคือความตาย
เราไม่ได้มีความรู้สึก ดิ่ง เครียด ที่จะแบบอยากฆ่าตัวตาย แต่มีความคิดที่ไม่ได้รู้สึก ยินดี สุข ทุกข์ หรืออะไรแล้ว
แค่อยากนอนหลับแล้วตายไปเลยเฉยๆได้ไหม เกิดความคิดว่าวันนึงเราก็จะต้องตายนี่ แค่ตายเร็วขึ้นอีกหน่อยจะเป็นไร
วันหยุดเราเริ่มนอนมากขึ้น มากกว่าวันละสิบสองชั่วโมง มีความคิดว่าโลกในฝันที่เราคิดจินตนาการขึ้นมามันมีความสุขมากกกว่า
มากกว่าโลกจริงๆที่เราจะตื่นมาเจอ เราเริ่มมีความคิดเพี้ยนๆของเราเองว่าชีวิตไหนคือชีวิตจริง มันแค่การรับรู้ของเราหรือป่าวนะ
เราไม่รู้ว่าเราป่วยซึมเศร้าด้วยหรือป่าว เราไม่อยากคุยกับคน ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น วันหยุดเราจะอยู่แต่ในห้อง ใช้เวลาทั้งหมดกับการ
กินยานอนหลับแล้วนอน น้ำไม่อาบ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ไม่อยากได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ไม่อยากเห็นแสง เราปิดม่านดำห้องเราจนทึบไปหมด
หิวก็สั่งเดริเวอรี่มาส่งกินๆไปให้พ้นไปวันๆ เราพยายายามจะหากิจกรรมมาดึงความสนใจตัวเอง อยากหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินเพิ่ม
แต่กำลังใจมันหมดไปทุกอย่าง ไม่มีแพสชั่น ไม่อยากทำอะไรเลย เรากลัวเกินกว่าจะฆ่าตัวเองให้ตายเพราะก็เชื่ออยู่ว่ามันจะเป็นบาป
เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายมันจะเป็นยังไง ได้แต่หวังลึกๆ อยากตายแบบสบายๆ นอนไปแล้วไม่ต้องตื่นมาอีกเลย...
ที่มาเขึยนกระทู้นี้ก็คงไม่มีเพื่อนแหละ 555 มาระบายให้คนโลกออนไลน์ฟัง ถ้ามีคนรับฟังซักคนนึงก็ยังดี หรือให้กำลังใจซักหน่อย
บางทีเราอาจจะอยู่เพิ่มอีกซักหนึ่งปี 555 อนาคตที่กำลังจะมาถึงจะมีใครช่วยเราได้ เราจะฟอกไตไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ยังไง
หนี้ที่มีจะแก้มันยังไง ผู้ชายเป็นส่วนที่อยากพูดถึงน้อยที่สุด พอถึงคราวก็เห็นแก่ตัวก็จบๆจากๆกันไปทั้งแบบนี้แหละ
ชั่วแวบนึงเราคิดแค่ว่าเท

ทุกอย่าง แบบว่าช่าง

มันก็รู้สึกดีขึ้นมาประมาณสามวิได้ ชีวิตเนาะทำไมมันต้องยากขนาดนี้นะ...
ป่วยทั้งใจ ป่วยทั้งกาย ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี
เราอายุแค่ 29 ปี ในสองปีที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสทำงานที่บริษัทฝรั่งแห่งหนึ่ง
เรียกได้ว่าพอใจกับชีวิตแล้ว เงินเดือนถือว่าค่อนข้างเยอะ ทำงานแค่ห้าวัน
เลิกงานห้าโมงทุกวัน ไม่ต้องทำโอที ถือว่าชีวิตค่อนข้างบาลานซ์แล้ว ได้มีออกกำลังกายบ้าง
เลิกงานมาดูซีรีย์บ้าง ดูยูทูป อ่านหนังสือบ้าง ภาษาอังกฤษเราไม่เก่งก็พยายามหาวิธีพัฒนาตัวเองอยู่
ชีวิตเราเริ่มเข้าที่เข้าทาง เรื่องที่อยู่รอบข้างก็ดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพื่อนที่ทำงานก็เป็นมิตรดีมากๆ
ถึงจะมีคนที่ไม่ดีบ้าง แต่ถ้าเทียบกับที่เคยผ่านที่เคยเจอ เรียกได้ว่า ดีกว่าเยอะมาก
เรามีโรคประจำตัวที่เคยตรวจเจอก่อน สองปีที่แล้วเป็นโรคไตรั่วแต่เป็นแค่ระดับเริ่มต้น เล็กน้อยมาก
หมอให้กินยาแค่วันละเม็ด เราก็ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ จนปลายปี 2022 ผลตรวจสุขภาพประจำปีออกมา
คือค่าไตเหลือน้อยมากลดฮวบฮาบภายใน 1 ปี เราก็รีบกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลเดิม ผลคือแย่ๆมากๆๆ
หมอก็ตรวจทุกอย่าง คือไตวายไตเสื่อมไปมากแล้ว เป็นระยะสุดท้าย ตอนที่หมอบอกคือใจสั่นไปหมด
หัวสมองว่างเปล่า ถามหมอว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไง เกิดจากพฤติกรรมเราหรอ หมอบอกว่าเป็นโรคไต iga
เราก็ไม่ได้รู้ละเอียดมากว่าเป็นยังไง แต่หมอบอกว่า บางทีมันก็ไม่มีสาเหตุ มันจะเป็นก็เป็นได้...
ตอนนี้ผ่านมาจะหกเดือนแล้ว เราต้องกินยาเยอะๆทุกวัน กินยาสเตยรอยด์ด้วย ผลข้างเคียงมากมาย
แสบท้อง น้ำหนักขึ้นมาเป็นสิบกิโล ขนขึ้นเป็นลิง สิวขึ้นเต็มหน้า เราก็ผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงไม่ได้รักสวยรักงามมาก
แต่มันก็ทำให้จิตใจหดหู่ไปหมด เราเริ่มไม่ใสใจใดๆกับหน้าตาตัวเอง ปล่อยตัวเองโทรม ไปทำงานคนไม่รู้ก็ทัก
ทำไมตัวอ้วนขึ้น กินเยอะหรอ บางคนเค้ารู้เค้าก็เข้าใจ เรื่องอาหารการกินแรกๆเราก็ควบคุมอย่างเข้มงวดมาก
แต่มันทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมากๆ ทั้งเวลาที่ต้องมานั่งทำกับข้าวหลังจากเลิกงานมาเหนื่อยๆ กว่าจะล้างจานเก็บของ
แพ็คใส่กล่องมากินที่บริษัทอีก เพราะกินอาหารปกติไม่ได้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งค่าอาหาร ค่าโรงพยาบาล
ค่ายา สุดท้ายแล้วผลก็ไม่ได้ดีขึ้น เรารู้สึกเบื่อ และเหนื่อย เลยปล่อยเลยตามเลย กินอาหารปกติ เลี่ยงพอเท่าที่จะเลี่ยงได้
หมดนัดทุกๆสองวีค เรารู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เราตัวคนเดียว ต้องพาตัวเองที่ง่อนๆแง่นๆไปโรงพยาบาล
วันธรรมดาก็ไปทำงาน เราเป็นวิศวกร การป่วยเริ่มมีผลกับการทำงานอย่างมาก เราไปทำงานเราพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว
เหมือนกำลังใช้ร่างกายเต็มสูบแบบ 200% ทุกวัน ทำให้เราต้องลางานบ่อยมากขึ้น เพราะทั้งวันที่หมดนัด หรือวันที่รู้สึกป่วย
บางวันตัวก็บวม ความดันขึ้น รู้สึกเหนื่อยง่าย แรกๆหัวหน้าเหมือนจะเข้าใจให้สามารถ WFH ได้บ้างเป็นบางครั้ง
หลังๆเริ่มมีคำพูดว่า เราลาบ่อย เราควรมาทำงานทุกวัน (บริษัทเรา wfh ได้ซึ่งคนอื่นๆ เค้าก็มี wfh กันบ้างสลับๆกันเข้าออฟฟิส)
เราก็พยายามไปทุกวัน เรานอนไม่หลับขั้นรุนแรง ไม่รู้ว่าอาจจะซึมเศร้า เครียด หมอก็ให้กินยานอนหลับทุกวัน ไปทำงานตอนเช้า
ก็ซึมๆ หลงๆลืมๆ เริ่มโดนติมากขึ้นเรื่อยๆ เราพยายามเขียนบันทึกทุกอย่างใส่สมุดแทน อะไรทำเวลากี่โมง วันไหน แต่มันก็แค่พอช่วยได้บ้าง
เราเข้าใจทั้งหัวหน้าและบริษัทนะ ว่าจ้างคนมาทำงาน แต่ลึกๆภายในใจเราก็ต้องการความเห็นใจบ้าง..
นอกจากนี้เราเริ่มเป็นหนี้มากมาย เพราะก่อนหน้านี้แม่ก็เป็นมะเร็ง เราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมาที่เราทั้งหมด
ไร้ที่พึ่ง และกับไม่มีความรู้วินัยด้านการเงิน ใช้เงินจากบัตรเครดิต แม่เราเหมือนแม่ใจร้ายในซีรีย์เกาหลีเลย 55555
ตั้งแต่เด็กจนจบปริญญาตรีไม่เคยส่งเสียเงินเรียนให้ซักบาท เราตะเกียกตะกายเรียนจบมาแบบทุลักทุเล ประคองชีวิตมาแบบ งงๆ
พอโตมาก็มาเป็นปัญหาให้เราอีก จะทิ้งก็ทำใจไม่ลงขนาดนั้น ตอนนี้ปัจจุบันเราก็ป่วย หนี้เก่าหนี้ใหม่ เราหาทางออกไม่เจอ
พยายามหาวิธีแก้จากในหนังสือบ้าง ในยูทูปบ้างแต่มันก็มากจนจะแก้ ดีที่เราไม่มีผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือผ่อนอะไรทั้งสิ้น
ความรู้สึกเราตอนนี้อยู่ดีๆมันก็เกิดความคิดมาในทุกๆวันว่า สุดท้ายเราจะเหลือทางรอดอยู่อีกหนึ่งทางคือความตาย
เราไม่ได้มีความรู้สึก ดิ่ง เครียด ที่จะแบบอยากฆ่าตัวตาย แต่มีความคิดที่ไม่ได้รู้สึก ยินดี สุข ทุกข์ หรืออะไรแล้ว
แค่อยากนอนหลับแล้วตายไปเลยเฉยๆได้ไหม เกิดความคิดว่าวันนึงเราก็จะต้องตายนี่ แค่ตายเร็วขึ้นอีกหน่อยจะเป็นไร
วันหยุดเราเริ่มนอนมากขึ้น มากกว่าวันละสิบสองชั่วโมง มีความคิดว่าโลกในฝันที่เราคิดจินตนาการขึ้นมามันมีความสุขมากกกว่า
มากกว่าโลกจริงๆที่เราจะตื่นมาเจอ เราเริ่มมีความคิดเพี้ยนๆของเราเองว่าชีวิตไหนคือชีวิตจริง มันแค่การรับรู้ของเราหรือป่าวนะ
เราไม่รู้ว่าเราป่วยซึมเศร้าด้วยหรือป่าว เราไม่อยากคุยกับคน ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น วันหยุดเราจะอยู่แต่ในห้อง ใช้เวลาทั้งหมดกับการ
กินยานอนหลับแล้วนอน น้ำไม่อาบ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ไม่อยากได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ไม่อยากเห็นแสง เราปิดม่านดำห้องเราจนทึบไปหมด
หิวก็สั่งเดริเวอรี่มาส่งกินๆไปให้พ้นไปวันๆ เราพยายายามจะหากิจกรรมมาดึงความสนใจตัวเอง อยากหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินเพิ่ม
แต่กำลังใจมันหมดไปทุกอย่าง ไม่มีแพสชั่น ไม่อยากทำอะไรเลย เรากลัวเกินกว่าจะฆ่าตัวเองให้ตายเพราะก็เชื่ออยู่ว่ามันจะเป็นบาป
เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายมันจะเป็นยังไง ได้แต่หวังลึกๆ อยากตายแบบสบายๆ นอนไปแล้วไม่ต้องตื่นมาอีกเลย...
ที่มาเขึยนกระทู้นี้ก็คงไม่มีเพื่อนแหละ 555 มาระบายให้คนโลกออนไลน์ฟัง ถ้ามีคนรับฟังซักคนนึงก็ยังดี หรือให้กำลังใจซักหน่อย
บางทีเราอาจจะอยู่เพิ่มอีกซักหนึ่งปี 555 อนาคตที่กำลังจะมาถึงจะมีใครช่วยเราได้ เราจะฟอกไตไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ยังไง
หนี้ที่มีจะแก้มันยังไง ผู้ชายเป็นส่วนที่อยากพูดถึงน้อยที่สุด พอถึงคราวก็เห็นแก่ตัวก็จบๆจากๆกันไปทั้งแบบนี้แหละ
ชั่วแวบนึงเราคิดแค่ว่าเท