ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ
ว่า เรารับอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้มาจากไหน
สงสัยต้องชี้นิ้วโทษ บรรดาผู้เขียนนวนิยาย และ ผู้กำกับภาพยนต์ไทยรุ่นเก่าๆ
ที่สร้างพระเอก-นางเอกให้ต้องตกอยู่ในฐานะของผู้ถูกรังแก
คนดูก็อินสิครับ รออะไร ลุ้นเอาใจช่วยบรรดา พระเอกนางเอกที่น่าสงสาร
นางเอกก็ถูกผู้ร้ายมีหนวดเครารุงรัง จับไปเป็นตัวประกัน
หัวหน้าตัวร้ายก็เป็นผู้มีอิทธิพล ชอบใส่ทองเส้นโตๆเอาไว้นอกเสื้อลายหมากรุก หัวเราะเสียงดังๆ
พระเอกก็ลำบากเหลือเกิน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานับประการจะไปช่วยนางเอกได้สำเร็จ
โดยสรุป คนไทยชอบเชียร์ บอลรอง ครับ
โดยเฉพาะ ผู้ที่ถูกรังแก เราจะเมตตา สงสาร และ เอ็นดูเป็นพิเศษ
จะเห็นว่า พรรคการเมืองที่ "เป็นงาน" และ เห็นความจริงข้อนี้
จะรีบโดด เข้าไปเป็นผู้ถูกรังแกโดยระบบ ถูกรังแกโดยคนที่เป็นปฏิปักษ์ ถูกกลั่นแกล้งโดยกฏหมายที่ไม่เป็นธรรม
คดีซุกหุ้นก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีที่ดินรัชดาก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่า เอามาซื้อของที่ร้านตัวเองก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีแปลงสัมปทานรัฐ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องก็โดนกลั่นแกล้ง
คดีทุจริต จำนำข้าว ตลอดจน จีทูจีเก๊ ก็โดนกลั่นแกล้ง
คดีถือหุ้นสื่อ วีลักมีเดียของพ่อฟ้า ก็โดนกลั่นแกล้ง
อะไรๆก็โดนกลั่นแกล้ง
เวรกรรม...นี่ กระบวนการยุติธรรมบ้านเรา ส่งคนดีๆแบบเสี่ยเปี๋ยงเข้าคุกไปกี่คนแล้ววะเนีย
นี่ก็อีก...การถือหุ้น ITV ของพิธา ก็กำลังจะกลายเป็นการกลั่นแกล้งกันอีกแล้วใช่มั๊ยครับ
โถ...น่าสงสารจริงๆ พ่อวีรบุรุษที่ถูกรังแก
สิ่งที่น่ากลัวคืออะไร
ภาคการเมืองสามารถทำให้ กระบวนการที่ยุติธรรม กลายเป็น การกลั่นแกล้งทางการเมืองได้โดยคำพูดไม่กี่คำ
สามารถปลุกสร้างความคับแค้น และ พลังที่ขับเคลื่อนไปด้วยโทสะ ได้ในชั่วข้ามคืน
เพียงแค่นั้น บรรดาแฟนคลับ และ กลุ่มก้อนทางการเมือง ก็ต่างพร้อมใจ พากันลงถนนกันอีก
มุ่งหน้าไปท้าต่อยท้าตีกับ ผู้รักษากฏหมาย ให้เจ็บตัว เลอะสีแดงกันไปทั้งสองฝ่าย
ให้ภาพมันออกมาเป็น ตำรวจ รังแกประชาชนให้จงได้
ผมละกลัวจริงๆ ผับผ่า อยากให้พิธา รอดเรื่องนี้ไปให้ได้
อย่าให้ใครต้องลงถนน
อย่าให้พวกทหารต้องออกมา exercise อะไร หากบ้านเมืองวิกฤต
เพราะ งานนี้วิกฤตก็ต้องวิกฤตครับ อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
ไม่งั้นมันจะเป็น Deja Vu all over again
ในท้ายที่สุด ของท้ายที่สุด ที่มันเป็นอย่างนี้
เพราะชอบพูดกันนักไง ว่า ถูก ว่าไปตามถูก และ ผิด ว่าไปตามผิด ทั้งที่ใจไม่ได้หมายความตามนั้น
มีเอาไว้พูดกันเท่ๆ ทั้งปี
ถ้าไม่เคารพหลักการ และตัวบทกฏหมายจริง
ก็กรุณาอย่าพูดว่า ถูก ว่าไปตามถูก และ ผิด ว่าไปตามผิด
ไปหาคำพูดเท่ๆอย่างอื่นดีกว่า
สังคมไทยเป็นสังคมที่มักจะเข้าข้าง ผู้ที่ถูกรังแก ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เขาไม่ได้ถูกใครรังแก
ว่า เรารับอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้มาจากไหน
สงสัยต้องชี้นิ้วโทษ บรรดาผู้เขียนนวนิยาย และ ผู้กำกับภาพยนต์ไทยรุ่นเก่าๆ
ที่สร้างพระเอก-นางเอกให้ต้องตกอยู่ในฐานะของผู้ถูกรังแก
คนดูก็อินสิครับ รออะไร ลุ้นเอาใจช่วยบรรดา พระเอกนางเอกที่น่าสงสาร
นางเอกก็ถูกผู้ร้ายมีหนวดเครารุงรัง จับไปเป็นตัวประกัน
หัวหน้าตัวร้ายก็เป็นผู้มีอิทธิพล ชอบใส่ทองเส้นโตๆเอาไว้นอกเสื้อลายหมากรุก หัวเราะเสียงดังๆ
พระเอกก็ลำบากเหลือเกิน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานับประการจะไปช่วยนางเอกได้สำเร็จ
โดยสรุป คนไทยชอบเชียร์ บอลรอง ครับ
โดยเฉพาะ ผู้ที่ถูกรังแก เราจะเมตตา สงสาร และ เอ็นดูเป็นพิเศษ
จะเห็นว่า พรรคการเมืองที่ "เป็นงาน" และ เห็นความจริงข้อนี้
จะรีบโดด เข้าไปเป็นผู้ถูกรังแกโดยระบบ ถูกรังแกโดยคนที่เป็นปฏิปักษ์ ถูกกลั่นแกล้งโดยกฏหมายที่ไม่เป็นธรรม
คดีซุกหุ้นก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีที่ดินรัชดาก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่า เอามาซื้อของที่ร้านตัวเองก็ถูกกลั่นแกล้ง
คดีแปลงสัมปทานรัฐ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องก็โดนกลั่นแกล้ง
คดีทุจริต จำนำข้าว ตลอดจน จีทูจีเก๊ ก็โดนกลั่นแกล้ง
คดีถือหุ้นสื่อ วีลักมีเดียของพ่อฟ้า ก็โดนกลั่นแกล้ง
อะไรๆก็โดนกลั่นแกล้ง
เวรกรรม...นี่ กระบวนการยุติธรรมบ้านเรา ส่งคนดีๆแบบเสี่ยเปี๋ยงเข้าคุกไปกี่คนแล้ววะเนีย
นี่ก็อีก...การถือหุ้น ITV ของพิธา ก็กำลังจะกลายเป็นการกลั่นแกล้งกันอีกแล้วใช่มั๊ยครับ
โถ...น่าสงสารจริงๆ พ่อวีรบุรุษที่ถูกรังแก
สิ่งที่น่ากลัวคืออะไร
ภาคการเมืองสามารถทำให้ กระบวนการที่ยุติธรรม กลายเป็น การกลั่นแกล้งทางการเมืองได้โดยคำพูดไม่กี่คำ
สามารถปลุกสร้างความคับแค้น และ พลังที่ขับเคลื่อนไปด้วยโทสะ ได้ในชั่วข้ามคืน
เพียงแค่นั้น บรรดาแฟนคลับ และ กลุ่มก้อนทางการเมือง ก็ต่างพร้อมใจ พากันลงถนนกันอีก
มุ่งหน้าไปท้าต่อยท้าตีกับ ผู้รักษากฏหมาย ให้เจ็บตัว เลอะสีแดงกันไปทั้งสองฝ่าย
ให้ภาพมันออกมาเป็น ตำรวจ รังแกประชาชนให้จงได้
ผมละกลัวจริงๆ ผับผ่า อยากให้พิธา รอดเรื่องนี้ไปให้ได้
อย่าให้ใครต้องลงถนน
อย่าให้พวกทหารต้องออกมา exercise อะไร หากบ้านเมืองวิกฤต
เพราะ งานนี้วิกฤตก็ต้องวิกฤตครับ อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
ไม่งั้นมันจะเป็น Deja Vu all over again
ในท้ายที่สุด ของท้ายที่สุด ที่มันเป็นอย่างนี้
เพราะชอบพูดกันนักไง ว่า ถูก ว่าไปตามถูก และ ผิด ว่าไปตามผิด ทั้งที่ใจไม่ได้หมายความตามนั้น
มีเอาไว้พูดกันเท่ๆ ทั้งปี
ถ้าไม่เคารพหลักการ และตัวบทกฏหมายจริง
ก็กรุณาอย่าพูดว่า ถูก ว่าไปตามถูก และ ผิด ว่าไปตามผิด
ไปหาคำพูดเท่ๆอย่างอื่นดีกว่า