สำหรับกระทู้นี้สำหรับ วันที่ 4 ถึง วันที่ 7 นะครับทุกคน
ในวันที่ 4 ทุกคนแต่งกายชุดนักเรียนครับเพราะมีการไปเยี่ยมโรงเรียนที่ญี่ปุ่นะครับ Ichinomiya high school ครับ

หลังจากที่ได้เข้าสู่ตัวโรงเรียนพื้นที่โดยรอบสะอาดตา ตามท้อเรื่องครับ
ตึกของโรงเรียนค่อนข้าง ค่อนไปทางเล็กครับ จึงทำให้เบริเวณโณงเรียนไม่มีจุดอับแสงเลยครับ


ตรงนี้คือลานจอดจักรยานของนักเรียนครับ ผมประทับใจมากๆกับระเบียบของนักเรียนที่ญี่ปุ่น
และความสบายใจในการวางของ เขากล้าที่จะวางของ ฝากของไว้ที่จักรยานได้แบบเชื่อใจว่าจะไม่มีใครมาโขมย


ภายในตัวอาคารสะอาดมากขนาดไม่กว้างมากครับ ระยะห่างระหว่างอาคารไม่ห่างกันจึงเดินเรียนได้เรื่อยๆไม่เหนื่อยไม่หอบครับ

กิจกรรมร่วมกันกับเด็กที่ญี่ปุ่นนุกมากๆครับ

โดยหัวข้อที่เราไปเกี่ยวกับสิ่งอวดล้อมครับเลยเล่นบิงโกคำถามเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และ SDG GOALS ครับ

มีให้เขียนชื่อเด็กญี่ปุ่นเป็นไทยแลกกันครับ ผมเลยวาดภาพไว้เป็นที่ระลึกให้ครับ


หลังจากแนะนำตัวเสร็จก็ทานอาหารเที่ยงร่วมกันครับ เด็กที่นั่นห่อข้าวไปทานกันเองครับ น่าทานมากๆสารอาหารครบมากๆครับ
อันนี้ของ เรน่า ครับ

อันนี้ของผมครับ

ส่วนอันนี้ของโคซาคุครับ

หลังจากทานอาหารเสร็จก็มาร่วมกิจกรรมกันต่อครับในช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมที่บอกไว้ก่อนหน้านี้คครับ ต่างสลับกันเล่นบันไดงูตอบคำถามครับ
สนุกมากๆ ส่วนมากเหมือนเป็นการวัดทักษะภาษาอังกฤษครับ


หลังจากกิจกรรมแล้วก็ไปดูส่วนต่างๆของโรงเรียนครับ ได้ดูชมรมธนูที่ญี่ปุ่นครับ กับ ชมรมตี คาตะ ครับ





สนุกมากๆครับ ประหม่าอยู่บ้างแต่ก็สนุกดีครับ น่าจดจำมากๆครับ
หลังจากกลับมาจากโรงเรียนก็กลับมาทานอาหารต่อที่โรงแรมครับ
ทานอาหารเย็นเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการไปช็ฮปปิ้งต่อที่ DONKI ครับผมมม

บรรยากาศระหว่างที่เดินไปห้างดงงกี้คือดีมากๆ ได้เดินในใจกลางเมืองของเขามันดีมากจริงๆครับ

บรรยากาศในตัวห้าง อารมณ์เหมือน พันทิป ที่ไทยเลยครับ แต่ว่าใหญ่กว่าแล้วก็ของมีมากกว่าหลายประเภทมากๆครับ
บรรยากาศในห้างก็มีทั้งวัยรุ่นถึงคนแก่ครับ ส่วนตัวผมก็ซื้อของไปเยอะเลยครับ 5555

อันนี้คือนวัตกรรมที่ผมชอบมากๆ คือมีพาวเวอร์แบงค์ให้เช่าในตัวห้างด้วยครับ
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้แล้วก็เป็นสวัสดิการที่ดูใส่ใจผู้บริภาคเอามากๆเลยครับ

ซื้อกันดั้มไปฝากแฟนด้วยครับ อุอุ



ผมได้มีโอกาสมาเดินเล่นแถวระแวกใกล้ๆด้วยครับ บรรยากาศคือเหมือนเยาวราชบ้านเราเลยครับ แค่มีหลากหลายประเภทมากกว่า
กับฟุตบาทที่ใหญ่มากๆเลยครับเดินได้สบายๆเลยครับ

มุมุ

หลังจากเดินเที่ยวที่ดงกี้ ก็ กลับมาแล้วก็พักเลยครับเพราะกิจกรรมแน่นมากๆจริงๆครับ
กลับมาแยกกันนอนเข้าห้องกันแต่ละคน สำหรับวันที่ 4 ก็จบเพี่ยงเท่านี้ครับบบ
ในวันที่ 5
วันนี้เป็นวันเป็นการเป็นงานอีกวันหลังจากเที่ยวไปหลายวันครับ


มาเสวนากันที่ UN ของไอจิครับ Discussion เกี่ยวกับเรื่องของ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและหลักๆจะพูด SDG GOALS
ครับ โดยที่ไอจิ เป็นจังหวัดหนึ่งที่ชอบและพัฒนาเมืองพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมจากหลักการของ SDG GOALS
มาโดยตลอดครับ





สำหรับที่ UN ก็ดีมากๆครับ ได้สาระมากมายจริงๆ ครับ SDG goals จริงๆเป็นวิธีที่ยังคงเป็น prototype อยู่
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะทำตามแนวทางหรือหลักการของ sdg goals แต่ว่าที่ญี่ปุ่นก็มีการใช้วิธีการกดดันทางสังคม
อาจจะฟังดูรุนแรงนะครับ เพราะเขาใช้วิธีที่ว่า ปลูกฝังจิตใต้สำนึกให้ผู้บริโภคไม่สนับสนุนบริษัทที่ไม่ตามแนวทาง sdg goals
แต่ก็เป็นกลยุทที่ดีครับ
หลังจากเสร็จจากที่ UN ก็ไปดูงานต่อที่ toyota eco fu town
ความรู้สึกหลังจากการเดินดูงานแล้วเหมือนกับไปอยู่เมืองอนาคตเลยครับ
บรรยากาศน่าเดินมากๆครับ รถที่มีพัฒนาการที่ล้ำมากๆ กับนวัตกรรมต่างๆคือทำให้ตนที่
ไม่ได้อินเรื่องรถ ก็สามารถเดินได้ครับ




หลังจากเดินดูพิพิทธพันท์ โตโยต้า ก็มาศึกษางานต่อ Meidou factory
เสียดายมากๆที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะกว่านี้เพราะตอนนั้นเม็มเต็มครับ







หลังจากที่ได้ศึกษาดูงานแล้วก็ได้รับโอกาสคุยกับพี่ที่ทำงานที่นั่น ที่เป็นคนไทยนะครับ
การทำงานที่นั่นแน่นอนครับ มีเงินเยอะกว่าไทยแน่นอน เงินเดือนอยู่ในระดับเที่ยวได้เลยครับ
ส่วนในเรื่องสวัสดิการก็มีครบดีครับ ที่ผมชอบที่สุดคือที่พักของบุคลากรคือราคาถูกมากๆ
เป็นที่พักสำหรับด้านในของ meidou factory employee นะครับ ซึ่งทำให้การทำงานนั้นคุ้มมากๆครับ
หลังจากวันแห่งการงานการศึกษานะครับ ก็ได้มารับประทานอาหารเย็น ครับร้านนี้อร่อยมากๆครับ
มีเนื้ออารมณ์คล้ายๆชาบูครับ ซึ่งเนื้อดีมากๆครับ ดีแบบดีมากๆๆๆๆๆจริงๆครับ อาหารมื้อนี้คือมื้อที่ผมชอบที่สุด
ในทริปนี้ อร่อยมากครับ อุอุ

จากนั้นก็กลับมาพักที่โรงแรมอย่างรวดเร็วครับ จบวันที่ 5 อย่างรวดเร็ววว
เริ่มต้นวันที่ 6 มาวันนี้ไปเดินที่สวนครับ ได้ไปเดินป่าบนเขาเนิน แล้วไปเล่นกิจกรรมในธรรมชาติครับ
หลังจากนั้นก็ต่อด้วย ไปเที่ยวที่ ghibli park ครับ







นี่คือบรรยากาศที่สวนจิบิ ครับ สำหรับผมที่ชอบอนิเมะของค่ายจิบิอยู่แล้ว บอกเลยว่าฟินมากๆครับ
คือบรรยากาศมันใช่มากๆ การที่ได้ไปเดินในสถานที่จำลองของโลกการ์ตูนที่เราชอบมันสานฝันผมขึ้นมาเยอะมากจริงๆ
อันนี้คือน้องๆที่ผมซื้อกลับมาเลี้ยงครับ ผมตั้งชื่อว่า ขอน ครับ เพราะโตโตโร่อยู่ในขอนไม้

ส่วนน้องคนนี้ชื่อ ตาลครับ พาตาลมาเที่ยวด้วยครับเสียดายที่พาน้องๆมาด้วยไม่ได้






รูปนี้น้องตาลหล่อมากครับ

หลังจากกลับจากจิบิก็กลับมาที่โรงแรมครับ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่อยู่โรงแรมนี้ครับ วันต่อไปวันที่ 7 ผมไม่ได้ถ่ายอะไรเลยครับ
สรุปง่ายๆคือ วันสุดท้าย ผมก็ได้ย้ายไปอยู่อีกโรงแรมในระแวกสนามบินครับ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับไทยโดยสวัสดิภาพครับ
อย่างหนึ่งที่ผมชอบมากๆเกี่ยวกับเมืองไอจิ คือความใส่ใจกับประชาชนของผังเมืองครับ
ทั้ง public transport ที่ดีมากๆเลยไม่ต้องขึ้นรถไปไหนมาไหนทำให้เกิดควันดำ นอกจากนี้คือการก่อสร้างครับ

จากภาพเห็นได้ว่าแม้แต่ ไซต์ก่อสร้างนะครับ ก็มีการครอบไว้ที่ดีมากๆ กักฝุ่น กักเสียง และ รักษาความปลอดภัยให้คน
ภายนอกได้ดีมากครับ ที่ไทยก็มีนะครับ แต่ไมได้ครอบทั่วถึงเหมือนที่ไอจิครับ แต่ตัวอย่างที่ดีก็มีที่วัดพระแก้วครับ
ก่อนหน้านี้ผมไปวัดพระแก้วมาแล้วสังเกตได้ว่า โซนที่เขาพัฒนาอยู่มีการครอบคุมที่แน่นหนามากๆครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ไว้เจอกันใหม่ในเรื่องต่อๆไปนะครับ
รีวิวโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน ญี่ปุ่น จังหวัดไอจิ - ประเทศไทย ปี 2566 ตอนที่ 2
ในวันที่ 4 ทุกคนแต่งกายชุดนักเรียนครับเพราะมีการไปเยี่ยมโรงเรียนที่ญี่ปุ่นะครับ Ichinomiya high school ครับ
หลังจากที่ได้เข้าสู่ตัวโรงเรียนพื้นที่โดยรอบสะอาดตา ตามท้อเรื่องครับ
ตึกของโรงเรียนค่อนข้าง ค่อนไปทางเล็กครับ จึงทำให้เบริเวณโณงเรียนไม่มีจุดอับแสงเลยครับ
ตรงนี้คือลานจอดจักรยานของนักเรียนครับ ผมประทับใจมากๆกับระเบียบของนักเรียนที่ญี่ปุ่น
และความสบายใจในการวางของ เขากล้าที่จะวางของ ฝากของไว้ที่จักรยานได้แบบเชื่อใจว่าจะไม่มีใครมาโขมย
ภายในตัวอาคารสะอาดมากขนาดไม่กว้างมากครับ ระยะห่างระหว่างอาคารไม่ห่างกันจึงเดินเรียนได้เรื่อยๆไม่เหนื่อยไม่หอบครับ
กิจกรรมร่วมกันกับเด็กที่ญี่ปุ่นนุกมากๆครับ
โดยหัวข้อที่เราไปเกี่ยวกับสิ่งอวดล้อมครับเลยเล่นบิงโกคำถามเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และ SDG GOALS ครับ
มีให้เขียนชื่อเด็กญี่ปุ่นเป็นไทยแลกกันครับ ผมเลยวาดภาพไว้เป็นที่ระลึกให้ครับ
หลังจากแนะนำตัวเสร็จก็ทานอาหารเที่ยงร่วมกันครับ เด็กที่นั่นห่อข้าวไปทานกันเองครับ น่าทานมากๆสารอาหารครบมากๆครับ
อันนี้ของ เรน่า ครับ
อันนี้ของผมครับ
ส่วนอันนี้ของโคซาคุครับ
หลังจากทานอาหารเสร็จก็มาร่วมกิจกรรมกันต่อครับในช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมที่บอกไว้ก่อนหน้านี้คครับ ต่างสลับกันเล่นบันไดงูตอบคำถามครับ
สนุกมากๆ ส่วนมากเหมือนเป็นการวัดทักษะภาษาอังกฤษครับ
หลังจากกิจกรรมแล้วก็ไปดูส่วนต่างๆของโรงเรียนครับ ได้ดูชมรมธนูที่ญี่ปุ่นครับ กับ ชมรมตี คาตะ ครับ
สนุกมากๆครับ ประหม่าอยู่บ้างแต่ก็สนุกดีครับ น่าจดจำมากๆครับ
หลังจากกลับมาจากโรงเรียนก็กลับมาทานอาหารต่อที่โรงแรมครับ
ทานอาหารเย็นเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการไปช็ฮปปิ้งต่อที่ DONKI ครับผมมม
บรรยากาศระหว่างที่เดินไปห้างดงงกี้คือดีมากๆ ได้เดินในใจกลางเมืองของเขามันดีมากจริงๆครับ
บรรยากาศในตัวห้าง อารมณ์เหมือน พันทิป ที่ไทยเลยครับ แต่ว่าใหญ่กว่าแล้วก็ของมีมากกว่าหลายประเภทมากๆครับ
บรรยากาศในห้างก็มีทั้งวัยรุ่นถึงคนแก่ครับ ส่วนตัวผมก็ซื้อของไปเยอะเลยครับ 5555
อันนี้คือนวัตกรรมที่ผมชอบมากๆ คือมีพาวเวอร์แบงค์ให้เช่าในตัวห้างด้วยครับ
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้แล้วก็เป็นสวัสดิการที่ดูใส่ใจผู้บริภาคเอามากๆเลยครับ
ซื้อกันดั้มไปฝากแฟนด้วยครับ อุอุ
ผมได้มีโอกาสมาเดินเล่นแถวระแวกใกล้ๆด้วยครับ บรรยากาศคือเหมือนเยาวราชบ้านเราเลยครับ แค่มีหลากหลายประเภทมากกว่า
กับฟุตบาทที่ใหญ่มากๆเลยครับเดินได้สบายๆเลยครับ
มุมุ
หลังจากเดินเที่ยวที่ดงกี้ ก็ กลับมาแล้วก็พักเลยครับเพราะกิจกรรมแน่นมากๆจริงๆครับ
กลับมาแยกกันนอนเข้าห้องกันแต่ละคน สำหรับวันที่ 4 ก็จบเพี่ยงเท่านี้ครับบบ
ในวันที่ 5
วันนี้เป็นวันเป็นการเป็นงานอีกวันหลังจากเที่ยวไปหลายวันครับ
มาเสวนากันที่ UN ของไอจิครับ Discussion เกี่ยวกับเรื่องของ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและหลักๆจะพูด SDG GOALS
ครับ โดยที่ไอจิ เป็นจังหวัดหนึ่งที่ชอบและพัฒนาเมืองพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมจากหลักการของ SDG GOALS
มาโดยตลอดครับ
สำหรับที่ UN ก็ดีมากๆครับ ได้สาระมากมายจริงๆ ครับ SDG goals จริงๆเป็นวิธีที่ยังคงเป็น prototype อยู่
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะทำตามแนวทางหรือหลักการของ sdg goals แต่ว่าที่ญี่ปุ่นก็มีการใช้วิธีการกดดันทางสังคม
อาจจะฟังดูรุนแรงนะครับ เพราะเขาใช้วิธีที่ว่า ปลูกฝังจิตใต้สำนึกให้ผู้บริโภคไม่สนับสนุนบริษัทที่ไม่ตามแนวทาง sdg goals
แต่ก็เป็นกลยุทที่ดีครับ
หลังจากเสร็จจากที่ UN ก็ไปดูงานต่อที่ toyota eco fu town
ความรู้สึกหลังจากการเดินดูงานแล้วเหมือนกับไปอยู่เมืองอนาคตเลยครับ
บรรยากาศน่าเดินมากๆครับ รถที่มีพัฒนาการที่ล้ำมากๆ กับนวัตกรรมต่างๆคือทำให้ตนที่
ไม่ได้อินเรื่องรถ ก็สามารถเดินได้ครับ
หลังจากเดินดูพิพิทธพันท์ โตโยต้า ก็มาศึกษางานต่อ Meidou factory
เสียดายมากๆที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะกว่านี้เพราะตอนนั้นเม็มเต็มครับ
หลังจากที่ได้ศึกษาดูงานแล้วก็ได้รับโอกาสคุยกับพี่ที่ทำงานที่นั่น ที่เป็นคนไทยนะครับ
การทำงานที่นั่นแน่นอนครับ มีเงินเยอะกว่าไทยแน่นอน เงินเดือนอยู่ในระดับเที่ยวได้เลยครับ
ส่วนในเรื่องสวัสดิการก็มีครบดีครับ ที่ผมชอบที่สุดคือที่พักของบุคลากรคือราคาถูกมากๆ
เป็นที่พักสำหรับด้านในของ meidou factory employee นะครับ ซึ่งทำให้การทำงานนั้นคุ้มมากๆครับ
หลังจากวันแห่งการงานการศึกษานะครับ ก็ได้มารับประทานอาหารเย็น ครับร้านนี้อร่อยมากๆครับ
มีเนื้ออารมณ์คล้ายๆชาบูครับ ซึ่งเนื้อดีมากๆครับ ดีแบบดีมากๆๆๆๆๆจริงๆครับ อาหารมื้อนี้คือมื้อที่ผมชอบที่สุด
ในทริปนี้ อร่อยมากครับ อุอุ
จากนั้นก็กลับมาพักที่โรงแรมอย่างรวดเร็วครับ จบวันที่ 5 อย่างรวดเร็ววว
เริ่มต้นวันที่ 6 มาวันนี้ไปเดินที่สวนครับ ได้ไปเดินป่าบนเขาเนิน แล้วไปเล่นกิจกรรมในธรรมชาติครับ
หลังจากนั้นก็ต่อด้วย ไปเที่ยวที่ ghibli park ครับ
นี่คือบรรยากาศที่สวนจิบิ ครับ สำหรับผมที่ชอบอนิเมะของค่ายจิบิอยู่แล้ว บอกเลยว่าฟินมากๆครับ
คือบรรยากาศมันใช่มากๆ การที่ได้ไปเดินในสถานที่จำลองของโลกการ์ตูนที่เราชอบมันสานฝันผมขึ้นมาเยอะมากจริงๆ
อันนี้คือน้องๆที่ผมซื้อกลับมาเลี้ยงครับ ผมตั้งชื่อว่า ขอน ครับ เพราะโตโตโร่อยู่ในขอนไม้
ส่วนน้องคนนี้ชื่อ ตาลครับ พาตาลมาเที่ยวด้วยครับเสียดายที่พาน้องๆมาด้วยไม่ได้
รูปนี้น้องตาลหล่อมากครับ
หลังจากกลับจากจิบิก็กลับมาที่โรงแรมครับ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่อยู่โรงแรมนี้ครับ วันต่อไปวันที่ 7 ผมไม่ได้ถ่ายอะไรเลยครับ
สรุปง่ายๆคือ วันสุดท้าย ผมก็ได้ย้ายไปอยู่อีกโรงแรมในระแวกสนามบินครับ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับไทยโดยสวัสดิภาพครับ
อย่างหนึ่งที่ผมชอบมากๆเกี่ยวกับเมืองไอจิ คือความใส่ใจกับประชาชนของผังเมืองครับ
ทั้ง public transport ที่ดีมากๆเลยไม่ต้องขึ้นรถไปไหนมาไหนทำให้เกิดควันดำ นอกจากนี้คือการก่อสร้างครับ
จากภาพเห็นได้ว่าแม้แต่ ไซต์ก่อสร้างนะครับ ก็มีการครอบไว้ที่ดีมากๆ กักฝุ่น กักเสียง และ รักษาความปลอดภัยให้คน
ภายนอกได้ดีมากครับ ที่ไทยก็มีนะครับ แต่ไมได้ครอบทั่วถึงเหมือนที่ไอจิครับ แต่ตัวอย่างที่ดีก็มีที่วัดพระแก้วครับ
ก่อนหน้านี้ผมไปวัดพระแก้วมาแล้วสังเกตได้ว่า โซนที่เขาพัฒนาอยู่มีการครอบคุมที่แน่นหนามากๆครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ไว้เจอกันใหม่ในเรื่องต่อๆไปนะครับ