JJNY : 5in1 เวิลด์แบงก์ให้โจทย์รบ.│ชลน่านลั่นไม่ทรยศ│อมรัตน์ไล่ตู่│กกต.ตีตกคำร้องเอาผิดเพื่อไทย│เซเลนสกีอวยทัพ“สอยโดรน”

 
นายฟาบริซิโอ ซาร์โคเน ผู้จัดการเวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทย ระบุว่า การใช้จ่ายของรัฐบาลสำหรับบำนาญ การดูแลสุขภาพ การศึกษา การปรับตัวด้านสภาพภูมิอากาศ จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นและต้องทำให้ได้ โดยไม่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมๆ กับควบคุมหนี้สาธารณะให้ได้ โดยเวิลด์แบงก์แนะนำชุดมาตรการปฏิรูปภาษีก้าวหน้า ที่สามารถเพิ่มรายได้ 3.5% ต่อจีดีพี. ของไทย เช่น การเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม การยกเลิกการยกเว้นภาษี หรือ ขยายการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมความเท่าเทียม พร้อมๆ กับสร้างรายได้สำหรับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
 
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะไทยเพิ่มขึ้นจากราว 40% มาอยู่ที่กว่า 60% หลังจากรัฐบาลเพิ่มการกู้ยืมมารับมือการระบาดของโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้นได้อีก เมื่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งชนะการเลือกตั้ง มีนโยบายลดแลกแจกแถม อาจจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพิ่มมาทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยเวิล์ดแบงก์ได้แนะนำว่า การใช้นโยบายการคลังในระยะต่อไปนี้ ควรเป็นการใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไม่ควรเป็นนโยบายการคลังแบบเหวี่ยงแห เนื่องจากรัฐบาลมีภาระที่จะต้องจัดสรรงบประมาณในหลายๆเรื่อง

---

ชลน่าน ลั่นไม่ทรยศ 25 ล้านเสียง เลือกมาให้หยุดรบ.เดิม ยันมุ่งมั่นเต็มที่ ตั้งรบ.ก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4003178

‘เพื่อไทย’ ยัน ไม่มีดีลลับ ลั่น ไม่ทรยศปชช. มุ่งตั้งรัฐบาล ร่วม ‘ก้าวไกล’ แย้ม พรุ่งนี้! ถก 8 พรรค คุยแค่กรอบการทำงาน ยังไม่คุยเรื่องตำแหน่ง บอก แกนนำควรคุยให้ชัดในแต่ละพรรคก่อน ค่อยคุยรวม 8 พรรค
 
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 29 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ร่วมแถลงข่าวกรณีข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดงเอฟซีเพื่อไทย ที่ให้พรรค พท. ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.)  ว่า พรรค พท.โดยคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติชัดเจนว่า เรายอมรับความต้องการประชาชน 25 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคก.ก.มา 14.2 ล้านเสียง พรรคพท. 10.8 ล้านเสียง อยากให้มีรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยหยุดหยั้งการสืบทอดอำนาจเรายึดเจตจำนงนี้เป็นหลัก มั่นใจพรรค พท.จะเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคก.ก. ได้เป็นอย่างดี

ส่วนที่เสนอว่า หากพรรคอันดับหนึ่ง ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้พรรคอันดับสองเป็นผู้รวมเสียงข้างมากนั้น เรายังคงมีเจตจำนงทำตามแนวทางที่หนึ่งให้สำเร็จให้ได้ ประเด็นนี้เรา จึงขอรับฟังไว้ แต่ขณะนี้เรามุ่งมั่นตั้งรัฐบาลกับพรรค ก.ก.ให้จงได้
 
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรค พท.มีดีลลับกับพรรคต่างๆ ว่า พรรค พท.ขอปฏิเสธ หลังจากเลือกตั้งมาพรรค พท.ไม่มีดีลลับกับใคร มีแต่ดีลจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมลงนามในเอ็มโอยูเท่านั้น อยากให้ไปถามคนที่เสนอออกมาหากเป็นดีลลับทำไมถึงมีคนรู้ แล้วออกมาปล่อยข่าวก็อยากให้ไปถามคนนั้น ส่วนกรณีปรากฎภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. อยู่ร่วมเฟรมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้วนำไปโยงกับดีลลับนั้น นายเศรษฐา ทวีตข้อความออกมาชัดเจน นายเศรษฐาเป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องนี้เขาเตรียมตัวเป็นเดือน อีกทั้งการดูฟุตบอลเป็นสิทธิเสรีภาพ ยืนยันไม่มีดีลลับ
 
เมื่อถามว่า ล่าสุดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาเปิดเผยว่า มีดีลลับลังกาวีอีก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะไปถามนายชูวิทย์ ซึ่งในนามพรรค พท. เราไม่รู้ไม่เห็น จริงๆ เรื่องพวกนี้ ในนามของพรรคไม่มี
 
เมื่อถามว่า พรรค พท.ได้ประเมินหรือไม่กับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ออกมาในช่วงนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีการเปิดเผยข้อมูลหลากหลาย ส่วนจะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ต้องดูกันอีกที แต่ในนามพรรค พท.ที่ถูกอ้างถึงโดยตรง สิ่งที่เขาพยายามพูดไม่ใช่ข้อเท็จจริงเราไม่มีพฤติกรรมไปทำเช่นนั้นแน่นอน หน้าที่ของพรรค พท. และพรรคก.ก. คือจะทำอย่างไรให้บรรลุเจตจำนงของประชาชนให้มีรัฐบาลประชาธิปไตยเกิดขึ้น ข้อกังวลต่างๆ ตามข่าวที่ออกมาไม่สามารถลบเจตจำนงของประชาชนได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวต่างๆออกมา ถือเป็นมิติทางการเมือง ตนเป็นหัวหน้าพรรคมองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเกิดก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือแม้เป็นรัฐบาลไปแล้วก็จะมีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ
 
เมื่อถามว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคม จะคุยกันเรื่องตำแหน่งต่างๆ ในการคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก.ก. ได้เสนอมาคือระบุถึงเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกันที่จะจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมตัวเป็นรัฐบาลในช่วงเปลี่ยผ่านว่ามีการทำงานรูปแบบไหน และมีคณะกรรมการร่วมกันที่จะทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดเดิมกรณีที่ได้รับตำแหน่งหน้าที่แล้วให้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหลัก สำหรับเรื่องตำแหน่งในมุมของตน เห็นว่าไม่ควรคุยกันในเวที 8 พรรค นั้น ซึ่งการเจรจาการทำงานร่วมกันมีกรอบแล้วว่าทำอย่างไร ทางพรรคแกนนำควรไปคุยกับพรรคร่วมต่างๆให้ได้ข้อสรุป แล้วจึงค่อยนำขึ้นมาพูดคุยกันบนเวที 8 พรรค เรื่องตำแหน่งต่างๆ อีกครั้ง และขณะนี้ยังไม่คุยกันอย่างเป็นทางการ
 
“ในภาวะที่สังคมกำลังรอฟังอย่างนี้ ถ้าแปลงข้อเท็จจริงไปเป็นในมุมลบ ก็จะลบไป เราพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกังวล อะไรที่เราคุยกันได้ มันจบแล้วเอามานำเสนอเป็นที่ยุติ น่าจะดีที่สุด ไม่ควรคุยกันบนโต๊ะที่ยังไม่จบ ประสบการณ์เรามีมาแล้ว 3-4 วันที่ผ่านมาทำให้ประชาชนกังวลมาก” นพ.ชลน่าน กล่าว
 
เมื่อถามว่า พรรค พท. กับพรรค ก.ก. ได้หารือเรื่องประธานสภาฯ แล้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คณะทำงาน 2 พรรคกำลังประสานอยู่ รวมถึงตำแหน่งอื่นๆ เช่นกันว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามที่คุยหรือไม่ มีข้อเสนออย่างไร รับได้ไม่ได้อย่างไร หลังจากนั้นจะเอามาพูดคุยกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจและตอบ ทั้งนี้ เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ รีบคุย รีบจบมีคำตอบ จะดีที่สุด ทีมเจรจากำลังพยายามกันอยู่ และมั่นใจว่าไม่บานปลายจนไม่สามารถขัดตั้งรัฐบาลได้

---

อมรัตน์ ไล่ บิ๊กตู่ เช็กประสาท หากยังหวังเป็นรัฐบาล เผย ชพก.ยันโหวตหนุน พิธา
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7688829

อมรัตน์ ชี้ถ้า บิ๊กตู่ พูดจริงเรื่องจะเป็นรัฐบาลอีกครั้ง น่าจะเพี้ยน ต้องไปเช็กประสาทแล้ว มั่นใจก้าวไกลไม่ถูกโดดเดี่ยว เผยชาติพัฒนากล้าพร้อมโหวตหนุน พิธา
 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 พ.ค.2566 ข่าวสดออนไลน์ เชิญ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มาพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ผ่านรายการ ‘อยากมีเรื่องคุย’ ถึงเส้นทางการตั้งรัฐบาลก้าวไกล ว่า ยังเชื่อในความจริงใจของพรรคร่วมรัฐบาลและคำมั่นสัญญาที่เราได้เซ็นเอ็มโอยูร่วมกัน โดยมีส.ส.หลายพรรคจะโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ร่วมรัฐบาล อย่างเช่นพรรคชาติพัฒนากล้าก็ยืนยันมาแล้ว
 
คาดว่านักการเมืองที่มีจิตสำนึกประชาธิปไตยก็จะเคารพเสียงประชาชนที่มอบเสียงให้พรรคฝั่งประชาธิปไตย ทิ้งห่างพรรครวมไทยสร้างชาติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลายเท่าตัว
 
ส่วนแนวโน้มการพูดคุยกับส.ว. บางท่านตอบรับด้วยดี แต่บางท่านอาจจะติดขัดเรื่องมาตรา 112 เหมือนไปอ่านไลน์กลุ่มมา จึงยังเข้าใจผิดว่าจะยกเลิก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นแค่การแก้ไขให้ดีขึ้น
 
เมื่อถามถึงกระแสข่าวดีลลับโดดเดี่ยวก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรคก้าวไกลไปจนนาทีสุดท้าย นางอมรัตน์ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันแล้ว แต่อยากบอกว่าสังคมการเมืองในปัจจุบัน การที่คนไม่เชื่อเพราะถูกหลอกมาเยอะ ทำให้คนระแวง อยู่ในภาวะหวาดระแวง ต้องช่วยกันทำให้คนเชื่อมั่นเชื่อถือ ไม่ใช่พูดไปแล้วคนก็ถามย้ำ ต้องพูดในนามมติกรรมการบริหารพรรค ซึ่งน่าเชื่อถือมากกว่าพูดในนามคนใดคนหนึ่ง ต่อไปการสื่อสารการเมืองต้องชัดเจน
 
เมื่อถามถึงข่าวพล.อ.ประยุทธ์ บอกกับลูกพรรคว่าเชื่อว่ายังไงเราก็เป็นรัฐบาล นางอมรัตน์ กล่าวว่า คิดว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์พูดแบบนั้นจริงๆ ก็น่าจะเพี้ยน ต้องไปเช็กประสาท ถ้ายังคิดว่าตัวเองได้เสียงแค่ 30 กว่าเสียง พ่ายแพ้ยับเยิน ประชาชนตัดสิน แพ้ไม่รู้กี่เท่า แล้วยังกล้าฝันว่าตัวเองมีสิทธิ์เป็นนายกฯ นั่นคือหลุดโลกแล้ว เป็นทัศนคติของคนหลุดโลกแล้ว ฟังแล้วยังอายแทน แต่เป็นสิทธิ์ท่านจะพูดอะไรก็ได้ ไม่มีน้ำหนักแล้ว ไม่ควรให้ความสนใจด้วย
เมื่อถามว่าถ้าพรรคก้าวไกลโดนโดดเดี่ยวจริง จะเกิดอะไรขึ้น นางอมรัตน์ กล่าวว่า ถ้าโดดเดี่ยวก้าวไกลก็คือโดดเดี่ยวประชาชนมากกว่า 14 ล้านเสียง โดดเดี่ยวพรรคที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ได้อย่างไร พรรคก้าวไกลมีหลังพิงประชาชน ผ่านไป 4 ปี การทำงานของเราเข้าตาประชาชน ซึ่งยอมรับในการทุ่มเททำงาน มีนโยบายที่ประชาชนยอมรับ กล้าทำในสิ่งที่พรรคอื่นไม่กล้าทำ เป็นสายลม ยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลง โดดเดี่ยวก้าวไกลไม่ได้จริงๆ คนคิดเช่นนั้นถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพในหลักการ 1 สิทธิ์ 1 เสียง ไม่คิดว่าพรรคที่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยที่จะทำแบบนั้น หรือแม้จะคิดก็ไม่ควรคิดที่จะโดดเดี่ยวพรรคที่ได้ที่ 1
 
นางอมรัตน์ กล่าวว่า ในนามก้าวไกล อยากให้คำมั่นต่อประชาชนที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนเรา ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั่วประเทศ พรรคก้าวไกลจะต่อสู้ยืนยันในการตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้เป็นผลสำเร็จให้ได้ พรรคจะไม่เอาเงื่อนไขไม่เป็นประชาธิปไตยมาทำให้สูญเสียจุดยืนทางการเมือง เราจะไม่ยอมให้มีการต่อรองที่ทำให้เราสูญเสียหลักการ
  
ขอให้กำลังใจประชาชน อย่าหมดความหวัง เห็นใจในความอึดอัดคับข้องใจว่า ฉันทามติขนาดนี้แล้วยังตั้งรัฐบาลได้ไม่ง่าย ขอให้เชื่อมั่นว่าก้าวไกลถูกกดดันอย่างไรก็ตาม ไม่ทำให้เราสูญเสียจุดยืน และประชาชนยังมีสิทธิตัดสินอีกครั้งในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น