ผ่านไป 3 part ผมได้แนะนำวิธีการหาเงินเพื่อนำมาออมกันแล้ว ต่อไปผมจะมาแนะว่า ถ้าอยากจะออมเงิน ออมแบบไหนกันได้บ้างครับ
การที่เราจะตัดสินใจออมเงิน และเพื่อให้เงินที่ออมได้ประโยชน์และได้ออมตามที่ตั้งใจ มันไม่ใช่จะออมยังไงก็ได้นะครับ
ถ้าเลือกออมเงินผ่านธนาคารเราก็จะได้ความปลอดภัยของเงินแต่จะไม่ได้ผลตอบแทนเป็บกอบเป็นกำ
แต่ถ้าเรานำเงินไปลงทุน เราก็อาจจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็แลกกับความไม่ปลอดภัยของเงินต้นถ้าเราไม่เข้าใจมันจริงๆ
แล้วที่เหมาะสมกับเรามันคืออะไรกันละ
การที่เราจะออมแบบไหน มันมีปัจจัยอยู่ว่า
1.เป้าหมายในการออมของเรา หรือจุดประสงค์ในการออมเงินของเรา
2.ระยะเวลาในการต้องการใช้เงิน
ซึ่ง สองส่วนนี้จะบอกเราได้ว่า เราจะต้องใช้เงินเมื่อไหร่ และเมื่อเราทราบระยะเวลาในการออมเงิน มันก็จะทำให้เราวางแผนเงินออมของเราได้ถูกต้องว่าควรจะวางแผนการออมเงินอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราต้องการออมเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าเทอมลูกในอีก 3 สามเดือนข้างหน้า หรือเงินก้อนนี้ต้องการไว้สำหรับการเกษียณตัวเอง
สำหรับคนที่มีเป้าหมายแล้วก็คงมองเห็นภาพแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีเป้าหมายการออมเราอาจจะเอาระยะเวลามาแบ่งการตัดสินใจการออมว่าจะออมโดยวิธีไหนคือ แบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.เป้าหมายการออมเงินระยะสั้น
เงินออมส่วนนี้ ออมเพื่อใช้จ่ายอะไรบางอย่างที่จะต้องใช้เงินภายในเวลา 0-1 ปี เชน ค่าเทอมลูก ค่าคอร์สฟิตเนท เก็บเงินเพื่อซื้ออะไรบางอย่าง
2.เป้าหมายระยะกลาง
เงินออมส่วนนี้ ออมเพื่อใช้จ่ายอะไรบางอย่างที่ต้องใช้เงินภายใน 1-5 ปี เช่น ออมเงินเพื่อเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือ ออมเงินเพื่อซื้อของอะไรบางอย่าง หรือ ออมเงินเพื่อการลงทุนระยะกลาง ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินใน 1 ปี แต่อาจจะต้องใช่เงินในช่วง 1-5 ปี
3.เป้าหมายระยะยาว
เงินออมส่วนนี้คือเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เช่นเก็บเงินเพื่อการเกษียณตัวเอง
สาเหตุทำไมเราต้องมีเป้าหมายเป็นระยะเวลาในการใช้เงินเพราะว่า ในการออมเงินมีวิธีการออมเงินหลากหลายวิธี การที่เราทราบเป้าหมายชัดเจนว่าเราสามารถลงทุนได้ระยะเวลานานเท่าไหร่ ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องว่า เราควรเอาเงินออมของเราไปลงทุนหรือไปออมแบบไหนดี
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินก้อนหนึ่งแต่เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ในอีก 5 เดือนข้างหน้า การออมเงินที่ถูกคือ การเอาเงินไปฝากธนาคาร หรือ ฝากประจำระยะสั้น หรือ ลงทุนในตลาดเงิน(ความเสี่ยงต่ำ) คือการลงทุนที่ถูกต้อง
แต่ถ้าเราไม่มีความเข้าใจในส่วนนี้แล้วเราเอาเงินไปลงทุนกับอะไรที่มีความผันผวน และอาจจะขาดทุนได้หากลงทุนระยะสั้น แต่เราไม่เข้าใจและลงเพียงเพราะเค้าบอกว่าผลตอบแทนดี เช่นลงทุนในทองคำ เงินออมของเราอาจจะหายไป หรืออาจจะขาดทุน ทำให้เกิดความเสียหายได้ นั่นเอง
แล้วการออมในแต่ละแบบ ในแต่ละช่วงเวลาควรลงทุนแบบไหนดี part หน้าจะเล่าให้ฟังครับ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เพราะว่ามันจะยาวเกินไป
จะเล่าจนกว่าจะมีคนฟัง Part 4 ทางเลือกออมเงินของคนอยากออมเงิน
การที่เราจะตัดสินใจออมเงิน และเพื่อให้เงินที่ออมได้ประโยชน์และได้ออมตามที่ตั้งใจ มันไม่ใช่จะออมยังไงก็ได้นะครับ
ถ้าเลือกออมเงินผ่านธนาคารเราก็จะได้ความปลอดภัยของเงินแต่จะไม่ได้ผลตอบแทนเป็บกอบเป็นกำ
แต่ถ้าเรานำเงินไปลงทุน เราก็อาจจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็แลกกับความไม่ปลอดภัยของเงินต้นถ้าเราไม่เข้าใจมันจริงๆ
แล้วที่เหมาะสมกับเรามันคืออะไรกันละ
การที่เราจะออมแบบไหน มันมีปัจจัยอยู่ว่า
1.เป้าหมายในการออมของเรา หรือจุดประสงค์ในการออมเงินของเรา
2.ระยะเวลาในการต้องการใช้เงิน
ซึ่ง สองส่วนนี้จะบอกเราได้ว่า เราจะต้องใช้เงินเมื่อไหร่ และเมื่อเราทราบระยะเวลาในการออมเงิน มันก็จะทำให้เราวางแผนเงินออมของเราได้ถูกต้องว่าควรจะวางแผนการออมเงินอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราต้องการออมเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าเทอมลูกในอีก 3 สามเดือนข้างหน้า หรือเงินก้อนนี้ต้องการไว้สำหรับการเกษียณตัวเอง
สำหรับคนที่มีเป้าหมายแล้วก็คงมองเห็นภาพแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีเป้าหมายการออมเราอาจจะเอาระยะเวลามาแบ่งการตัดสินใจการออมว่าจะออมโดยวิธีไหนคือ แบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.เป้าหมายการออมเงินระยะสั้น
เงินออมส่วนนี้ ออมเพื่อใช้จ่ายอะไรบางอย่างที่จะต้องใช้เงินภายในเวลา 0-1 ปี เชน ค่าเทอมลูก ค่าคอร์สฟิตเนท เก็บเงินเพื่อซื้ออะไรบางอย่าง
2.เป้าหมายระยะกลาง
เงินออมส่วนนี้ ออมเพื่อใช้จ่ายอะไรบางอย่างที่ต้องใช้เงินภายใน 1-5 ปี เช่น ออมเงินเพื่อเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือ ออมเงินเพื่อซื้อของอะไรบางอย่าง หรือ ออมเงินเพื่อการลงทุนระยะกลาง ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินใน 1 ปี แต่อาจจะต้องใช่เงินในช่วง 1-5 ปี
3.เป้าหมายระยะยาว
เงินออมส่วนนี้คือเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เช่นเก็บเงินเพื่อการเกษียณตัวเอง
สาเหตุทำไมเราต้องมีเป้าหมายเป็นระยะเวลาในการใช้เงินเพราะว่า ในการออมเงินมีวิธีการออมเงินหลากหลายวิธี การที่เราทราบเป้าหมายชัดเจนว่าเราสามารถลงทุนได้ระยะเวลานานเท่าไหร่ ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องว่า เราควรเอาเงินออมของเราไปลงทุนหรือไปออมแบบไหนดี
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินก้อนหนึ่งแต่เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ในอีก 5 เดือนข้างหน้า การออมเงินที่ถูกคือ การเอาเงินไปฝากธนาคาร หรือ ฝากประจำระยะสั้น หรือ ลงทุนในตลาดเงิน(ความเสี่ยงต่ำ) คือการลงทุนที่ถูกต้อง
แต่ถ้าเราไม่มีความเข้าใจในส่วนนี้แล้วเราเอาเงินไปลงทุนกับอะไรที่มีความผันผวน และอาจจะขาดทุนได้หากลงทุนระยะสั้น แต่เราไม่เข้าใจและลงเพียงเพราะเค้าบอกว่าผลตอบแทนดี เช่นลงทุนในทองคำ เงินออมของเราอาจจะหายไป หรืออาจจะขาดทุน ทำให้เกิดความเสียหายได้ นั่นเอง
แล้วการออมในแต่ละแบบ ในแต่ละช่วงเวลาควรลงทุนแบบไหนดี part หน้าจะเล่าให้ฟังครับ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เพราะว่ามันจะยาวเกินไป