ทำไมเดือนนี้ถึงเศรษฐกิจไม่ดีมากๆ เห็นในเฟสบุ้คคุยกัน?

fb ไม่ใช่ index ชี้วัด eco ทั้งประเทศหรือทั้งโลก
อย่ามั่ว

คนรวยก็ยังรวยเหมือนเดิม
ส่วนคนจนก็บ่นทุกเดือนเหมือนเดิม

ถ้าดูข้อมูลผิดที่ก็เท่าเดิม

จริงๆมันมีเหตุผลมาตั้งนานแล้วว่า โควิดเปิด แต่โควิดก็ไม่ใช่ปัญหาของการบริโภคอยู่ดี เพราะปัญหาจริงๆคือ

สินค้ามันแพงต่างหากครับ คนยังเข้าใจผิดอยู่เลยด้วยซ้ำ ตอนคุณโดนลดเงินเดือนจนนี่โควิดไปแล้วเงินมันก็กลับเหมือนเดิมแล้วหละ คนป่วยน้อยลงรักษาตัวไวขึ้น แล้วไหนอะผลกระทบ

คนที่ซวยเงินน้อยตอนโควิดแหละที่ถ้ายังฝืนทำธุรกิจด้วยทุนที่ต่ำ แล้วความรู้ที่น้อย มันก็เจ๊งสิครับ

เพราะนี่มันเงินเฟ้อ เงินเฟ้อก็คือ เงินมันเลขเยอะขึ้น แต่ซื้อของได้น้อยลง หมายถึงมูลค่าของเงินมัน over เกินไปมันทำให้ เงินเดือนที่เคยกลับมาเพิ่ม ก็ไร้ค่า

แล้วดูราคาสินค้าสิครับ เอาตลาดข้าวปลากินกันทุกวันนี้ ดันไป 50 จะ 60 แล้ว หรือเกินแล้วด้วยบางโซนนะ 70 คือยืนพื้น แล้วคิดว่าผลต่างมันเอาอยู่หรอครับ

นั่นแหละ SME ก็ล่วง เพราะคนไทยส่วนมากเกือบ 70 % ของกรุงเทพก็แค่คนที่ทำงานหาชาวกินค่ำไม่รู้เรื่องกลไกการตลาดที่ซับซ้อนหลอก ทั้งๆที่มันเรื่องจริงครับ ไม่ใช่ปลอม

ประเทศเรามีปัญหาเรื่อง รายได้กับค่าครองชีพมันไม่สมเหตุผล ไม่ใช่ว่าเงินน้อยแล้วซื้อของไม่ได้ แต่ของมันแพงขึ้นแถมมูลค่าเงินดันน้อย มันมีแต่ดึงให้แย่

แต่ถ้าคุณทำงานเงินเดือนสูงจริงๆ อาจจะรู้สึกเหมือนไม่กระทบเลย นั่นแหละครับมันก็เหมือนกับพวกนักธุรกิจที่อยู่ SME กลางๆ ที่เรียนโทบริหารมา ไปอ่านหนังสือหาความรู้ แล้วทำให้ธุรกิจมันยืนได้ด้วยทุนหมุนเวียนที่หนา

แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครมันมั่ว คน SME ที่โดนโซเชียลหลอกว่า เป็นนายตัวเองสิ ทำนั่นนี่สิ ชิปปิ้งดิ youtube ไลฟ์โค้ชลึ่ม รู้เปล่าว่ามันทำได้นะแต่ความเสี่ยงของการลงทุนอะ ถ้าพลาดมันก็มีแต่ทำให้จนลงๆ ไม่ไหวหลอกยังไงก็ต้องประเมิณความเสี่ยงในการลงทุนให้เป็นก่อนจะเรื่ม

มันควรจะหมดยุคว่า หวังให้เศรษฐกินดีขึ้นได้เร็วไวนะ มันควรต้องมีคนจัดการที่ฉลาดๆหน่อยครับ เพื่อให้มันกระตุ้นไม่ใช้นั่งเฉยๆ แล้วรอเศรษฐกิจฟื้นตัวเอง มันไม่ฟิ้นครับ อยู่เฉยๆ มันรักษาแผลตัวเองไม่ได้

จริงๆมันมีนโยบายมาแก้แล้ว ก็อีพวก เป๋าตั ให้คนเอาเงินไปจ่ายให้เงินมันกระจายลงร้านเล็กๆ สุดท้ายเป็นไง คนมีตังไม่ใช้ ชนชั้นกลางอีกแล้วเวรกรรม นั่นแหละ มันมีแต่แคมเปญลากชนชั้นกลางให้ล่วง เพราะเขามองว่าไม่ใช่แล้วกินเหมือนเดิมจ่ายร้านอาหารแพงเหมือนเดิมก็ได้สรุป มันไม่กระตุ้นเท่าไหร่ เหมือนเดิมคนก็บริโภคเหมือนเดิมแหละ

คนมันก็จะทำแบบเดิมมานานพักใหญ่แล้ว รอแต่ให้การท่องเที่ยวฟื้น?? แล้วคนที่คลองสถานที่ท่องเที่ยวมันก็นายทุนหน้าเดิม ไม่ใช่หน้าใหม่เท่าไหร่

แล้วนักธุรกิจหน้าใหม่หละ การกระจายรายได้อีกหละ หลายอย่าง มันเป็นกลไกที่อ่านเองก็มองว่ามันซับซ้อนมาก เพราะต่อให้การท่องเที่ยวกระจายตัว คนที่ได้ตังก็คือเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวนั่นแหละ มันก็อ้วนเงินไปกองอยู่แค่นั้น

ไหนหละเงินที่พวกนั้นจะกระจายไปเข้ากระเป๋าคนที่ทำค้าขายตลาด กรุงเทพ ตลาดเล็ก ตามตจว สุดท้ายลูปเดิมกี่ปีไม่รู้ คนก็หนีมาเบียดกันทำงานในกรุงเทพ แล้วแย่งกันกิน มันก็ดันราคาอาหารให้แพงนั่นนี่ แล้วสุดท้ายเงินเดือนก็น้อยเหมือนเดิม เงินเฟ้อยัดหน้า อสังเฟ้อ ไปอีก

ภาพรวมประเทศเศรษฐกิจไทยตอนนี้นะ พวก SME กลางไปจนถึงใหญ่บิ๊ก แบกตัวเลข มันเลยดูเหมือนไม่เป็นไร แต่คนรวยก็จะรวยขึ้นไปเรื่อย

พวกไม่รู้เรื่องก็จะจนลง ไปเรื่อยๆ อยู่นั่นแหละ กำแพงรายได้มันถึงได้กว้างขึ้น แล้วไปลากชนชั้นกลางซวยๆ ที่อยากใช้ชีวิตง่ายๆไม่เก่งธุรกิจให้จนลงๆ แล้วก็ตกฐานเฉยเพราะหาเงินไม่พอใช้

แม้แต่เห็นพวกบ้ามาอวย ซื้อคอนโดเป็นเจ้าของอสังหาสิปล่อยเช่า passive income ได้ เรายังนั่งขำเลย click bait จัด เราดูก็รู้แล้วว่าทำเลมันไม่ได้ทองหลอกนะ มันอ้าง เซลมันก็ได้ค่าคอมกินอิ่ม จะเป็นนักธุรกิจแหม่ไม่ดูอะไรเลย ติดหนี้วิ่งหาผู้เช่าเปลี่ยนมือห้องพังวนไป

แม้แต่ชิปปิ้งที่บอกง่ายก็แค่ซื้อมาขายไป เรามองว่าไม่ง่าย สต็อกพลาด เล็งสินค้าผิด หยาบครับ ต้องดูตลาดสินค้าให้ดีเลยหละถ้าอยากเล่นค้าปลีกนะมันมีมาตีตลาด มันมีคนคิดเหมือนกันเยอะ

ทั้งที่ไม่รู้เลยอะไรเลย มันก็เหมือนยุคสมัยที่ ชาวนาบอกเอ้ย มะนาวแพงหวะ โละสวนทั้งสวนปลูกมะนาวก็เป็นว่าาเล่น สุดท้ายเป็นไง คนทำตลาดขายได้ก่อน ขายไปก่อนมะนาวราคาตก ไอ้พวกมะนาวยังไม่โตเจ๊งดิ ขายที่ ขายขาดทุน

แล้วมันก็ความคิดเดิม มีคนเสี้ยม คนบอกว่าง่ายได้เงินดี คนไทยอะนิสัยขี้เกียจมันก็เอาแล้ว ทำตาม สุดท้าย supply มันล้น แต่ demand มันเพียงพอนานแล้ว เช่น ทิชชู่ อย่างผมจะต้องการทิชชู่ทำไม 100 ม้วน ผมใช้แค่ 10 ก็พอ แล้วดูร้านที่มาดันโฆษณาขายดิ 10000 ม้วน ผมก็ไม่ซื้อนะ คนอื่นก็คงคิดเหมือนกัน สุดท้าย นั่นแหละ มันเพียงพอแล้ว มันเหมือนมะนาวนั่นแหละว่า มันเยอะพอแล้วไม่ต้องการแล้ว มะนาวก็เน่าสิ เจ๊ง!!

กว่า 10 ปี แล้วที่คนพวกนี้ไม่เรียนรู้หรือหาความรู้เพื่อดูอะไรเลย เราไม่แปลกใจ ทำไมพวกเขาจะเจอตลาดเหงาเบาๆ ก็ล่วงเขาแค่ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจที่มากพอเลย

โดนนายทุนหรือคนรวยล่อไปเรื่อย ยิ่งนายทุนจีนฉลาดกว่าเราเยอะ คนรวยก็จะรวยขึ้น ตามหลัก demand and supply ไหมหละ คนโง่ลงทุนมาเช่า คนรวยได้ตังจากคนโง่ พอขายร้อนขายขาดทุนเจ้าเดิมก็อาจจะมาช้อนซ้ำขายคนอื่นต่อ นั่นแหละหลักการนี้ใช้ได้เกือบทุกตลาดเป็นพื้นฐานเลยแหละถ้ามองออกนะว่า เขาต้องการอะไร เราแค่โยนเข้าปากแล้วเอาตังมันมา

ดูอย่างเต่าบิน ชานมแฟนไชล์สไข่มุกซีนแก้วจิ้มกินตีแบรนด์มีเยอะแยะ ทำไมเต่าบินวินเฉย งงดิได้ไง เขารู้ครับว่า cost ที่เขาเสียไปเยอะคืออะไรนั่นคือ ที่ดินค่าเช่า ค่าแรงงานลูกจ้าง ขี้เกียจคิดหวะแต่คนมันชอบกินชาแน่ ยิ่งแต่งเองได้ด้วย โง่ๆ เลย

ไปซื้อเครื่องจีนและเทคโนโลยีมาลง เพราะมองแล้วว่ามันคุ้ม จบจร้า คนกินเป็นว่าเล่น ลดต้นทุน ลดแรงงงาน เอาเงินไปแปลงเป็น auto เงินดันในตัวเอง ต่างปะหละนี่แหละความแตกต่างของความรู้ และ เจ้าของเต่าบินทำมาตั้งแต่ ตู้บุญเติมแล้วนะจำไม่ผิด วางอยู่หน้า 7-11 ไม่เติมกับพนักงาน กดตู้แทน ได้ตังกินฟรีไปเยอะเลย ไหนจะเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอีก เขาเล่นตลาดที่ไม่มีคู่แข่งเยอะมาตลอดเลย เขาถึงรวย

ถ้าเราแบบเปิดใจไปอ่านว่านักธุรกิจเขาทำความสำเร็จได้ยังไง บอกเลย คนละฟิลลิ่งกับอิพวกขายฝันใน YouTube เลย เขามีดีเทลที่น่าสนใจและมุมมองการวิเคราะห์ที่เจ๋งกว่ามากๆ ที่ทำให้ธุรกิจหลุดจาก SME น้อยๆ เป็นกลางและใหญ่

เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนะแต่ก็หาความรู้ลงทุนเอาไว้แค่เพื่อไว้ หาความรู้ไว้ประดับบารมีในหัว จะได้รู้สึกว่า เอ้ยเราจะได้ไม่โดนพวกหลอกลงทุน ไม่เสียเงินทิ้งขว้าง แล้วก็เข้าใจสภาพจริงของพวกที่เขาเก่งว่า เขามองยังไงถึงอ่านได้ เขาก็แค่ประมาณการ์ณแหละอาจจะไม่เกิด แต่ถ้าลองคิดตามดูเป็นจุด มันไม่ได้โดนหลอกนะแต่กลิ่นมันฟ้องว่า เออ ก็ไม่แน่หวะ อาจจะจังหวะซวยแล้วมัน โบ๊ะ แตกก็จบง่ายก็แค่ประเทศติดหนี้หัวโต

เพราะตลาดโลกแค่ประกาศเงินเฟ้อกลางปีที่แล้ว เลข index อะไรสักตัวนี่แหละที่ชี้ตลาดผู้บริโภคว่ามันลดเพราะเงินขาดบวกโควิดมันลดจริง หุ้นล่วงเป็นแถวเลยครับ บางตัวอาจจะพุ่ง