Mili (Janhvi Kapoor) บัณฑิตพยาบาลสาวจบใหม่วัย 24 ปี หวังที่จะย้ายไปยังประเทศแคนาดาเพื่อโอกาสในชีวิตที่ดีกว่า
แต่แล้วด้วยความประมาทของคนบางคน ทำให้เธอต้องติดอยู่ในห้องเย็นของร้านฟาสต์ฟู้ดที่เธอทำเป็นงานพิเศษ
แน่นอนว่าไม่มีใครได้ยินเสียงร้องอย่างสิ้นหวังของเธอเพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากประตูร้านอาหารถูกล็อก
และเวลานั้นก็เป็นเวลากลางคืนห้างสรรพสินค้าก็ปิดทำการ ไม่มีใครเหลืออยู่.. มีแค่เธอคนเดียวในห้องเย็น...
เกริ่นให้ดูน่ากลัว แต่แน่นอนล่ะครับตัวเอกของเรื่องไม่ตายหรอก หลักใหญ่ใจความของหนังเรื่องนี้ก็คือ
ให้เรามาคอยลุ้น และเอาใจช่วยกันว่าเธอจะทำอย่างไร เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้จากกับดักแห่งความตายที่ไม่ธรรมดานี้
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอดในสถานที่ปิดตาย โดยฉากถูกเซตให้เป็นห้องเย็นเก็บอาหาร
ซึ่งก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว เมื่อต้องเข้าไปแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่นี่นางเอกของเราต้องติดอยู่ในนั้นเป็นวันๆ จะไม่ให้สยองขวัญได้อย่างไร
Mili ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ภาษามาลายาลัมเรื่อง 'Helen' (2019) ซึ่งก็มาจากผู้กำกับคนเดียวกันล่ะครับคือ Mathukutty Xavier
โดยเปลี่ยนมาเป็นภาษาฮินดีในเรื่องมิลิ เพื่อให้เข้าถึงในตลาดวงกว้างของอินเดีย
ซึ่งนอกจากเรื่องของการเอาชีวิตรอดให้ได้ในสถานการณ์เป็นตาย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีเส้นเรื่องของความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก รวมทั้งคนรักของเธอด้วยครับ
Janhvi Kapoor ในบท Mili น่ารักมากก และทำให้เราตามลุ้นเอาใจช่วยได้ตลอด
การที่เธอเรียนพยาบาลมาก็ทำให้สมเหตุสมผลได้หลายอย่างในการที่เธอกัดฟันสู้หาวิธีเอาตัวรอดในช่วงเวลายากลำบากแบบนั้นได้
(แถมที่เธอติดอยู่ในนั้น จริงๆก็ยังมีเพื่อนคอยให้กำลังใจอยู่ด้วยเหมือนกันนะ แต่ไม่บอกว่าเป็นอะไร ไปหาดูเอง อิอิ)
แต่ก็มีน่าหงุดหงิดอยู่บ้างในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บทดูน่ารำคาญเหลือเกิน คือเข้าใจว่าวางให้เป็นตัวที่คนดูต้องไม่ชอบขี้หน้า
แต่เห้ย ชีวิตคนทั้งคนนะ ยังมัวมานั่งคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ได้ไงเนี่ย (เอ.หรือว่าเขาแสดงดีจริง ผมเลยอินตาม 5555)
ปิดท้ายด้วยมิลิทางซ้ายมือ และทางขวาคือ Helen แสดงโดย Anna Ben ต้นฉบับของหนังเรื่องนี้ครับ
สรุปหนังดีดูได้เพลินๆ นางเอกน่ารัก ดูไปทานแฮมเบอเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ไป ยิ่งอร่อยเหาะเลยครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Mili (2022) เมื่อสาวน้อยต้องติดอยู่ในห้องเย็น -18 °C... ==
Mili (Janhvi Kapoor) บัณฑิตพยาบาลสาวจบใหม่วัย 24 ปี หวังที่จะย้ายไปยังประเทศแคนาดาเพื่อโอกาสในชีวิตที่ดีกว่า
แต่แล้วด้วยความประมาทของคนบางคน ทำให้เธอต้องติดอยู่ในห้องเย็นของร้านฟาสต์ฟู้ดที่เธอทำเป็นงานพิเศษ
แน่นอนว่าไม่มีใครได้ยินเสียงร้องอย่างสิ้นหวังของเธอเพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากประตูร้านอาหารถูกล็อก
และเวลานั้นก็เป็นเวลากลางคืนห้างสรรพสินค้าก็ปิดทำการ ไม่มีใครเหลืออยู่.. มีแค่เธอคนเดียวในห้องเย็น...
เกริ่นให้ดูน่ากลัว แต่แน่นอนล่ะครับตัวเอกของเรื่องไม่ตายหรอก หลักใหญ่ใจความของหนังเรื่องนี้ก็คือ
ให้เรามาคอยลุ้น และเอาใจช่วยกันว่าเธอจะทำอย่างไร เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้จากกับดักแห่งความตายที่ไม่ธรรมดานี้
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอดในสถานที่ปิดตาย โดยฉากถูกเซตให้เป็นห้องเย็นเก็บอาหาร
ซึ่งก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว เมื่อต้องเข้าไปแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่นี่นางเอกของเราต้องติดอยู่ในนั้นเป็นวันๆ จะไม่ให้สยองขวัญได้อย่างไร
Mili ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ภาษามาลายาลัมเรื่อง 'Helen' (2019) ซึ่งก็มาจากผู้กำกับคนเดียวกันล่ะครับคือ Mathukutty Xavier
โดยเปลี่ยนมาเป็นภาษาฮินดีในเรื่องมิลิ เพื่อให้เข้าถึงในตลาดวงกว้างของอินเดีย
ซึ่งนอกจากเรื่องของการเอาชีวิตรอดให้ได้ในสถานการณ์เป็นตาย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีเส้นเรื่องของความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก รวมทั้งคนรักของเธอด้วยครับ
Janhvi Kapoor ในบท Mili น่ารักมากก และทำให้เราตามลุ้นเอาใจช่วยได้ตลอด
การที่เธอเรียนพยาบาลมาก็ทำให้สมเหตุสมผลได้หลายอย่างในการที่เธอกัดฟันสู้หาวิธีเอาตัวรอดในช่วงเวลายากลำบากแบบนั้นได้
(แถมที่เธอติดอยู่ในนั้น จริงๆก็ยังมีเพื่อนคอยให้กำลังใจอยู่ด้วยเหมือนกันนะ แต่ไม่บอกว่าเป็นอะไร ไปหาดูเอง อิอิ)
แต่ก็มีน่าหงุดหงิดอยู่บ้างในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บทดูน่ารำคาญเหลือเกิน คือเข้าใจว่าวางให้เป็นตัวที่คนดูต้องไม่ชอบขี้หน้า
แต่เห้ย ชีวิตคนทั้งคนนะ ยังมัวมานั่งคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ได้ไงเนี่ย (เอ.หรือว่าเขาแสดงดีจริง ผมเลยอินตาม 5555)
ปิดท้ายด้วยมิลิทางซ้ายมือ และทางขวาคือ Helen แสดงโดย Anna Ben ต้นฉบับของหนังเรื่องนี้ครับ
สรุปหนังดีดูได้เพลินๆ นางเอกน่ารัก ดูไปทานแฮมเบอเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ไป ยิ่งอร่อยเหาะเลยครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===