https://www.innews.news/news.php?n=37350&fbclid=IwAR09nd5e3fh5bJWA2jmoDYn91neZHb-JTjTaVFmL6_pVqX90iyUDvS46jiA
เพิ่งเห็นข่าวนี้ ประเด็นหาเสียงนี้ไม่รู้ว่าสำนักข่าวให้ข่าวถูกต้องไหม แต่ถ้าตามเนื้อหา น่าจะมีผลกระทบกับตลาดทุนพอสมควร
สรุปที่ยกตัวอย่างมาจากการไปหาเสียงในวันนั้น
เก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน เช่น
1.ภาษีนิติบุคคลที่เรียกเก็บจากบริษัทขนาดใหญ่
2.ยกเลิกสิทธิ BOI ที่ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป
3. รวมถึงการเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากคนรวยที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท
- 1 - การเรียกเก็บภาษีจากบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ น่าจะเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นเกือบทั้งหมดแล้ว ถ้าเก็บภาษีเพิ่มไปอีกน่าจะกระทบผลประกอบการณ์พอสมควร
- 2 - การยกเลิกสิทธิ BOI ก็อาจเช่นกัน ผลกระทบเดียวกันกับการเรียกเก็บภาษี แต่จะเพิ่มขึ้นมาในส่วนของการตัดสินใจลงทุนของต่างชาติ ถ้ามีจริงโครงการ EEC ที่วางแผนไป โครงการ Landbridge อาจจะมีผลกระทบเป็นอย่างมาก และกระทบต่อรายได้ในระยะยาวของประเทศ
- 3 - การเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินที่ว่าก็ไม่แน่ใจว่ารวมถึงทรัพย์สินการลงทุนด้วยไหม รวมถึงตลาดทุนด้วยไหม
ตลาดน่าจะตอบสนองความไม่ชัดเจนของนโยบายการสนับสนุนการลงทุน เพราะมีทั้งเรื่องค่าแรง เก็บภาษีเพิ่ม ลดการสนับสนุนการลงทุน และทีมเศรษฐกิจในภาพรวมก็ยังไม่ชัดเจน ไม่แปลกที่ประเด็นแบบนี้จะมีผลกับตลาดทุน
และเรื่องตลาดจะวิตก กับการตั้งรัฐบาลก็อาจจะมีส่วน แต่ถ้าดูจากผลการเลือกตั้งและภาพรวมของพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม คิดว่าน่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ความเชื่อมั่นของทีมงาน นโนบายดูจะมีผลมากกว่า
ใครที่ยังไม่ได้ซื้อหรือถือหุ้น คิดว่าอาจจะ wait and see ไปก่อน อาจจะได้ของถูกกว่านี้ แต่ตอนหุ้นขึ้นจะขึ้นได้แค่ไหนนี่ไม่รู้นะ เพราะดูแล้วผลกระทบกับเรื่องนักลงทุนจากวิธีคิดของพรรคการเมือง
อยากให้พรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาล ออกมาให้ข่าวในประเด็นพวกนี้ให้ชัดเจน เพราะถ้าดูจากทัศนคติต่อการลงทุนน่าจะไปในแนวลบพอสมควร ยังไม่รู้จะมีประเด็นเหล่านี้เพิ่มไหม นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวก็เรื่องค่าแรง
ประเทศเราจริงๆ กลไกอะไรๆ มันก็อาจจะทำได้ดีขึ้นถ้าเราปรับปรุง แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เน้นไปทางนโยบายหาเงินให้คนรายได้น้อยมีใช้
มากกว่าจะที่จะสนับสนุนให้คนเหล่านั้นทำงานเพื่อสร้างรายได้ รัฐไม่ได้ดูแลคนเสียภาษีรายได้แต่ไปดูแลคนที่ไม่เสียภาษี แบบนี้ใครอยากจะทำงานมีรายได้ไปจนเสียภาษี Productivity และ Revenew หรือ GDP ของประเทศมันจะเพิ่มขึ้นได้ยังไง และนโยบายสร้างรายได้ให้คนรายได้น้อยกลับไปสร้างหนี้ให้เขาเสียอีกผ่านนโยบายต่างๆ
อยากให้รัฐสร้างกลไกทางภาษี เพื่อให้คนทำงานมากกว่า เช่นบำนาญจากเครดิตภาษี เกษตรกรก็ให้ลงทะเบียนคำนวนเครดิตเอาจากรายได้ แล้วจ่ายคืนตอนเกษียน มากกว่าที่จะประกาศว่าจะจ่ายโดยไม่ต้องทำอะไรเลย แบบนี้ใครอยากจะทำงาน รอรับไปเรื่อยๆ
ในมุมมองของรัฐตอนนี้ คนเสียภาษีแทบจะมองว่าเอาเปรียบคนที่ไม่ได้เสียภาษีไปด้วยซ้ำ เพียงเพราะเขาเหล่านั้นมีรายได้ที่สูงกว่า มีโอกาสที่มากกว่า
ประเด็นเรื่องนโยบายของพรรคการเมือง อาจจะมีผลกับตลาดทุนพอสมควร
เพิ่งเห็นข่าวนี้ ประเด็นหาเสียงนี้ไม่รู้ว่าสำนักข่าวให้ข่าวถูกต้องไหม แต่ถ้าตามเนื้อหา น่าจะมีผลกระทบกับตลาดทุนพอสมควร
สรุปที่ยกตัวอย่างมาจากการไปหาเสียงในวันนั้น
เก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน เช่น
1.ภาษีนิติบุคคลที่เรียกเก็บจากบริษัทขนาดใหญ่
2.ยกเลิกสิทธิ BOI ที่ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป
3. รวมถึงการเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากคนรวยที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท
- 1 - การเรียกเก็บภาษีจากบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ น่าจะเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นเกือบทั้งหมดแล้ว ถ้าเก็บภาษีเพิ่มไปอีกน่าจะกระทบผลประกอบการณ์พอสมควร
- 2 - การยกเลิกสิทธิ BOI ก็อาจเช่นกัน ผลกระทบเดียวกันกับการเรียกเก็บภาษี แต่จะเพิ่มขึ้นมาในส่วนของการตัดสินใจลงทุนของต่างชาติ ถ้ามีจริงโครงการ EEC ที่วางแผนไป โครงการ Landbridge อาจจะมีผลกระทบเป็นอย่างมาก และกระทบต่อรายได้ในระยะยาวของประเทศ
- 3 - การเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินที่ว่าก็ไม่แน่ใจว่ารวมถึงทรัพย์สินการลงทุนด้วยไหม รวมถึงตลาดทุนด้วยไหม
ตลาดน่าจะตอบสนองความไม่ชัดเจนของนโยบายการสนับสนุนการลงทุน เพราะมีทั้งเรื่องค่าแรง เก็บภาษีเพิ่ม ลดการสนับสนุนการลงทุน และทีมเศรษฐกิจในภาพรวมก็ยังไม่ชัดเจน ไม่แปลกที่ประเด็นแบบนี้จะมีผลกับตลาดทุน
และเรื่องตลาดจะวิตก กับการตั้งรัฐบาลก็อาจจะมีส่วน แต่ถ้าดูจากผลการเลือกตั้งและภาพรวมของพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม คิดว่าน่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ความเชื่อมั่นของทีมงาน นโนบายดูจะมีผลมากกว่า
ใครที่ยังไม่ได้ซื้อหรือถือหุ้น คิดว่าอาจจะ wait and see ไปก่อน อาจจะได้ของถูกกว่านี้ แต่ตอนหุ้นขึ้นจะขึ้นได้แค่ไหนนี่ไม่รู้นะ เพราะดูแล้วผลกระทบกับเรื่องนักลงทุนจากวิธีคิดของพรรคการเมือง
อยากให้พรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาล ออกมาให้ข่าวในประเด็นพวกนี้ให้ชัดเจน เพราะถ้าดูจากทัศนคติต่อการลงทุนน่าจะไปในแนวลบพอสมควร ยังไม่รู้จะมีประเด็นเหล่านี้เพิ่มไหม นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวก็เรื่องค่าแรง
ประเทศเราจริงๆ กลไกอะไรๆ มันก็อาจจะทำได้ดีขึ้นถ้าเราปรับปรุง แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เน้นไปทางนโยบายหาเงินให้คนรายได้น้อยมีใช้
มากกว่าจะที่จะสนับสนุนให้คนเหล่านั้นทำงานเพื่อสร้างรายได้ รัฐไม่ได้ดูแลคนเสียภาษีรายได้แต่ไปดูแลคนที่ไม่เสียภาษี แบบนี้ใครอยากจะทำงานมีรายได้ไปจนเสียภาษี Productivity และ Revenew หรือ GDP ของประเทศมันจะเพิ่มขึ้นได้ยังไง และนโยบายสร้างรายได้ให้คนรายได้น้อยกลับไปสร้างหนี้ให้เขาเสียอีกผ่านนโยบายต่างๆ
อยากให้รัฐสร้างกลไกทางภาษี เพื่อให้คนทำงานมากกว่า เช่นบำนาญจากเครดิตภาษี เกษตรกรก็ให้ลงทะเบียนคำนวนเครดิตเอาจากรายได้ แล้วจ่ายคืนตอนเกษียน มากกว่าที่จะประกาศว่าจะจ่ายโดยไม่ต้องทำอะไรเลย แบบนี้ใครอยากจะทำงาน รอรับไปเรื่อยๆ
ในมุมมองของรัฐตอนนี้ คนเสียภาษีแทบจะมองว่าเอาเปรียบคนที่ไม่ได้เสียภาษีไปด้วยซ้ำ เพียงเพราะเขาเหล่านั้นมีรายได้ที่สูงกว่า มีโอกาสที่มากกว่า