Chalun Ch
บนถนนที่ทอดยาวไกลแสนไกล ไกลสุดลูกหูลูกตา หญิงสาวเดินไปโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง เคว้งคว้าง อ้างว้าง ไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าตนเองเดินทางไปทำไม เพื่ออะไร จุดหมายปลายทางอยู่แห่งหนไหน แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าเส้นทางแห่งนี้มีปลายทางรออยู่
ร่างบอบบางสวมกระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อยลายการ์ตูนสีม่วง สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ ยัดชายเสื้อเข้าในกระโปรง สวมรองเท้าผ้าใบสีดำยี่ห้อที่เธอโปรดปรานที่สุด ผมสั้นดัดให้เป็นลอนนิดหน่อย จัดทรงให้ฟู ๆ พอง ๆ รับกับชุดที่สวมได้เป็นอย่างดี มัดโบว์สีขาวที่ผม สะพายกระเป๋าด้านหลังสีส้มอ่อน เดินไปตามถนนสายที่เวิ้งว้างและยาวไกล
ริมถนนสองฝากฝั่งรายล้อมไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม แม้จะเป็นเพียงดอกหญ้าตามรายทางก็ตาม ทว่าดอกที่คละสีของมันก็ทำให้แลดูสบายใจตา หมู่ดอกไม้มีผีเสื้อหลายตัวบินดอมดม ดูดน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ พวกมันเพลินไปกับน้ำหวานที่ได้รับโดยไม่กลัวภยันตรายใด ๆ ที่อาจจะมาถึงตัว
ระหว่างทางไม่ได้มีเพียงหญิงสาวที่เดินอยู่ท่ามกลางถนนสายอ้างว้าง มีผู้คนมากมายที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปทางเดียวกันกับเธอ พวกเขาเหล่านั้นไม่มีใครรู้จักกันเลย ไม่ได้รู้จักเธอ ต่างคนต่างทำเหมือนว่าถนนสายนี้ไม่มีผู้ใดใช้ร่วมด้วย มีเพียงตนเองที่เดินอยู่ลำพัง
หญิงสาวเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ข้างทาง เพลิดเพลินไปกับฝูงผีเสื้อที่บินรายล้อม จนลืมความเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินมาได้ไกลแค่ไหน ในใจยังนึกถึงเส้นชัยที่อยู่ปลายทาง ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเส้นชัยมีจริงหรือเปล่า และถนนสายนี้มีปลายทางรออยู่หรือไม่ เพราะดอกไม้เพราะผีเสื้อทำให้เธอไม่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินไปเรื่อย ๆ บนถนนสายนี้
ผีเสื้อตัวหนึ่งบินมาเกาะที่แขนของเธอ มันเป็นผีเสื้อสีดำตัวใหญ่ ปีกสีดำ มีจุดสีชมพูที่ปีก หนวดสีดำยาวและม้วนงอที่ปลายหนวด มันเป็นผีเสื้อที่สวยงามมาก หญิงสาวคุ้นตากับผีเสื้อชนิดนี้ดี เธอรู้จักมัน เคยเห็น ผีเสื้อชนิดนี้มันชอบบินตามต้นดอกเข็มที่โรงเรียน หญิงสาวอยากเอามันมาเลี้ยง อยากให้มันเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับเธอ
มันบินมาเกาะสายกระเป๋าบนหัวไหล่ของเธอ เธอหันมองและยิ้มให้กับมัน พยายามเดินเบา ๆ เพื่อไม่ให้ไปกระทบกระเทือนกับตัวของผีเสื้อ ไม่อยากให้มันบินหนีไป และมันก็เกาะที่ไหล่ของเธอไม่ยอมบินไปไหนเลย หญิงสาวค่อย ๆ เดินไปตามถนนเรื่อย ๆ พร้อมผีเสื้อตัวโปรด เธอพยายามมองหาเชือกเพื่อจะเอามามัดที่ตัวของมัน เสมือนสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง
“เจ้าผีเสื้อเจ้ารู้ไหมว่าปลายทางถนนเส้นนี้มันมีอะไร มันมีเส้นชัยไหม” หญิงสาวเบือนหน้ามามองผีเสื้อสุดรัก พร้อมคุยกับมัน ไม่มีคำตอบใด ๆ เพราะมันเป็นสัตว์ มันจะตอบเธอได้อย่างไร
“เย้! เจอแล้ว เจอเชือกแล้ว” หญิงสาวพูดอย่างตื่นเต้น ระหว่างที่เดินบนถนนมาเรื่อย ๆ เธอมองเห็นเชือกฟางสีชมพูเส้นหนึ่ง มันถูกทิ้งไว้บนกอหญ้า หญิงสาวค่อย ๆ นั่งลงเก็บเชือกอย่างเบาหวิวที่สุดเพราะเกรงว่าการนั่งของเธอจะกระทบกระเทือนกับตัวเจ้าผีเสื้อสุดหวงแหนตัวนี้ และทำให้มันบินหนีไป เธอหยิบเชือกฟางขึ้นมา มันยาวพอสมควร พอจะให้ผีเสื้อบินไปข้างหน้าได้
“เจ้าผีเสื้อจ๋า เราขอผูกเชือกเจ้านะ เราผูกเบา ๆ ไม่เจ็บ “ หญิงสาวค่อย ๆ เอื้อมมือมาจับตัวเจ้าผีเสื้อ ผูกปมที่เชือกและคล้องมัดที่ตัวของมันเอาไว้ ปล่อยให้มันบินนำทางเธอไปข้างหน้า ผีเสื้อบินไปได้ไกลตามระยะความยาวของเชือก หญิงสาวดีใจมากไม่ต้องกลัวว่าเจ้าผีเสื้อจะบินจากไป และเธอก็จะได้เร่งเดินไปให้ถึงเส้นชัยโดยเร็วสักที
ระหว่างทางก้อนเมฆบนท้องฟ้ารวมกลุ่มกันเป็นเมฆฝน สีหม่นครึ่ม ลมพัดโชยให้ความเย็นเป็นระยะ ๆ ไม่มีแดด ไม่มีฝน อากาศดีมาก ๆ ทำให้การเดินทางตามหาเส้นชัยไม่เหนื่อยเลย เพื่อนร่วมทางต่างเร่งรีบเดินไปข้างหน้า โดยไม่มีใครคุยกับใครสักคน ต่างคนต่างเดินไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง
หญิงสาวกับผีเสื้อของเธอเดินไปตามถนนอย่างมีความสุข ในใจคิดถึงเส้นชัยที่ปลายทางข้างหน้า ทว่าบนเส้นทางข้างหน้าก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเจอกับอะไร จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สิ่งที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ และไม่มีสัญญาณเตือน ดังเช่นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอต่อไปนี้
ระหว่างทางที่หญิงสาวเดิน เพลิดเพลินไปกับดอกไม้ริมทาง ฝูงผีเสื้อตัวอื่น ๆ และเจ้าผีเสื้อแสนรักของเธอ เธอปล่อยให้มันได้ดอมดมกับดอกไม้บ้าง ระหว่างนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าเชือกฟางที่มัดกับตัวผีเสื้อมันเกิดไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ ทำให้เชือกขาด ผีเสื้อแสนรักของเธอบินหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
“ผีเสื้อกลับมา!” หญิงสาวใจหายพร้อมตะโกนเรียกให้เจ้าผีเสื้อกลับมา และรีบวิ่งตามมันไป แต่ไม่ทัน เธอวิ่งไปเรื่อย ๆ ตามถนนที่อ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว ทว่าวิ่งเท่าไหร่ก็วิ่งไม่ทันเจ้าผีเสื้อสักที มันพาเชือกฟางสั้น ๆ บินลอยไปข้างหน้าอย่างไม่คิดหันกลับมาดูเจ้าของอย่างเธอเลย
เธอวิ่งตามมันจนเหนื่อยล้า มองเห็นมันอยู่ไกล ๆ ลับตา และเห็นมันบินไปเกาะที่ไหล่ของคนอื่น
“ผีเสื้อกลับมา!”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาน้ำตาคลอ มองผีเสื้อสุดหวงแหนไปกับคนอื่นจนลับตา แต่เธอก็ยังต้องเดินต่อไปตามเส้นทางข้างหน้า เพราะเส้นชัยรออยู่
หญิงสาวเดินไปอย่างคนหมดแรงสิ้นหวัง ผิดหวัง เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงปลายทางสักที ไม่มีผีเสื้อคู่ใจอีกแล้ว เธอกลับมาเดินเพียงลำพังอีกครั้ง เธอเดินไปข้างหน้าด้วยใจห่อเหี่ยว ล่องลอย เดินไปเรื่อย ๆ ไกลแค่ไหนก็ไม่อาจประมวลผลได้ ดอกไม้และผีเสื้อริมทางตัวอื่น ๆ ที่บินรายล้อมกลับไม่มีผลต่อจิตใจของเธอสักนิด
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้อะไรมาหรือเสียอะไรไป และไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ตรงไหน จะมีจริงหรือไม่ แต่เธอก็ยังเดินต่อไป...
จบ...
ล่องลอย
Chalun Ch
บนถนนที่ทอดยาวไกลแสนไกล ไกลสุดลูกหูลูกตา หญิงสาวเดินไปโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง เคว้งคว้าง อ้างว้าง ไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าตนเองเดินทางไปทำไม เพื่ออะไร จุดหมายปลายทางอยู่แห่งหนไหน แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าเส้นทางแห่งนี้มีปลายทางรออยู่
ร่างบอบบางสวมกระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อยลายการ์ตูนสีม่วง สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ ยัดชายเสื้อเข้าในกระโปรง สวมรองเท้าผ้าใบสีดำยี่ห้อที่เธอโปรดปรานที่สุด ผมสั้นดัดให้เป็นลอนนิดหน่อย จัดทรงให้ฟู ๆ พอง ๆ รับกับชุดที่สวมได้เป็นอย่างดี มัดโบว์สีขาวที่ผม สะพายกระเป๋าด้านหลังสีส้มอ่อน เดินไปตามถนนสายที่เวิ้งว้างและยาวไกล
ริมถนนสองฝากฝั่งรายล้อมไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม แม้จะเป็นเพียงดอกหญ้าตามรายทางก็ตาม ทว่าดอกที่คละสีของมันก็ทำให้แลดูสบายใจตา หมู่ดอกไม้มีผีเสื้อหลายตัวบินดอมดม ดูดน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ พวกมันเพลินไปกับน้ำหวานที่ได้รับโดยไม่กลัวภยันตรายใด ๆ ที่อาจจะมาถึงตัว
ระหว่างทางไม่ได้มีเพียงหญิงสาวที่เดินอยู่ท่ามกลางถนนสายอ้างว้าง มีผู้คนมากมายที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปทางเดียวกันกับเธอ พวกเขาเหล่านั้นไม่มีใครรู้จักกันเลย ไม่ได้รู้จักเธอ ต่างคนต่างทำเหมือนว่าถนนสายนี้ไม่มีผู้ใดใช้ร่วมด้วย มีเพียงตนเองที่เดินอยู่ลำพัง
หญิงสาวเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ข้างทาง เพลิดเพลินไปกับฝูงผีเสื้อที่บินรายล้อม จนลืมความเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินมาได้ไกลแค่ไหน ในใจยังนึกถึงเส้นชัยที่อยู่ปลายทาง ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเส้นชัยมีจริงหรือเปล่า และถนนสายนี้มีปลายทางรออยู่หรือไม่ เพราะดอกไม้เพราะผีเสื้อทำให้เธอไม่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินไปเรื่อย ๆ บนถนนสายนี้
ผีเสื้อตัวหนึ่งบินมาเกาะที่แขนของเธอ มันเป็นผีเสื้อสีดำตัวใหญ่ ปีกสีดำ มีจุดสีชมพูที่ปีก หนวดสีดำยาวและม้วนงอที่ปลายหนวด มันเป็นผีเสื้อที่สวยงามมาก หญิงสาวคุ้นตากับผีเสื้อชนิดนี้ดี เธอรู้จักมัน เคยเห็น ผีเสื้อชนิดนี้มันชอบบินตามต้นดอกเข็มที่โรงเรียน หญิงสาวอยากเอามันมาเลี้ยง อยากให้มันเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับเธอ
มันบินมาเกาะสายกระเป๋าบนหัวไหล่ของเธอ เธอหันมองและยิ้มให้กับมัน พยายามเดินเบา ๆ เพื่อไม่ให้ไปกระทบกระเทือนกับตัวของผีเสื้อ ไม่อยากให้มันบินหนีไป และมันก็เกาะที่ไหล่ของเธอไม่ยอมบินไปไหนเลย หญิงสาวค่อย ๆ เดินไปตามถนนเรื่อย ๆ พร้อมผีเสื้อตัวโปรด เธอพยายามมองหาเชือกเพื่อจะเอามามัดที่ตัวของมัน เสมือนสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง
“เจ้าผีเสื้อเจ้ารู้ไหมว่าปลายทางถนนเส้นนี้มันมีอะไร มันมีเส้นชัยไหม” หญิงสาวเบือนหน้ามามองผีเสื้อสุดรัก พร้อมคุยกับมัน ไม่มีคำตอบใด ๆ เพราะมันเป็นสัตว์ มันจะตอบเธอได้อย่างไร
“เย้! เจอแล้ว เจอเชือกแล้ว” หญิงสาวพูดอย่างตื่นเต้น ระหว่างที่เดินบนถนนมาเรื่อย ๆ เธอมองเห็นเชือกฟางสีชมพูเส้นหนึ่ง มันถูกทิ้งไว้บนกอหญ้า หญิงสาวค่อย ๆ นั่งลงเก็บเชือกอย่างเบาหวิวที่สุดเพราะเกรงว่าการนั่งของเธอจะกระทบกระเทือนกับตัวเจ้าผีเสื้อสุดหวงแหนตัวนี้ และทำให้มันบินหนีไป เธอหยิบเชือกฟางขึ้นมา มันยาวพอสมควร พอจะให้ผีเสื้อบินไปข้างหน้าได้
“เจ้าผีเสื้อจ๋า เราขอผูกเชือกเจ้านะ เราผูกเบา ๆ ไม่เจ็บ “ หญิงสาวค่อย ๆ เอื้อมมือมาจับตัวเจ้าผีเสื้อ ผูกปมที่เชือกและคล้องมัดที่ตัวของมันเอาไว้ ปล่อยให้มันบินนำทางเธอไปข้างหน้า ผีเสื้อบินไปได้ไกลตามระยะความยาวของเชือก หญิงสาวดีใจมากไม่ต้องกลัวว่าเจ้าผีเสื้อจะบินจากไป และเธอก็จะได้เร่งเดินไปให้ถึงเส้นชัยโดยเร็วสักที
ระหว่างทางก้อนเมฆบนท้องฟ้ารวมกลุ่มกันเป็นเมฆฝน สีหม่นครึ่ม ลมพัดโชยให้ความเย็นเป็นระยะ ๆ ไม่มีแดด ไม่มีฝน อากาศดีมาก ๆ ทำให้การเดินทางตามหาเส้นชัยไม่เหนื่อยเลย เพื่อนร่วมทางต่างเร่งรีบเดินไปข้างหน้า โดยไม่มีใครคุยกับใครสักคน ต่างคนต่างเดินไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง
หญิงสาวกับผีเสื้อของเธอเดินไปตามถนนอย่างมีความสุข ในใจคิดถึงเส้นชัยที่ปลายทางข้างหน้า ทว่าบนเส้นทางข้างหน้าก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเจอกับอะไร จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สิ่งที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ และไม่มีสัญญาณเตือน ดังเช่นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอต่อไปนี้
ระหว่างทางที่หญิงสาวเดิน เพลิดเพลินไปกับดอกไม้ริมทาง ฝูงผีเสื้อตัวอื่น ๆ และเจ้าผีเสื้อแสนรักของเธอ เธอปล่อยให้มันได้ดอมดมกับดอกไม้บ้าง ระหว่างนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าเชือกฟางที่มัดกับตัวผีเสื้อมันเกิดไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ ทำให้เชือกขาด ผีเสื้อแสนรักของเธอบินหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
“ผีเสื้อกลับมา!” หญิงสาวใจหายพร้อมตะโกนเรียกให้เจ้าผีเสื้อกลับมา และรีบวิ่งตามมันไป แต่ไม่ทัน เธอวิ่งไปเรื่อย ๆ ตามถนนที่อ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว ทว่าวิ่งเท่าไหร่ก็วิ่งไม่ทันเจ้าผีเสื้อสักที มันพาเชือกฟางสั้น ๆ บินลอยไปข้างหน้าอย่างไม่คิดหันกลับมาดูเจ้าของอย่างเธอเลย
เธอวิ่งตามมันจนเหนื่อยล้า มองเห็นมันอยู่ไกล ๆ ลับตา และเห็นมันบินไปเกาะที่ไหล่ของคนอื่น
“ผีเสื้อกลับมา!”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาน้ำตาคลอ มองผีเสื้อสุดหวงแหนไปกับคนอื่นจนลับตา แต่เธอก็ยังต้องเดินต่อไปตามเส้นทางข้างหน้า เพราะเส้นชัยรออยู่
หญิงสาวเดินไปอย่างคนหมดแรงสิ้นหวัง ผิดหวัง เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงปลายทางสักที ไม่มีผีเสื้อคู่ใจอีกแล้ว เธอกลับมาเดินเพียงลำพังอีกครั้ง เธอเดินไปข้างหน้าด้วยใจห่อเหี่ยว ล่องลอย เดินไปเรื่อย ๆ ไกลแค่ไหนก็ไม่อาจประมวลผลได้ ดอกไม้และผีเสื้อริมทางตัวอื่น ๆ ที่บินรายล้อมกลับไม่มีผลต่อจิตใจของเธอสักนิด
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้อะไรมาหรือเสียอะไรไป และไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ตรงไหน จะมีจริงหรือไม่ แต่เธอก็ยังเดินต่อไป...
จบ...