JJNY : สื่อนอกจับตาเลือกตั้งไทย│พิธา เชื่อปชช.อยากเปลี่ยนประเทศ│หมอชลน่าน ใช้สิทธิ เลือกตั้ง│อย่าลืม! พกร่มไปเลือกตั้ง

สื่อนอกจับตาเลือกตั้งไทย ชี้ฝ่ายค้านมีสิทธิครองเสียงข้างมาก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3978483
 
 
สื่อนอกจับตาเลือกตั้งไทย ชี้ฝ่ายค้านมีสิทธิครองเสียงข้างมาก
 
สำนักข่าวต่างประเทศจับตามองการเลือกตั้งทั่วไปของไทยที่มีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า พรรคฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมีแนวโน้มจะครองเสียงข้างมาก แต่ก็ต้องดูกันว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมและทหารจะยอมรับหรือไม่
 
รอยเตอร์รายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้าระหว่างคู่ปรับเก่าในศึกครั้งใหม่ โดยฝ่ายค้านจะได้แต้มต่ออย่างมากในการเลือกตั้งที่มีขึ้น เชื่อว่าผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงราว 52 ล้านคน มีแนวโน้มที่พรรคฝ่ายค้านที่มีแนวทางก้าวหน้าจะชนะพรรคที่เป็นพันธมิตรกับบรรดานายพลและพรรคที่ชูแนวทางอนุรักษ์นิยม ซึ่งต้องการรักษาสถานะของการเป็นรัฐบาลที่นำหรือได้รับการสนับสนุนจากทหาร
 
รอยเตอร์ระบุด้วยว่า นักวิเคราะห์บางคนโต้แย้งว่าการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในไทยเป็นมากกว่าการแข่งขันของกลุ่มชินวัตรที่ชูประชานิยมกับคู่แข่งที่มีอิทธิพล โดยยังมีสัญญานของการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น และความต้องการที่จะมีรัฐบาลหัวก้าวหน้ามากขึ้น ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกลที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้นำพรรค
 
รอยเตอร์อ้างความเห็นของ เบน เกียรติขวัญกุล หุ้นส่วนของมาเวอริค คอนเซาท์ติ้ง กรุ๊ป ที่ปรึกษาด้านกิจการของรัฐ ที่กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นการทดสอบระหว่างรากเหง้าของกลุ่มอนุรักษณ์นิยมกับอนาคตของกลุ่มหัวก้าวหน้า มันเป็นประเด็นที่ใหญ่กว่าที่จะบอกว่าคนชอบหรือไม่ชอบทักษิณ เพราะขณะนี้ระบบเก่ากำลังเผชิญหน้ากับคลื่นเสรีนิยม

ด้านเอเอฟพีรายงานโดยตั้งคำถามว่า “คนไทยไปใช้สิทธิ แต่ทหารจะฟังหรือไม่” โดยพูดถึงการเลือกตั้งที่กำลังมีขึ้นซึ่งอาจเห็นพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาลอนุรักษ์นิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้การรณรงค์เลือกตั้งที่เป็นการปะทะระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่โหยหาการเปลี่ยนแปลงกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม
 
อย่างไรก็ดีเอเอฟพีระบุว่า ในไทยชัยชนะของการเลือกตั้งมักถูกบีบบังคับด้วยการรัฐประหารและคำสั่งศาล ทำให้มีความหวาดกลัวว่าทหารอาจหาทางยึดอำนาจและทำให้เกิดความไม่มั่นคงครั้งใหม่
 
ขณะที่ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิลลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่สูงถึง 90% ก็ชี้ให้เห็นว่ามีผู้สิทธิเลือกตั้งต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่ฝ่ายค้านก็ยังต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากจากการที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภา 250 คนมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน
 
ความขัดแย้งอันขื่นขมของตระกูลชินวัตรกับสถาบันทหารและกลุ่มอนุรักษ์นิยมคือ หัวใจของละครเรื่องนี้ หากการเลือกตั้งครั้งนี้มีผลลัพท์ไม่ชัดเจนหรือมีข้อโต้แย้ง ก็อาจนำไปสู่การเดินขบวนรอบใหม่และความไม่แน่นอน ท่ามกลางข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วว่า พรรคก้าวไกลอาจถูกยุบโดยคำสั่งศาล เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังมีขึ้นของไทยถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลง หลังจาก 8 ปีที่พล.อ.ประยุทธ์ก้าวขึ้นมาครองอำนาจ โดยขณะนี้เขากำลังต่อสู้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของทหาร
 
ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านไทยศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ในสหรัฐ กล่าวว่า การลงคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นของเยาวชนและการตระหนักรู้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปกครองโดยทหาร เป็นปัจจัยสำคัญที่น่าจะเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ 9 ปีหลังการปกครองโดยทหาร ผู้คนก็พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง แม้แต่ในคนที่ไม่คนสนใจการเปลี่ยนแปลงมาก่อนก็ตาม
 
ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายสนับสนุนกองทัพ กำลังหลังชนฝา การเปลี่ยนแปลงกำลังมา และพวกเขาจะต้องหาทางรับมือกับมัน
 
เช่นเดียวกับบีบีซีที่รายงานว่า ลูกสาวของนายทักษิณเป็นผู้นำในการเลือกตั้งทั่วไปที่ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับประเทศที่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นนับ 10 ครั้งในประวัติศาสตร์ ซึ่งฐิตินันท์ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงจริงๆ ไม่ได้เกี่ยกับการมีรัฐประหารอีกครั้ง เพราะนันคือการเปลี่ยนแปลงแบบถอยหลังลงคลอง แต่มันหมายถึงการปฏิรูปกองทัพและสถาบันฯ เพื่ออนาคตของประชาธิปไตย และเพื่อให้เศรษฐกิจมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
 


พิธา ชี้ อย่าดูถูกคนรุ่นใหม่นอนหลับทับสิทธิ เชื่อปชช.อยากเปลี่ยนประเทศ จับตานับคะแนนเรียลไทม์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3978589

พิธา ชี้ อย่าดูถูกคนรุ่นใหม่นอนหลับทับสิทธิ เชื่อปชช.อยากเปลี่ยนประเทศ จับตานับคะแนนเรียลไทม์
 
‘พิธา’ เชื่อ ปชช.อยากเปลี่ยนแปลงปท. แห่ใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ แนะ อย่าดูถูกคนรุ่นใหม่นอนหลับทับสิทธิ เผย ‘ก้าวไกล’ จับมือองค์กรพลเมือง จับตานับคะแนนเรียลไทม์ ระบุ คนร้องเรียนทุจริตผ่านเว็บไซต์ฯ เพียบ เล็งรวมหลักฐานให้ฝ่ายกม.พรรคพิจารณา
 
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่เขตเลือกตั้งที่ 4 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เต็นท์บริเวณที่จอดรถธนาคารออมสินภาค 2 ปากซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งว่า ตั้งแต่เปิดหีบในเวลา 08.00 น. ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางมาใช้สิทธิ และมีคนมีชื่อเสียง อาทิ นายกรณ์ ณรงค์เดช น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช พร้อมครอบครัว, น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) พร้อมสามี นายฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มาร่วมใช้สิทธิด้วย
 
สำหรับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก. เดินทางมาถึงหน่วยเลือกตั้งในเวลา 09.31 น. เพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง
 
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนมีกำลังใจดีและหลังการใช้สิทธิเลือกตั้งตนจะพาน้องพิพิม ลูกสาวไปรับประทานข้าว และใช้เวลาร่วมกันเพื่อชดเชยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากนั้นในช่วงบ่ายตนจะเดินทางไปที่ที่ทำการพรรคก.ก. เพื่อลุ้นผลการเลือกตั้ง สำหรับผลการเลือกตั้งที่จะออกมาถือว่าพวกเราทำเต็มที่แล้ว
 
เมื่อถามว่า บรรยากาศการเลือกตั้งในปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกสนุก คึกคัก ดีใจ และไม่ได้รู้สึกเหนื่อย เพราะได้มีโอกาสพบพี่น้องประชาชนระหว่างหาเสียงเลือกตั้งจึงเป็นเหมือนการเติมพลังไปเรื่อยๆ และหลังเลือกตั้งก็จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนต่อ
 
เมื่อถามถึง กรณีที่ฐานเสียงของพรรคก.ก. ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งถูกมองว่าอาจจะไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเท่าที่ควร จะเชิญชวนคนกลุ่มนี้ให้ออกมาใช้สิทธิอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้คนทุกรุ่นทุกวัยทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นใหญ่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันเยอะๆ ทั้งนี้ตนคิดว่าอย่าดูถูกคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขารักในหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของเขามากกว่าที่พวกเราคิด
 
เมื่อถามว่า คาดหวังการทำหน้าที่ของกกต. อย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า คงเหมือนในอดีตที่ผ่านมาแต่ในวันนี้ยังไม่ได้เห็นภาพอะไร แต่กองอำนวยการการเลือกตั้งของพรรคก.ก.ก็จับตาดูอยู่ และรายงานข้อมูลทุกชั่วโมง นอกจากนี้เรายังมีทีมเทคโนโลยีของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้สมัคร  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก.ก. คอยเก็บข้อมูล และจะทำงานร่วมกับองค์กรพลเมืองเพื่อคอยนับคะแนนในแต่ละหน่วย เพื่อหวังว่าจะทำให้ประชาชนมั่นใจในผลการเลือกตั้งมากขึ้น
 
เมื่อถามว่า จะสื่อสารกับคนที่ไม่เข้าใจพรรคก.ก และนายพิธา ให้กลับมาไว้วางใจอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า สื่อสารวันนี้คงไม่ได้ แต่ก็ขอให้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งกันเยอะๆ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร จะโหวตให้ตนหรือไม่โหวตให้ตนก็ยินดีรับใช้ท่าน ในฐานะนักการเมืองคนไทยต่อไป
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 พฤษภาคม) มีการซื้อสิทธิขายเสียง นายพิธา กล่าวว่ามีการร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของพรรคก.ก. เข้ามาตลอด โดยเราจะรวบรวมหลักฐาน และส่งให้กับกองอำนวยการเลือกตั้งพรรคก.ก. และฝ่ายกฎหมายของพรรคก.ก. ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อถามย้ำว่าการซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าดุเดือดกว่าครั้งที่แล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีอะไรที่ตนไม่เคยได้ยินมาก่อนมากพอสมควร และพบว่าเป็นกลเม็ดใหม่ๆ จึงอยากให้กกต. ตามให้ทัน ที่กังวลใจคือบัตรเลือกตั้งแบบเขตไม่มีชื่อผู้สมัคร ถ้ามีอะไรเกินมาจึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล
 
นายพิธา กล่าวต่อว่า โดยตนอยากจะรู้ตัวเลขหลังปิดหีบว่ามีคนออกมาใช้สิทธิเท่าไหร่ หากมาใช้สิทธิมากกว่าปี 2562 หรือเกินกว่า 72% ก็จะดีต่อประชาธิปไตยทั้งระบบเพราะแสดงถึงเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้คนออกมาใช้สิทธิ 100% เต็มหรือ 52 ล้านคน อย่างไรก็ตามถ้าได้ประมาณ 80% ก็คิดว่าทั่วโลกคงอิจฉาที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยไม่แพ้ใคร แต่ตนเชื่อว่าครั้งนี้คนจะออกมาใช้สิทธิกันมากเป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน


 
หมอชลน่าน ใช้สิทธิ เลือกตั้ง 66 เผยยังมั่นใจ เตรียมเข้ากรุงติดตามผล
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7662666

หมอชลน่าน เข้าคูหาใช้สิทธิ เลือกตั้ง 66 แล้ว มั่นใจ เพื่อไทยแลนด์สไลด์ เตรียม เข้ากรุงเทพฯ ติดตามผลการเลือกตั้งที่พรรค ด้าน ปชช.แห่ใช้สิทธิคึกคัก 
 
วันที่ 14 พ.ค.2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดน่าน เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่อาคารเอนกประสงค์บ้านดอนแก้ว ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 3 ต.กลางเวียง อ.เวียงสา เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดน่าน

นพ.ชลน่าน กล่าวภายหลังใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว กล่าวว่า มีความมั่นใจว่า ส.ส.ทั้ง 3 เขตของเมืองน่าน จะยังเป็นของพรรคเพื่อไทย และมั่นใจว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ พร้อมเตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามผลการเลือกตั้งที่วอร์รูมของพรรค
 
สำหรับบรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ จ.น่าน เป็นไปอย่างคึกคัก แม้ช่วงตลอดคืนที่ผ่านมา จะมีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุไซโคลน “โมคา” แต่เมื่อช่วงเวลา 07.30 น. ก่อนการเปิดหีบเลือกตั้ง ฝนได้หยุดตก ทำให้มีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ตั้งแต่เปิดหีบเลือกตั้งอย่างคึกคัก
 
สำหรับรายละเอียดแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดน่าน มี 3 เขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 139,665 คน มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 286 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 2 มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 128,033 คน มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 344 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 119,323 คน มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 296 หน่วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่