สมัยนี้มาตรฐานใหม่ของสาวเราต้องมองว่า คำว่าที่เราต้องซัพพอร์ทเนี้ย มันต้องแลกมากับพวกนี้ด้วยหรอ
1. การจ่ายเงินเสริมสวยแพงๆ คือปกติ อาจจะมีหยิบยืมเราบ้าง อ้อนบ้าง หรือ ทำให้เงินเก็บของเจ้าตัวน้อยก็ต้องทำใจนะ คนสวยเลยเยอะขึ้นไง
2. การต้องซัพพอร์ททางใจเยอะๆ มาก หมดทุกอย่างเลย ไปเที่ยวด้วยนั่นนี่ คือ เหมือนจะตัวติดกันแต่ไม่ได้ติด แต่ก็ต้องมีเหตุผลฉลาดเข้าใจโลกเยอะๆ เพื่อหักล้างกับความงี่เง่า ความอ่อนแอในจิตใจไรเงี้ย ต้องฉลาดมาก เก่ง ต้องแบบอีกนิดก็คุณชายจากนิยายแล้ว
3. การไลฟ์สไตล์ชีวิตเท่าๆกัน ถ้าเขาใช้ชีวิตหรูกินแพงก็ต้องตามนั้นเลยไม่มีเงินไปด้วยลำบาก
4. การตามใจคือปกติ ไม่ว่าจะงี่เง่าขนาดไหนก็ต้องยอม ถึงต่อให้อีกฝ่ายมีเหตุผลผู้ใหญ่กว่าก็ต้องหยวน
5. ไปเรื่อยๆ วันๆ ไม่ลงหลักปักฐานกับอนาคตก่อน 30 ไม่เน้นมีลูก เน้นมีแมว และ สัตว์เลี้ยง
เราบ่นให้เพื่อนสาวฟังครับเพื่อนมันก็บอกเลยว่า ฟังนะ สมัยนี้หนะแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ ไม่เว้นแม้แต่คนเล่า มันมีหลายอย่างเปลี่ยนไปหลายแนวคิดที่ถูกคนเสี้ยมสอนกันเยอะ อยากได้อยากมีเยอะ จากรีวิวบล็อคเกอร์ ดารา เยอะแยะ มันทำให้ไลฟ์สไตล์และเทรนมันเปลี่ยน เปลี่ยนทุกปี ไม่เว้นแม้แต่เทรนแต่งตัวหรือเทรนแต่งหน้า มันก็ตามกระแสหมด
ในชีวิตเรามีทางเดียวที่จะเจอคนคือ เราต้องออกไปสักที่ แล้วก็หมดเงินหมดทองตลอดเท่าไหร่ก็รู้อยู่ ไปทีคือกินบุฟเฟ่ต์ เดินดูรองเท้าดีดูนั่นดูนี่ ก็ลองใช้ชีวิตเหมือนที่สาวๆ เขาใช้จะได้รู้จักเรียนรู้สาวง่ายๆ เวลาเขาเลือกเสื้อผ้าลองดูสาวอื่นที่เขาใช้ชีวิต จะได้เข้าใจ คือเพื่อนแนะนำมาว่าลองออกไปดูเอง ไปดูตามห้างตามร้านเสื้อผ้า หรือ ยืนเลือกอะไรเงี้ย จะได้เข้าใจแล้วได้เห็นคนใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆ สุ่มยังไงให้เจอคนใช้ชีวิตคล้ายกันเรายังงงๆ เลย ต่างสถานที่ต่างวาระ แต่ชอบเหมือนๆกันอยู่นะ
ไม่ใช่ว่าสาวติดบ้านนิสัยธรรมดาๆ ก็มีเงินกินพอมีเงินเก็บ ไม่ใช่เจอนะครับ แต่เวลาเขาเล่าเรื่องราวให้ฟังแล้วมันฟังแบบขาดสีสันไปเยอะ ไม่ว่าจะพูดหรือลองขายๆแบบพูดเยอะๆเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงไม่ไปต่อเงี้ย เพื่อเชิงดูแนวคิด สุดท้ายมันตอบกลับมาตามที่คิดเลยจริงๆว่า พอใจแค่นี้อะแบบนี้แหละมันไม่ใช่เป้าหมายหลัก จะอยู่บ้านเลี้ยงแมวก็พอใจละ ไม่ได้อยากรวยกว่านี้ ค่อยคิดอีกทีถ้าจะแต่งหรือจะโสดยาวค่อยคิดค่อยหา
จากที่เราเป็นพวกอยากแอคทีฟ ชาเร้น เพื่อหาอะไรแปลกใหม่ อยากมีแรงผลักดัน เรารู้สึกเฉื่อยชาไปเรื่อยเมื่อได้ฟัง นั่นคืออีกแบบเรานั่งแบบเฮ้อเหมือนเหนื่อยไปด้วยเลย มันดูจืดจางไปไหม
มันอยู่ 1-5 ช้อหมดเลย นี่คือมาตรฐานใหม่ใช่ไหม
แล้วถ้าเอาคนแบบนี้เป็นมาตรฐานหมด มันคือ สเปคสูงมากเหมือนกัน มันเกือบจะระดับคุณผู้ชายแสนดีไปแล้วเลย เรามองว่าสเปคแบบนี้ถอดแบบมาจากซีรีย์เกาหลีปะ จากที่เราคิดแบบมโนๆเพื่อหาสิ่งที่มาตอบโจทย์
แบบอะเดี๋ยวพาไปตามใจเอาใจใส่ เย็นชาหน่อยๆ แต่คูลๆ ดูมีกะตังใช้ชีวิตไม่ต้องคิดเยอะ แต่เขาดูมีไลฟ์สไตล์มีชีวิตเหมือนกัน เข้าอกเข้าใจกันมาก อย่างกับรู้ใจไปหมด ไปได้เรื่อยๆคบกันไปได้ทุกวันหวานหมด เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ถึงบางวันจะงี่เง่าก็ยังเข้าใจเราทำเพื่อเราได้เงี้ย ทำตัวบ้องแบ้วปากจู๋งุ้งงิ้งก็ยังมาลูบหัวอยู่ใกล้ๆ อ่อนโยนละมุนมาก
คือมันใช่ บอกเลยว่า ใช่มาก สักเรื่องนึง บทนี้เลยเป๊ะ
ทรงนี้ในไทยนี่ เป็นคำใหม่ได้ยินมาไม่นาน ผู้ชายเทสดี แล้วเราไปค้นมาว่ามันเป็นยังไง ผู้ชายเทสดีก็ถอดแบบมาจากผู้ชายในซีรีย์เกาหลีอีกทีแล้วมันทำมาเพื่อตามใจคนมาตรฐานนี้เลย
เราเลยว่าเรามองขาดหรือมองมันง่ายไปไหมนะ อยากหาอะไรมาเถียงสู้อยู่นะแต่ดูลงตัวไปหมด
มาตรฐานใหม่ของสาวเทรนนี้ ที่หนุ่มโสดเริ่มปรับตัวใช่ไหม??
1. การจ่ายเงินเสริมสวยแพงๆ คือปกติ อาจจะมีหยิบยืมเราบ้าง อ้อนบ้าง หรือ ทำให้เงินเก็บของเจ้าตัวน้อยก็ต้องทำใจนะ คนสวยเลยเยอะขึ้นไง
2. การต้องซัพพอร์ททางใจเยอะๆ มาก หมดทุกอย่างเลย ไปเที่ยวด้วยนั่นนี่ คือ เหมือนจะตัวติดกันแต่ไม่ได้ติด แต่ก็ต้องมีเหตุผลฉลาดเข้าใจโลกเยอะๆ เพื่อหักล้างกับความงี่เง่า ความอ่อนแอในจิตใจไรเงี้ย ต้องฉลาดมาก เก่ง ต้องแบบอีกนิดก็คุณชายจากนิยายแล้ว
3. การไลฟ์สไตล์ชีวิตเท่าๆกัน ถ้าเขาใช้ชีวิตหรูกินแพงก็ต้องตามนั้นเลยไม่มีเงินไปด้วยลำบาก
4. การตามใจคือปกติ ไม่ว่าจะงี่เง่าขนาดไหนก็ต้องยอม ถึงต่อให้อีกฝ่ายมีเหตุผลผู้ใหญ่กว่าก็ต้องหยวน
5. ไปเรื่อยๆ วันๆ ไม่ลงหลักปักฐานกับอนาคตก่อน 30 ไม่เน้นมีลูก เน้นมีแมว และ สัตว์เลี้ยง
เราบ่นให้เพื่อนสาวฟังครับเพื่อนมันก็บอกเลยว่า ฟังนะ สมัยนี้หนะแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ ไม่เว้นแม้แต่คนเล่า มันมีหลายอย่างเปลี่ยนไปหลายแนวคิดที่ถูกคนเสี้ยมสอนกันเยอะ อยากได้อยากมีเยอะ จากรีวิวบล็อคเกอร์ ดารา เยอะแยะ มันทำให้ไลฟ์สไตล์และเทรนมันเปลี่ยน เปลี่ยนทุกปี ไม่เว้นแม้แต่เทรนแต่งตัวหรือเทรนแต่งหน้า มันก็ตามกระแสหมด
ในชีวิตเรามีทางเดียวที่จะเจอคนคือ เราต้องออกไปสักที่ แล้วก็หมดเงินหมดทองตลอดเท่าไหร่ก็รู้อยู่ ไปทีคือกินบุฟเฟ่ต์ เดินดูรองเท้าดีดูนั่นดูนี่ ก็ลองใช้ชีวิตเหมือนที่สาวๆ เขาใช้จะได้รู้จักเรียนรู้สาวง่ายๆ เวลาเขาเลือกเสื้อผ้าลองดูสาวอื่นที่เขาใช้ชีวิต จะได้เข้าใจ คือเพื่อนแนะนำมาว่าลองออกไปดูเอง ไปดูตามห้างตามร้านเสื้อผ้า หรือ ยืนเลือกอะไรเงี้ย จะได้เข้าใจแล้วได้เห็นคนใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆ สุ่มยังไงให้เจอคนใช้ชีวิตคล้ายกันเรายังงงๆ เลย ต่างสถานที่ต่างวาระ แต่ชอบเหมือนๆกันอยู่นะ
ไม่ใช่ว่าสาวติดบ้านนิสัยธรรมดาๆ ก็มีเงินกินพอมีเงินเก็บ ไม่ใช่เจอนะครับ แต่เวลาเขาเล่าเรื่องราวให้ฟังแล้วมันฟังแบบขาดสีสันไปเยอะ ไม่ว่าจะพูดหรือลองขายๆแบบพูดเยอะๆเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงไม่ไปต่อเงี้ย เพื่อเชิงดูแนวคิด สุดท้ายมันตอบกลับมาตามที่คิดเลยจริงๆว่า พอใจแค่นี้อะแบบนี้แหละมันไม่ใช่เป้าหมายหลัก จะอยู่บ้านเลี้ยงแมวก็พอใจละ ไม่ได้อยากรวยกว่านี้ ค่อยคิดอีกทีถ้าจะแต่งหรือจะโสดยาวค่อยคิดค่อยหา
จากที่เราเป็นพวกอยากแอคทีฟ ชาเร้น เพื่อหาอะไรแปลกใหม่ อยากมีแรงผลักดัน เรารู้สึกเฉื่อยชาไปเรื่อยเมื่อได้ฟัง นั่นคืออีกแบบเรานั่งแบบเฮ้อเหมือนเหนื่อยไปด้วยเลย มันดูจืดจางไปไหม
มันอยู่ 1-5 ช้อหมดเลย นี่คือมาตรฐานใหม่ใช่ไหม
แล้วถ้าเอาคนแบบนี้เป็นมาตรฐานหมด มันคือ สเปคสูงมากเหมือนกัน มันเกือบจะระดับคุณผู้ชายแสนดีไปแล้วเลย เรามองว่าสเปคแบบนี้ถอดแบบมาจากซีรีย์เกาหลีปะ จากที่เราคิดแบบมโนๆเพื่อหาสิ่งที่มาตอบโจทย์
แบบอะเดี๋ยวพาไปตามใจเอาใจใส่ เย็นชาหน่อยๆ แต่คูลๆ ดูมีกะตังใช้ชีวิตไม่ต้องคิดเยอะ แต่เขาดูมีไลฟ์สไตล์มีชีวิตเหมือนกัน เข้าอกเข้าใจกันมาก อย่างกับรู้ใจไปหมด ไปได้เรื่อยๆคบกันไปได้ทุกวันหวานหมด เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ถึงบางวันจะงี่เง่าก็ยังเข้าใจเราทำเพื่อเราได้เงี้ย ทำตัวบ้องแบ้วปากจู๋งุ้งงิ้งก็ยังมาลูบหัวอยู่ใกล้ๆ อ่อนโยนละมุนมาก
คือมันใช่ บอกเลยว่า ใช่มาก สักเรื่องนึง บทนี้เลยเป๊ะ
ทรงนี้ในไทยนี่ เป็นคำใหม่ได้ยินมาไม่นาน ผู้ชายเทสดี แล้วเราไปค้นมาว่ามันเป็นยังไง ผู้ชายเทสดีก็ถอดแบบมาจากผู้ชายในซีรีย์เกาหลีอีกทีแล้วมันทำมาเพื่อตามใจคนมาตรฐานนี้เลย
เราเลยว่าเรามองขาดหรือมองมันง่ายไปไหมนะ อยากหาอะไรมาเถียงสู้อยู่นะแต่ดูลงตัวไปหมด