ปัจจุบันกระแสภัตตาคารอิตาลีเสิร์ฟเมนูพาสต้ารีดเส้นสดโฮมเมดกำลังได้รับความนิยมบนสังคมโซเชียลหนึ่งในร้านลึกลับซ่อนตามหมู่บ้านแต่ยังมีลูกค้าดิ้นรนไปชิมอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนนั่นคือ "The Pasta Apartment" ตั้งอยู่ตรงย่านอารีย์ (พระราม 6) ซอยพิบูลย์วัฒนา 11 วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงปักหมุดแล้วขับตามระบบแผนที่บนมือถือด้านหน้ามีพื้นที่สองฝั่งริมถนนรองรับได้สูงสุดถึง 10 คัน ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีสะพานควายบันไดทางออก 2 ค่อยเรียกแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมุ่งตรงสู่ถนนประดิพัทธ์เลี้ยวเข้าซอย 4 อีกประมาณ 2.5 กิโลเมตรก็จะถึงปลายทาง จุดสังเกตได้แก่บ้านขนาดสองชั้นก่อรั้วอิฐสีขาวสะอาดประตูบานเหล็กดัดเลื่อนทาสีแดงสดใสมองเห็นเด่นชัดตั้งแต่ระยะไกลๆ พร้อมไม้ยืนต้นแผ่ใบกับกิ่งก้านสาขาปกคลุมทั่วบริเวณแลดูร่มรื่น-สวยงามซึ่งเราพยายามมองหาป้ายชื่อร้านแต่ก็ไม่พบอะไรแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้ว โดยส่วนตัวแนะนำว่าควรโทรสำรองล่วงหน้าเพราะโต๊ะมีจำนวนจำกัดแถมตารางแน่นมากแม้จะอยู่ไกลห่างสายตาผู้คนแสดงว่าต้องอร่อยเด็ดไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน น้องพนักงานแจ้งว่าวันนี้แขกเยอะต้องรีบถ่ายรูปและเก็บบรรยากาศด้านในกันก่อนครับผม


เดินเข้าประตูรั้วเหล็กดัดทาสีแดงฉูดฉาดฝั่งทางด้านขวามือสุดของตัวบ้านจะพบลานกว้างปูพื้นอิฐดินเผาคล้ายถนนคนเดินตามประเทศฝั่งยุโรปพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยหลากหลายสไตล์แลดูไม่ซ้ำกันโดยเน้นบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวแสนร่มรื่นให้อารมณ์เหมือนนั่งกินอาหารกลางสวน แบ่งพื้นที่ให้บริการภายในร้าน "The Pasta Apartment" ออกเป็น 2 โซนได้แก่ 1. Outdoor บริเวณนอกชายคาวางโต๊ะและเก้าอี้สนามสำหรับนั่งชิลรับลมโชยเย็นสบายกับแสงแดดอากาศอบอุ่นมีจุดเด่นอยู่ตรงโซฟาขนาดใหญ่พิเศษถูกก่อสร้างขึ้นจากปูนทาสีขาวเรียงหมอนลงไปแบบมินิมอลตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักเท่าที่สังเกตส่วนมากคือวัยรุ่นผู้ชื่นชอบถ่ายรูปโพสท่าสุดสร้างสรรค์ลงในสังคมออนไลน์ 2. Indoor ติดตั้งแอร์ล้อมรอบหน้าต่างกระจกสว่างสดใสแต่ละโต๊ะสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 2-10 ท่าน การตกแต่งตามมุมต่างๆให้กลิ่นอายวินเทจเน้นอบอุ่นเปรียบดั่งถูกไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับสู่วัยเด็กอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเมนูทุกจานของทางร้านตัวหัวหน้าเชฟลงมือเองปรุงสดใหม่เสิร์ฟร้อนกรุ่นจึงต้องใช้เวลาสักครู่หากรู้สึกเริ่มเบื่อแนะนำว่าเดินมาชมหน้าเคาน์เตอร์ครัวช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดียิ่งขึ้นครับผม






เมื่อเดินทางถึง "The Pasta Apartment" แล้วเพียงแจ้งชื่อ,เบอร์โทรศัพท์แล้วพนักงานก็จะพาคุณไปยังโต๊ะที่สำรองเอาไว้ตามวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก (ในกรณีจองล่วงหน้าเกิน 7 วันต้องชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 1,000 บาท) พร้อมวางเล่มเมนูอาหารทำจากแผ่นกระดาษพิมพ์สีสวยงามคมชัดแล้วหนีบบนแผ่นกระดานวัสดุไม้อัดเนื้อแข็งง่ายๆเพื่อไม่ให้บทความนี้รีวิวยาวจนเกินไปสามารถรับชมฉบับออนไลน์เลยที่นี่ >
https://bit.ly/3pe12xH < และเหล่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆเตรียมไว้อย่างครบถ้วนทั้งจานส่วนตัว/ช้อน/ส้อม/มีด/แก้วน้ำ/กระดาษเช็ดปาก/น้ำมันมะกอก/เกลือสมุทร/พริกไทยดำ/น้ำส้มสายชูบัลซามิกให้อารมณ์เหมือนตามสั่งของประเทศไทย ส่วนตัวอยากทราบว่าเส้นสดมีกี่ชนิดซึ่งปกติภัตตาคารประเภทนี้มักจะแสดงวิธีการทำตรงหน้าเคาน์เตอร์แต่ทางเชฟไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้าไปถ่ายรูปตรงครัวด้านหลังจึงเรียงใส่ถาดมารวมหลายอย่างเรียงจากซ้ายไปทางขวามือได้แก่ตัลโยลีนี/เฟตตุชชีเน/ตัลยาเตลเล/พัพพาร์เดลล์/สปาเก็ตตี้หมึกดำ/การ์กาเนลลี่และทอนนาเรลลี่ นอกจากนี้ยังมีพาสต้าแปลกตาชื่อไม่คุ้นเคยเลยอย่างปักเครี/ออรเกียตเต/โทรฟิเอ หรือพวกพื้นฐานทั่วไปเช่นสปาเกตตี/เฟตตูชิเน/แทลเลียเตลเล/มักกะโรนี/ฟูซิลี่/เพนเน/ฟาร์ฟาลเลแบบตากแห้งก็เลือกเปลี่ยนได้เองตามใจ ไม่รอช้ารีบสั่งน้ำเปล่า "Still Water" ราคา 70 บาท ใช้ขวดแก้วรีไซเคิลขนาด 750 มล.พิมพ์ชื่อร้านแช่เย็นจัดดื่มแล้วชื่นใจเหมือนได้รักษ์โลกไปในตัวครับ




จานแรกเราไม่ได้สั่งแต่ทางเชฟตั้งใจเสิร์ฟให้แก่ลูกค้าคนละคำเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเริ่มมื้อหลักโดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละวันซึ่งเราได้ชิมเป็น "Bruschetta" อ่านว่า "บรูสเก็ตต้า" อาหารทานเล่นสไตล์อิตาลีมีส่วนประกอบหลักก็คือขนมปังบาแก็ตสไลซ์แผ่นกำลังพอคำแนบบนกระทะจนกรอบนอกนุ่มในท็อปปิ้งมอสซาเรลล่าชีสสด/แฮม/มะเขือเทศเข้มข้น/ออริกาโนแห้ง/ใบโหระพาสายพันธุ์ตะวันตกและน้ำมันมะกอก Extra Vergin รสชาติเค็มหอมมันอมเปรี้ยวกลิ่นสมุนไพรกระจายฟุ้งเต็มปากชัดพร้อมลุยรายการถัดไปอย่าง "Radicchio Salsiccia Pizza" ราคา 420 บาท พิซซ่าแป้งสดนวดด้วยมือสะบัดจนแผ่นบางขนาดใหญ่เต็มจานราดซอสมะเขือเทศโฮมเมดโรยมอสซาเรลล่าชีส/ไส้กรอกอิตาเลียนสับชิ้นเล็กและผักแรดิชชิโอโดยลักษณะภายนอกคล้ายกะหล่ำปลีแต่สีม่วงผสมขาวรสชาติขมเบาบางซึ่งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ขอบด้านนอกพองติดไหม้เกรียมเล็กน้อยเพราะอบบนเตาถ่านตรงกลางสัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟันเสิร์ฟคู่น้ำมันมะกอกแช่พริกผสมสมุนไพรฝรั่งสกัดสีแดงสดใสเทราดลงไปช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนแซ่บกลมกล่อมเฉพาะตัวก่อนรับประทาน แถมให้ปริมาณจุใจถึง 8 ชิ้นแบ่งกันกินได้หลายอีกคนเลยครับผม




เมนูพาสต้าทุกจานของทางร้าน "The Pasta Apartment" ทางหัวหน้าเชฟเขาใส่ความตั้งใจลงไปโดยการผัดใหม่เมื่อได้รับออเดอร์จากลูกค้าแล้วเท่านั้นจึงต้องใช้เวลาสักครู่แต่อร่อยคุ้มค่าการรอคอยอย่างแน่นอนเริ่มต้นที่จานแรกนั่นก็คือ "Spaghetti Vongole" ราคา 750 บาท เส้นสปาเก็ตตี้แบบมาตรฐานขนาดประมาณเบอร์ 3-4 ลวกจับเวลาในน้ำเดือดจัดอุณหภูมิสูงสุกแค่ระดับ Al Dente ซึ่งตรงกลางยังคงกระด้างอีกนิดหน่อยสัมผัสเด้งสู้ฟัน ผัดน้ำมันมะกอก/ไวน์ขาว/พริกแห้งซอย/กระเทียมสไลซ์/มะเขือเทศราชินี/หอยตลับต้มเนื้อเต็มฝา/พาสลี่ย์สับละเอียดจัดเรียงลงจานแลดูสวยงามให้ปริมาณเยอะประทับใจ ปรุงรสชาติเค็มกลมกล่อมอมเปรี้ยวละมุนหอมกลิ่นทะเลผสมสมุนไพรที่ใส่ลงไปจำนวนมากถ้ารู้สึกว่ายังไม่จัดจ้านพอแนะนำให้เติมเกลือสมุทร,พริกไทยเล็กน้อยจะเข้มข้นถูกปากมากขึ้น รายการถัดไปส่วนตัวชื่นชอบที่สุดและคิดว่าหลายๆคนก็น่าจะคิดเหมือนกันได้แก่ "Gnocchi Bolognese" ราคา 490 บาท อ่านว่า "ญ็อกกี้" ทำจากมันฝรั่งบดผสมแป้งพาสต้าหั่นท่อนก่อนต้มจนสุกคล้ายต๊อกของฝั่งเกาหลีซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันโบราณอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้นจึงหาลองชิมได้เฉพาะในภัตตาคารตำรับอิตาลีขนานแท้ คลุกซอสโบโลเนสเนื้อวัวบด,มะเขือเทศ,เครื่องเทศตากแห้งโรยพาร์เมซานชีสตกแต่งด้วยก้านโรสแมรี่ ทานได้ทั้งแบบนำเข้าปากทันทีหรือทาบนขนมปังอบกรอบเคี้ยวสนุกแถมได้ประสบการณ์ใหม่ดีครับ




สำหรับคนที่ไม่ชอบกินเส้นพาสต้าทางร้าน "The Pasta Apartment" ก็ยังตอบโจทย์โดยการนำเข้าเมล็ดข้าวสายพันธุ์การ์นาโรลีจากเมืองแวร์เชลลีซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอิตาลีมาปรุงเป็น "Risotto Mushroom" ราคา 690 บาท มีจุดเด่นอยู่ตรงความกลมอ้วนเปอร์เซ็นต์แป้งเยอะพิเศษสัมผัสแน่นหนึบสู้ฟันโดยถูกยกย่องให้เป็นราชาสำหรับทำเมนูริซอตโต้คลุกเคล้าเนย,ไวน์ขาว,น้ำสต็อกผักจนสุกนิ่มรสชาติแทรกซึมเต็มเปี่ยมปรุงรสเพียงเกลือสมุทร,พริกไทยดำ,พาร์เมซานชีสท็อปปิ้งเห็ด Wild Mushroom ตากแห้งอีกหนึ่งวัตถุดิบสุดหรูและยอดพาสลี่ย์สับละเอียดตกแต่งพอสวยงามก่อนเสิร์ฟ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติค่อนข้างเลี่ยนไปหน่อยแต่สมาชิกร่วมโต๊ะเราวันนี้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัวอยู่แล้วจึงไม่ใช่ปัญหาเห็ดเคี้ยวสนุกกลิ่นเฉพาะตัวอูมามิเข้ากันไม่เหมือนใคร เพิ่มโปรตีนชุดใหญ่คั่นระหว่างคาร์โบไฮเดรตอันหนักหน่วงด้วย "Grilled Pork Chop" ราคา 550 บาท ส่วนสันนอกปกติติดกระดูกแต่ทางเชฟแล่เอาเฉพาะเนื้อล้วนตัดไขมันส่วนเกินเพื่อเข้าสู่กระบวนการซูวีอุณหภูมิต่ำยาวนาน 3 ชั่วโมงก่อนย่างบนเตาถ่านพอเกรียมสวยงามหั่นชิ้นพอดีคำ วางคู่พาร์มาแฮมพันหน่อไม้ฝรั่ง/มันฝรั่งสี่เหลี่ยมลูกเต๋า/มะเขือเทศสายพันธุ์สวีทปริ้นเซสย่างตกแต่งเลมอนซีกกับก้านโรสแมรี่ เปลี่ยนรสชาติความฟินได้ถึง 3 รูปแบบคือ 1. Maldon Salt เกลือสมุทรออร์แกนิกทะเลน้ำกร่อยหาดมาลดอนประเทศอังกฤษ 2. Smoked Maldon Salt รมควันไม้โอ๊กกลิ่นเฉพาะตัว 3. Himalayan Pink Salt เกล็ดสีชมพูเค็มละมุนอุดมแร่ธาตุประโยชน์สูงซึ่งจำเป็นต่อร่างกายครับ




เนื่องจากวันนี้เรานัดเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะมาถึง 4 ท่านจึงมีโอกาสลองชิมอาหารได้หลากหลายยิ่งขึ้นเลยขอเพิ่มเป็น "Mixed Fired Seafood" ราคา 890 บาท หรือซีฟู้ดรวมชุบแป้งสูตรเฉพาะทอดกรอบขนาดจัมโบ้ให้ปริมาณเยอะจุใจทั้งปลากะพงสดใหม่แล่เอาเฉพาะเนื้อติดหนังชิ้นโตเคี้ยวแน่นเต็มๆปาก/ปลาหมึกกล้วยล้างทำความสะอาดแยกส่วนหัวและลำตัวออกจากกันหั่นขนาดพอดีคำ/กุ้งขาวทะเลจับจากแหล่งน้ำธรรมชาติไซส์ยักษ์แกะเปลือกกลางลำตัวเหลือหัวกับปลายหางเอาไว้แลดูสวยงามพร้อมผ่าเส้นกลางหลังทิ้งทุกๆตัว/ปลาไข่ญี่ปุ่นเนื้อมันไร้กลิ่นคาวพวงไข่อัดแน่นเต็มท้องแตกระเบิดเต็มปากสะใจ เสิร์ฟคู่เลมอนสีเหลืองผ่าซีกบีบเทลงไปช่วยตัดเลี่ยนไขมันเล็กน้อยก่อนลงมือรับประทานเปลี่ยนรสชาติด้วยดิปซอสตำรับโฮมเมดทำเองของทางร้าน "The Pasta Apartment" รวมกว่า 2 สูตรได้แก่ 1. Tartare อ่านว่า "ทาร์ทาร์" ทำจากเรียลมายองเนส,ดิจองมัสตาร์ด,มะนาว,แตงกวาดอง,ยอดผักชีลาว,เมล็ดเคเปอร์ดอง,วูสเตอร์ซอสตามอัตราส่วนเปรี้ยวมันนัวกลมกล่อมเข้ากับเมนูทอดสไตล์ตะวันตก 2. Garlic Mayo ใช้ส่วนประกอบง่ายๆเพียงกระเทียมสับละเอียด,น้ำมะนาวเหลืองคั้นสด,เรียลมายองเนส,โรยเกลือสมุทรเล็กน้อยจิ้มสลับเปลี่ยนกันเรื่อยๆหรือเคียงสลัดเรดคอรัลเกรดออร์แกนิกที่ประดับอยู่ในจานก็อร่อยเพลินไปอีกแบบครับ



******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "The Pasta Apartment" (อารีย์) ร้านซ่อนในซอยลึกเสิร์ฟเมนูอิตาลีและพาสต้าเส้นสดทำเองตำรับโฮมเมด
เดินเข้าประตูรั้วเหล็กดัดทาสีแดงฉูดฉาดฝั่งทางด้านขวามือสุดของตัวบ้านจะพบลานกว้างปูพื้นอิฐดินเผาคล้ายถนนคนเดินตามประเทศฝั่งยุโรปพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยหลากหลายสไตล์แลดูไม่ซ้ำกันโดยเน้นบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวแสนร่มรื่นให้อารมณ์เหมือนนั่งกินอาหารกลางสวน แบ่งพื้นที่ให้บริการภายในร้าน "The Pasta Apartment" ออกเป็น 2 โซนได้แก่ 1. Outdoor บริเวณนอกชายคาวางโต๊ะและเก้าอี้สนามสำหรับนั่งชิลรับลมโชยเย็นสบายกับแสงแดดอากาศอบอุ่นมีจุดเด่นอยู่ตรงโซฟาขนาดใหญ่พิเศษถูกก่อสร้างขึ้นจากปูนทาสีขาวเรียงหมอนลงไปแบบมินิมอลตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักเท่าที่สังเกตส่วนมากคือวัยรุ่นผู้ชื่นชอบถ่ายรูปโพสท่าสุดสร้างสรรค์ลงในสังคมออนไลน์ 2. Indoor ติดตั้งแอร์ล้อมรอบหน้าต่างกระจกสว่างสดใสแต่ละโต๊ะสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 2-10 ท่าน การตกแต่งตามมุมต่างๆให้กลิ่นอายวินเทจเน้นอบอุ่นเปรียบดั่งถูกไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับสู่วัยเด็กอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเมนูทุกจานของทางร้านตัวหัวหน้าเชฟลงมือเองปรุงสดใหม่เสิร์ฟร้อนกรุ่นจึงต้องใช้เวลาสักครู่หากรู้สึกเริ่มเบื่อแนะนำว่าเดินมาชมหน้าเคาน์เตอร์ครัวช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดียิ่งขึ้นครับผม
เมื่อเดินทางถึง "The Pasta Apartment" แล้วเพียงแจ้งชื่อ,เบอร์โทรศัพท์แล้วพนักงานก็จะพาคุณไปยังโต๊ะที่สำรองเอาไว้ตามวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก (ในกรณีจองล่วงหน้าเกิน 7 วันต้องชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 1,000 บาท) พร้อมวางเล่มเมนูอาหารทำจากแผ่นกระดาษพิมพ์สีสวยงามคมชัดแล้วหนีบบนแผ่นกระดานวัสดุไม้อัดเนื้อแข็งง่ายๆเพื่อไม่ให้บทความนี้รีวิวยาวจนเกินไปสามารถรับชมฉบับออนไลน์เลยที่นี่ > https://bit.ly/3pe12xH < และเหล่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆเตรียมไว้อย่างครบถ้วนทั้งจานส่วนตัว/ช้อน/ส้อม/มีด/แก้วน้ำ/กระดาษเช็ดปาก/น้ำมันมะกอก/เกลือสมุทร/พริกไทยดำ/น้ำส้มสายชูบัลซามิกให้อารมณ์เหมือนตามสั่งของประเทศไทย ส่วนตัวอยากทราบว่าเส้นสดมีกี่ชนิดซึ่งปกติภัตตาคารประเภทนี้มักจะแสดงวิธีการทำตรงหน้าเคาน์เตอร์แต่ทางเชฟไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้าไปถ่ายรูปตรงครัวด้านหลังจึงเรียงใส่ถาดมารวมหลายอย่างเรียงจากซ้ายไปทางขวามือได้แก่ตัลโยลีนี/เฟตตุชชีเน/ตัลยาเตลเล/พัพพาร์เดลล์/สปาเก็ตตี้หมึกดำ/การ์กาเนลลี่และทอนนาเรลลี่ นอกจากนี้ยังมีพาสต้าแปลกตาชื่อไม่คุ้นเคยเลยอย่างปักเครี/ออรเกียตเต/โทรฟิเอ หรือพวกพื้นฐานทั่วไปเช่นสปาเกตตี/เฟตตูชิเน/แทลเลียเตลเล/มักกะโรนี/ฟูซิลี่/เพนเน/ฟาร์ฟาลเลแบบตากแห้งก็เลือกเปลี่ยนได้เองตามใจ ไม่รอช้ารีบสั่งน้ำเปล่า "Still Water" ราคา 70 บาท ใช้ขวดแก้วรีไซเคิลขนาด 750 มล.พิมพ์ชื่อร้านแช่เย็นจัดดื่มแล้วชื่นใจเหมือนได้รักษ์โลกไปในตัวครับ
จานแรกเราไม่ได้สั่งแต่ทางเชฟตั้งใจเสิร์ฟให้แก่ลูกค้าคนละคำเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเริ่มมื้อหลักโดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละวันซึ่งเราได้ชิมเป็น "Bruschetta" อ่านว่า "บรูสเก็ตต้า" อาหารทานเล่นสไตล์อิตาลีมีส่วนประกอบหลักก็คือขนมปังบาแก็ตสไลซ์แผ่นกำลังพอคำแนบบนกระทะจนกรอบนอกนุ่มในท็อปปิ้งมอสซาเรลล่าชีสสด/แฮม/มะเขือเทศเข้มข้น/ออริกาโนแห้ง/ใบโหระพาสายพันธุ์ตะวันตกและน้ำมันมะกอก Extra Vergin รสชาติเค็มหอมมันอมเปรี้ยวกลิ่นสมุนไพรกระจายฟุ้งเต็มปากชัดพร้อมลุยรายการถัดไปอย่าง "Radicchio Salsiccia Pizza" ราคา 420 บาท พิซซ่าแป้งสดนวดด้วยมือสะบัดจนแผ่นบางขนาดใหญ่เต็มจานราดซอสมะเขือเทศโฮมเมดโรยมอสซาเรลล่าชีส/ไส้กรอกอิตาเลียนสับชิ้นเล็กและผักแรดิชชิโอโดยลักษณะภายนอกคล้ายกะหล่ำปลีแต่สีม่วงผสมขาวรสชาติขมเบาบางซึ่งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ขอบด้านนอกพองติดไหม้เกรียมเล็กน้อยเพราะอบบนเตาถ่านตรงกลางสัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟันเสิร์ฟคู่น้ำมันมะกอกแช่พริกผสมสมุนไพรฝรั่งสกัดสีแดงสดใสเทราดลงไปช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนแซ่บกลมกล่อมเฉพาะตัวก่อนรับประทาน แถมให้ปริมาณจุใจถึง 8 ชิ้นแบ่งกันกินได้หลายอีกคนเลยครับผม
เมนูพาสต้าทุกจานของทางร้าน "The Pasta Apartment" ทางหัวหน้าเชฟเขาใส่ความตั้งใจลงไปโดยการผัดใหม่เมื่อได้รับออเดอร์จากลูกค้าแล้วเท่านั้นจึงต้องใช้เวลาสักครู่แต่อร่อยคุ้มค่าการรอคอยอย่างแน่นอนเริ่มต้นที่จานแรกนั่นก็คือ "Spaghetti Vongole" ราคา 750 บาท เส้นสปาเก็ตตี้แบบมาตรฐานขนาดประมาณเบอร์ 3-4 ลวกจับเวลาในน้ำเดือดจัดอุณหภูมิสูงสุกแค่ระดับ Al Dente ซึ่งตรงกลางยังคงกระด้างอีกนิดหน่อยสัมผัสเด้งสู้ฟัน ผัดน้ำมันมะกอก/ไวน์ขาว/พริกแห้งซอย/กระเทียมสไลซ์/มะเขือเทศราชินี/หอยตลับต้มเนื้อเต็มฝา/พาสลี่ย์สับละเอียดจัดเรียงลงจานแลดูสวยงามให้ปริมาณเยอะประทับใจ ปรุงรสชาติเค็มกลมกล่อมอมเปรี้ยวละมุนหอมกลิ่นทะเลผสมสมุนไพรที่ใส่ลงไปจำนวนมากถ้ารู้สึกว่ายังไม่จัดจ้านพอแนะนำให้เติมเกลือสมุทร,พริกไทยเล็กน้อยจะเข้มข้นถูกปากมากขึ้น รายการถัดไปส่วนตัวชื่นชอบที่สุดและคิดว่าหลายๆคนก็น่าจะคิดเหมือนกันได้แก่ "Gnocchi Bolognese" ราคา 490 บาท อ่านว่า "ญ็อกกี้" ทำจากมันฝรั่งบดผสมแป้งพาสต้าหั่นท่อนก่อนต้มจนสุกคล้ายต๊อกของฝั่งเกาหลีซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันโบราณอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้นจึงหาลองชิมได้เฉพาะในภัตตาคารตำรับอิตาลีขนานแท้ คลุกซอสโบโลเนสเนื้อวัวบด,มะเขือเทศ,เครื่องเทศตากแห้งโรยพาร์เมซานชีสตกแต่งด้วยก้านโรสแมรี่ ทานได้ทั้งแบบนำเข้าปากทันทีหรือทาบนขนมปังอบกรอบเคี้ยวสนุกแถมได้ประสบการณ์ใหม่ดีครับ
สำหรับคนที่ไม่ชอบกินเส้นพาสต้าทางร้าน "The Pasta Apartment" ก็ยังตอบโจทย์โดยการนำเข้าเมล็ดข้าวสายพันธุ์การ์นาโรลีจากเมืองแวร์เชลลีซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอิตาลีมาปรุงเป็น "Risotto Mushroom" ราคา 690 บาท มีจุดเด่นอยู่ตรงความกลมอ้วนเปอร์เซ็นต์แป้งเยอะพิเศษสัมผัสแน่นหนึบสู้ฟันโดยถูกยกย่องให้เป็นราชาสำหรับทำเมนูริซอตโต้คลุกเคล้าเนย,ไวน์ขาว,น้ำสต็อกผักจนสุกนิ่มรสชาติแทรกซึมเต็มเปี่ยมปรุงรสเพียงเกลือสมุทร,พริกไทยดำ,พาร์เมซานชีสท็อปปิ้งเห็ด Wild Mushroom ตากแห้งอีกหนึ่งวัตถุดิบสุดหรูและยอดพาสลี่ย์สับละเอียดตกแต่งพอสวยงามก่อนเสิร์ฟ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติค่อนข้างเลี่ยนไปหน่อยแต่สมาชิกร่วมโต๊ะเราวันนี้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัวอยู่แล้วจึงไม่ใช่ปัญหาเห็ดเคี้ยวสนุกกลิ่นเฉพาะตัวอูมามิเข้ากันไม่เหมือนใคร เพิ่มโปรตีนชุดใหญ่คั่นระหว่างคาร์โบไฮเดรตอันหนักหน่วงด้วย "Grilled Pork Chop" ราคา 550 บาท ส่วนสันนอกปกติติดกระดูกแต่ทางเชฟแล่เอาเฉพาะเนื้อล้วนตัดไขมันส่วนเกินเพื่อเข้าสู่กระบวนการซูวีอุณหภูมิต่ำยาวนาน 3 ชั่วโมงก่อนย่างบนเตาถ่านพอเกรียมสวยงามหั่นชิ้นพอดีคำ วางคู่พาร์มาแฮมพันหน่อไม้ฝรั่ง/มันฝรั่งสี่เหลี่ยมลูกเต๋า/มะเขือเทศสายพันธุ์สวีทปริ้นเซสย่างตกแต่งเลมอนซีกกับก้านโรสแมรี่ เปลี่ยนรสชาติความฟินได้ถึง 3 รูปแบบคือ 1. Maldon Salt เกลือสมุทรออร์แกนิกทะเลน้ำกร่อยหาดมาลดอนประเทศอังกฤษ 2. Smoked Maldon Salt รมควันไม้โอ๊กกลิ่นเฉพาะตัว 3. Himalayan Pink Salt เกล็ดสีชมพูเค็มละมุนอุดมแร่ธาตุประโยชน์สูงซึ่งจำเป็นต่อร่างกายครับ
เนื่องจากวันนี้เรานัดเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะมาถึง 4 ท่านจึงมีโอกาสลองชิมอาหารได้หลากหลายยิ่งขึ้นเลยขอเพิ่มเป็น "Mixed Fired Seafood" ราคา 890 บาท หรือซีฟู้ดรวมชุบแป้งสูตรเฉพาะทอดกรอบขนาดจัมโบ้ให้ปริมาณเยอะจุใจทั้งปลากะพงสดใหม่แล่เอาเฉพาะเนื้อติดหนังชิ้นโตเคี้ยวแน่นเต็มๆปาก/ปลาหมึกกล้วยล้างทำความสะอาดแยกส่วนหัวและลำตัวออกจากกันหั่นขนาดพอดีคำ/กุ้งขาวทะเลจับจากแหล่งน้ำธรรมชาติไซส์ยักษ์แกะเปลือกกลางลำตัวเหลือหัวกับปลายหางเอาไว้แลดูสวยงามพร้อมผ่าเส้นกลางหลังทิ้งทุกๆตัว/ปลาไข่ญี่ปุ่นเนื้อมันไร้กลิ่นคาวพวงไข่อัดแน่นเต็มท้องแตกระเบิดเต็มปากสะใจ เสิร์ฟคู่เลมอนสีเหลืองผ่าซีกบีบเทลงไปช่วยตัดเลี่ยนไขมันเล็กน้อยก่อนลงมือรับประทานเปลี่ยนรสชาติด้วยดิปซอสตำรับโฮมเมดทำเองของทางร้าน "The Pasta Apartment" รวมกว่า 2 สูตรได้แก่ 1. Tartare อ่านว่า "ทาร์ทาร์" ทำจากเรียลมายองเนส,ดิจองมัสตาร์ด,มะนาว,แตงกวาดอง,ยอดผักชีลาว,เมล็ดเคเปอร์ดอง,วูสเตอร์ซอสตามอัตราส่วนเปรี้ยวมันนัวกลมกล่อมเข้ากับเมนูทอดสไตล์ตะวันตก 2. Garlic Mayo ใช้ส่วนประกอบง่ายๆเพียงกระเทียมสับละเอียด,น้ำมะนาวเหลืองคั้นสด,เรียลมายองเนส,โรยเกลือสมุทรเล็กน้อยจิ้มสลับเปลี่ยนกันเรื่อยๆหรือเคียงสลัดเรดคอรัลเกรดออร์แกนิกที่ประดับอยู่ในจานก็อร่อยเพลินไปอีกแบบครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น