สวัสดีค่ะ ขอแทนตัวเองชื่อเอนะคะ ถ้าหากว่าเล่าเรื่องงต้อขออภัยด้วยนะคะ
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะเราจะขอแทนตัวเองชื่อเอนะคะ และอดีตแฟนเก่าใช้นามสมมุตว่าบีแล้วกันค่ะ
บีนี่เป็นคนที่มีครอบครัวมาแล้ว มีลูกชาย 1 คน วัยอนุบาลค่ะ
เรื่องนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วค่ะ อยากได้เงินคืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เค้าให้เหตุผลที่เรานอกใจ
อดีตที่ผ่านมาเอกับบีคบกันมาประมาณสามปีได้ คบกันได้ไม่ถึงปีบีก็ย้ายมาอยู่ด้วยโดยให้เหตุผลว่ามาอยู่ดูแลเอค่ะ
ไม่นานหลังจากย้ายมาอยู่ บีก็ขายรถยนต์ส่วนตัวของตัวเองค่ะ แล้วมาใช้รถเอให้เหตุผลว่ามีคันเดียวก็พอค่ะ
(แต่มารู้ตอนหลังเหมือนบี อยากลดภาระตัวเองค่ะ )
แต่ตอนนั้นความรักมันบังตาค่ะ เอก็ยอมทุกสิ่งทุกอย่าง บีพูดอะไรก็ทำตามหมดค่ะ
เรื่องค่าใช้จ่าย เอกับบี ใช้แบบแยกกระเป๋ากันนะคะ แต่ของใช้ในบ้านเอเป็นคนรับผิดชอบหมด ซื้อของเข้าบ้าน จ่ายตลาด รวมไปถึงค่าน้ำและค่าไฟที่บ้าน
เอกับบีก็ใช้ชีวิตร่วมกัน วันหยุดไปเที่ยวห้าง กินกาแฟ เข้าร้านอาหาร มีไปดินเนอร์ กินบุฟเฟ่บ้าง เหมือนคู่รักอื่นๆ ไปเกาะเสม็ด เกาะล้านบ้าง
เวลาไปเที่ยวก็ช่วยกันจ่ายบ้าง บางครั้งเอบอกไม่มี บีก็จะบอกว่าเดี๋ยวบีเลี้ยงเอง (ตอนนั้นเอก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่มีนิสัยอยากเอาเปรียบใครค่ะ)
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างค่ะ นานไปก็จะเห็นข้อเสียกันและกัน เอก็ได้พูดคุยกับบี ว่าบีช่วยเอจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซื้อของบ้างได้ไหม
คำตอบที่เอได้จากบี คือ บีบอกว่า ถ้าแบบนั้นเวลาไปเที่ยวไหน กินอะไร ให้เอจ่ายเองนะ เอก็เลยเก็บไปคิด
พักหลังๆมา เอก็จะปฏิเสธบี เวลาที่บีชวนไปไหน เอก็จะบอกบีไม่ไปนะ ไม่ค่อยมีเงิน แต่บีบอกว่าเดี๋ยวพี่เลี้ยงส่เพราะบีอยากไปค่ะ
กลับมาที่ตัวบี บีมีบัตรเครดิตหลายใบ และมีหนี้ กยส เรื่อเงินเจ้าปัญหาเกิดขึ้นค่ะ วันที่แม่บีโทมาบอกว่า กยส เค้าทวงหนี้นะ ซึ่งบีไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่เรียนจบ
พอเอรู้ เอก็งงมากค่ะ ได้ถามบีไปว่า ไม่รู้เลยหรอ บีบอกว่าเข้าใจว่าแม่จ่ายให้ เอก็งงค่ะ ตอนนั้นบีไม่มีเงินจะจ่ายก็เครียดแต่บีนึกขึ้นได้มีบัตรเอ
บีเลยเอ่ยปากขอยืมเอก่อน เอมีบัตรกดเงินสดจำนวนนึงค่ะ 1ใบ 60000 อีกใบ 40000 ตอนนั้นบีก็รู้ว่าเอมีบัตรนะคะ เพราะไม่ได้ปิดบังอะไรค่ะ
บีเลยบอกขอยืมบัตรเอ เพื่อเอาไปปิดบัตรหลายใบของบี และผ่อนค่ากู้เรียน กยส เพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกัน บีจะขอผ่อนจ่ายกับเอ เดือนละ10,000
เอไม่ได้ใช้บัตรเลยนะคะตอนนั้น วงเงินเต็มๆ หลังจากบียืมเงินเอไป ไม่นานก็เลิกกัน โดยที่บียังติดหนี้เออยู่ เกือบ ๆ แสนเลยค่ะ สาเหตุที่เลิกรา
คือตัวเอเองเริ่มเบื่อหน่าย จนได้แอบนอกใจแบบแค่คุยกันนะคะ ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งค่ะ ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตัวเองผิด แต่ตอนนั้นมันมีหลายสาเหตุที่เออยากเลิกค่ะ ไม่ใช่เพราะไปคุยกับคนใหม่นะคะ สาเหตุคือ
1.บีชอบบอกกับทุกคนให้ดูดีว่ามาอยู่ดูแลเอ ซึ่งเอรู้ดีค่ะ ว่าเอดูแลตัวเองมาโดยตลอด บีเหมือนแค่เข้ามาเป็นรูมเมทด้วย ที่ไม่เคยช่วยจ่ายอะไรเลย
แต่บีให้เหตุผลว่าก็เราเลี้ยงข้าวแล้ว พาไปกินอะไรๆในวันหยุดแล้ว
2.บีมีลูกชาย ลูกติดนะคะ เอไม่ติดค่ะไม่ได้รังเกียจแต่ว่า แม่บีชอบโทมาทวงเงินค่าเลี้ยงดูกับบีค่ะ ซึ่งเราก็เคยบอกบีไปนะคะ ว่าเค้าต้องให้ลูกบ้างค่ะ
แต่เค้าปัดความรับผิดชอบค่ะ ส่วนมากพ่อแม่บีเป็นคนจ่ายค่ะ
3.ตอนที่บีจับได้ บีร้องไห้และทำลายข้าวของบ้านเอบางส่วน รวมไปถึงทุบตีเอด้วยค่ะ เกิดเพราะตอนนั้นบีเห็นว่ามีสายโทรออกของเอกับผชคนนึงค่ะ
บีก็คลั่งและโกรธจนคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ บีก็ขู่เอด้วยค่ะ ห้ามหนีซึ่งตอนนั้นเอ ร้องให้น้าที่อยู่ตรงข้ามห้องมาช่วยค่ะ บีเปิดประตูบอกน้าเอว่าขอเคียกันเอง
น้าอย่ามายุ่ง ตอนนั้นบีน่ากลัวมากๆๆๆค่ะ เอร้องไห้ขอชีวิต ต่างๆนาๆ ไม่ยอมเลยค่ะวันนั้นไม่ได้นอนค่ะ อีกวันเอไปทำงานแต่ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จำได้ว่า บีก็ปามือถือตัวเองพัง ติดต่อไม่ได้ค่ะ เค้าก็ออกจากห้องเอไปค่ะ ช่วงนั้นเอก็ย้ายไปอยู่กับพ่อค่ะ เพราะกลัวโดนทำร้าย
แต่บีเอาเบอร์อื่นโทมาขู่ตลอดนะคะ ว่าถ้าเจอจะจัดการเอค่ะ ช่วงนั้นหลอนไปเลยค่ะ
4.พอหลังจากผ่านไประยะนึง เอติดต่อบี ขอเงินคืนในส่วนที่บียืมไป เงินไม่ใช่น้อยๆเลยค่ะ ซึ่งเอต้องทำงานใช้หนี้บัตรตัวเองเกือบแสนไม่เหลือสักเดือนค่ะ บีตอบมาว่า นี่คือค่าที่ไปกินไปเที่ยว ที่ผ่านมาบอกจ่ายเยอะกว่าหนีที่ติดค้างอีก เอพูดอะไรไม่ออกค่ะ ในใจคือ แค้นใจแต่ทำอะไรไม่ได้
ในมุมผช คุณคิดเห็นว่าอย่างไร เราพอจะทำอะไรได้บ้างคะ อยากได้เงินคืน กับความผิดที่เราทำ มันแยกกันได้ไหมคะ
อยากสอบถามค่ะ ว่าแบบนี้เราควรทำยังไง
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะเราจะขอแทนตัวเองชื่อเอนะคะ และอดีตแฟนเก่าใช้นามสมมุตว่าบีแล้วกันค่ะ
บีนี่เป็นคนที่มีครอบครัวมาแล้ว มีลูกชาย 1 คน วัยอนุบาลค่ะ
เรื่องนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วค่ะ อยากได้เงินคืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เค้าให้เหตุผลที่เรานอกใจ
อดีตที่ผ่านมาเอกับบีคบกันมาประมาณสามปีได้ คบกันได้ไม่ถึงปีบีก็ย้ายมาอยู่ด้วยโดยให้เหตุผลว่ามาอยู่ดูแลเอค่ะ
ไม่นานหลังจากย้ายมาอยู่ บีก็ขายรถยนต์ส่วนตัวของตัวเองค่ะ แล้วมาใช้รถเอให้เหตุผลว่ามีคันเดียวก็พอค่ะ
(แต่มารู้ตอนหลังเหมือนบี อยากลดภาระตัวเองค่ะ )
แต่ตอนนั้นความรักมันบังตาค่ะ เอก็ยอมทุกสิ่งทุกอย่าง บีพูดอะไรก็ทำตามหมดค่ะ
เรื่องค่าใช้จ่าย เอกับบี ใช้แบบแยกกระเป๋ากันนะคะ แต่ของใช้ในบ้านเอเป็นคนรับผิดชอบหมด ซื้อของเข้าบ้าน จ่ายตลาด รวมไปถึงค่าน้ำและค่าไฟที่บ้าน
เอกับบีก็ใช้ชีวิตร่วมกัน วันหยุดไปเที่ยวห้าง กินกาแฟ เข้าร้านอาหาร มีไปดินเนอร์ กินบุฟเฟ่บ้าง เหมือนคู่รักอื่นๆ ไปเกาะเสม็ด เกาะล้านบ้าง
เวลาไปเที่ยวก็ช่วยกันจ่ายบ้าง บางครั้งเอบอกไม่มี บีก็จะบอกว่าเดี๋ยวบีเลี้ยงเอง (ตอนนั้นเอก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่มีนิสัยอยากเอาเปรียบใครค่ะ)
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างค่ะ นานไปก็จะเห็นข้อเสียกันและกัน เอก็ได้พูดคุยกับบี ว่าบีช่วยเอจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซื้อของบ้างได้ไหม
คำตอบที่เอได้จากบี คือ บีบอกว่า ถ้าแบบนั้นเวลาไปเที่ยวไหน กินอะไร ให้เอจ่ายเองนะ เอก็เลยเก็บไปคิด
พักหลังๆมา เอก็จะปฏิเสธบี เวลาที่บีชวนไปไหน เอก็จะบอกบีไม่ไปนะ ไม่ค่อยมีเงิน แต่บีบอกว่าเดี๋ยวพี่เลี้ยงส่เพราะบีอยากไปค่ะ
กลับมาที่ตัวบี บีมีบัตรเครดิตหลายใบ และมีหนี้ กยส เรื่อเงินเจ้าปัญหาเกิดขึ้นค่ะ วันที่แม่บีโทมาบอกว่า กยส เค้าทวงหนี้นะ ซึ่งบีไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่เรียนจบ
พอเอรู้ เอก็งงมากค่ะ ได้ถามบีไปว่า ไม่รู้เลยหรอ บีบอกว่าเข้าใจว่าแม่จ่ายให้ เอก็งงค่ะ ตอนนั้นบีไม่มีเงินจะจ่ายก็เครียดแต่บีนึกขึ้นได้มีบัตรเอ
บีเลยเอ่ยปากขอยืมเอก่อน เอมีบัตรกดเงินสดจำนวนนึงค่ะ 1ใบ 60000 อีกใบ 40000 ตอนนั้นบีก็รู้ว่าเอมีบัตรนะคะ เพราะไม่ได้ปิดบังอะไรค่ะ
บีเลยบอกขอยืมบัตรเอ เพื่อเอาไปปิดบัตรหลายใบของบี และผ่อนค่ากู้เรียน กยส เพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกัน บีจะขอผ่อนจ่ายกับเอ เดือนละ10,000
เอไม่ได้ใช้บัตรเลยนะคะตอนนั้น วงเงินเต็มๆ หลังจากบียืมเงินเอไป ไม่นานก็เลิกกัน โดยที่บียังติดหนี้เออยู่ เกือบ ๆ แสนเลยค่ะ สาเหตุที่เลิกรา
คือตัวเอเองเริ่มเบื่อหน่าย จนได้แอบนอกใจแบบแค่คุยกันนะคะ ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งค่ะ ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตัวเองผิด แต่ตอนนั้นมันมีหลายสาเหตุที่เออยากเลิกค่ะ ไม่ใช่เพราะไปคุยกับคนใหม่นะคะ สาเหตุคือ
1.บีชอบบอกกับทุกคนให้ดูดีว่ามาอยู่ดูแลเอ ซึ่งเอรู้ดีค่ะ ว่าเอดูแลตัวเองมาโดยตลอด บีเหมือนแค่เข้ามาเป็นรูมเมทด้วย ที่ไม่เคยช่วยจ่ายอะไรเลย
แต่บีให้เหตุผลว่าก็เราเลี้ยงข้าวแล้ว พาไปกินอะไรๆในวันหยุดแล้ว
2.บีมีลูกชาย ลูกติดนะคะ เอไม่ติดค่ะไม่ได้รังเกียจแต่ว่า แม่บีชอบโทมาทวงเงินค่าเลี้ยงดูกับบีค่ะ ซึ่งเราก็เคยบอกบีไปนะคะ ว่าเค้าต้องให้ลูกบ้างค่ะ
แต่เค้าปัดความรับผิดชอบค่ะ ส่วนมากพ่อแม่บีเป็นคนจ่ายค่ะ
3.ตอนที่บีจับได้ บีร้องไห้และทำลายข้าวของบ้านเอบางส่วน รวมไปถึงทุบตีเอด้วยค่ะ เกิดเพราะตอนนั้นบีเห็นว่ามีสายโทรออกของเอกับผชคนนึงค่ะ
บีก็คลั่งและโกรธจนคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ บีก็ขู่เอด้วยค่ะ ห้ามหนีซึ่งตอนนั้นเอ ร้องให้น้าที่อยู่ตรงข้ามห้องมาช่วยค่ะ บีเปิดประตูบอกน้าเอว่าขอเคียกันเอง
น้าอย่ามายุ่ง ตอนนั้นบีน่ากลัวมากๆๆๆค่ะ เอร้องไห้ขอชีวิต ต่างๆนาๆ ไม่ยอมเลยค่ะวันนั้นไม่ได้นอนค่ะ อีกวันเอไปทำงานแต่ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จำได้ว่า บีก็ปามือถือตัวเองพัง ติดต่อไม่ได้ค่ะ เค้าก็ออกจากห้องเอไปค่ะ ช่วงนั้นเอก็ย้ายไปอยู่กับพ่อค่ะ เพราะกลัวโดนทำร้าย
แต่บีเอาเบอร์อื่นโทมาขู่ตลอดนะคะ ว่าถ้าเจอจะจัดการเอค่ะ ช่วงนั้นหลอนไปเลยค่ะ
4.พอหลังจากผ่านไประยะนึง เอติดต่อบี ขอเงินคืนในส่วนที่บียืมไป เงินไม่ใช่น้อยๆเลยค่ะ ซึ่งเอต้องทำงานใช้หนี้บัตรตัวเองเกือบแสนไม่เหลือสักเดือนค่ะ บีตอบมาว่า นี่คือค่าที่ไปกินไปเที่ยว ที่ผ่านมาบอกจ่ายเยอะกว่าหนีที่ติดค้างอีก เอพูดอะไรไม่ออกค่ะ ในใจคือ แค้นใจแต่ทำอะไรไม่ได้
ในมุมผช คุณคิดเห็นว่าอย่างไร เราพอจะทำอะไรได้บ้างคะ อยากได้เงินคืน กับความผิดที่เราทำ มันแยกกันได้ไหมคะ