ไปฮาร์บินกับsummer jeen น่าเชื่อถือไหม คุ้มรึเปล่า จากคนไปจริง

วันนี้มาเขียนรีวิวประสบการ์ณที่ไปเรียนซัมเมอร์1เดือนที่ฮาร์บิ้นกับซัมเมอร์จีนจ้าาาาา



เราไปตั้งแต่วันที่ 1เมษา - 2 พฤษภา 2566 
(1)เท้าความ
เท้าความตั้งแต่แรกเลยคือ พี่สาวเราชอบเรียนภาษาจีนมาก ภาษาจีนคือแพชชั่น คือทุกอย่าง
พี่เราเลยมาบอกว่าอยากไปซัมเมอร์ที่จีน เพื่อฝึกภาษา พอเราคิดๆดูแล้ว ก็อยากไปเที่ยว ไปหาเพื่อน ไปเก็บประสบการ์ณ เลยช่วยกันหาตามกูเกิ้ล แล้วเจอซัมเมอร์จีนของพี่ก้อย พี่โจอี้!!

 (2) เริ่มสงสัย
ตอนแรกก็กลัวๆเพราะหน้าเว็บดูแปลกๆ หารีวิวอ่านเยอะมาก กว่าจะตัดสินใจไปสมัคร


เขาก็ให้กรอกข้อมูล สักพักเขาก็กำหนดวันโอนเงินมา 
แล้วพอเราขอโทรไป พี่เขาก็บอกว่าเจ็บคอหนักมาก โทรไม่ได้ เรานี่เอ๊ะละ โกงไหมน้าา เลยตัดสินใจนัดโอนเงินต่อหน้า เขาก็นัดที่บ้านเขา (เป็นร้านทอง) พอไปถึง พี่โจอี้กับแม่เขาก็แนะนำตัว แล้วเราก็สอบถามข้อมูล เลยเบาใจ และโอนเงิน ต่อจากนั้นก็ไปทำวีซ่า ก็เหลือแค่ ปฐมนิเทศก็จะได้ไปแล้ว!

(3) จ่ายเงินแล้ว ปฐมนิเทศ
พอถึงวันไปปฐมนิเทศคือได้เห็นเพื่อนทั้ง38คน(ไม่รวมเรากับพี่สาว) เลยพยายามทำความรู้จักไว้เยอะๆ ได้เพื่อนมา1คน มาคุยกันก่อนไป  
ช่วงแรกของปฐมนิเทศพี่ก้อยจะมาแนะนำว่าอะไรควร/ไม่ควร เอาไป เรื่องvpn ,เน็ต แล้วก็เรื่องรูมเมทว่านอนกับใคร [ก่อนหน้านี้พี่เขาจะถามว่าอยากนอนกับใครเป็นพิเศษไหม เรานอนกับพี่สาว แต่ถ้ายังไม่รู้ ไม่ต้องกังวลพี่เขาจะจับให้ ดูจากอายุ,ความเกี่ยวข้องต่างๆ จะได้เข้ากัน ซึ่งพอถึงเวลาหลายคู่เข้ากันดีมาก ]
พอพี่เขาพูดเสร็จก็ให้มาแนะนำตัว , สมัคร-สแกนวีแชท



(4) วันเดินทาง
เราไปเป็นกรุ๊ปแรกกับพี่ก้อยวันที่1 
วันนั้นคือไม่ค่อยตื่นเต้นออกมาแบบงงๆ 






ไฟล์ทเรา ไปจากกรุงเทพ ส่วนใหญ่นอนทั้งไฟล์ท วิวบนเครื่องสวยมาก(ตอนกลางคืน) 
ช่วงที่อยู่สนามบินก็ทำความรู้จักทุกๆคน 
จนไปถึง....



(5) ถึงแล้ว 
ตอนที่ถึง อากาศไม่เย็นขนาดนั้น แบบชิลๆเลย 23องศา


ก็นั่งรถไปมหาลัย พี่เขาก็พาเข้าหอพัก ประสบปัญหาเรื่องประตูห้องไขยากเล็กน้อย55 ห้องก็สภาพงั้นๆ ไม่ถึงกับแย่ แต่ต้องทำความสะอาดเพิ่ม เพราะห้องไม่มีคนอยู่3ปี(ตั้งแต่โควิด) ท่อคือเหม็นมาก555 ฝุ่นที่พื้นก็เยอะ แต่เราก็ไม่ติดที่ต้องทำความสะอาด

(อันนี้ถ่ายตอนขากลับ)

แล้วพี่ก้อยก็นัดพาไปกินข้าวที่โรงอาหาร โรงอาหารมี3โรง โรง1เป็นโรงแรกที่พี่เขาพาไป คือใหญ่มากก 3-4ชั้น ร้านอาหารมากมาย แต่เลือกกินข้าวผัด ตอนนั้นไม่รู้ โดนไป14หยวน(70บาท) จานใหญ่มาก กินไม่หมด [เราจะมีบัตรอาหารที่เติมให้ทุกสัปดาห์ สามารถเอาไปจ่าย หนำซ้ำไปหยิบช้อน ช้อนหมด เลยนั่งใช้ตะเกียบกินข้าว แทบร้องไห้ แถมไปถึงวันแรก speak English ใส่เขา ไม่มีใครเข้าใจTT 


ต่อไปนี้เราจะเขียนไม่ค่อยเป็นลำดับเหตุการ์ณนะ

(6) ว่าด้วยเรื่องโรงอาหาร 
คือพักที่หอพักนักเรียนต่างชาติ พี่ก้อยเลยเรียกชื่อโรงอาหารที่ใกล้สุดว่า
โรง1 ใหญ่มาก มีทั้งชานม มาม่า ปลาท่องโก๋ และอีกมากมาย(ไม่ค่อยได้ไปกินเพราะติดโรง2)

เดินมาซักพักก็คือ
โรง2 เป็นโรงโปรดเรา มี3ชั้น ชั้น1-2 ธรรมดาๆ แต่ชั้น3ตกแต่งน่ารักโต๊ะน่านั่ง แถมมีซีรีย์ฟรีให้ดูด้วย55 อาหารก็อร่อย มีร้านชานม ร้านแฮมเบอร์เกอร์ อาหารตัก และอีกมากมายที่อร่อยมาก



โรง3 ก็ใหญ่ แต่เราไม่ค่อยได้ไป ส่วนมากแค่เดินไปซื้อไอติม ไม่มีรูปเลย

(7) การเรียน
เริ่มแรกเราจะสอบวัดคลาสที่จะไปเรียน จะไล่ระดับความยากตามตัวอักษร 
มีคลาสเริ่มต้น ที่เริ่มเรียนตั้งแต่ 你好， 一二三
(ตั้งแต่แรก)
แล้วก็ไล่ไปคลาส (จากง่ายไปยาก) a b c d etc.
ข้อสอบ ยากหน่อย 5555 เราได้คลาสa
ซึ่งถ้าสอบได้คลาสไม่สูงก็ไม่ต้องเครียดนะ 
ซึ่งครูที่สอนก็ดีมาก ถึงแม้เราจะหลับบ่อยก็เถอะ
เพื่อนร่วมคลาสก็น่ารัก มี24คน เป็นคนไทยไปแล้ว23 แอลจีเรียอีกหนึ่ง 



(7.1) เรียนอื่นๆเพิ่มเติม 
เรียนอื่นๆ เพิ่มเติมเป็น พวกวัฒนธรรมจีน
อย่าง ตัดกระดาษจีน (อันนี้สนุก)

แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม


พู่กันจีน

(รูปเพื่อนอิอิ)

ชิมอาหาร


ชงชา


(8) ไปเที่ยว
พี่ๆเขา จะพาไปเที่ยวช่วงเสาร์อาทิตย์ ตอนเช้าไปกินข้าว กินเสร็จไปเที่ยว
ก็มีไป โบสถ์เซนต์โซเฟีย 

ถนนจงยาง


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

วัดเหวินเมี่ยว


พิพิธภัณฑ์unit 731


สวนเสือ


สนุกมาก แล้ว ที่เหลือ เวลาว่างเราก็ไปเที่ยวเองได้ ช่วงเย็นนั่งรถไฟไปห้าง,ตลาดได้ 

(9)อากาศ 
อากาศที่นี่ช่วงเมษาไม่หนาวมาก ประมาณ4-10องศา 
ถือว่าพอรับไหว 
อากาศค่อนข้างแห้ง ช่วงแรกๆ มาใบไม้ยังไม่ผลิ

แต่ซักพักก็มีดอกไม้สวยมาก


มีวันนึงเจอพายุทรายค่าอากาศขึ้น500เลย


อีกวันก็เจอหิมะ อากาศแปรปรวนมาก5555

(10) ประสบการ์ณ ที่น่าจดจำ (ไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้)

1)มัสยิด
ไปเที่ยวเองกับเพื่อนๆ คือสนุกสุดๆทุกรอบ แต่มีอยู่ครั้งนึง พี่ที่เป็นอิสลามเขาจะไปมัสยิด เขาก็เสิร์ช ว่าอยู่ไหน พอถึงตอนไป ไปกัน5คน ก็เรียกแท็กซี่ไป สรุปแท็กซี่ไม่รับ5คน แทนที่เราจะนั่งแยกกัน แต่เลือกนั่งรถใต้ดินไป เจ้าหน้าที่สถานีนี้บอกลงสถานีนู้น สถานีนู้นลงสถานีนี้ แบบเขาบอกดูไม่ค่อยตรงกัน เลยลงสถานีนึงและคิดว่าจะนั่งรถเมล์ไป

พออยู่ป้ายรถเมล์ ไม่รู้ไปยังไงจ้า แต่โชคดี พี่2คนที่พูดภาษาจีนพอได้ เขาถามป้าคนนึงให้(จริงๆพี่2คนนี้ก็ถามให้ทั้งทางอยู่แล้ว555) ป้าเขาใจดีมาก บอกละเอียดว่าลงตรงไหน เดินยังไง ขอบคุณป้าเขามาก
ก็ไปถึงมัสยิด แล้วเสร็จแล้วก็ไปร้านไอติมตอนนั้นก็1ทุ่มกว่า พี่สต๊าฟ (พี่ก้อยพี่โจอี้) มีกฎว่า ห้ามกลับหอเกิน3ทุ่ม ก็เลยชิล ไปกินข้าวต่อ ไปกินอาหารอิสลามกัน กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อชามใหญ่มาก 10หยวนเอง กินไปกินมา เราพูดขึ้นมาเล่นๆว่า"ไม่ใช่ว่า2ทุ่มแล้วนะ" เปิดนาฬิกามา ตู้มมม 2ทุ่มจริง ทันใดนั้น คือ run ไปเรียกแท็กซี่อย่างด่วนเลย คราวนี้คือนั่งแยกกัน3 2 ไม่สนละ พอถึงมหาลัย ปกติมีรถรับส่งในมหาลัยไม่เคยสนใจ คราวนี้ นั่งจ่ะ กลับถึงหอ 20:40กว่า วิ่งกันแบบรีบมากก5555555 ตอนนั้นมีความสุขสุดๆ ถึงหอทันเวลา

2) ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่หลังมอ
เป็นร้านที่ไปบ่อยมาก เราไป5ครั้ง มีเพื่อนไป8ครั้งด้วย ร้านนี้อร่อยจริง เลิฟสุดๆ แบบส่วนใหญ่ไปเม้ากัน

3) วันแสดง
ที่เรียน มีกิจกรรม ร้องเพลง,เต้นแสดงละคร โดยแบ่งเป็นคลาสๆ คลาสa ร้องเพลง ,เต้น แล้วก็แสดงเล็กน้อย ทุกคนตั้งใจซ้อมกันมาก การวางแผนโชว์,คลิปดีมาก จนคว้าที่2มา 🥹

(*) แนะนำ
คนที่ไม่รู้ภาษาจีนเลย ควรรู้ประโยคเบื้องต้นในการซื้อของ,ข้าว (จากคนที่ช่วงแรกต้องให้พี่สาวช่วยซื้อของสั่งข้าวตลอด) เช่น 
Duo shăo qián เท่าไหร่?
dă bāo ใส่ถุง(แพ็คกลับบ้าน)
Xiàn jin kéyi ma ใช้เงินสดได้ไหม? (ที่นั่นเขาไม่ค่อยรับเงินสดกัน)
Zhè ge อันนี้ (ใช้จอนสั่งข้าวแล้วจิ้มรูปภาพ)
Nà ge อันนั้น 
.

พอมาถึง อาทิตย์สุดท้าย😭😭 คือไม่อยากกลับเลย ร้องไห้หนักมาก ไปเที่ยวทุกวันเลย เก็บความทรงจำกับทุกๆคน  
อยากบอกว่าเป็นประสบการ์ณที่ดีมากๆในชีวิต แนะนำค่ะๆ