JJNY : ทักษิณลั่นตัดสินใจกลับไทย│“สมชัย” บี้ กกต.แจงปมผู้พิการ│MAKRO กำไรธุรกิจค้าปลีกลด│รัสเซียจัดหนัก! รุมถล่มยูเครน

ขออนุญาตอีกครั้ง!! ทักษิณ ลั่นตัดสินใจกลับไทยเลี้ยงหลาน ภายใน ก.ค.66 ก่อนวันเกิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3968318
 
 
ขออนุญาตอีกครั้ง!! ทักษิณ ประกาศลั่น ตัดสินใจกลับไทยเลี้ยงหลาน ภายใน ก.ค.66 ก่อนวันเกิด
 
จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย (พท.) คลอดบุตรชายคือ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือ ธาษิณ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม โดย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตาของธาษิณ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า 

เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊ง แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เป็นอีกครั้งที่อดีตนายกฯทักษิณ “ขออนุญาตกลับบ้าน” หวังมาเลี้ยงหลาน โดยนายทักษิณระบุทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า 
 
“ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”
 
ทั้งนี้ นายทักษิณเกิดวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2492 โดย พ.ศ.2566 นี้เขาจะมีอายุครบ 74 ปี

https://twitter.com/ThaksinLive/status/1655748653712310272



“สมชัย” บี้ กกต.แจงปมผู้พิการ 1.3 พันคน ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ชี้ขัด กม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3968329

“สมชัย” บี้ กกต.แจงปมผู้พิการ 1.3 พันคน ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ชี้ขัด กม. ทำได้กรณีเดียวคือข้าราชการที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตพื้นที่
 
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีต คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2566 ว่า 
 
1,372 คน มาได้อย่างไร โดยมีรายละเอียดว่า “การเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต อยู่ในมาตรา 107 ของ พ.ร.ป. ส.ส. มีได้กรณีเดียว คือ การที่ข้าราชการได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่นนอกเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง
 
กฎหมายจึงให้ ข้าราชการ แสดงหนังสือคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า “ในเขต” ได้
กฎหมายไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปหรือ แม้กระทั่ง คนพิการ คนทุพพลภาพ คนสูงอายุ เลือกตั้งล่วงหน้าในเขต

กกต. ใช้หลักกฎหมายข้อใดครับ ?

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0sQGNpFnubrTZFMgUyyLNPfSkCPWQtrbjL1Rwf63bgthFY1gjWM2hWF761QHW2scdl
 


MAKRO กำไรธุรกิจค้าปลีกลด 12.8% เหตุต้นทุนกู้ยืม ค่าไฟพุ่ง
https://www.prachachat.net/marketing/news-1285632

สยามแม็คโคร เผยผลประกอบการไตรมาสแรก ต้นทุนค่าไฟ กระทบกำไรธุรกิจค้าปลีกลด 12.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
 
วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 120,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,804 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 114,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,776 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ค่าไฟแพงฉุดกำไรค้าปลีก

ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจค้าส่งมีกำไรสุทธิ 1,897 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
 
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีกำไรสุทธิลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.8 เหลือ 269 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืม ค่าไฟฟ้า และการตัดจำหน่ายค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ (Upfront fee) จากการชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดจำนวน 211 ล้านบาท

โดยบริษัทอธิบายว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 กลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมทั้งสิ้น 10,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตราค่าไฟต่อหน่วยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเท่ากับร้อยละ 18.6

ค้าส่งโตต่อเนื่อง
 
ส่วนการเติบโตของรายได้รวมนั้น เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 7,371 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายภายในสาขา และการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสินค้าที่รองรับการเติบโตจากการขายออนไลน์และการขายนอกร้านของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจแม็คโครต่างประเทศในทุกประเทศ รวมถึงธุรกิจฟูดเซอร์วิสที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการให้บริการ และรายได้อื่นรวมทั้งสิ้น 2,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 680 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.0 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากกำไรทางบัญชีจากสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกไปในทิศทางเดียวกับค่าเช่าและรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้าจำนวน 3,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 348 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลหลักจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นจากการให้เช่าและการให้บริการศูนย์การค้า 1,969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 219 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 55.3 ซึ่งสูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 54.5
 
ด้านกำไรขั้นต้นจากการขาย ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 14.0 ของยอดขายรวม ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ร้อยละ 14.2 เป็นผลหลักมาจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็นร้อยละ 18.0 จากร้อยละ 18.6 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าส่งมีอัตราก าไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.9 จากร้อยละ 10.4 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่