อนิมิตเจโตสมาธิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า

กระทู้คำถาม
".....ฉะนั้นในขั้นต่อไป       จึงใด้ตรัสสอนให้ไม่ใส่ใจถึงความกำหนดหมายอันเป็นตัวสัญญาที่ละเอียดดังกล่าว    แต่ให้ใส่ใจถึงข้อที่เรียกว่า   อนิมิตเจโตสมาธิ คือ สมาธิแห่งใจที่ไม่มีนิมิตสำหรับกำหนดหมาย อันอนิมิตเจโตสมาธิ สมาธิแห่งใจที่ไม่มีนิมิตเครื่องกำหนดหมายนี้       เป็นสิ่งที่ละเอียดมากและโดยปรกติก็แสดงในขั้นสูงสุดของการปฏิบัติ           และพระอาจารย์โดยมากก็แสดงอธิบายเป็นวิปัสสนากรรมฐานไปทีเดียวว่า คือปัญญาที่พิจารณานิมิต คือสิ่งที่กำหนดทั้งหมดของจิตใจหรือที่เรียกกันเป็นสามัญ ว่า ขันธ์๕ก็ดี      นามรูปก็ดี   หรือว่ารูป หรือว่ากาย  เวทนา จิต ธรรม ก็ดี หรือว่า อายตนะ หรือว่าธาตุก็ดี    ซึ่งทั้งหมดก็มีอยู่ในกายและใจอันนี้ทั้งหมด        ไม่กำหนดยึดถือในสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดว่าเป็นของเที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นสุข  เป็นอัตตา   คือ เป็นตัวของเราของเรา    แต่ทั้งหมดเป็นของไม่เที่ยง  เป็นทุกข์ ต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไป ตั้งอยู่คงที่ไม่ใด้  เป็นอนัตตา ไม่ใช่อัตตาตัวตน      และเมื่อพิจารณาจนใด้ปัญญาในไตรลักษณ์ดั่งนี้จึงไม่มีนิมิต  คือไม่มีความยึดถือของจิตที่กำหนดในอะไรๆทั้งสิ้น ว่าเที่ยง เป็นสุข เป็นอัตตาตัวตน ดั่งนี้เป็นอนิมิตเจโตสมาธิ           อนึ่ง   ก็อาจพิจารณาใด้อีกว่า  อนิมิตเจโตสมาธินั้น  สูงกว่าขั้นที่กำหนดในสัญญาอย่างละเอียด เป็นสัญญาที่กำหนดในความไม่มี  น้อยหนึ่งนิดหนึ่งก็ไม่มี ซึ่งเป็นตัวสัญญาเหมือนกัน  ละเอียดจนถึงว่าไม่ถนัดที่จะเรียกว่ามีสัญญา  แต่ก็ไม่อาจจะเรียกใด้ว่าไม่มีสัญญา เพราะมีเหมือนกัน      ซึ่งในขั้นอนิมิตนี้ก็เป็นอันว่า    เลิกสัญญากันทั้งหมด   จิตเข้าสู่ธรรมชาติของจิต   คือเป็น วิญญาณธาตุ ธาตุรู้  เป็นอภัสรธาตุ คือธาตุที่ผ่องใส   ทั้งสองนี้เป็นธรรมชาติของจิต  รู้และผ่องใส          ในขั้นอนิมิตเจโตสมาธินี้  จิตจึงตั้งสงบอยู่ภายใน ประกอบด้วยความรู้ความผ่องใส   ไม่ออกมากำหนดอะไรๆทั้งหมด    หยุดสงบอยู่ในภายในจึงไม่มีสัญญาในอะไรๆทั้งหมด  ตั้งสงบอยู่ในภายในแต่ว่า รู้    รู้และผ่องใส   ..."     คัดลอกจาก  pagoda.or.th.   ( 03) สุญญต 3 ( อนิมิตเจโตสมาธิ นิพพาน )        ท่านใดมีความสนใจในธรรมบรรยายที่ครบถ้วน ศึกษาต่อใด้ใน เพจ ที่ใด้คัดลอกมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่