ชีล่า พนักงานธนาคารสาวใหญ่ที่เพิ่งหย่าร้าง เธออาศัยอยู่กับวินซ์ ลูกชายวัยรุ่นของเธอ..
ชีล่า มักถูกเจ้านายตำหนิบ่อยครั้งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในที่ทำงาน ..
ความเครียดหลายอย่างประดังเข้ามาทั้งเรื่องลูก เรื่องงาน ไหนจะความเหงาที่ไม่มีคนข้างกายคอยให้คำปรึกษา
ซึ่งชีล่า ก็นัดเดทหลายหนจากการหาคู่ในหน้า นสพ.แต่ก็เจอแต่คนประหลาดๆทั้งนั้น...
และแล้ววันนึง ชีล่า เห็นโฆษณาร้านขายเสื้อเปิดใหม่ในเมืองกำลัง sale กระหน่ำ (ทั้งๆที่ไม่ใช่ summer เล่นอะไรเนี่ย..)
ชีล่าเลยตัดสินใจกำตังค์ที่มี กะจะไป Shopping ให้ปลอดโปร่งโล่งใจสักหน่อย...
เมื่อไปที่ร้าน..ชีล่า สะดุดตาเข้ากับชุดเดรสสีแดง ตัวที่ทางร้านโชว์เข้าอย่างจัง และเหมือนมีมนต์สะกดทั้งจากบรรยากาศในร้าน
รวมถึง มิสลัคมัวร์ คนขายที่มากล่อมประสาทเธอ (ด้วยรูปประโยคที่ชวนพิศวงอย่างยิ่ง)..จนเธอเคลิ้มและในที่สุด ชีล่าก็ซื้อเสื้อตัวนี้มาจนได้....
และเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นกับเธอ.....
ปีเตอร์ สตริคแลนด์ ผู้กำกับที่เขียนบทเรื่องนี้เองด้วยนั้น เผยถึงแรงบันดาลใจว่ามาจากตอนที่เขายังเป็นเด็ก
และมีโอกาสได้เข้าร้านขายเสื้อผ้ามือสอง.. ที่มาที่ไปของพวกมันนั้นจะเป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าของเดิม..
นั่นคือจุดเริ่มต้นให้ชุดแดงแผลงฤทธิ์ซะเลย ...
งานภาพนำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ถูกเซตให้เป็นบรรยากาศของยุค 80 ทั้งซาวน์ บรรยากาศ และแฟชั่นจึงมีเสน่ห์
น่าค้นหา และดูลึกลับไปในตัว ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบซาวน์ของยุคนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงมีเสน่ห์ของความย้อนยุคเต็มไปหมด..
แค่ซาวน์โฆษณาร้านเสื้อนี่ก็สะกดคนดูให้แบบ รักตรู หลงตรู ..ไม่ใช่ล่ะ.. คือชวนให้มาซื้อกันนะ
แล้วมันก็ได้ผลเพราะในหนังทุกคนแห่ไปที่ร้านนี้กันจนร้านแทบแตก...
ส่วนนักแสดงคนเดียวที่ผมเทใจให้ และน่าจะเป็นคนที่ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ได้ก็คือ
Fatma Mohamed หนังแสดงหญิงชาวโรมาเนียในบทมิสลัคมัวร์ (นักแสดงขาประจำของสตริคแลนด์ กำกับมาแล้ว 6 เรื่อง มีเธอคนนี้เล่นด้วยทุกเรื่อง) พนักงานขายที่ดูลึกลับไปหมด คือเมื่อเธอโผล่เข้าฉากมาเมื่อไหร่ เรียกว่าละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย
In Fabric เป็นหนังที่สะกดจิตคนดูอย่างเราๆท่านๆได้ครับ ความหลงใหลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้กำหนดให้คือเสื้อผ้า
ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเป็นคือแบบ เห้ย อยากได้อ่ะ.. ทำไงดี เราจะคิดถึงมันทุกขณะจิต และวิธีที่จะกำจัดมันออกไปได้ ก็คือไปซื้อมันมา..
พอได้มาแล้วก็โอเคสบายใจล่ะ หลังจากนั้นจะเก็บหรือใช้ทำอะไรต่อก็สุดแท้แต่.. หากแต่หนังเรื่องนี้มันหลอนดีจริงๆ
นับจากนี้เวลาจะซื้อเสื้อตัวไหนก็ดูดีดีก่อนนะครับ เพราะคุณอาจจะได้ของแถมมาโดยไม่รู้ตัว.. ก็.. เป็น..ด้าย.. เป็น.. เข็ม... เป็น... (พอเหอะ...)
ตรวจสอบเสื้อผ้าในตู้คุณให้ดี เพราะวันดีคืนดี มันอาจมาลอยอยู่เหนือหัวคุณ.......
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== In Fabric (2018) ..มันสิงอยู่ใน..ผ้า..!!! ==
ชีล่า พนักงานธนาคารสาวใหญ่ที่เพิ่งหย่าร้าง เธออาศัยอยู่กับวินซ์ ลูกชายวัยรุ่นของเธอ..
ชีล่า มักถูกเจ้านายตำหนิบ่อยครั้งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในที่ทำงาน ..
ความเครียดหลายอย่างประดังเข้ามาทั้งเรื่องลูก เรื่องงาน ไหนจะความเหงาที่ไม่มีคนข้างกายคอยให้คำปรึกษา
ซึ่งชีล่า ก็นัดเดทหลายหนจากการหาคู่ในหน้า นสพ.แต่ก็เจอแต่คนประหลาดๆทั้งนั้น...
และแล้ววันนึง ชีล่า เห็นโฆษณาร้านขายเสื้อเปิดใหม่ในเมืองกำลัง sale กระหน่ำ (ทั้งๆที่ไม่ใช่ summer เล่นอะไรเนี่ย..)
ชีล่าเลยตัดสินใจกำตังค์ที่มี กะจะไป Shopping ให้ปลอดโปร่งโล่งใจสักหน่อย...
เมื่อไปที่ร้าน..ชีล่า สะดุดตาเข้ากับชุดเดรสสีแดง ตัวที่ทางร้านโชว์เข้าอย่างจัง และเหมือนมีมนต์สะกดทั้งจากบรรยากาศในร้าน
รวมถึง มิสลัคมัวร์ คนขายที่มากล่อมประสาทเธอ (ด้วยรูปประโยคที่ชวนพิศวงอย่างยิ่ง)..จนเธอเคลิ้มและในที่สุด ชีล่าก็ซื้อเสื้อตัวนี้มาจนได้....
และเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นกับเธอ.....
ปีเตอร์ สตริคแลนด์ ผู้กำกับที่เขียนบทเรื่องนี้เองด้วยนั้น เผยถึงแรงบันดาลใจว่ามาจากตอนที่เขายังเป็นเด็ก
และมีโอกาสได้เข้าร้านขายเสื้อผ้ามือสอง.. ที่มาที่ไปของพวกมันนั้นจะเป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าของเดิม..
นั่นคือจุดเริ่มต้นให้ชุดแดงแผลงฤทธิ์ซะเลย ...
งานภาพนำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ถูกเซตให้เป็นบรรยากาศของยุค 80 ทั้งซาวน์ บรรยากาศ และแฟชั่นจึงมีเสน่ห์
น่าค้นหา และดูลึกลับไปในตัว ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบซาวน์ของยุคนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงมีเสน่ห์ของความย้อนยุคเต็มไปหมด..
แค่ซาวน์โฆษณาร้านเสื้อนี่ก็สะกดคนดูให้แบบ รักตรู หลงตรู ..ไม่ใช่ล่ะ.. คือชวนให้มาซื้อกันนะ
แล้วมันก็ได้ผลเพราะในหนังทุกคนแห่ไปที่ร้านนี้กันจนร้านแทบแตก...
ส่วนนักแสดงคนเดียวที่ผมเทใจให้ และน่าจะเป็นคนที่ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ได้ก็คือ
Fatma Mohamed หนังแสดงหญิงชาวโรมาเนียในบทมิสลัคมัวร์ (นักแสดงขาประจำของสตริคแลนด์ กำกับมาแล้ว 6 เรื่อง มีเธอคนนี้เล่นด้วยทุกเรื่อง) พนักงานขายที่ดูลึกลับไปหมด คือเมื่อเธอโผล่เข้าฉากมาเมื่อไหร่ เรียกว่าละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย
In Fabric เป็นหนังที่สะกดจิตคนดูอย่างเราๆท่านๆได้ครับ ความหลงใหลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้กำหนดให้คือเสื้อผ้า
ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเป็นคือแบบ เห้ย อยากได้อ่ะ.. ทำไงดี เราจะคิดถึงมันทุกขณะจิต และวิธีที่จะกำจัดมันออกไปได้ ก็คือไปซื้อมันมา..
พอได้มาแล้วก็โอเคสบายใจล่ะ หลังจากนั้นจะเก็บหรือใช้ทำอะไรต่อก็สุดแท้แต่.. หากแต่หนังเรื่องนี้มันหลอนดีจริงๆ
นับจากนี้เวลาจะซื้อเสื้อตัวไหนก็ดูดีดีก่อนนะครับ เพราะคุณอาจจะได้ของแถมมาโดยไม่รู้ตัว.. ก็.. เป็น..ด้าย.. เป็น.. เข็ม... เป็น... (พอเหอะ...)
ตรวจสอบเสื้อผ้าในตู้คุณให้ดี เพราะวันดีคืนดี มันอาจมาลอยอยู่เหนือหัวคุณ.......
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===