ประสบการณ์มีลูกยาก ท้องนอกมดลูก ผ่านอกมดลูก ตั้งครรภ์ได้ไหม รกเกาะต่ำ ศิริราช

บันทึกของฉัน : ฉบับพิเศษ

ปี2558 ท้องนอกมดลูก โดนผ่าท่อนำไข่ไป1ข้าง เหลือท่อนำไข่ข้างเดียวโอกาสก็น้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นแล้วครึ่งหนึ่งและคุณภาพรังไข่ก็เริ่มเสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น โอกาสที่จะมีลูกก็น้อยลงไปอีก หลังแต่งงาน ความหวังที่จะมีลูกก็ริบหรี่ แต่ก็ยังก็ตั้งใจมีลูกมาตลอด หาทั้งหมอจีน หมอไทย นับวันไข่ตก กินยาบำรุงร่างกาย วิตามิน ทำวิธีทางการแพทย์ตั้งแต่แบบง่ายๆ iui ไปจนถึง icsi (เก็บไข่ผสมตัวอ่อนและฉีดเข้ามดลูก) หมดไปหลายแสน ทั้งพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หาหมอดู ไหว้พระมาหลายวัด ขอพรเทพเจ้าทั้งหลาย ที่ไหนที่ว่าดีก็อยากจะไป ตำราไหนที่ว่าแน่ก็ทำทุกวิถีทางเพราะอยากมีลูกมาก ประจำเดือนเลื่อนนิดหน่อยก็แอบดีใจ ตรวจครรภ์ตรวจแล้วตรวจอีก ตรวจแล้วก็ขึ้น1ขีดตลอด วนลูปแบบนี้เหมือนเดจาวู พอติดจริงๆก็หลุด ผิดหวังซ้ำๆจนเริ่มปลงแล้วว่าชาตินี้คงไม่มีลูกเหมือนคนอื่นเขาแน่ๆแล้ว อีกอย่างช่วงกลางปี63 ช่วงนั้นโควิดกำลังระบาดหนัก มีน้องสาวคลอดลูกและได้ช่วยเลี้ยงอยู่บ้าง ไปๆมาๆก็ได้ช่วยเลี้ยงหลานถาวรเลย เพราะแม่เค้าต้องทำงาน เรียกได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของเค้าเลย

หม่ามี้ของเด็กชายปกป้อง
การเป็นหม่ามี้ครั้งแรก ใจหนึ่งก็แอบคิดว่า เลี้ยงเด็กคนนึงมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ก็เลยอยากจะทุ่มเทเวลาให้ปกป้องแบบเต็มที่ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข เลี้ยงปกป้องก็แทบจะเหมือนเลี้ยงลูกตัวเองแล้วแหละ เพราะพ่อแม่ของปกป้องให้สิทธิ์ในการสั่งสอนและตัดสินใจแทบจะทุกอย่าง ก็เลยเลิกหวังเรื่องมีลูกเองแบบจริงจัง อาจจะมีความแอบเสียดายนิดๆว่าร่างกายยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแม่ตามกลไกธรรมชาติของมนุษย์เพศเราให้สมบูรณ์เท่านั้น (ไม่ได้บูลลี่นะไม่ต้องด่าว่าทำไมต้องมีลูกถึงเรียกว่าสมบูรณ์แบบหรือคนไม่มีลูกมันผิดตรงไหน คือไม่มีผิดไม่มีถูก ความคิดเราคือแค่นึกเสียดายแค่นั้นเอง) ช่วงปลายปี63 ตัดสินใจคุยกับสามีว่าเราเลิกล้มความตั้งใจที่จะมีลูกกันเนอะ พอแล้ว ทำใจได้แล้ว เก็บตังไปเที่ยวรอบโลกกัน

พฤษภาคม 2564 
ครอบครัวเราขยับขยาย ย้ายจากคอนโดมาอยู่บ้านใหม่ มีพื้นที่มากขึ้น เวลามากขึ้น ไปไหนไม่ค่อยได้อยู่แล้วเพราะโควิดระบาด ช่วงเวลานี้ทั้งหมดทุ่มไปกับการเลี้ยงปกป้อง ถึงจะต้องตื่นกลางดึกมาป้อนนมลูกหรือตื่นเช้าขึ้นตามลูกเวลาส่วนตัวน้อยลงแต่แลกกับการเติบโตของปกป้องไปในแต่ละวันมันก็คุ้ม ชีวิตดำเนินไปแบบนี้เริ่มเข้าที่เข้าทาง มีความสุขตามประสาคนเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก ส่วนสามีก็โชคดียังมีงานทำตลอด โชคดีมากจริงๆเพราะช่วงโควิดรู้ๆกันอยู่ว่าคนตกงานกันเยอะมาก

3 ตุลาคม 2564
ประจำเดือนเลื่อนมา 1 อาทิตย์กว่าๆ คิดอยู่แล้วว่าน่าจะมาช้าเหมือนบางรอบที่เคยเป็น แต่ญาติๆบอกให้ลองตรวจดูก็กะว่าจะตรวจเล่นๆ คิดว่ายังไงก็ขึ้นขีดเดียวแน่ๆ เมื่อวาน(วันที่2)ก็ยังไปเดินตลาดโรงเกลืออยู่เลย เดินอยู่4ชม. สมบุกสมบันมาก แอบคิดเล่นๆว่าถ้าท้องจริงคงหลุดไปแล้วแหละเดินเยอะขนาดนี้ แค่คิดเล่นๆนะเพราะยังไงก็คงจะไม่ท้อง

เข้าห้องน้ำ..และแล้ว ตรวจเสร็จ ผลออกมา น้ำตามันเอ่อ จุกที่อกแบบทั้งดีใจทั้งกังวล ใจเต้นแทบหลุด ร้องลั่นห้องน้ำเลย เดินออกมาแล้วเรียกหาพี่ต้น ทุกคนที่รอลุ้นอยู่ข้างนอกก็ถามว่าเป็นอะไร แกล้งอะดิ แกล้งใช่มั้ย พอบอกทุกคนว่าท้อง ญาติๆดีใจกันมาก แบบว่าเหมือนก็รอลุ้นกันมานาน แต่อีกใจตอนนั้นก็ไม่กล้าคิดว่าครรภ์นี้จะสมหวังเพราะที่ผ่านมาก็มีเหตุให้การตั้งครรภ์ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ก็กึ่งรับกึ่งสู้ว่า ถ้าติดจริงๆก็คงดีใจมาก แต่ก็ไม่กล้าดีใจมากเพราะเคยผิดหวังมามาก เห้อ งงมั้ย555

หลังจากนี้จะเป็นความรู้สึกที่ว่า ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อยากมีแล้วนั่นแหละ แต่ทำไงได้ ตอนนี้เค้ามาด้วยวิธีธรรมชาติ ในแบบที่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะสามารถติดได้ เพราะลองทุกวิถีทางแล้วจริงๆ ในเมื่อเค้ามาแล้วเราก็อยากดูแลรักษาเค้าไว้ให้นานที่สุด ซึ่งถ้าหลุดไปอีกก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าการตั้งครรภ์นี้สำเร็จไปจนถึงคลอด ก็คงจะดีมากเหมือนกัน ก็ดีใจแบบปนๆทำใจไปด้วย มันสองจิตสองใจ กว่าจะถึงตอนนั้นก็คงคอยต้องลุ้นกันไปอีกทุกเดือน เอาเป็นว่าต่อจากตรงนี้ก็จะขอลุ้นให้สำเร็จละกัน

ภายในบ่ายวันนั้นรีบไปอัลตราซาวด์ที่รพ.นนทเวช รอบที่3ที่ไปซาวด์ที่นี่ 2ครั้งที่แล้ว(ปี58และปี62) ไม่เคยเจอเด็กในครรภ์ซักครั้ง (ไม่ได้เป็นความผิดของโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกครั้งก็เกิดจากครรภ์เราที่ผิดปกติเอง) ครั้งแรกได้ยินเสียงหัวใจเต้นแล้วนะแต่ท้องนอกมดลูกไปผ่าตัดออกที่ศิริราช ครั้งที่2ติดและฝ่อหลุดไปเอง ไม่ต้องขูดมดลูก ซึ่งหวังว่าครั้งนี้จะมีปาฏิหาริย์ แต่ก็ไม่อยากหวังมากตามเคย..

ในห้องอัลตราซาวด์..
คุณหมอทำหน้าเคร่งเครียด
เอาอีกแล้ว เหตุการณ์เดิมผุดขึ้นมาอีกแล้ว
“ในมดลูกมีเลือดออกมาก และไม่เจอขนาดของถุงตั้งครรภ์ตามเกณฑ์ที่ควรจะเป็น”
อืม..มาให้ดีใจเล่นอีกแล้วนะ คงจะหลุดไปแล้วสินะ
แต่คุณหมอก็ให้เจาะเลือดดูค่าของการตั้งครรภ์ไว้
วันนี้ค่าเลือด hcg เป็น ..
ภายใน48ชม. คุณหมอให้มาตรวจอีก

ตอนนี้ความน่าจะเป็น มี3กรณี
ถ้าค่าhcg ขึ้น++ ก็ยังพอมีหวังว่าท้อง ซึ่งแบ่งเป็น2กรณี คือ 1.มีสิทธิ์จะท้องนอกมดลูกอีกได้ เนื่องจากเคยมีประวัติมาก่อน ซึ่งถ้าท้องนอกมดลูกอีกรอบ ก็หมดสิทธิ์ท้องธรรมชาติซึ่งแน่นอนว่าถ้าเปลี่ยนใจอยากจะมีแบบจริงจังก็คงต้องพึ่งแพทย์เท่านั้น ก็ตัดใจไป คงไม่มีแล้วแน่ๆ
กับ 2.คือก็ลุ้นว่าอยู่ในมดลูกนั่นแหละแค่ยังมองไม่เห็น ถุงตั้งครรภ์อาจจะยังเล็กกว่าปกติก็ได้

แต่ถ้าค่า hcg ลดลง—ก็จะเป็น
กรณีที่3. คือท้อง แต่หลุดไปแล้ว นั่นเอง

ซึ่งใช่ค่ะ ดิฉันขอเชื่อว่าหลุดดีกว่าเพื่อความสบายใจ ไม่คาดหวัง เพราะหลักฐานคือมีเลือดออกในมดลูกเช่นนั้น ก็คงจะไปแน่นอนแล้ว

อีก3วัน ต่อมา..6 ตุลาคม 2564
นัดหมายพบคุณหมอ สองจิตสองใจว่าถ้าหลุดแล้วจะไปทำไมอะเนอะ โรงพยาบาลก็เชื้อโรคเยอะเปล่าๆ ไปก็ไม่ได้อะไร ที่บ้านมีเด็กเล็กด้วย สามีบอกให้ลองตรวจดูเพื่อความแน่ใจอีกทีเผื่อหลุดแล้วขีดที่สองคงจะจางลง แล้วก็เป็นไปตามคาด จางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สามีก็เปลี่ยนใจ เอาน่า ไปตรวจกับคุณหมอให้เรียบร้อยจะได้เช็คมดลูกด้วย ถ้าหลุดแท้งจริงๆแล้วหลุดหมดมั้ย ต้องขูดมดลูกมั้ย ไปถามดูให้แน่ใจ รักษาให้จบขั้นตอน จะได้สบายใจ
โอเค เพื่อความสบายใจของสามี และเพื่อร่างกายของเราก็ไปตามนัดซะหน่อย แบบสมองโล่งๆเลย อ่า..คนไข้นัดเจาะเลือด..รอผล..ระหว่างรอ (ค่าhcgลดลงแน่ๆ..ฉันคิด) ผลออก ปรากฎว่าค่า hcg ขึ้นจ้า โอ้ย แม่จะร้องแล้วนะ เธอมาทำให้ฉันมีความหวังแล้วก็หายไป แล้วเธอก็มาอีก ลีลา เล่นตัวนักนะต้าวก้อน ช่วงนี้เป็นช่วงหัวใจจะวาย มันตุ้มๆต่อมๆ ทั้งไม่อยากหวังมาก ดีใจก็ไม่สุด เสียใจหรือ ก็ยังไม่ถึงขึ้นนั้น จะยังไงก็ไม่ชัดซักทาง

พูดถึงตอนอยู่บ้านก็เป็นหมอปราชญ์ชาวบ้าน โอ้โหฟันธงว่าตัวเองท้องแล้วแท้งเองเสร็จสรรพ ดีนะสามีท้วงให้มาเช็คซักหน่อย ขีดในที่ตรวจครรภ์ก็จางลงด้วยไงประเด็น เกือบไม่ได้มาโรงพยาบาลแล้วมั้ยล่ะ อะกลับเข้าเรื่องต่อ ทีนี้ผลคือท้องแน่นวล แต่ว่าอยู่ในมดลูกไหมก็ต้องมาลุ้นกัน ในห้องอัลตราซาวด์อีกที

รอบนี้ โอ้ พระเจ้า ~มาเล่นให้ใจฉันเต้นแบบนี้ ฉันว่าเธอก็มีอาการใช่ไหม~ อ่ากลับมาต่อๆ เริ่มเจอก้อนอะไรบางอย่างในมดลูกแต่ก็ไม่แน่ใจอีกว่าใช่ถุงตั้งครรภ์ไหม เหมือนจะมีเสียงหัวใจเต้น แต่ก็ไม่ชัดขนาดนั้น อาจจะมาจากนอกมดลูกก็ได้ หลายคำถามยังไม่ได้รับคำตอบแน่ชัด สรุปก็ยังต้องรอลุ้นอยู่ดีว่านอกหรือในมดลูก แต่อาจารย์หมอฟันธงว่า90% น่าจะท้องในมดลูกปกตินะ ก็10%อะที่มันก็เป็นไปได้ว่าไม่ปกติ ดิฉันเลยยังเชื่อใน10%ว่า ฉันคงเป็นผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังอยู่ร่ำไป พอแล้ว! 555มาพิมตอนนี้มันก็ตลกดีอะนะ นึกย้อนไปวันนั้นดิ ตลกไม่ออกเลย เอาล่ะ ขอคิดแบบไม่คาดหวังก่อนก็คือท้องนอกมดลูกแหละ (รอบนี้คุณหมอฉีดยากันแท้งให้ด้วย) อีก 1 อาทิตย์มาดูผลกันใหม่

กลับบ้านไปบางทีจิตใจว้าวุ่น ดีใจยังไม่ได้ เสียใจก็ยังไม่ได้อีก งงนะ จะรู้สึกอะไรชัดๆก็ยังไม่ได้ เรื่องบอกคนอื่นลืมไปได้เลย เพราะถ้าท้องจริง3เดือนคงค่อยบอก แถมปัญหาเยอะแต่แรกขนาดนี้3เดือนยังลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะบอกได้มั้ย ท้องนี้มันจะสำเร็จจริงมั้ย ถ้าบอกคนอื่นไปแล้วหลุด กลัวดราม่า ไม่อยากให้คนมาสงสารหรือเห็นใจอะ แต่ถ้ามันจะเป็นแบบนั้นก็คงเลี่ยงไม่ได้ คือกังวลไปหมด ดีที่มีปกป้องอยู่พอคิดมากเห็นหน้าลูกก็ลืมคิดได้บ้าง เลี้ยงลูกไปคิดไปแปบๆก็หมดวันแล้ว ขนาดคิดแปบๆนะเนี่ย ถ้าคิดนานๆจะขนาดไหน555+++ 

แผนแรก..ไปบอกญาติที่อยู่ด้วยกันก่อนว่า ที่ตรวจว่าท้องวันนั้น หลุดไปแล้วนะ ไม่ได้ท้องแล้ว จะได้ไม่ต้องมีคนคาดหวังเพิ่ม ลุ้นกันไปกับสามีจนครบ3เดือนก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะถึงรึป่าวด้วยอะนะ

วันนัดครั้งต่อมา..13 ตุลาคม 2564
ครั้งนี้เหมือนอะไรๆจะชัดเจนขึ้น
เจอถุงตั้งครรภ์ชัดเจน เสียงหัวใจเต้นชัดเจน
10วันที่ใจจดใจจ่อ ว่าท้องแน่มั้ย..ท้องแน่
ท้องปกติมั้ย..ปกติแน่..แต่ยังไม่100%
ยังมีลิ่มเลือดออกอยู่บ้าง ต้องฉีดยากันแท้งไปก่อนทุกอาทิตย์ อย่างน้อยอีก 10 ครั้ง
ต้องตรวจโครโมโซมอีกว่าครบ32มั้ย
ถ้ามีความเสี่ยงเหล่านี้ ก็คงต้องเอาออก
ส่วนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ได้ทั้งนั้นแหละ
ไม่สนว่าเพศอะไรแล้ว ขอแค่ครบ32 สมบูรณ์แข็งแรงปลอดภัยเป็นพอ

ต่อจากนี้คุณหมอขอให้ใช้ชีวิตระมัดระวังเยอะขึ้น ความเสี่ยงแท้งมากกว่าแม่ท้องปกติ ยกของหนักไม่ได้ เดินเยอะๆนานๆไม่ได้ โยคะหรือออกกำลังกายเบาๆก็ยังไม่ได้ ฉะนั้นวิ่งหรือเล่นกีฬาอย่าหวัง ที่เคยคิดว่าจะเป็นคุณแม่สายเฮ้ลตี้ลีนๆ ออกกำลังเบาๆจะได้คลอดง่ายเหมือนแม่ท้องคนอื่น โนค่ะ หมดสิทธิ์ค่ะ

หลังจากนั้นก็ติดตามอาการตามนัดหมายทุกอาทิตย์ ฉีดยากันแท้งทุกอาทิตย์ ก็มีความหวังพร้อมความกังวลขึ้นเรื่อยๆ เริ่มหวงชีวิตอิสระเหมือนกันนะ พอเอาเข้าจริงๆการมีลูกคือแทบจะต้องให้เวลากับลูกทั้งหมด เวลาส่วนตัวน้อยลงแน่ๆ อยากจะไปเที่ยวตามใจ ไปกินข้าวนอกบ้าน ไปกินอาหารบุฟเฟต์คงหลัง2ขวบ เลี้ยงปกป้องเวลาเราต้องไปทำธุระก็ยังมีพ่อแม่เค้ามาคอยสลับช่วยดูได้ แต่ลูกตัวเองให้คนอื่นดูไม่ได้แล้วนะ อีกอย่างก็ห่วงลูก ต้องเกิดมาในช่วงนี้ทั้งฝุ่น2.5pmอากาศที่ย่ำแย่ ไหนจะโรคระบาดร้ายแรง ไหนจะสังคมที่เราก็หวาดระแวงกับข่าวร้ายที่เกิดกับเด็กในแต่ละวัน ไปไหนก็ยังคอยบอกใครๆว่าไม่มีลูกก็ดีอยู่เลย เห้อ คือเหมือนจะเป็นไบโพล่าแล้วนะ มีลูกดีมั้ย หรือไม่ดี หรือยังไง เอาไงดี จะเลี้ยงไหวมั้ย ปกป้องกำลังจะโตแล้วนะ เดี๋ยวสบายแล้วนะ ต้องเลี้ยงลูกตัวเองอีกหรอ เคยเห็นน้องสาวเลี้ยงปกป้องตอนเป็นทารกแทบจะไม่ได้นอนเลย เอาล่ะ ช่วงนี้ความอยากให้การตั้งท้องนี้ต้องรอดกับความคิดที่ว่าหลุดไปก็ดี คอยตีกันอยู่เป็นระยะ..ระยะ

ระหว่างนั้นการไปหาหมอแต่ละครั้งก็ทุลักทุเลพอสมควร ทำอะไรระมัดระวังขึ้นไม่ทำกิจวัตรที่หนักหน่วงบางอย่างที่เคยทำได้ แล้วก็บอกตรงๆไม่ได้ด้วย บอกใครไม่ได้ว่ามาฝากท้อง จะให้มาช่วยดูปกป้องให้ก็ไม่ได้ ต้องกระเตงกันมาทั้งแม่ท้อง สามีและปกป้อง ดีที่ว่าข้างโรงพยาบาลมีห้างอยู่ติดกัน เลยมีที่ให้พ่อลูกเค้าเดินเล่นรอ มีที่ให้กินข้าวบางวันบางวันก็รีบตรวจรีบกลับบ้าน

และแล้ว วันที่คุณหมอแจ้งว่า ครั้งหน้าไม่ต้องฉีดยากันแท้งแล้ว ก็มาถึง สบายใจไปอีกขั้นตอน ทั้งหมดคือฉีด9เข็ม ลดจำนวนจากที่เคยแจ้งตามความแข็งแรงของครรภ์ ต่อไปคือนัดตรวจโครโมโซม และสามารถรู้เพศของลูกในท้องได้เลยด้วย มีความแม่นยำสูง 99.99% (และราคาก็สูงด้วยปัดโถ่!) แอบถามหมอว่าแล้ว0.01%ที่ผลผิดพลาด ตรวจดูปกติดีแต่คลอดออกมาลูกผิดปกติจะทำยังไง บริษัทที่ทำแล็บนี้เค้าจะคืนเงิน พูดแค่นี้อะ ตอนนั้นก็ลืมถามต่อว่า เอ่อแล้วจะไม่รีบผิดชอบชีวิตเด็กเลยหรอ อันนี้ข้ามไปก่อนนะ ถ้าใครมีความรู้ช่วยบอกหน่อย

มาถึงตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าทำไมพิมพ์ยาวจัง นี่ยังท้องไม่ถึง12วีคเลยนะ ใครที่อยากรู้แต่ก็ขี้เกียจอ่านขออภัยจริงๆ มันไม่สามารถเขียนให้จบแบบกระชับสั้นๆได้ เพราะอยากลงรายละเอียด ความรู้สึกตอนนั้นชัดๆ นึกออกบ้าง ไม่ออกบ้างเพราะมันก็เกือบ2ปีแล้ว อยากจะบันทึกไว้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยนะ เผื่อจะช่วยให้คนที่มีลูกยากพอมีความหวังขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย พิมพ์จากไอโฟนก็จะยากๆหน่อย เดี๋ยวมาอัพเดทต่อนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่