เทียบรองพื้น full coverage ตัวดัง 5 ตัว
ทุกตัวในนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์ทุกตัว เปย์เองค่ะ
ห้ามเทียบสีนะคะ เพราะหยิบสีบ้งหลายอันค่ะ
เรื่องการติดทน ในนี้ทุกตัวเป็น long wear หมด จึงไม่เคลมอะไรให้นะคะ ต้องไปลองเอง เพราะขึ้นอยู่กับกิจวัตรและการบำรุงค่ะ
1. KVD
เนื้อ : เนื้อเหลวไม่ถึงกับน้ำ แต่มีความเป็นน้ำอยู่ แตะปุ้บไปเลย
ส่วนผสม : ไม่มีน้ำหอม ไม่มีกลิ่นใดๆ ไม่มี essential oil/oil เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย เซ็ตไว อย่าแตะทิ้งไว้ เซ็ตตัวไว
Coverage เทียบจากทั้งหมดในนี้ที่เป็น full coverage : ok ใช้ได้ 3/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์หรือสิวบนผิวไม่ชัดเท่าตัวอื่น 5/5
สี : ดรอป 0.5-1 เฉด สีเลือกยากอยู่น้า ในนี้ light 008 ห้ามเอาไปเทียบนะคะ เพราะในนี้สีไม่ตรงหลายอันค่ะ
ข้อดี เกลี่ยง่าย ส่วนผสมดีมาก ปกปิดใช้ได้เลย ฟินนิชดูสวย ผิวดูไม่แก่ เพราะไม่เห็นเทกซเจอร์ ผิวไม่แห้ง รูขุมขนโอเค
ข้อเสีย สีเลือกยาก รูขุมขนโอเคเลย ไม่ทำให้เบิกบาน
2. Lancome 2023
เนื้อ : เหลว เกลี่ยง่าย
ส่วนผสม : ไม่มีน้ำหอม ไม่มีกลิ่นใดๆ ไม่มี essential oil/oil เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่มี alcohol denat ผิวขาดน้ำต้องบำรุง
การเกลี่ย : ง่าย เซ็ตไว ห้ามแตะแล้วทิ้งไว้ เซ็ตตัวไวมาก
Coverage เทียบจากทั้งหมดในนี้ที่เป็น full coverage : ok ใช้ได้ 3/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์ผิวชัดหน่อยแต่ไม่มาก 3/5
สี : เลือกยาก ติดเหลืองซะเยอะ ดรอป 1-1.5 เฉด
ข้อดี แห้งไว เกลี่ยง่าย ส่วนผสมดี ปกปิดดี ผิวไม่แห้งมาก แต่มีแห้งบริเวณรอบดวงตา รูขุมขนโอเค
ข้อเสีย ผิวแอบเห็นเทกซเจอร์ แต่คนเป็นสิวเยอะๆก็ยังไหวอยู่ สีเลือกยาก รูขุมขนต้องรอให้น้ำมันบนผิวออกมาหน่อยถึงจะดูดีขึ้น
3. Lancome เก่า (ไม่แน่ใจปีเพราะได้มาเป็นเทสเตอร์)
เนื้อ : เหลวมากกว่าทั้งสองตัวบน แตะปุ้บไปเลย
ส่วนผสม : n/a ไม่ทราบรุ่นค่ะ
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย แตะปุ้บไปเลย
Coverage : ok เทียบหมดนี้ 2/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์ผิวเห็นอยู่
สี : n/a แต่ดรอปค่ะ ไม่แน่ใจเรื่องสี
ข้อดี เซ็ตตัวไว้แต่ก็ยังมีเวลาแตะเกลี่ยได้อยู่ ปกปิดใช้ได้
ข้อเสีย n/a
4. YSL All Hours Reformulated 2022
เนื้อ : เหลว เกลี่ยง่าย น้ำๆเลยอันนี้ ไหลไปตามมือ
ส่วนผสม : มีน้ำหอมและแรงมาก
การเกลี่ย : เกลี่ยง่ายแต่เซ็ตตัวไวมากกกกกก เกลี่ยไวๆเลย
Coverage : ปกปิดดีสุด 4/5
ฟินนิช : แมทท์ตึ้บ
เทกซเจอร์ผิวชัด
สี : ติดเหลือง ดรอป 1-2 เฉด
ข้อดี เซ็ตตัวไวมาก เกลี่ยง่าย ให้ทำทีละจุด ปกปิดใช้ได้
ข้อเสีย แอบแห้งกรอบอยู่ตัวนี้ หน้าเป็นกระดาษนิดนึง รูขุมขนชัดอยู่ เทกซเจอร์ผิวชัดหน่อย
5. Dior Forever Matte 2022
เนื้อ : ครีมมี่สุดแล้ว เนื้อดี
ส่วนผสม : มีน้ำหอมแต่ไม่แรง มีแอลกอฮอล์
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย ทำให้ไว เซ็ตตัวไวเหมือนกัน
Coverage : 3/5 ปกปิดโอเคเลย
ฟินนิช : ยังมีความหนึบผิวอยู่หลังเซ็ตตัว
เทกซเจอร์ผิวทำได้ดีเกือบเท่า KVD 4/5
สี : เลือกยากอีกเหมือนกัน ดรอป 1 เฉด
ข้อดี ผิวไม่แห้งเลย หน้าไม่กระดาษ ยังชุ่มชื้นอยู่ ผิวก็ยังดูโอเค
ข้อเสีย เซ็ตตัวช้าสุด หลังเซ็ตตัวมีความหนึบเล็กน้อย รูขุมขนดูดีเลย
สรุปว่าถ้าให้เรียงตามที่ชอบ
KVD ทำได้ดีในหลายแง่มุม ทั้งสูตร เนื้อสัมผัส การเกลี่ยง่าย เทกซเจอร์ผิวที่เราคอนเซินสุดเพราะมีรูขุมและสิว แถมรอยสิวเยอะอีก ไม่ตึงหน้าด้วย เลยชนะไป
Lancome 2023 จะชนะแล้วถ้าผิวไม่ดูเทกซเจอร์ชัด มันเน้นสิวที่นูนจากผิวขึ้นมาให้เห็นชัดเกิน บวกกับมีรู้สึกผิวแห้ง เลยตกลงมา
Dior จริงๆควรจะอันดับสอง แต่ติดตรงฟินนิชหนึบ
YSL ติดทนแหละ แต่ติดที่น้ำหอม สี เลยตกลงมาเลย
ส่วนลังโคมตัวเก่าไม่ได้ใช้ค่ะ ติดที่สี
ทั้งหมดนี้คือตามความคิดเห็นและการใช้งานส่วนตัวนะคะ 😊
น่าจะมีคนสงสัยว่าทำไมเราถึงให้ kvd ชนะไป
บอกก่อนว่า ตามปกติสีสว่างกว่า การปกปิดจะน้อยกว่าค่ะ เป็นเรื่องของ contrast สีนะ ดำอยู่ล่าง ขาวอยู่บน ดำมันจะ peek through ขึ้นมาค่ะ สีที่เข้มกว่าจะปิดได้ดีกว่าเป็นปกติค่ะ (เหมือนเวลาปิดรอยแดง สีเข้มจะปิดได้ดีกว่า)
อันนี้ในขณะที่สีของลังโคมเท่าผิว ปิดได้เท่านี้ แต่ kvd สีสว่างแต่ปิดได้เท่ากัน kvd เลยให้ kvd มากกว่าค่ะ และในเรื่องของเฉดสีที่ lancome เอาเข้ามาสว่างสุดคือ 105w ซึ่งใครขาวกว่าเราคือผ่านไปเลย สีดรอปหน้าดำค่ะ kvd มีเฉดที่ครบถ้วนและหลากหลายกว่าจึงชนะไปค่ะ
[CR] เทียบรองพื้น full coverage ตัวดัง 5 ตัว
เทียบรองพื้น full coverage ตัวดัง 5 ตัว
ทุกตัวในนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์ทุกตัว เปย์เองค่ะ
ห้ามเทียบสีนะคะ เพราะหยิบสีบ้งหลายอันค่ะ
เรื่องการติดทน ในนี้ทุกตัวเป็น long wear หมด จึงไม่เคลมอะไรให้นะคะ ต้องไปลองเอง เพราะขึ้นอยู่กับกิจวัตรและการบำรุงค่ะ
1. KVD
เนื้อ : เนื้อเหลวไม่ถึงกับน้ำ แต่มีความเป็นน้ำอยู่ แตะปุ้บไปเลย
ส่วนผสม : ไม่มีน้ำหอม ไม่มีกลิ่นใดๆ ไม่มี essential oil/oil เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย เซ็ตไว อย่าแตะทิ้งไว้ เซ็ตตัวไว
Coverage เทียบจากทั้งหมดในนี้ที่เป็น full coverage : ok ใช้ได้ 3/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์หรือสิวบนผิวไม่ชัดเท่าตัวอื่น 5/5
สี : ดรอป 0.5-1 เฉด สีเลือกยากอยู่น้า ในนี้ light 008 ห้ามเอาไปเทียบนะคะ เพราะในนี้สีไม่ตรงหลายอันค่ะ
ข้อดี เกลี่ยง่าย ส่วนผสมดีมาก ปกปิดใช้ได้เลย ฟินนิชดูสวย ผิวดูไม่แก่ เพราะไม่เห็นเทกซเจอร์ ผิวไม่แห้ง รูขุมขนโอเค
ข้อเสีย สีเลือกยาก รูขุมขนโอเคเลย ไม่ทำให้เบิกบาน
2. Lancome 2023
เนื้อ : เหลว เกลี่ยง่าย
ส่วนผสม : ไม่มีน้ำหอม ไม่มีกลิ่นใดๆ ไม่มี essential oil/oil เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่มี alcohol denat ผิวขาดน้ำต้องบำรุง
การเกลี่ย : ง่าย เซ็ตไว ห้ามแตะแล้วทิ้งไว้ เซ็ตตัวไวมาก
Coverage เทียบจากทั้งหมดในนี้ที่เป็น full coverage : ok ใช้ได้ 3/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์ผิวชัดหน่อยแต่ไม่มาก 3/5
สี : เลือกยาก ติดเหลืองซะเยอะ ดรอป 1-1.5 เฉด
ข้อดี แห้งไว เกลี่ยง่าย ส่วนผสมดี ปกปิดดี ผิวไม่แห้งมาก แต่มีแห้งบริเวณรอบดวงตา รูขุมขนโอเค
ข้อเสีย ผิวแอบเห็นเทกซเจอร์ แต่คนเป็นสิวเยอะๆก็ยังไหวอยู่ สีเลือกยาก รูขุมขนต้องรอให้น้ำมันบนผิวออกมาหน่อยถึงจะดูดีขึ้น
3. Lancome เก่า (ไม่แน่ใจปีเพราะได้มาเป็นเทสเตอร์)
เนื้อ : เหลวมากกว่าทั้งสองตัวบน แตะปุ้บไปเลย
ส่วนผสม : n/a ไม่ทราบรุ่นค่ะ
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย แตะปุ้บไปเลย
Coverage : ok เทียบหมดนี้ 2/5
ฟินนิช : แมทท์
เทกซเจอร์ผิวเห็นอยู่
สี : n/a แต่ดรอปค่ะ ไม่แน่ใจเรื่องสี
ข้อดี เซ็ตตัวไว้แต่ก็ยังมีเวลาแตะเกลี่ยได้อยู่ ปกปิดใช้ได้
ข้อเสีย n/a
4. YSL All Hours Reformulated 2022
เนื้อ : เหลว เกลี่ยง่าย น้ำๆเลยอันนี้ ไหลไปตามมือ
ส่วนผสม : มีน้ำหอมและแรงมาก
การเกลี่ย : เกลี่ยง่ายแต่เซ็ตตัวไวมากกกกกก เกลี่ยไวๆเลย
Coverage : ปกปิดดีสุด 4/5
ฟินนิช : แมทท์ตึ้บ
เทกซเจอร์ผิวชัด
สี : ติดเหลือง ดรอป 1-2 เฉด
ข้อดี เซ็ตตัวไวมาก เกลี่ยง่าย ให้ทำทีละจุด ปกปิดใช้ได้
ข้อเสีย แอบแห้งกรอบอยู่ตัวนี้ หน้าเป็นกระดาษนิดนึง รูขุมขนชัดอยู่ เทกซเจอร์ผิวชัดหน่อย
5. Dior Forever Matte 2022
เนื้อ : ครีมมี่สุดแล้ว เนื้อดี
ส่วนผสม : มีน้ำหอมแต่ไม่แรง มีแอลกอฮอล์
การเกลี่ย : เกลี่ยง่าย ทำให้ไว เซ็ตตัวไวเหมือนกัน
Coverage : 3/5 ปกปิดโอเคเลย
ฟินนิช : ยังมีความหนึบผิวอยู่หลังเซ็ตตัว
เทกซเจอร์ผิวทำได้ดีเกือบเท่า KVD 4/5
สี : เลือกยากอีกเหมือนกัน ดรอป 1 เฉด
ข้อดี ผิวไม่แห้งเลย หน้าไม่กระดาษ ยังชุ่มชื้นอยู่ ผิวก็ยังดูโอเค
ข้อเสีย เซ็ตตัวช้าสุด หลังเซ็ตตัวมีความหนึบเล็กน้อย รูขุมขนดูดีเลย
สรุปว่าถ้าให้เรียงตามที่ชอบ
KVD ทำได้ดีในหลายแง่มุม ทั้งสูตร เนื้อสัมผัส การเกลี่ยง่าย เทกซเจอร์ผิวที่เราคอนเซินสุดเพราะมีรูขุมและสิว แถมรอยสิวเยอะอีก ไม่ตึงหน้าด้วย เลยชนะไป
Lancome 2023 จะชนะแล้วถ้าผิวไม่ดูเทกซเจอร์ชัด มันเน้นสิวที่นูนจากผิวขึ้นมาให้เห็นชัดเกิน บวกกับมีรู้สึกผิวแห้ง เลยตกลงมา
Dior จริงๆควรจะอันดับสอง แต่ติดตรงฟินนิชหนึบ
YSL ติดทนแหละ แต่ติดที่น้ำหอม สี เลยตกลงมาเลย
ส่วนลังโคมตัวเก่าไม่ได้ใช้ค่ะ ติดที่สี
ทั้งหมดนี้คือตามความคิดเห็นและการใช้งานส่วนตัวนะคะ 😊
น่าจะมีคนสงสัยว่าทำไมเราถึงให้ kvd ชนะไป
บอกก่อนว่า ตามปกติสีสว่างกว่า การปกปิดจะน้อยกว่าค่ะ เป็นเรื่องของ contrast สีนะ ดำอยู่ล่าง ขาวอยู่บน ดำมันจะ peek through ขึ้นมาค่ะ สีที่เข้มกว่าจะปิดได้ดีกว่าเป็นปกติค่ะ (เหมือนเวลาปิดรอยแดง สีเข้มจะปิดได้ดีกว่า)
อันนี้ในขณะที่สีของลังโคมเท่าผิว ปิดได้เท่านี้ แต่ kvd สีสว่างแต่ปิดได้เท่ากัน kvd เลยให้ kvd มากกว่าค่ะ และในเรื่องของเฉดสีที่ lancome เอาเข้ามาสว่างสุดคือ 105w ซึ่งใครขาวกว่าเราคือผ่านไปเลย สีดรอปหน้าดำค่ะ kvd มีเฉดที่ครบถ้วนและหลากหลายกว่าจึงชนะไปค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้