เจ้าของโรงน้ำดื่มอึ้งโชว์บิลค่าไฟครึ่งแสน โอดไม่ได้ ‘โซลาร์เซลล์’ จะพุ่งขนาดไหน
https://www.dailynews.co.th/news/2264129/
ค่าไฟพุ่งปรี๊ด! เจ้าของโรงน้ำดื่มใน จ.อุทัยธานี โชว์บิลค่าไฟเดือนเดียวจ่ายทะลุครึ่งแสน เผยขนาดใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยแล้ว แม้ค่าไฟเพิ่ม แต่ไม่ปรับราคาเอาเปรียบผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุทัยธานี ตลอดในช่วงเดือน เม.ย. ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจห้างร้าน ต่างประสบกับราคาค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และเกินเท่าตัวกันทุกที่ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เกิดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์และพัดลมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับจ่ายค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจห้างร้านค้าต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นกำลังผลิต ต่างได้รับผลกระทบดังกล่าวนี้สูงด้วยเช่นกัน อย่างที่ โรงงานผลิตน้ำดื่ม ตรา 4P ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการผลิต ที่ค่าไฟฟ้าในเดือน เม.ย. นี้ ปรับเพิ่มขึ้นไปเกือบเท่าตัว จากเดิมที่เคยจ่ายค่าไฟฟ้าที่เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาท ถึง 4 หมื่นต้นๆ แต่เดือนนี้ต้องชำระค่าไฟฟ้าที่ 5 หมื่นกว่าบาท แม้ที่โรงน้ำจะมีพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยลดการใช้ไฟฟ้าด้วยแล้วบางส่วนก็ตาม
โดย นาย
วันชัย ชีวะระ เจ้าของโรงน้ำดื่ม 4P เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่โรงน้ำนั้นจะเสียค่าไฟฟ้าที่เดือนละประมาณ 38,000 กว่าบาท สูงสุดที่เดือนละประมาณ 42,000 กว่าบาท เพราะที่โรงงานจะมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วจะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าไปได้ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน แต่เดือนนี้ค่าไฟฟ้ามียอดชำระเพิ่มขึ้นสูงกว่าทุกเดือน อาจจะด้วยกำลังผลิตช่วงหน้าร้อนที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยยอดชำระค่าไฟฟ้าเดือนนี้ บิลแรกอยู่ที่ 49,187.57 บาท แบ่งเป็นค่า Ft ที่ 12,957.51 บาท ค่าภาษี 3,217.29 บาท และบิลที่ 2 มียอดชำระที่ 5,290.30 บาท ค่า Ft 4,944.21 บาท ค่าภาษี 346.09 บาท รวมแล้วค่าไฟเดือนนี้ทั้ง 2 บิลนั้น อยู่ที่ 54,477.87 บาท ซึ่งถ้าหากไม่ได้มีพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยด้วยแล้วนั้น ก็คาดว่าจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนนี้ถึง 6 หมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว รวมๆ แล้วค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปเดือนนี้ เท่ากับยอดขายน้ำดื่มถึง 4,539 ถัง
นาย
วันชัย เผยต่อว่า ตอนนี้ที่โรงผลิตน้ำดื่ม น้ำยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายน้ำแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้มีการขอปรับขึ้นมาแล้ว จากเดิมน้ำดื่มแบบถังนั้นจะอยู่ที่ราคาถังละ 8 บาท แต่ด้วยค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นมาเป็นถังละ 10 บาท และช่วงที่ผ่านมาค่าไฟฟ้าและน้ำมันมีปรับขึ้นอีกรอบ จึงทำให้ทางเราต้องปรับราคาขายน้ำเป็นถังละ 12 บาท มาจนถึงปัจจุบัน และยังคงตรึงราคานี้ไว้ไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะกังวลว่าจะเป็นการผลักภาระให้ลูกค้า ทุกวันนี้ที่โรงงานนั้นอาศัยเน้นได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้โรงงานยังคงไม่ขาดทุนและเดินหน้าต่อไปได้ แม้สภาวะช่วงนี้จะได้กำไรลดลงมากกว่าเดิม แต่ยังคงเพียงพอต่อการจ่ายค่าแรงลูกน้องได้ ก็ถือว่าโอเคมากแล้ว เพราะทำใจยอมรับว่าเป็นช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้นทุนการผลิตลดลงมา เราก็จะกลับมามีกำไรที่ดีขึ้นไปตามลำดับ ส่วนการปรับราคาขายนั้น ถ้าถึงช่วงที่ต้นทุนการผลิตลดลง เราก็จะปรับลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ไม่มีการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“
ตลอดเวลาที่ผมสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มมาเกือบ 10 ปี มั่นใจว่า ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องและลูกค้า รวมถึงเมื่อมีโอกาสก็ช่วยเหลือแบ่งปันกลับคืนให้กับส่วนรวมและชุมชนบ้านเกิดของผมมาตลอด ชาวบ้านใน ต.ทุ่งโพ และ ต.เขาบางแกรก หากคนไหนที่ครอบครัวมีรายได้น้อย เมื่อมีการจัดงานศพ ผมก็จะมอบน้ำดื่มที่โรงงานให้ไปใช้ภายในงานฟรีๆ เชื่อว่า การแบ่งปันและการให้เป็นเรื่องที่ดี การทำบุญเกี่ยวกับน้ำนั้น จะช่วยทำให้ชีวิตมีความร่มเย็นเป็นสุข” นาย
วันชัย กล่าว
พท.โวยเอกสารแนะนำผู้สมัครส.ส.นอกราชอาณาจักรทำสับสน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_539946/
เพื่อไทย โวยเอกสารแนะนำผู้สมัคร ส.ส.นอกราชอาณาจักร ทำสับสน เตรียมยื่น กกต.เร่งตรวจสอบแก้ไขด่วน
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 7 สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ซึ่งออกโดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พบว่าในเอกสารดังกล่าว มีการล้อมกรอบชื่อพรรค กับรายละเอียดผู้สมัครของแต่ละพรรคไม่ถูกต้อง โดยขณะนี้พบ 2 กรณี คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ เขตดุสิต (เฉพาะแขวงนครชัยศรี) โดยชื่อพรรคเพื่อไทย ไปอยู่ในช่องของผู้สมัครพรรคอื่น ในขณะที่ผู้สมัครพรรคอื่นก็ถูกล้อมกรอบภาพสังกัดพรรคที่ไม่ใช่ของตนเช่นเดียวกัน
เมื่อประชาชนได้สอบถามกับทางสถานทูต ได้รับการแจ้งว่าเป็นเทมเพลตสำเร็จรูปจาก กกต. และสถานทูตไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้ยังพบเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่โอซาก้า พบว่าในเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ใบแนะนำตัวผู้สมัคร มีเพียง หมายเลข ชื่อ นามสกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 น.ส.
กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ชื่อพรรคไม่รวมอยู่ในช่องเดียวกันกับผู้สมัคร แต่กลับปรากฏเหนือรูปผู้สมัครคนอื่นในหน้าถัดไป
พรรคเพื่อไทย เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความสับสน ให้กับประชาชนที่ลงคะแนนและอาจสร้างความเสียหายให้กับผู้สมัคร ส.ส. ได้ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย จึงเตรียมยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบ และชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาดครั้งนี้ ว่าเกิดขึ้นจากเหตุใด และจะมีแนวทางในการรับผิดชอบอย่างไร รวมทั้งขอให้ตรวจสอบเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร นอกราชอาณาจักรทุกประเทศด้วย เพราะขณะนี้ประชาชนคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ ได้เริ่มทยอยลงคะแนนแล้ว
เพื่อจะได้ส่งกลับมายังสถานทูตได้ทันเวลา หากการแก้ไขใดๆ ไม่สามารถย้อนหลังได้ ความผิดพลาดจากการลงคะแนนผิด อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้สมัครและพรรคการเมือง และขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชน
นาย
ชนินทร์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งของ กกต.อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงานของ กกต.อย่างชัดเจน ประชาชนอาจกังขาต่อความแม่นยำและโปร่งใสที่ กกต.พึงมี อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องการใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งเพื่อดูงานต่างประเทศเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรอีกหลายสิบล้าน แต่เหตุใดยังเกิดความผิดพลาดหลายกรณี เพราะการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมาถึง เป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนทั้งประเทศรอคอยอย่างมีความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมีความกังวลในเรื่องนี้ และขอให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้อง ยุติธรรม โดยเร็วด้วย
ผู้สมัครโวย ตัวอยู่ก้าวไกล แต่กกต.ทำป้าย มีชื่อรทสช.อยู่เหนือรูป บี้แก้ไข ทำคนสับสน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3946369
ผู้สมัครโวย ตัวอยู่ก้าวไกล แต่กกต.ทำป้าย มีชื่อรทสช.อยู่เหนือรูป บี้แก้ไข ทำคนสับสน
เมื่อวันที่ 27 เมษายน นาย
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 (เขตบางเขน ยกเว้นแขวงท่าแร้ง เขตจตุจักร เฉพาะแขวงจันทรเกษม และแขวงเสนานิคม เขตหลักสี่) เบอร์ 10 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพเอกสารรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่ กกต. ส่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ลงทวิตเตอร์ส่วนตัว
โดยปรากฏว่า ในเอกสาร พบชื่อของ พรรครวมไทยสร้างชาติ กลับอยู่ติดด้านบนของภาพ นาย
ศุภณัฐ ผู้สมัครพรรคก้าวไกล
นาย
ศุภณัฐระบุว่า
“กกต. จงใจทำให้สับสนหรือป่าว ? แก้ไขให้ถูกต้องด้วยครับ หวังว่าการเลือกตั้งจะโปร่งใส ยุติธรรม”
JJNY : โชว์บิลค่าไฟครึ่งแสน│พท.โวยเอกสารทำสับสน│โวยอยู่ก้าวไกล แต่กกต.ทำป้ายมีชื่อรทสช.│“รัสเซีย” ขับทูตนอร์เวย์ออก
https://www.dailynews.co.th/news/2264129/
ค่าไฟพุ่งปรี๊ด! เจ้าของโรงน้ำดื่มใน จ.อุทัยธานี โชว์บิลค่าไฟเดือนเดียวจ่ายทะลุครึ่งแสน เผยขนาดใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยแล้ว แม้ค่าไฟเพิ่ม แต่ไม่ปรับราคาเอาเปรียบผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุทัยธานี ตลอดในช่วงเดือน เม.ย. ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจห้างร้าน ต่างประสบกับราคาค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และเกินเท่าตัวกันทุกที่ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เกิดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์และพัดลมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับจ่ายค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจห้างร้านค้าต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นกำลังผลิต ต่างได้รับผลกระทบดังกล่าวนี้สูงด้วยเช่นกัน อย่างที่ โรงงานผลิตน้ำดื่ม ตรา 4P ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการผลิต ที่ค่าไฟฟ้าในเดือน เม.ย. นี้ ปรับเพิ่มขึ้นไปเกือบเท่าตัว จากเดิมที่เคยจ่ายค่าไฟฟ้าที่เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาท ถึง 4 หมื่นต้นๆ แต่เดือนนี้ต้องชำระค่าไฟฟ้าที่ 5 หมื่นกว่าบาท แม้ที่โรงน้ำจะมีพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยลดการใช้ไฟฟ้าด้วยแล้วบางส่วนก็ตาม
โดย นายวันชัย ชีวะระ เจ้าของโรงน้ำดื่ม 4P เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่โรงน้ำนั้นจะเสียค่าไฟฟ้าที่เดือนละประมาณ 38,000 กว่าบาท สูงสุดที่เดือนละประมาณ 42,000 กว่าบาท เพราะที่โรงงานจะมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วจะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าไปได้ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน แต่เดือนนี้ค่าไฟฟ้ามียอดชำระเพิ่มขึ้นสูงกว่าทุกเดือน อาจจะด้วยกำลังผลิตช่วงหน้าร้อนที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยยอดชำระค่าไฟฟ้าเดือนนี้ บิลแรกอยู่ที่ 49,187.57 บาท แบ่งเป็นค่า Ft ที่ 12,957.51 บาท ค่าภาษี 3,217.29 บาท และบิลที่ 2 มียอดชำระที่ 5,290.30 บาท ค่า Ft 4,944.21 บาท ค่าภาษี 346.09 บาท รวมแล้วค่าไฟเดือนนี้ทั้ง 2 บิลนั้น อยู่ที่ 54,477.87 บาท ซึ่งถ้าหากไม่ได้มีพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยด้วยแล้วนั้น ก็คาดว่าจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนนี้ถึง 6 หมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว รวมๆ แล้วค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปเดือนนี้ เท่ากับยอดขายน้ำดื่มถึง 4,539 ถัง
นายวันชัย เผยต่อว่า ตอนนี้ที่โรงผลิตน้ำดื่ม น้ำยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายน้ำแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้มีการขอปรับขึ้นมาแล้ว จากเดิมน้ำดื่มแบบถังนั้นจะอยู่ที่ราคาถังละ 8 บาท แต่ด้วยค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นมาเป็นถังละ 10 บาท และช่วงที่ผ่านมาค่าไฟฟ้าและน้ำมันมีปรับขึ้นอีกรอบ จึงทำให้ทางเราต้องปรับราคาขายน้ำเป็นถังละ 12 บาท มาจนถึงปัจจุบัน และยังคงตรึงราคานี้ไว้ไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะกังวลว่าจะเป็นการผลักภาระให้ลูกค้า ทุกวันนี้ที่โรงงานนั้นอาศัยเน้นได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้โรงงานยังคงไม่ขาดทุนและเดินหน้าต่อไปได้ แม้สภาวะช่วงนี้จะได้กำไรลดลงมากกว่าเดิม แต่ยังคงเพียงพอต่อการจ่ายค่าแรงลูกน้องได้ ก็ถือว่าโอเคมากแล้ว เพราะทำใจยอมรับว่าเป็นช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้นทุนการผลิตลดลงมา เราก็จะกลับมามีกำไรที่ดีขึ้นไปตามลำดับ ส่วนการปรับราคาขายนั้น ถ้าถึงช่วงที่ต้นทุนการผลิตลดลง เราก็จะปรับลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ไม่มีการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“ตลอดเวลาที่ผมสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มมาเกือบ 10 ปี มั่นใจว่า ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องและลูกค้า รวมถึงเมื่อมีโอกาสก็ช่วยเหลือแบ่งปันกลับคืนให้กับส่วนรวมและชุมชนบ้านเกิดของผมมาตลอด ชาวบ้านใน ต.ทุ่งโพ และ ต.เขาบางแกรก หากคนไหนที่ครอบครัวมีรายได้น้อย เมื่อมีการจัดงานศพ ผมก็จะมอบน้ำดื่มที่โรงงานให้ไปใช้ภายในงานฟรีๆ เชื่อว่า การแบ่งปันและการให้เป็นเรื่องที่ดี การทำบุญเกี่ยวกับน้ำนั้น จะช่วยทำให้ชีวิตมีความร่มเย็นเป็นสุข” นายวันชัย กล่าว
พท.โวยเอกสารแนะนำผู้สมัครส.ส.นอกราชอาณาจักรทำสับสน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_539946/
เพื่อไทย โวยเอกสารแนะนำผู้สมัคร ส.ส.นอกราชอาณาจักร ทำสับสน เตรียมยื่น กกต.เร่งตรวจสอบแก้ไขด่วน
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 7 สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ซึ่งออกโดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พบว่าในเอกสารดังกล่าว มีการล้อมกรอบชื่อพรรค กับรายละเอียดผู้สมัครของแต่ละพรรคไม่ถูกต้อง โดยขณะนี้พบ 2 กรณี คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ เขตดุสิต (เฉพาะแขวงนครชัยศรี) โดยชื่อพรรคเพื่อไทย ไปอยู่ในช่องของผู้สมัครพรรคอื่น ในขณะที่ผู้สมัครพรรคอื่นก็ถูกล้อมกรอบภาพสังกัดพรรคที่ไม่ใช่ของตนเช่นเดียวกัน
เมื่อประชาชนได้สอบถามกับทางสถานทูต ได้รับการแจ้งว่าเป็นเทมเพลตสำเร็จรูปจาก กกต. และสถานทูตไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้ยังพบเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่โอซาก้า พบว่าในเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ใบแนะนำตัวผู้สมัคร มีเพียง หมายเลข ชื่อ นามสกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ชื่อพรรคไม่รวมอยู่ในช่องเดียวกันกับผู้สมัคร แต่กลับปรากฏเหนือรูปผู้สมัครคนอื่นในหน้าถัดไป
พรรคเพื่อไทย เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความสับสน ให้กับประชาชนที่ลงคะแนนและอาจสร้างความเสียหายให้กับผู้สมัคร ส.ส. ได้ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย จึงเตรียมยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบ และชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาดครั้งนี้ ว่าเกิดขึ้นจากเหตุใด และจะมีแนวทางในการรับผิดชอบอย่างไร รวมทั้งขอให้ตรวจสอบเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร นอกราชอาณาจักรทุกประเทศด้วย เพราะขณะนี้ประชาชนคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ ได้เริ่มทยอยลงคะแนนแล้ว
เพื่อจะได้ส่งกลับมายังสถานทูตได้ทันเวลา หากการแก้ไขใดๆ ไม่สามารถย้อนหลังได้ ความผิดพลาดจากการลงคะแนนผิด อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้สมัครและพรรคการเมือง และขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชน
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งของ กกต.อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงานของ กกต.อย่างชัดเจน ประชาชนอาจกังขาต่อความแม่นยำและโปร่งใสที่ กกต.พึงมี อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องการใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งเพื่อดูงานต่างประเทศเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรอีกหลายสิบล้าน แต่เหตุใดยังเกิดความผิดพลาดหลายกรณี เพราะการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมาถึง เป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนทั้งประเทศรอคอยอย่างมีความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมีความกังวลในเรื่องนี้ และขอให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้อง ยุติธรรม โดยเร็วด้วย
ผู้สมัครโวย ตัวอยู่ก้าวไกล แต่กกต.ทำป้าย มีชื่อรทสช.อยู่เหนือรูป บี้แก้ไข ทำคนสับสน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3946369
ผู้สมัครโวย ตัวอยู่ก้าวไกล แต่กกต.ทำป้าย มีชื่อรทสช.อยู่เหนือรูป บี้แก้ไข ทำคนสับสน
เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 (เขตบางเขน ยกเว้นแขวงท่าแร้ง เขตจตุจักร เฉพาะแขวงจันทรเกษม และแขวงเสนานิคม เขตหลักสี่) เบอร์ 10 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพเอกสารรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่ กกต. ส่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ลงทวิตเตอร์ส่วนตัว
โดยปรากฏว่า ในเอกสาร พบชื่อของ พรรครวมไทยสร้างชาติ กลับอยู่ติดด้านบนของภาพ นายศุภณัฐ ผู้สมัครพรรคก้าวไกล
นายศุภณัฐระบุว่า “กกต. จงใจทำให้สับสนหรือป่าว ? แก้ไขให้ถูกต้องด้วยครับ หวังว่าการเลือกตั้งจะโปร่งใส ยุติธรรม”