สวัสดีค่ะ เกริ่นไว้ก่อนว่าเราเองก็ไม่แน่ใจว่าแบบนี้เราถูกคุกคามหรือเปล่านะคะ เลยอยากจะสอบถามทุกคนดู
เริ่มเลยคือเราเห็นท้องฟ้าเริ่มครึ้มๆ แต่ว่าเราต้องซักผ้า หลักๆเป็นชุดทำงานของแม่ ปกติแล้วเราจะซักมือค่ะ รู้สึกว่ามันสะอาดกว่าเอาไปซักเครื่อง (ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ) แต่ทีนี้เราคิดได้ว่าซักมือคงไม่แห้ง (ก็คงไม่แห้งจริงๆแหละค่ะ เพราะฝนกำลังจะตก) เราเลยเอาผ้าไปซัก ซึ่งเราซักเครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติ เราไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเองด้วย
เราก็เลยเอาผ้าทั้งหมดไปซัก เราเดินถือตะกร้าผ้าไปแล้วเจอกับผู้ชายคนนึง เป็นคนวัยทำงานแล้วนะคะ อายุน่าจะ 40+ ตอนเราเดินไปก็แหงนหน้ามองฟ้าก็เห็นว่าอีกแป๊บก็คงตกแล้วแหละ แล้วตอนเราเดินผ่านเหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่าง เห็นอีกทีเขามายืนอยู่ห่างจากเราประมาณก้าวครึ่งแล้ว ตรงที่ซักผ้าเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ พื้นที่น้อย แล้วตอนเราหยิบกระปุกแฟบออกหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มออก เขาก็เหมือนจะพูดว่า ซักเครื่องมันไม่สะอาด เราก็ตอบไปว่า อ๋อใช่ (ตอบด้วยน้ำเสียงแห้งๆเลยค่ะ) แล้วเขาก็พูดอีกแต่เราจับใจความไม่ได้ จนได้ยินอีกประโยคว่า เดี๋ยวซักผ้าให้ ในความรู้สึกเราตอนนั้นเขาเหมือนพวกโรคจิตเลยค่ะ เราเลยรีบเทผ้า รีบเทแฟบ น้ำยาปรับผ้านุ่ม หยอดเหรียญเสร็จเราก็เดินออกมาเลยค่ะ (ปกติเราจะยืนรอจนเครื่องปล่อยน้ำออกมาก่อนค่ะ) อีกอย่างในตอนที่เรากำลังเทผ้า เแฟบ ก็มีคนอยู่แถวนั้นประมาณ 2-3 เขาจะนั่งคุยกันเป็นปกติ เราจะเห็นเป็นบางอาทิตย์
(แบบคนพึ่งเลิกกะมา) ตอนนั้นเราพยายามมองคนที่กลุ่มนั้นตลอด เรารู้ตัวว่าเราส่งสายขอความช่วยเหลือแล้วก็หวังว่าอย่าพึ่งให้เขาไปไหนกัน หลังจากเสร็จเรารีบหยิบของแล้วออกมาจากตรงนั้นเลยค่ะ เรารู้สึกได้เลยว่าเขาเดินตามมา ก่อนจะเดินเข้าตึก (เราอยู่หอพักเป็นตึกๆค่ะ เขาอยู่หอสุดท้ายตรงที่มีเครื่องซักผ้า) หางตาเราเห็นเขายืนมองเราอยู่ พอเราเข้าตึกได้ก็รีบวิ่งเลยค่ะ ขออนุญาตนะคะ แต่ตอนนั้นสับตีนแตกเลยค่ะ รีบเข้าห้องรองเท้าไม่ถอดเลยค่ะ เผื่อเขาจำได้แล้วรู้ว่าเราอยู่ห้องไหน
พอแม่เรากลับมา เราก็บอกแม่ไปค่ะ แม่ก็ถามว่า ใช่คนอ้วนๆ มั้ย ซึ่งมันก็ใช่ค่ะ แม่เลยให้เราโทรแจ้งตำรวจ (เรามารู้ว่ามีครั้งนึงเขาแซวเรากับแม่ แม่บอกเขาไปว่าอย่ามาทำแบบนี้ อย่ามายุ่งย่ามกับเรากับแม่) ำำ พอตำรวจมาเขาก็ถามเหตุการณ์ เราก็เล่าให้เขาฟังไปหมดเลยค่ะ เขาเลยไปเรียกคนนั้นมาคุย เขาบอกว่าเขาเเค่ถามเราว่าซักผ้าหรอ (มีลูกป้าในตึกเราพูดว่า ก็เห็นอยู่จะถามทำไม อันนี้โดนใจมากค่ะ ) นั่นแหละค่ะ เขาบอกเขาออกแค่มาเก็บหมวกกันน็อค แล้วประเด็นคือรถเขาจอดอยู่ตรงเครื่องที่เราซักพอดี (อันนี้สงสัยมากค่ะ ว่าเเต่จะมาเก็บทำไมถึงยืนอยู่นานสองนาน ยืนตั้งเราเทผ้าแล้วอะไรแล้ว แล้วก็เดินตามมาอีก) เขาบอกตำรวจไป อีกค่ะว่าไม่ได้เดินตาม ตำรวจก็ถามถึงกล้องวงจรปิด ซึ่งทางผ่านไปทางเครื่องซักผ้ามีอยู่ค่ะ ตรงมุมที่ก็มีค่ะ เขาบอกว่าดูกล้องก็ได้ เราก็เลยพูดไปว่าก็ไปเปิดกล้องดูดิ เรามั่นใจมากค่ะว่าต้องเห็นเขาเดินตามเราแน่ๆ จนสุดท้ายตำรวจก็ถ่ายรถเขาไว้ ถ่ายบัตรประชาชน บแกเขาว่าอย่ามายุ่งกับเราอีก อย่ามาทักอย่ามาคุย (บางคนอาจจะคิดว่าแค่ทักทายตามประสา แต่เราไม่รู้จักเขาเลยค่ะ เราไม่รู้จักเลยสักนิดเดียว อาจจะคิดว่าเราหยิ่งก็ได้ค่ะ แต่อยู่ๆมีคนมาทำแบบนี้ก็ไม่โอเคเลยค่ะ )
เพิ่มเติม
เราเป็นคนขี้กลัวมากค่ะ เราน่ะคิดว่าตัวเองนิ่งเฉยแล้วนะคะ แต่มือเราสั่นมากค่ะ เราคุมไม่ได้เลย ใจเราเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วค่ะตอนนั้น ทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด ตอนกลางวันเราอยู่ห้องคนเดียวอีก
อีกอย่างเลยค่ะ เราเป็นคนที่ค่อนข้างสงบปากสงบคำ ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง เราคิดว่าตัวเองควรทำแบบนั้น แต่ไม่ความกล้าเลยค่ะ เจ้าน้ำตาอีกต่างหากแค่เล่าเหตุการณ์ก็ร้องไห้แล้วค่ะ เรารู้ตัวเองว่ามันสะเทือนใจเรา แต่เราอยากดูเป็นคนที่เข้มแข็งบ้าง
เผื่อไม่รู้ว่าเราต้องการจะถามอะไร
เราอยากรู้ค่ะว่าที่เราเล่าไป แบบนี้เราโดนคุกคามมั้ยคะ
แล้วก็ถ้าใครมีวิธีดีๆที่จะทำให้เรากล้าสู้คนบ้างช่วยแชร์หน่อยนะคะ อยากจะเถียงสู้เพื่อตัวเองบ้างค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่มาตอบเลยนะคะ
ปล.ไม่รู้ว่าแท็กถูกมั้ย ถ้าไม่ถูกขออภัยด้วยค่ะ เราไม่รู้ว่าต้องใช้แท็กอันไหนดี
อยากรู้ว่าแบบนี้คือโดนคุกคามมั้ยคะ?
เริ่มเลยคือเราเห็นท้องฟ้าเริ่มครึ้มๆ แต่ว่าเราต้องซักผ้า หลักๆเป็นชุดทำงานของแม่ ปกติแล้วเราจะซักมือค่ะ รู้สึกว่ามันสะอาดกว่าเอาไปซักเครื่อง (ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ) แต่ทีนี้เราคิดได้ว่าซักมือคงไม่แห้ง (ก็คงไม่แห้งจริงๆแหละค่ะ เพราะฝนกำลังจะตก) เราเลยเอาผ้าไปซัก ซึ่งเราซักเครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติ เราไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเองด้วย
เราก็เลยเอาผ้าทั้งหมดไปซัก เราเดินถือตะกร้าผ้าไปแล้วเจอกับผู้ชายคนนึง เป็นคนวัยทำงานแล้วนะคะ อายุน่าจะ 40+ ตอนเราเดินไปก็แหงนหน้ามองฟ้าก็เห็นว่าอีกแป๊บก็คงตกแล้วแหละ แล้วตอนเราเดินผ่านเหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่าง เห็นอีกทีเขามายืนอยู่ห่างจากเราประมาณก้าวครึ่งแล้ว ตรงที่ซักผ้าเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ พื้นที่น้อย แล้วตอนเราหยิบกระปุกแฟบออกหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มออก เขาก็เหมือนจะพูดว่า ซักเครื่องมันไม่สะอาด เราก็ตอบไปว่า อ๋อใช่ (ตอบด้วยน้ำเสียงแห้งๆเลยค่ะ) แล้วเขาก็พูดอีกแต่เราจับใจความไม่ได้ จนได้ยินอีกประโยคว่า เดี๋ยวซักผ้าให้ ในความรู้สึกเราตอนนั้นเขาเหมือนพวกโรคจิตเลยค่ะ เราเลยรีบเทผ้า รีบเทแฟบ น้ำยาปรับผ้านุ่ม หยอดเหรียญเสร็จเราก็เดินออกมาเลยค่ะ (ปกติเราจะยืนรอจนเครื่องปล่อยน้ำออกมาก่อนค่ะ) อีกอย่างในตอนที่เรากำลังเทผ้า เแฟบ ก็มีคนอยู่แถวนั้นประมาณ 2-3 เขาจะนั่งคุยกันเป็นปกติ เราจะเห็นเป็นบางอาทิตย์
(แบบคนพึ่งเลิกกะมา) ตอนนั้นเราพยายามมองคนที่กลุ่มนั้นตลอด เรารู้ตัวว่าเราส่งสายขอความช่วยเหลือแล้วก็หวังว่าอย่าพึ่งให้เขาไปไหนกัน หลังจากเสร็จเรารีบหยิบของแล้วออกมาจากตรงนั้นเลยค่ะ เรารู้สึกได้เลยว่าเขาเดินตามมา ก่อนจะเดินเข้าตึก (เราอยู่หอพักเป็นตึกๆค่ะ เขาอยู่หอสุดท้ายตรงที่มีเครื่องซักผ้า) หางตาเราเห็นเขายืนมองเราอยู่ พอเราเข้าตึกได้ก็รีบวิ่งเลยค่ะ ขออนุญาตนะคะ แต่ตอนนั้นสับตีนแตกเลยค่ะ รีบเข้าห้องรองเท้าไม่ถอดเลยค่ะ เผื่อเขาจำได้แล้วรู้ว่าเราอยู่ห้องไหน
พอแม่เรากลับมา เราก็บอกแม่ไปค่ะ แม่ก็ถามว่า ใช่คนอ้วนๆ มั้ย ซึ่งมันก็ใช่ค่ะ แม่เลยให้เราโทรแจ้งตำรวจ (เรามารู้ว่ามีครั้งนึงเขาแซวเรากับแม่ แม่บอกเขาไปว่าอย่ามาทำแบบนี้ อย่ามายุ่งย่ามกับเรากับแม่) ำำ พอตำรวจมาเขาก็ถามเหตุการณ์ เราก็เล่าให้เขาฟังไปหมดเลยค่ะ เขาเลยไปเรียกคนนั้นมาคุย เขาบอกว่าเขาเเค่ถามเราว่าซักผ้าหรอ (มีลูกป้าในตึกเราพูดว่า ก็เห็นอยู่จะถามทำไม อันนี้โดนใจมากค่ะ ) นั่นแหละค่ะ เขาบอกเขาออกแค่มาเก็บหมวกกันน็อค แล้วประเด็นคือรถเขาจอดอยู่ตรงเครื่องที่เราซักพอดี (อันนี้สงสัยมากค่ะ ว่าเเต่จะมาเก็บทำไมถึงยืนอยู่นานสองนาน ยืนตั้งเราเทผ้าแล้วอะไรแล้ว แล้วก็เดินตามมาอีก) เขาบอกตำรวจไป อีกค่ะว่าไม่ได้เดินตาม ตำรวจก็ถามถึงกล้องวงจรปิด ซึ่งทางผ่านไปทางเครื่องซักผ้ามีอยู่ค่ะ ตรงมุมที่ก็มีค่ะ เขาบอกว่าดูกล้องก็ได้ เราก็เลยพูดไปว่าก็ไปเปิดกล้องดูดิ เรามั่นใจมากค่ะว่าต้องเห็นเขาเดินตามเราแน่ๆ จนสุดท้ายตำรวจก็ถ่ายรถเขาไว้ ถ่ายบัตรประชาชน บแกเขาว่าอย่ามายุ่งกับเราอีก อย่ามาทักอย่ามาคุย (บางคนอาจจะคิดว่าแค่ทักทายตามประสา แต่เราไม่รู้จักเขาเลยค่ะ เราไม่รู้จักเลยสักนิดเดียว อาจจะคิดว่าเราหยิ่งก็ได้ค่ะ แต่อยู่ๆมีคนมาทำแบบนี้ก็ไม่โอเคเลยค่ะ )
เพิ่มเติม
เราเป็นคนขี้กลัวมากค่ะ เราน่ะคิดว่าตัวเองนิ่งเฉยแล้วนะคะ แต่มือเราสั่นมากค่ะ เราคุมไม่ได้เลย ใจเราเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วค่ะตอนนั้น ทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด ตอนกลางวันเราอยู่ห้องคนเดียวอีก
อีกอย่างเลยค่ะ เราเป็นคนที่ค่อนข้างสงบปากสงบคำ ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง เราคิดว่าตัวเองควรทำแบบนั้น แต่ไม่ความกล้าเลยค่ะ เจ้าน้ำตาอีกต่างหากแค่เล่าเหตุการณ์ก็ร้องไห้แล้วค่ะ เรารู้ตัวเองว่ามันสะเทือนใจเรา แต่เราอยากดูเป็นคนที่เข้มแข็งบ้าง
เผื่อไม่รู้ว่าเราต้องการจะถามอะไร
เราอยากรู้ค่ะว่าที่เราเล่าไป แบบนี้เราโดนคุกคามมั้ยคะ
แล้วก็ถ้าใครมีวิธีดีๆที่จะทำให้เรากล้าสู้คนบ้างช่วยแชร์หน่อยนะคะ อยากจะเถียงสู้เพื่อตัวเองบ้างค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่มาตอบเลยนะคะ
ปล.ไม่รู้ว่าแท็กถูกมั้ย ถ้าไม่ถูกขออภัยด้วยค่ะ เราไม่รู้ว่าต้องใช้แท็กอันไหนดี