สวัสดีเพื่อนๆ TFEX CLUB ทุกๆท่าน วันนี้จะมีข่าวเศรษฐกิจ อะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามกันดูเลยครับ
น้ำมันลงอีก$2ทองขึ้น หุ้นสหรัฐฯลงแรง ข้อมูลผู้บริโภคก่อความวิตกศก.ถดถอยThailand Web Stat เผยแพร่: 26 เม.ย. 2566 04:12 ปรับปรุง: 26 เม.ย. 2566 04:12 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ราคาน้ำมันขยับลง 2% และทองคำทรงตัว ในวันอังคาร(25เม.ย.) จากดอลลาร์แข็งค่าและความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ปัจจัยหลังนี้ประกอบกับรายงานผลประกอบการบริษัทที่น่าผิดหวัง ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดในแดนลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการบริษัทและสภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ดอลลาร์ที่แข็งค่าก่อแรงกดดันต่ออุปสงค์น้ำมัน เนื่องจากมันทำให้ราคาพลังงานมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยนี้ดังกล่าวข้างต้น ช่วยพยุงสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำในวันอังคาร(25เม.ย.) ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,004.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(25เม.ย.) ปิดในแดนลบ หลังข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคอเมริกา โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดาวโจนส์ ลดลง 344.57 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,530.83 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 65.41 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,071.63 จุด แนสแดค ลดลง 238.05 จุด (1.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,799.16 จุด
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในเดือนเมษายน ก่อความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย หนึ่งวันหลังจากธนาคารเฟิร์ส รีพับบลิก รายงานว่ามีการแห่ถอนเงินมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ โหมกระพือความหวั่นผวาในความเป็นไปได้ของวิกฤตธนาคาร
นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางทั้งหลายจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งมันอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป
คาดหมายว่าทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลงยุโรป ต่างก็จะปรับขึ้นอัราดอกเบี้ยในที่ประชุมที่กำลังมาถึง โดยเฟดมีกำหนดประชุมกันในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเมษายน จากระดับ 104.0 ในเดือนมีนาคม
เช็คที่นี่! 23 หุ้น SET100 สุดแกร่ง จ่ายปันผลงาม ขึ้น XD 27 เม.ย. - 11 พ.ค.66
หากนักลงทุนต้องการหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีสภาพคล่องสม่ำเสมอ หุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ถือว่า ได้รับการคัดกรองจากทางตลาดหลักทรัพย์ฯ และถ้ายิ่งต้องการหุ้น SET100 สามารถจ่ายปันผลได้งาม ๆ 4 - 5% ต่อปี นักลงทุนจะต้องพิจารณาอย่างไร ถึงได้หุ้นที่ดีมาไว้ติดพอร์ต
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การพิจารณาหาหุ้นปันผล นักลงทุนต้องรู้จุดมุ่งหมายก่อนว่า ต้องการที่จะซื้อหุ้นปันผลระยะยาว หรือระยะสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งถ้านักลงทุนต้องการลงทุนระยะยาว อาจจะต้องพิจารณาหุ้นที่สามารถจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในบางช่วงจังหวะอาจจะทำกำไรได้น้อยลงไปบ้าง แต่ก็ถือว่า เป็นสิ่งที่สามารถยอมรับได้ ไม่ใช่จ่ายเยอะแค่บางปี และอีกปีจ่ายน้อยหรือไม่มีแบบนี้ไม่ควรเลือกเข้ามาไว้ในพอร์ต แต่ถ้านักลงทุนต้องการหุ้นปันผลในระยะสั้น เพื่อเก็งกำไร เช่น เพื่อจ่ายปันผลไปแล้ว และหุ้นตัวนั้นจะปรับขึ้นก็ต้องเลือกหุ้นที่เข้าข่ายกับช่วงระยะเวลานั้น ๆ ด้วย เช่น งบออกมาดี หรือธุรกิจกำไรอยู่ในช่วงของการเติบโต ก็สามารถเข้าไปซื้อเพื่อเก็งกำไรได้
ทั้งนี้ถ้าเป็นหุ้นกลุ่มอสังหา ถือว่ามีความน่าสนใจกำลังทยอยจ่าย และเริ่มขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งในหลาย ๆ ตัวก็ถือว่า มีผลประกอบการดี เช่น ORI AP ANAN SPALI นักลงทุนสามารถถือเพื่อไปรอรับปันผลได้ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าจะจ่ายปันผลไปแล้ว แม้ว่าแบงก์ไหนที่มีการประกาศงบการเงินออกมาแล้ว ดูแล้วน่าจะมีทิศทางธุรกิจการดำเนินงานเหมือนจะเดิบโต แม้จะจ่ายปันผลไปแล้ว หุ้นก็ยังสามารถปรับขึ้นมาได้ เช่น SCB หรือ KBANK
ส่วนกลุ่มอื่น ๆ ที่เหลือจะไม่ค่อยได้จ่ายปันผลได้เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุปโภคบริโภคในประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงพยาบาล ก็จะจ่ายปันผลไม่มาก ไม่เหมือนกลุ่มอสังหาที่ดูแล้วจ่ายปันผลได้ดี
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องพิจารณา 1. การจะเลือกหุ้นปันผลผลเข้ามาในพอร์ต สิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ ยีลด์ที่สามารถจ่ายปันผลได้สูง 2. ต้องสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่จ่ายแค่รอบนี้รอบเดียว นักลงทุนต้องพิจารณาข้อมูลในอดีตด้วย ปันผลที่ได้ 5 - 6% ในอดีตมีการจ่ายได้ในระดับนี้หรือไม่
3. ดูแนวโน้มผลประกอบการข้างหน้าด้วย ว่าแม้ไตรมาส 1/66 ยังไม่ออก แต่ต้องดูในไตรมาส 2 - 4/66 ยังดีต่อเนื่องหรือไม่ และสุดท้ายต้องดูที่ว่าราคาหุ้นแพงเกินไปหรือยัง อันนี้คือสิ่งสำคัญ ถ้าเกิดหุ้นขึ้นมารอปันผลแล้ว พอขึ้นเครื่องหมาย XD
ราคาหุ้นปรับตัวลงมันอาจจะลงมากกว่าปันผลที่จ่ายก็ได้เช่นกัน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ได้เสริมข้อมูลว่า หากนักลงทุนจะเลือกหุ้นกลุ่ม SET100 เพื่อหวังปันผลอาจจะต้องพิจารณาดูความสม่ำเสมอว่าจ่ายปันผลโดยเทียบกับปัจจุบันและอดีต อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับเท่าไร อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 4 - 5 % ขึ้นไป และต้องพิจารณาแนวโน้มผลประกอบการที่ผ่านมาและในอนาคตจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันการเลือกธุรกิจที่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ในอนาคตในช่วง 5 - 10 ปี ขึ้นไป ที่ไม่มีความผันผวนมากนัก และมั่นใจได้ว่า ในอนาคตธุรกิจเหล่านี้จะยังคงอยู่ โดยหุ้นกลุ่มอสังหา โรงไฟฟ้า พลังงาน มีความน่าสนใจ เป็นต้น
“กรุงเทพธุรกิจ” ได้คัดเลือกหุ้น SET100 ที่เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.- 11 พ.ค.66 มีอยู่ด้วยกัน 23
Credit by :
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1064721?fbclid=IwAR3OPuZ8wQrjPcKZFZqr1h2bJR5AKLa5btf0Ou8DqVDyhc7MD2w84ftlElE
สัญญาน้ำตาลทรายดิบซื้อขายล่วงหน้าที่ 25 เซนต์ต่อปอนด์ในเดือนเมษายน
ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอุปทานจะอ่อนตัวลงเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากฤดูกาลหีบอ้อยในเอเชียเริ่มคลี่คลายลง ประเทศผู้ผลิตหลัก ได้แก่ อินเดีย ไทย จีน และปากีสถาน ได้ปรับประมาณการการเพาะปลูกลดลง ผลผลิตน้ำตาลในอินเดียคาดว่าจะลดลงเหลือ 33.5 ตันในปีการตลาดปัจจุบันจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 34.5 ตันท่ามกลางสายฝนที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล ในเวลาเดียวกัน การผลิตน้ำตาลในยุโรปลดลงจากพืชหัวบีตที่ลดลงซึ่งเป็นผลมาจากพื้นที่เพาะปลูกที่รุนแรง ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นในบราซิล แต่ปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นน่าจะถูกจัดสรรให้กับเอทานอล ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และการสิ้นสุดการยกเว้นภาษีน้ำมันเบนซินในบราซิลจะทำให้การผสมเชื้อเพลิงชีวภาพมีกำไรมากขึ้น
อัพเดทราคาหุ้น TFEX และ ทองคำ 26/04/2023
ราคาน้ำมันขยับลง 2% และทองคำทรงตัว ในวันอังคาร(25เม.ย.) จากดอลลาร์แข็งค่าและความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ปัจจัยหลังนี้ประกอบกับรายงานผลประกอบการบริษัทที่น่าผิดหวัง ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดในแดนลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการบริษัทและสภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ดอลลาร์ที่แข็งค่าก่อแรงกดดันต่ออุปสงค์น้ำมัน เนื่องจากมันทำให้ราคาพลังงานมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยนี้ดังกล่าวข้างต้น ช่วยพยุงสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำในวันอังคาร(25เม.ย.) ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,004.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(25เม.ย.) ปิดในแดนลบ หลังข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคอเมริกา โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดาวโจนส์ ลดลง 344.57 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,530.83 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 65.41 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,071.63 จุด แนสแดค ลดลง 238.05 จุด (1.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,799.16 จุด
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในเดือนเมษายน ก่อความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย หนึ่งวันหลังจากธนาคารเฟิร์ส รีพับบลิก รายงานว่ามีการแห่ถอนเงินมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ โหมกระพือความหวั่นผวาในความเป็นไปได้ของวิกฤตธนาคาร
นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางทั้งหลายจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งมันอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป
คาดหมายว่าทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลงยุโรป ต่างก็จะปรับขึ้นอัราดอกเบี้ยในที่ประชุมที่กำลังมาถึง โดยเฟดมีกำหนดประชุมกันในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเมษายน จากระดับ 104.0 ในเดือนมีนาคม
ทั้งนี้ถ้าเป็นหุ้นกลุ่มอสังหา ถือว่ามีความน่าสนใจกำลังทยอยจ่าย และเริ่มขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งในหลาย ๆ ตัวก็ถือว่า มีผลประกอบการดี เช่น ORI AP ANAN SPALI นักลงทุนสามารถถือเพื่อไปรอรับปันผลได้ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าจะจ่ายปันผลไปแล้ว แม้ว่าแบงก์ไหนที่มีการประกาศงบการเงินออกมาแล้ว ดูแล้วน่าจะมีทิศทางธุรกิจการดำเนินงานเหมือนจะเดิบโต แม้จะจ่ายปันผลไปแล้ว หุ้นก็ยังสามารถปรับขึ้นมาได้ เช่น SCB หรือ KBANK
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องพิจารณา 1. การจะเลือกหุ้นปันผลผลเข้ามาในพอร์ต สิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ ยีลด์ที่สามารถจ่ายปันผลได้สูง 2. ต้องสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่จ่ายแค่รอบนี้รอบเดียว นักลงทุนต้องพิจารณาข้อมูลในอดีตด้วย ปันผลที่ได้ 5 - 6% ในอดีตมีการจ่ายได้ในระดับนี้หรือไม่
3. ดูแนวโน้มผลประกอบการข้างหน้าด้วย ว่าแม้ไตรมาส 1/66 ยังไม่ออก แต่ต้องดูในไตรมาส 2 - 4/66 ยังดีต่อเนื่องหรือไม่ และสุดท้ายต้องดูที่ว่าราคาหุ้นแพงเกินไปหรือยัง อันนี้คือสิ่งสำคัญ ถ้าเกิดหุ้นขึ้นมารอปันผลแล้ว พอขึ้นเครื่องหมาย XD
ราคาหุ้นปรับตัวลงมันอาจจะลงมากกว่าปันผลที่จ่ายก็ได้เช่นกัน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ได้เสริมข้อมูลว่า หากนักลงทุนจะเลือกหุ้นกลุ่ม SET100 เพื่อหวังปันผลอาจจะต้องพิจารณาดูความสม่ำเสมอว่าจ่ายปันผลโดยเทียบกับปัจจุบันและอดีต อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับเท่าไร อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 4 - 5 % ขึ้นไป และต้องพิจารณาแนวโน้มผลประกอบการที่ผ่านมาและในอนาคตจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันการเลือกธุรกิจที่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ในอนาคตในช่วง 5 - 10 ปี ขึ้นไป ที่ไม่มีความผันผวนมากนัก และมั่นใจได้ว่า ในอนาคตธุรกิจเหล่านี้จะยังคงอยู่ โดยหุ้นกลุ่มอสังหา โรงไฟฟ้า พลังงาน มีความน่าสนใจ เป็นต้น
“กรุงเทพธุรกิจ” ได้คัดเลือกหุ้น SET100 ที่เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.- 11 พ.ค.66 มีอยู่ด้วยกัน 23
Credit by : https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1064721?fbclid=IwAR3OPuZ8wQrjPcKZFZqr1h2bJR5AKLa5btf0Ou8DqVDyhc7MD2w84ftlElE