คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราว่าแรกๆคุณจะร้องไห้แทบตายจากนั้นมันไม่มีทางเลือกค่ะ
คุณต้องหันมาหารูมเมทอาจเข้ากันไม่ได้ในหลายๆเรื่อง
ต่างคนต่างมาคนละความเคยชิน ก็ต้องอดทนค่ะ คนเรามัน
ต้องเจอสถานการณ์ที่แย่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
และต้องใช้บุคคลอื่นมาช่วยเบี่ยงเบนนิสัยไม่งั้นก็จะติดนิสัย
ที่เคยชิน อนาคตต้องทำงานร่วมกับคนอื่น โรงเรียนจึงจัดระบบ
นี้มาถ้าคุณผ่านตรงนี้ไปได้ คุณก็ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
ไม่งั้นชีวิตมันจะมีโรคอื่นตามมาคือ... เข้ากับใครไม่ได้ ซึมเศร้
อย่าคิดว่าเป็นIntrovert การอยู่ร่วมกับคนอื่นพูดน้อยลง
ยิ้มมากขึ้น ดิฉันก็เป็นIntrovertแต่ตอนอายุเท่าคุณยังไม่น่า
จะเป็น มันมารู้ตอนเลย20มาแล้ว สมัยนี้ติดมือถือกันก็พูดว่า
เป็นIntrovert เพราะกลัวคนมาขัดใจเวลาเล่นมือถือมากกว่า
ดิฉันเป็นIntrovertไม่ไม่ติดมือถือ แต่ดิฉันเข้าใจคุณนะ
มันเป็นสังคมของเด็กรุ่นใหม่ ที่พ่อแม่ต้องดูแลตักเตือน
คนนอกพูดลำบากได้แค่ออกความเห็น การปรับตัวเข้ากับเพื่อน
ในชั้นเรียนสำคัญมาก ดิฉันก็ไม่พูดออกนิ่งๆแต่ก็เข้ากลุ่มเพื่อนๆ
ได้
คุณต้องหันมาหารูมเมทอาจเข้ากันไม่ได้ในหลายๆเรื่อง
ต่างคนต่างมาคนละความเคยชิน ก็ต้องอดทนค่ะ คนเรามัน
ต้องเจอสถานการณ์ที่แย่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
และต้องใช้บุคคลอื่นมาช่วยเบี่ยงเบนนิสัยไม่งั้นก็จะติดนิสัย
ที่เคยชิน อนาคตต้องทำงานร่วมกับคนอื่น โรงเรียนจึงจัดระบบ
นี้มาถ้าคุณผ่านตรงนี้ไปได้ คุณก็ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
ไม่งั้นชีวิตมันจะมีโรคอื่นตามมาคือ... เข้ากับใครไม่ได้ ซึมเศร้
อย่าคิดว่าเป็นIntrovert การอยู่ร่วมกับคนอื่นพูดน้อยลง
ยิ้มมากขึ้น ดิฉันก็เป็นIntrovertแต่ตอนอายุเท่าคุณยังไม่น่า
จะเป็น มันมารู้ตอนเลย20มาแล้ว สมัยนี้ติดมือถือกันก็พูดว่า
เป็นIntrovert เพราะกลัวคนมาขัดใจเวลาเล่นมือถือมากกว่า
ดิฉันเป็นIntrovertไม่ไม่ติดมือถือ แต่ดิฉันเข้าใจคุณนะ
มันเป็นสังคมของเด็กรุ่นใหม่ ที่พ่อแม่ต้องดูแลตักเตือน
คนนอกพูดลำบากได้แค่ออกความเห็น การปรับตัวเข้ากับเพื่อน
ในชั้นเรียนสำคัญมาก ดิฉันก็ไม่พูดออกนิ่งๆแต่ก็เข้ากลุ่มเพื่อนๆ
ได้
แสดงความคิดเห็น
ติดพ่อแม่และโทรศัพท์ทำไงดีคะ