เตรียมตัวพร้อมกันรึยัง! Prime Video นำ " โหด มัน ฮา "กลับมารีบูตในรอบ34ปี!!

Prime Video ประกาศนำรายการเกมโชว์ยอดนิยมของญี่ปุ่น อย่าง โหด มัน ฮา (Takeshi's Castle) กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง กำหนดสตรีมครั้งแรกวันศุกร์ที่ 21 เมษายนนี้ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทยจะมีการนำเสนอในเวอร์ชั่นของไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นรูปแบบพิเศษเพื่อความสนุกที่เหมาะสมกับผู้ชมชาวไทย กำหนดสตรีมต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ พิเศษเฉพาะสมาชิก Prime Video ประเทศไทยเท่านั้น


รายการที่นำกลับมาสร้างใหม่นี้จะมีจำนวน 8 ตอน และสำหรับประเทศไทยจะมีการดัดแปลงเพิ่มเติมด้วยการ “พากย์เสียงอย่างสร้างสรรค์” โดยจะนำบทของรายการเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น มาแปลและเรียบเรียงเพื่อถ่ายทอดเป็นภาษาไทย รวมถึงเพิ่มเติมองค์ประกอบที่เหมาะสมกับผู้ชมชาวไทย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าผู้ชมจะรับชมรายการได้อย่างสนุกสนานและเข้าถึงมุกตลกที่สร้างสรรค์มาเพื่อผู้ชมชาวไทยโดยเฉพาะ ทั้งนี้จะมีการคัดเลือกนักแสดงและศิลปินตลกของไทยมาเป็นผู้ให้เสียงพากย์ – รายชื่อนักแสดงและศิลปินที่เข้าร่วมในรายการจะประกาศให้ทราบภายหลัง – นอกจากจะให้เสียงพากย์แล้ว นักแสดงแต่ละท่านจะยังสร้างสรรค์มุกตลกเพื่อเพิ่มเติมความสนุกขบขันแบบจัดเต็มสำหรับรายการเกมโชว์ญี่ปุ่นรายการนี้
“เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำรายการเกมโชว์ยอดนิยม อย่าง โหด มัน ฮา (Takeshi's Castle) กลับมาสร้างใหม่ และเข้าฉายที่ Prime Video ซึ่งรายการเวอร์ชั่นต้นฉบับเคยสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกในยุค 90 มาแล้ว นับเป็นการทลายกำแพงด้านภาษาและวัฒนธรรม” James Farrell (Head of International Originals ของ Prime Video) กล่าว “รายการ โหด มัน ฮา (Takeshi's Castle) เคยสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมมาแล้วนับล้าน เราแทบจะรอไม่ไหวที่จะให้ผู้ชมของเราทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุกที่คุ้นเคยอีกครั้งกับสุดยอดรายการคอเมดี้เวอร์ชั่นใหม่นี้ที่ Prime Video”
“รายการ โหด มัน ฮา (Takeshi’s Castle) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ชมรุ่นหนึ่งในประเทศไทย เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นักแสดงที่ตลกที่สุดและมีชื่อเสียงโดดเด่นที่สุดหลายท่านในวงการบันเทิงไทยมาร่วมงานกับเราในการคืนชีพรายการครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขาจะดึงดูดกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ให้รู้สึกตื่นเต้นและสนใจที่จะรับชมรายการ รวมถึงทำให้แฟนๆรายการเวอร์ชั่นต้นฉบับได้รับความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น” Erika North (Head of Originals at Prime Video, Asia-Pacific) กล่าว
รายการ โหด มัน ฮา (Takeshi's Castle) เวอร์ชั่นต้นฉบับได้ออกอากาศในประเทศไทย ช่วงปี 2531 - 2536  ในชื่อรายการเดียวกันและกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้ติดตามชมทุกสัปดาห์ที่ออกอากาศ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและคนหนุ่มสาว
เพื่อเปิดตัวรายการให้สมศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ -- ต้อนรับการกลับมาครั้งแรกในรอบ 34 ปี  -- Prime Video ประเทศญี่ปุ่นได้จัดงานรอบปฐมทัศน์โลกของรายการ โหด มัน ฮา (Takeshi’s Castle) ขึ้น ที่ Ebisu Garden Place ณ ใจกลางกรุงโตเกียว และได้มีสื่อมวลชนจากญี่ปุ่น ประเทศไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย สหราชอาณาจักร และสเปน ให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยในงานนี้สื่อมวลชนที่เข้าร่วมยังได้มีโอกาสรับชมรายการ โหด มัน ฮา (Takeshi’s Castle) ตอนที่ 1 อีกด้วย รวมถึงมีงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่บรรดานักแสดงหลักของรายการได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง



และเพื่อมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น ภายในงานได้มีการจำลองด่านของรายการอย่าง “Stepping Stones” ขึ้น เพื่อให้สื่อมวลชนที่ได้รับการคัดเลือกได้สัมผัสรสชาติแห่งความท้าทายเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันในรายการ ภายในบริเวณเดียวกัน สื่อมวลชนยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษผู้รับบทสองนายพลอย่าง ฮายาโตะ ทานิ (Hayato Tani) และ ซูบารุ  คิมูระ (Subaru Kimura) ถึงความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนสำคัญในรายการครั้งนี้




และนอกจากความสนุกที่ได้จากการรับชมเกมสุดพิลึกพิลั่นต่างๆ แล้ว ความฮาอีกอย่างหนึ่งในการรับชมรายการ ‘โหด มัน ฮา’ ก็คือ การมีนักแสดงเก่งๆ มารับ ‘บทบาทสมมติ’ ระหว่างการแข่งขัน เช่น ฮายาโตะ ทานิ (Hayato Tani) และ ซูบารุ คิมูระ (Subaru Kimura) ที่รับบทสองนายพลใหญ่ประจำรายการ, คู่หูตลกฉายา Bananaman อย่าง โอซามุ ชิตาระ (Osamu Shitara) และ ยูกิ ฮิมูระ (Yuki Himura) ที่รับบทหัวหน้าข้าราชบริพารแห่ง Takeshi's Castle หรือกระทั่ง ทาเคชิ คิตาโนะ (Takeshi Kitano) หรือ ‘บีต ทาเคชิ’ นักแสดง/ผู้กำกับรุ่นเก๋า ที่ยังคงมารับบทเป็น ‘เจ้าของปราสาท’ ผู้เปี่ยมอารมณ์ขันในวัย 76 ปี



ปิดท้ายงานด้วยความประทับใจและเต็มอิ่ม เมื่อสื่อมวลชนยังได้รับโอกาสสัมภาษณ์ คู่หูตลกฉายา Bananaman ได้แก่ โอซามุ ชิตาระ (Osamu Shitara) และ ยูกิ ฮิมูระ (Yuki Himura) ผู้รับบทหัวหน้าข้าราชบริพารแห่ง Takeshi’s Castle รวมถึงสัมภาษณ์โชว์รันเนอร์ของรายการเกี่ยวกับประสบการณ์และความตื่นเต้นที่ได้นำรายการอันโด่งดังอันดับต้นๆและเป็นจิตวิญญาณแห่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่นกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง