มหาลัยอาจต้องอยู่หอ แต่เป็นห่วงแม่

เราจะเริ่มจากเล่าสถานการณ์ครอบครัวก่อนนะคะ คือบ้านเรามีกันอยู่5คน มีพี่สาวเราอายุ30กว่า,ลูกชายคนโตของพี่อายุ20หรือก็คือหลานเรา,ลูกสาวพี่เราอีกคนนึงอยู่ม.1,แม่เราอายุ50กว่าจะ60 และก็เรา พี่สาวเราทำงานเลิกค่ำๆ เวลาเลิกกับเวลาเข้างานไม่แน่นอน วันหยุดก็ไม่แน่นอน หลานชายเราเค้าอายุ20 โตกว่าเราไม่กี่ปีทำงานขับเดลิเวอรี่ เค้าจะไม่ค่อยอยู่บ้านส่วนมากนอนบ้านเพื่อนใกล้ๆ ส่วนหลานสาวเราเข้าม.1แล้วเป็นเด็กที่ติดมือถือคุยกับเพื่อนทั้งวันทั้งคืน แล้วยังพูดจาหยาบคาย เราที่ไม่พูดคำหยาบแต่กับหลานเราก็ด่าอยู่บ่อยๆเพราะบางครั้งทำตัวแย่มากแล้ววัยนี้คือกำลังดื้อกำลังเถียงเลย แล้วเด็กสมัยนี้คือสอนยากมาก ให้ช่วยอะไรก็จะบ่นจะด่าจะชักสีหน้าตลอด ส่วนแม่เรายังทำงานอยู่เป็นแม่บ้านงานก็ไม่หนักมากแต่ต้องไปเช้าเข้า6โมงเช้าเลิก5โมงเย็น ร่างกายแม่ยังแข็งแรงดีไม่มีโรค ส่วนเรากำลังเตรียมตัวเข้ามหาลัยในปีหน้า เราเล็งคณะวิทย์มธ.ไว้ แต่ปัญหาคือมันไกลจากบ้านก็ต้องไปอยู่หอ เรื่องอยู่หอเราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เดินทางคนเดียวได้ อยู่คนเดียวได้เอาตัวรอดเป็น

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆคือเราเป็นห่วงแม่ 
คือคนในบ้านเราไม่ค่อยแยแสแม่เท่าไหร่ พี่สาวเราก็มักจะทะเลาะกับแม่บ่อยๆเรื่องเงิน คือแม่เราเงินเดือน10000 ถือว่าน้อยเลยทีเดียวแต่ยังต้องแบ่งให้พี่ที่เงินเดือนเกือบสองหมื่น ทั้งที่แม่ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไว้ให้เราเรียน เราเองก็ไม่อยากให้แม่เหนื่อยก็เลยพยายามหางานทำอยู่ แต่พี่เราคือเรารู้สึกว่าอายุ30กว่ามีการงานมั่นคงมันไม่สมควรไหมอะที่ต้องให้แม่แบ่งเงินให้ทุกเดือน เป็นเราตอนนั้นก็คงไม่เรียกเอาเงินจากแม่แล้วอะ

เรื่องเงินผ่านไป ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ก็คือพี่เราเวลาไม่ค่อยตรงกับแม่อยู่แล้วเค้าก็จะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ก็ไม่ได้ห่างเหินถ้าหยุดตรงกันหรือมีเวลาตอนเช้าตอนเย็นเค้าก็คุยกันปกติแต่ไปๆมาๆก็เข้าเรื่องเงินแล้วก็ทะเลาะกันบางที ส่วนหลานสาวเราคืออย่างที่บอก ติดมือถือ งานบ้านก็ไม่ค่อยช่วย ชุดนักเรียนแม่เราก็ยังเป็นคนซักรีดให้ คือคนในบ้านจะไม่ค่อยสนใจแม่เท่าไหร่ทั้งที่เค้าอายุก็เยอะแล้วแต่ยังต้องมาหาเงินให้ลูกหลาน ตัวเค้าเองไม่เคยเอาเงินไปใช้ส่วนตัวเลย ซื้อแต่ของเข้าบ้านแล้วก็เก็บให้เราแล้วก็แบ่งให้พี่ เรารู้สึกว่าแม่คงจะเหนื่อยมากแล้วเราก็จะช่วยงานบ้านเค้าตลอด ซักผ้า ล้างจาน กวาดถูบ้าน อะไรพวกนี้เราไม่อยากให้แม่ทำเลย แต่บางทีถ้าวันหยุดหรือแม่รู้สึกบ้านไม่สะอาดอะไรแบบนี้เค้าก็จะลุกมาทำของเค้าเอง อาทิตย์นึงแม่เราหยุดวันเดียวเองนะ เค้าก็จะบอกว่าไม่เหนื่อย งานไม่หนักค่อยๆทำได้เรื่อยๆ งานไม่หนักก็จริงแต่ไหนจะต้องมาทำงานบ้านและรับความประสาทของคนในบ้าน เราว่ามันหนักนะ ทุกวันนี้เราเองก็เหนื่อยต้องเรียนต้องทำงานแล้วก็ช่วยงานบ้าน แล้วเรานึกภาพถ้าเราไปอยู่หอ แม่ก็จะไม่มีใครให้คุยเล่นด้วย ไม่มีใครเดินเป็นเพื่อนตอนกลับจากที่ทำงาน แล้วต้องทำงานบ้านคนเดียว เรารู้สึกสงสารเค้าอะ ทุกวันนี้เรากับแม่ก็เป็นกึ่งๆคนใช้ของบ้านแล้วอะ ถ้าเราไม่อยู่แม่ก็จะเหนื่อยคนเดียว 

เราเลยมาลองคิดเรื่องมหาลัยดู มันก็มีตัวเลือกที่ใกล้กว่ามธ.ก็คือจุฬากับเกษตร แต่ใกล้ในที่นี้ก็ยังต้องรถไฟฟ้าสองต่อค่าเดินทางไป-กลับตกวันละเกือบ150++ ซึ่งมันไม่น้อยเลยสำหรับเรา เราเลยอยากฟังความเห็นของทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ ทั้งเรื่องเรียนทั้งเรื่องที่บ้าน ขอให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่