แม่ฟ้องเอาที่ดินที่ยายโอนให้ก่อนเสียชีวิตครับ ยายโอนให้เมื่อเมษายน2561 และยายเสียชีวิตพฤษภาคม2565 ครับ (ตาผมเสียชีวิตปี2558)
เนื่องจาก แม่เอาผมกับน้องสาวมาทิ้งไว้ให้ยายกับตาเลี้ยงตั้งแต่ปี 2548 และหนีไปกับผัวใหม่ หลังจากผ่านไป1เดือนพอรู้ว่าพ่อติดต่อมาหา แม่ก็หายไปเลย ไม่เลี้ยงดูเป็นเวลาประมาณ 15 ปี ไม่มีใครติดต่อได้ ผ่านมาถึงปี สิงหาคม 2563 ทางบ้านได้ข่าวว่าอยู่สิงบุรี กำลังตกทุกข์ได้ยากช่วงโควิด น้าเลยไปรับกลับมาอยู่บ้านให้มาอยู่กับยาย และได้มีการพาไปทำเอกสารบัตรประชาชนใหม่ อะไรใหม่ น่าจะทุกข์ยากจริงๆ แล้วเป็นช่วงที่ผมลางานกลับไปเที่ยวบ้านพอดี เจอหน้าผมครั้งแรก แม่ก็ขอเงิน10,000บาท ผมก็ให้แกไป5,000บาท ที่แรกไม่ทราบว่าเอาไปทำอะไร ไปๆมาๆ ทางน้าบอกว่าโอนเงินไปให้ผัวใหม่เดินทางมาอยู่ด้วย (แกไม่มีโทรศัพท์และใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ผมเลยเอาเครื่องเก่าผมให้แกใช้ และสอนแก) หลังๆมาเริ่ม โทรมาขอเงินผมเรื่อยๆ เพราะต้องการขายของ (ขายส้มตำ ไก่ย่าง เช่าที่ข้างวัดปลูกเพลิงขายของครับ ) ผมก็ช่วยได้บ้าง ช่วงนี้ 2564 ทางบ้านมีการแบ่งที่ดินอีกส่วนของยาย อีกส่วนนั้นยายต้องการให้น้องสาวรับเอาไว้ แต่น้องสาวไม่ว่างเลยให้ผมไปแทน เมื่อถึงเวลาเซ็นโอนที่ แม่ก็พายายนั่งสามล้อเครื่องไปกรมที่ดินเอาที่ดินก่อนพี่น้องแกเลย ซึ่งลุงป้าน้าตามไปทีหลัง และโทรมาบอกว่าไม่ทันแล้วเพราะแม่ผมเป็นคนพายายไปเซ็นเอาโฉนดคนแรกเลย หลังจากนั้น ยายบอกผมว่าให้ไปขอแม่ให้ผมเก็บโฉนดที่ดินอีกส่วนที่เป็นชื่อแม่ไว้ เพราะกลัวแกเอาไปขาย แกไม่ยอมให้ และยายก็บอกว่าโฉนดอีกที่ที่อยู่กับผมไม่ต้องไปโอนให้เดี๋ยวเอาไปขายแล้วหนีไปกับผัวใหม่อีก ยายอยากเก็บไว้ให้หลานๆ
ช่วงกุมภา2566 มีหมายศาลมา ว่าแม่ฟ้องเอาที่ดิน รายระเอียดในหมายศาลบอกว่าให้ผมโอนที่ดินให้และจ่ายค่าทนายให้แกด้วย ทางบ้านก็เลยโทรมาบอกให้กลับไปขึ้นศาล 15 มีนาคม2566 ศาลสั่งเลื่อนให้มาอีกครั้ง 15 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ครับ เนื่องจากผมไม่มีทนาย ศาลให้ไปหาทนาย วันนั้นผมพาลุง ป้า น้า ไปหมดบ้านเลยครับ แม่ไม่มองหน้าพี่น้องแกเลย
วันขึ้นศาล แม่ชี้แจงกับศาลว่า แกจะปลูกบ้านและอยากได้คืนเพราะเป็นมรดกของพ่อแก ผมชี้แจ้งกับศาลบอกเรื่องความเป็นมาก่อนและหลังแกกลับมา และไม่ยอมให้แกครับ ถ้าจะโอนให้ต้องเป็นชื่อร่วม เพราะยายบอกไว้ ไม่ให้โอนให้ เดี๋ยวแกเอาไปขาย แม่ก็พูดต่อหน้าศาลเลยครับถึงได้ไปก็ไม่ไปปลูกบ้านใกล้กันเพราะว่าไม่ถูกกัน (สรุปก็คือจะเอาไปขาย)
เมื่อไม่ยอมความ ศาลจี้แจ้งว่าแบบนี้ครับ
ศาล: ในทางกฎหมาย แม่อาจจะได้เปรียบ แต่ว่าในทางกฎแห่งกรรม แม่ได้ไป แต่จะไม่มีลูกหลานคอยดูแลตอนแก่เฒ่านะ ให้คิดดีๆ
แม่: ยังไงหนูก็ไม่ยอมค่ะ เพราะมันเป็นมูลของพ่อหนู
ศาล: ถ้ายอมความ งั้นเลื่อนให้จำเลยไปหาทนายมานะ
ทางลุงกับน้าก็พูดว่า พลาดที่ไม่ได้ไปแจ้งสาบสูญไว้ครับ ไม่คิดว่ากลับมาจะเอาทำแบบนี้
อย่างนี้ผมควรแก้ปัญหายังไงดีครับ ปวดหัวคิดไม่ออกเลยครับ
แม่ฟ้องเอาที่ดินที่ยายโอนให้ควรทำอย่างไรครับ ?
เนื่องจาก แม่เอาผมกับน้องสาวมาทิ้งไว้ให้ยายกับตาเลี้ยงตั้งแต่ปี 2548 และหนีไปกับผัวใหม่ หลังจากผ่านไป1เดือนพอรู้ว่าพ่อติดต่อมาหา แม่ก็หายไปเลย ไม่เลี้ยงดูเป็นเวลาประมาณ 15 ปี ไม่มีใครติดต่อได้ ผ่านมาถึงปี สิงหาคม 2563 ทางบ้านได้ข่าวว่าอยู่สิงบุรี กำลังตกทุกข์ได้ยากช่วงโควิด น้าเลยไปรับกลับมาอยู่บ้านให้มาอยู่กับยาย และได้มีการพาไปทำเอกสารบัตรประชาชนใหม่ อะไรใหม่ น่าจะทุกข์ยากจริงๆ แล้วเป็นช่วงที่ผมลางานกลับไปเที่ยวบ้านพอดี เจอหน้าผมครั้งแรก แม่ก็ขอเงิน10,000บาท ผมก็ให้แกไป5,000บาท ที่แรกไม่ทราบว่าเอาไปทำอะไร ไปๆมาๆ ทางน้าบอกว่าโอนเงินไปให้ผัวใหม่เดินทางมาอยู่ด้วย (แกไม่มีโทรศัพท์และใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ผมเลยเอาเครื่องเก่าผมให้แกใช้ และสอนแก) หลังๆมาเริ่ม โทรมาขอเงินผมเรื่อยๆ เพราะต้องการขายของ (ขายส้มตำ ไก่ย่าง เช่าที่ข้างวัดปลูกเพลิงขายของครับ ) ผมก็ช่วยได้บ้าง ช่วงนี้ 2564 ทางบ้านมีการแบ่งที่ดินอีกส่วนของยาย อีกส่วนนั้นยายต้องการให้น้องสาวรับเอาไว้ แต่น้องสาวไม่ว่างเลยให้ผมไปแทน เมื่อถึงเวลาเซ็นโอนที่ แม่ก็พายายนั่งสามล้อเครื่องไปกรมที่ดินเอาที่ดินก่อนพี่น้องแกเลย ซึ่งลุงป้าน้าตามไปทีหลัง และโทรมาบอกว่าไม่ทันแล้วเพราะแม่ผมเป็นคนพายายไปเซ็นเอาโฉนดคนแรกเลย หลังจากนั้น ยายบอกผมว่าให้ไปขอแม่ให้ผมเก็บโฉนดที่ดินอีกส่วนที่เป็นชื่อแม่ไว้ เพราะกลัวแกเอาไปขาย แกไม่ยอมให้ และยายก็บอกว่าโฉนดอีกที่ที่อยู่กับผมไม่ต้องไปโอนให้เดี๋ยวเอาไปขายแล้วหนีไปกับผัวใหม่อีก ยายอยากเก็บไว้ให้หลานๆ
ช่วงกุมภา2566 มีหมายศาลมา ว่าแม่ฟ้องเอาที่ดิน รายระเอียดในหมายศาลบอกว่าให้ผมโอนที่ดินให้และจ่ายค่าทนายให้แกด้วย ทางบ้านก็เลยโทรมาบอกให้กลับไปขึ้นศาล 15 มีนาคม2566 ศาลสั่งเลื่อนให้มาอีกครั้ง 15 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ครับ เนื่องจากผมไม่มีทนาย ศาลให้ไปหาทนาย วันนั้นผมพาลุง ป้า น้า ไปหมดบ้านเลยครับ แม่ไม่มองหน้าพี่น้องแกเลย
วันขึ้นศาล แม่ชี้แจงกับศาลว่า แกจะปลูกบ้านและอยากได้คืนเพราะเป็นมรดกของพ่อแก ผมชี้แจ้งกับศาลบอกเรื่องความเป็นมาก่อนและหลังแกกลับมา และไม่ยอมให้แกครับ ถ้าจะโอนให้ต้องเป็นชื่อร่วม เพราะยายบอกไว้ ไม่ให้โอนให้ เดี๋ยวแกเอาไปขาย แม่ก็พูดต่อหน้าศาลเลยครับถึงได้ไปก็ไม่ไปปลูกบ้านใกล้กันเพราะว่าไม่ถูกกัน (สรุปก็คือจะเอาไปขาย)
เมื่อไม่ยอมความ ศาลจี้แจ้งว่าแบบนี้ครับ
ศาล: ในทางกฎหมาย แม่อาจจะได้เปรียบ แต่ว่าในทางกฎแห่งกรรม แม่ได้ไป แต่จะไม่มีลูกหลานคอยดูแลตอนแก่เฒ่านะ ให้คิดดีๆ
แม่: ยังไงหนูก็ไม่ยอมค่ะ เพราะมันเป็นมูลของพ่อหนู
ศาล: ถ้ายอมความ งั้นเลื่อนให้จำเลยไปหาทนายมานะ
ทางลุงกับน้าก็พูดว่า พลาดที่ไม่ได้ไปแจ้งสาบสูญไว้ครับ ไม่คิดว่ากลับมาจะเอาทำแบบนี้
อย่างนี้ผมควรแก้ปัญหายังไงดีครับ ปวดหัวคิดไม่ออกเลยครับ