สวัสดีค่ะ ตอนนี้โดนรีไทร์ปี 1 เทอม 2
เทอม 1 มี w เคมี 1 ตัว แคลได้ D ได้เกรดรวม 2.59 ค่ะ เทอม 2 ได้ F มา 5 ตัว เป็นวิชาแคล 2 กลศาสตร์ เขียนโปรแกรม เคมีที่ดรอปไว้เทอม 1 แล้วก็วิชาปฎิบัติที่มีปัญหากับอาจารย์ ได้เกรดรวม 1.05
ตอนแรกคิดว่าเทอม 2 ได้เกรด 1.70 เลยตกใจมากที่พ้นสภาพค่ะ จากเกณฑ์ 1.75 เหตุผลมาจากเริ่มมีปัญหากับอาจารย์ที่เราไปทำงานแทนให้เพื่อนเนื่องจากเพื่อนไม่ได้มาเรียน อาจารย์มาเห็นเลยให้ 0 เราในแลปนั่น เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยอยากเรียน ช่วงนั่นเราได้โน้ตบุ๊คมาใหม่ จากคนที่ติดซีรี่ย์ก็กลายเป็นคนติดเกม ไม่ตั้งใจเรียน แต่เวลามีสอบเราก็ไปเสมอค่ะ พอคะแนนออกก็ดีกว่าเพื่อนบางคนในกลุ่ม เราเลยไม่ได้คิดมาก พอสอบปลายภาคก็ออกมาเหมือนเดิมค่ะ แต่พอมาดูคะแนนมันมีคะแนนอื่นๆรวมอยู่ด้วย คะแนนเข้าเรียน คะแนนหลังเรียน ดรอปก็ไม่ทัน
เราเป็นลูกคนเดียวที่พ่อแม่อยากให้รับราชการหรือเรียนสายการแพทย์ แต่เราก็ไฟท์จนได้มาเรียนในสิ่งที่เลือกคือวิศวะ จากปกติเราเป็นคนขี้เกียจอยู่แล้ว ก็ตามสภาพค่ะ เราทำใจและยอมรับ คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว เขาบอกว่าเราไม่ได้อยากเรียนรึป่าว เราก็รู้สึกว่าอยากเรียน แล้วก็ไม่รู้จะไปเรียนอะไรแล้ว ตอนเทอม 1 เราร้องไห้ค่อนข้างบ่อยกลัวทำให้ที่บ้านเสียใจ แต่ตอนนี้เรากลับมาทำแบบนี้ ที่บ้านเราก็พูดเสมอว่าเกรดไม่ดีไม่เป็นไร ทำเต็มที่แล้ว เราเก่งแล้ว มันก็ยากแต่เราเข้ามาได้ขนาดนี้ก็แสดงว่าเราทำได้ เราถูกปลูกฝังมาเสมอว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมากๆ แต่เรายังไม่รู้จะบอกพ่อกับแม่ยังไง เราพยายามรวบรวมข้อมูลในการสอบเข้าปีหน้าให้มากสุดๆแล้วค่อยบอก แต่เราก็อยากบอกที่บ้านให้เร็วสุดๆเหมือนกัน มันอึดอัดมากที่ต้องมองหน้าเขา นอนไม่หลับกินยาไปค่อนข้างเยอะ เรากลัวว่าถ้าเราบอกไปว่าเราขี้เกียจไม่ไปเรียนติด F 5 ตัว เขาจะรับได้มั้ย จะให้เราเดินในสายนี้ต่อมั้ย เลยอยากได้คำแนะนำค่ะ
ตอนนี้เราคิดไว้ว่ารอสอบใหม่ปีหน้า ในคณะเดิมอาจจะเปลี่ยนสาขา ในมหาวิทยาลัยไหนเรายังไม่รู้ค่ะ
1 เราควรบอกเขาเลยแล้วหาทางแก้พร้อมกัน หรือเราควรเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนไม่อยากตอบคำถามที่เขาถามว่าไม่รู้
2 เราควรบอกเขาประมาณไหนดีคะ คือเราพอจะเรียบเรียงไว้แล้ว แต่อยากทราบจากคนอื่นว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี่คนรับฟัง จะฟังแบบไหนถึงจะเข้าใจมากที่สุดค่ะ ให้เขาเชื่อมั่นว่าเวลา 1 ปีจะไม่เสียเปล่า
ท้ายนี้เราไม่ได้ต้องการคำตินะคะ เราทราบดีว่าสิ่งที่เราทำมันแย่แค่ไหน เรายอมรับสภาพของตัวเองแล้วพร้อมปรับปรุงค่ะ เราผิดพลาดแล้วและมันจะไม่ซ้ำสองแน่นอนค่ะ
เรียนวิศวะโดนรีไทร์ ปี 1 เทอม 2
เทอม 1 มี w เคมี 1 ตัว แคลได้ D ได้เกรดรวม 2.59 ค่ะ เทอม 2 ได้ F มา 5 ตัว เป็นวิชาแคล 2 กลศาสตร์ เขียนโปรแกรม เคมีที่ดรอปไว้เทอม 1 แล้วก็วิชาปฎิบัติที่มีปัญหากับอาจารย์ ได้เกรดรวม 1.05
ตอนแรกคิดว่าเทอม 2 ได้เกรด 1.70 เลยตกใจมากที่พ้นสภาพค่ะ จากเกณฑ์ 1.75 เหตุผลมาจากเริ่มมีปัญหากับอาจารย์ที่เราไปทำงานแทนให้เพื่อนเนื่องจากเพื่อนไม่ได้มาเรียน อาจารย์มาเห็นเลยให้ 0 เราในแลปนั่น เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยอยากเรียน ช่วงนั่นเราได้โน้ตบุ๊คมาใหม่ จากคนที่ติดซีรี่ย์ก็กลายเป็นคนติดเกม ไม่ตั้งใจเรียน แต่เวลามีสอบเราก็ไปเสมอค่ะ พอคะแนนออกก็ดีกว่าเพื่อนบางคนในกลุ่ม เราเลยไม่ได้คิดมาก พอสอบปลายภาคก็ออกมาเหมือนเดิมค่ะ แต่พอมาดูคะแนนมันมีคะแนนอื่นๆรวมอยู่ด้วย คะแนนเข้าเรียน คะแนนหลังเรียน ดรอปก็ไม่ทัน
เราเป็นลูกคนเดียวที่พ่อแม่อยากให้รับราชการหรือเรียนสายการแพทย์ แต่เราก็ไฟท์จนได้มาเรียนในสิ่งที่เลือกคือวิศวะ จากปกติเราเป็นคนขี้เกียจอยู่แล้ว ก็ตามสภาพค่ะ เราทำใจและยอมรับ คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว เขาบอกว่าเราไม่ได้อยากเรียนรึป่าว เราก็รู้สึกว่าอยากเรียน แล้วก็ไม่รู้จะไปเรียนอะไรแล้ว ตอนเทอม 1 เราร้องไห้ค่อนข้างบ่อยกลัวทำให้ที่บ้านเสียใจ แต่ตอนนี้เรากลับมาทำแบบนี้ ที่บ้านเราก็พูดเสมอว่าเกรดไม่ดีไม่เป็นไร ทำเต็มที่แล้ว เราเก่งแล้ว มันก็ยากแต่เราเข้ามาได้ขนาดนี้ก็แสดงว่าเราทำได้ เราถูกปลูกฝังมาเสมอว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมากๆ แต่เรายังไม่รู้จะบอกพ่อกับแม่ยังไง เราพยายามรวบรวมข้อมูลในการสอบเข้าปีหน้าให้มากสุดๆแล้วค่อยบอก แต่เราก็อยากบอกที่บ้านให้เร็วสุดๆเหมือนกัน มันอึดอัดมากที่ต้องมองหน้าเขา นอนไม่หลับกินยาไปค่อนข้างเยอะ เรากลัวว่าถ้าเราบอกไปว่าเราขี้เกียจไม่ไปเรียนติด F 5 ตัว เขาจะรับได้มั้ย จะให้เราเดินในสายนี้ต่อมั้ย เลยอยากได้คำแนะนำค่ะ
ตอนนี้เราคิดไว้ว่ารอสอบใหม่ปีหน้า ในคณะเดิมอาจจะเปลี่ยนสาขา ในมหาวิทยาลัยไหนเรายังไม่รู้ค่ะ
1 เราควรบอกเขาเลยแล้วหาทางแก้พร้อมกัน หรือเราควรเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนไม่อยากตอบคำถามที่เขาถามว่าไม่รู้
2 เราควรบอกเขาประมาณไหนดีคะ คือเราพอจะเรียบเรียงไว้แล้ว แต่อยากทราบจากคนอื่นว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี่คนรับฟัง จะฟังแบบไหนถึงจะเข้าใจมากที่สุดค่ะ ให้เขาเชื่อมั่นว่าเวลา 1 ปีจะไม่เสียเปล่า
ท้ายนี้เราไม่ได้ต้องการคำตินะคะ เราทราบดีว่าสิ่งที่เราทำมันแย่แค่ไหน เรายอมรับสภาพของตัวเองแล้วพร้อมปรับปรุงค่ะ เราผิดพลาดแล้วและมันจะไม่ซ้ำสองแน่นอนค่ะ