แม่เลี้ยงเดี่ยวจัดการแผนเกษียณของตัวเองและอนาคตลูกไปพร้อมๆกันได้อย่างไรคะ?

ขอคำแนะนำค่ะ เพราะอยู่ๆก็รู้สึกกลัวอนาคตขึ้นมาเฉยๆ ทั้งๆที่ก็คิดว่าตัวเองเป็นคนที่คิดรอบคอบพอสมควรในเรื่องลูก

ปัจจุบันเราขอหย่าขาดจากสามี ไม่ได้ค่าเลี้ยงดูส่งเสียอะไรจากฝั่งผู้ชายค่ะ ยื่นข้อเสนอแค่ขอหย่า และขอเป็นผู้มีสิทธิ์ปกครองบุตร 100% แค่นั้น ตัวเราเองเป็นคนที่ทำงานเพื่อเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 3 คน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวค่ะ อายุของเด็กๆคือ 4 ขวบ และ 1 ขวบ (แฝด)

เราทำงานในบริษัทเอกชนที่ดีมาก มีสวัสดิการในด้านค่ารักษาทั้งของตัวเราเอง และของลูกๆทั้ง 3 คน ทั้งแบบ opd และ ipd ในระดับที่ถ้าเป็นหนักๆ เข้า ICU ในรพ.เอกชนอินเตอร์ ก็จ่ายส่วนต่างเองแค่หลักพัน-หมื่นบาท ถ้าเป็นการรักษาทั่วไปแบบที่เด็กๆเจ็บป่วยบ่อย ก็ไม่เคยมีส่วนต่างค่ะ เราจึงไม่มีภาระในด้านประกันสุขภาพรายปีของเด็กๆ แต่เราทำประกันสุขภาพสำหรับตัวเองเอาไว้แบบเหมาจ่ายวงเงินสูง เพื่อใช้ในอนาคตหลังจากที่ตัวเราเองเกษียณอายุตอน 55 ปีค่ะ เพราะเราไม่ได้รับราชการ เลยเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ แก่ไปจะได้ไม่เป็นภาระของลูกๆค่ะ

ในส่วนของเรา:
- ในส่วนของประกันสุขภาพ ทั้งเหมาจ่ายและแบบโรคร้ายแรง เราจ่ายอยู่ปีละ 160,000 บาท
- เราตัดออมในส่วนของ pvd แบบจัดเต็มเพดานที่ 15% บริษัทสมทบให้อีก 10%
- เราเก็บเองในส่วนของ RMF เป็นส่วนใหญ่ เน้นได้ค่าลดหย่อน แล้วเอามาลงทุนต่อทบไปทุกปี ซื้อเก็บทุกเดือน เดือนละ 10k
- เราออมทองทุกเดือน เดือนละ 2,000 บาท (ทองลงทีเราซื้อที ช่วงทองพุ่งๆ เราขายออก แล้วซื้อใหม่ตอนลง ประมาณนี้ค่ะ) ได้เป็นก้อนใหญ่ ก็ตั้งใจถอนเป็นทองแท่งแล้วเก็บไว้ เผื่ออนาคตลำบาก จะได้ขายไว้ใช้จ่ายในยามขัดสน หรือฉุกเฉินค่ะ ถือเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินได้ไหมนะ

เป้าหมายส่วนของเราหลังเกษียณ (ลงทุนนาน 25 ปี)
1.> มีสินทรัพย์รวมในพอร์ทการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ได้ผลตอบแทนที่ 5% ต่อปีก็พอ แล้วเรากินใช้จากผลตอบแทนนั้นแบบรายเดือน น่าจะได้ที่เดือนละ 60,000 เราคิดว่าเพียงพอสำหรับค่ากิน เที่ยวในประเทศ หรือบางครั้งเจ็บป่วยจ่ายเองแบบ opd ค่ะ ไม่พอก็ขายทองเอามาจ่าย เพราะเตรียมไว้เพื่อสิ่งนี้เลย
2.> มีประกันสุขภาพแบบไม่ต้องจ่ายรายปีอีกแล้ว เพราะจ่ายครบแล้ว 20 ปี ถ้าเป็นโรคอะไรต้องรักษาแบบนอน รพ. เอาโรงพยาบาลกลางๆค่อนไปทางล่าง วงเงินประมาณ 5 ล้าน ค่าห้อง 8,000 น่าจะเพียงพอ ถ้าเจ็บป่วยหนักแบบโรคร้ายแรง รพ.รัฐ ก็น่าจะเพียงพอกับวงเงินในส่วนของโรคร้ายแรงค่ะ ถ้าหนักมากเป็นผัก ก็ขอตายได้เลย ไม่ขอเป็นภาระลูกๆเด็ดขาดเลยค่ะ

ในส่วนของลูก:
- เราเก็บค่าเรียนให้เด็กๆ เดือนละ 15,000 บาท ตอนนี้ส่งคนโตเรียนอนุบาล 2 ภาษา ค่าเทอมประมาณ 60,000 บาท รวมรถรับส่ง และกิจกรรมพิเศษต่างๆ เราเริ่มเก็บออมค่าเทอมลูกมาตั้งแต่ยังไม่ตั้งท้องคนโต จนตอนนี้อนุบาล 2 แล้ว เราไม่มีปัญหา(ในตอนนี้)เรื่องค่าเทอมลูกนะคะ แต่หวั่นกับอนาคตเหมือนกันค่ะ เพราะอยู่ๆแฝดก็โผล่มา แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกๆทุกคนอย่างเท่าเทียมกันค่ะ
- เรามีเงินเก็บให้เด็กๆในรูปของกองทุน เงินอุดหนุนจากรัฐทุกเดือน เรายัดเข้ากองนี้ค่ะ เดือนละ 2,400 บาทสำหรับเด็กๆ 3 คน กองนี้มีอายุยาวนานเท่าลูกคนโต (4 ปี ณ ปัจจุบัน) เราซื้อแบบ rmf เพราะหักลดหย่อนภาษีเราได้ และเราจะยกให้ลูกได้พอดีตอนเราเกษียณ คนโตสุดก็เริ่มต้นทำงานพอดีค่ะ เราจะให้เขาบริหารกองต่อ หรือขายทั้งหมดแล้วเอามาแบ่งกัน 3 คนพี่น้อง ก็สุดแล้วแต่เขาจะจัดการกันนะคะ
- เงินโบนัสทั้งหมดของเรา ยัดเข้ากองเพื่อการศึกษาของลูกค่ะ เรากำลังคิดอยู่ว่าจะเก็บเอาไว้ในรูปแบบไหนดี อันนี้เราคิดไม่ตก เลยเก็บไว้ในรูปเงินสดฝากเข้าkeptไว้ก่อนค่ะ ทุกๆปี จะได้โบนัสประมาณ แสนกว่าบาทค่ะ

เป้าหมายส่วนของลูก:
- มีเงินออมในพอร์ทกองทุนเป็นของขวัญวันเริ่มต้นทำงานและได้เงินเดือนเดือนแรกค่ะ เก็บออมต่อหรือขายเอาไปลงกองใหม่ แล้วแต่เลย แม่ไม่รับรู้แล้วค่ะ
- มีเงินออมเพียงพอจนลูกๆจบมหาวิทยาลัย ตลอดทางของการศึกษา เราขอทุ่มเทเพื่อเขาในแบบที่เขารักชอบ ถ้าคุ้มค่า เราขอทุ่มเทเพื่อวิชาชีพของพวกเขาค่ะ แต่พอเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว ทางใครทางมันได้เลยค่ะ เพราะแม่เหนื่อยแล้ว ไปต่อยอดกันเอาเองค่ะ
- สำหรับลูกสาว เรามีทองรับขวัญให้วันแต่งงาน ถ้าไม่แต่ง เราก็จะให้ไว้เป็นสินทรัพย์ส่วนตัวค่ะ สำหรับลูกชาย เรามีทองก้อนนึงให้เอาไว้ขอสาว ถ้าไม่เอา ก็จะเก็บไว้ให้หลานๆค่ะ ถ้าไม่แต่งงาน อดจ๊ะ

สำหรับค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกเดือน:
เราไม่มีภาระหนี้สิน บ้านไม่ต้องเช่า เราอาจจะเป็นคนอับโชคเรื่องคู่ครอง แต่เราโชคดีกว่าเพราะแม่เราเป็นข้าราชการบำนาญ มีตึกแถวให้เช่า มีบ้านให้เช่า และกิจการร้านค้า เราเลยไม่ต้องรับภาระในเรื่องค่าเลี้ยงดูแม่เลย ปกติเราให้แม่ทุกเดือนตั้งแต่เรียนจบ แต่หลังจากหย่าจากพ่อของลูก แม่เราให้เราเก็บส่วนนี้เอาไว้เพื่อเลี้ยงดูลูกไป เราเลยมีค่าใช้จ่ายแค่นี้ค่ะ
- ค่าพี่เลี้ยงแฝด เดือนละ 10,000 บาท
- ค่าน้ำ ไฟ และของกินในบ้าน เดือนละ 5,000 บาท
- ค่าขนมลูกๆซื้อจากร้านแม่ เดือนละ 2,000 บาท
- ค่ากิน ค่าใช้จ่ายเรื่องลูก นมผง นมกล่อง เพิส และจิปาถะ เดือนละ 10,000 บาท (ไม่ค่อยพอค่ะ แทบจะเกินงบตลอด)
- ค่า entertain ครอบครัว เราเก็บเดือนละ 6,000 บาท (เราชอบเที่ยวค่ะ เลยพาลูกๆและครอบครัวกิน เที่ยว และตอนนี้ลูกเริ่มโต เราเลยพาเที่ยวทั้งใน และตปท)
- ค่ารถ ค่ากินของเราเองตอนไปทำงาน เดือนละ 4,000 บาท
- ค่าประกันรถยนต์+พรบ+ภาษีรถยนต์+ตรวจสภาพรถ+บำรุงรักษา เราออมไว้จ่ายรายปีอีกเดือนละ 2,000 บาท

ทุกๆเดือน เราแบ่งสรรปันส่วนเอาไว้ตามนี้เลยค่ะ แต่ก็มีนอกแผนตลอด เพราะแผนมันมีไว้ให้แหกเสมอ 😂 เงินเดือนออกปุ๊บ หายเกลี้ยงปั๊บ จนคิดว่าเราควรหาวิธีเพิ่มเงินนะ ขะได้เอาไว้ใช้ในแบบที่ตัวเองอยากได้บ้าง หรือเก็บให้ลูกๆได้มากกว่านี้บ้างค่ะ

พอเงินออก แล้วหายวั๊บ มันเลยกังวลเล็กๆ ว่าถ้ามีอะไรฉุกเฉินขึ้นมาเราจะทำยังไง เงินสดแทบไม่ทีติดตัว มีแค่ในรูปแบบทอง ซึ่งสารภาพว่าถ้าไม่จำเป็นมากอะไรก็ไม่อยากแตะทองเลยค่ะ อยากเก็บไว้ตอนแก่จริงๆ เราอยากรู้ว่าเหล่าคุณพ่อ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกมากกว่า 1 คนแบบนี้ มีแผนยังไงกันบ้างคะ เรารู้สึกหนักๆ หน่วงๆ แต่ก็อยากสู้ในทุกๆวันที่ลืมตาค่ะ เพื่อลูกๆที่เรารัก และเพื่อตัวเราเองด้วยค่ะ

ยาวมากๆเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ และให้เกียรติมาแสดงความเห็นกันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่