Zalipie เมืองเล็กๆ ในชนบท ทางตอนใต้ของโปแลนด์
(งานรีวิวที่เจอใน FB memory อ่านแล้วตลกดีเลยเอามาแบ่งปันที่นี่) ไปเมื่อ 2018
ก็ตามรอยรีวิวไป คิดว่าจะได้ซื้อของฝากที่มีการเพ้นท์มือบนเครื่องจานชามรามไห
พยายามหาชื่อหมู่บ้านที่เคยเห็นผ่านๆ ในการอ่านรีวิวจนเจอ
และเผอิญมี my favorite one เป็นชาวท้องถิ่น
Me: เทอๆ เราจะไปที่นี่อ่ะ
My favorite one: โอเค จัดการหาทางและเวลาในการไปสถานที่นั้น
Me: ดีเนอะที่มีเทอ เราเลยไม่ต้องคิดเองว่าจะไปยังไง บลาๆ
My favorite one: แต่ฉันต้องคิดสินะ
Me: แฮ่ๆ
เริ่มต้นโดยการไปขึ้นรถที่ขนส่ง (555+) เมืองกราคุฟ
นั่งรถไปพอสมควร ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
เพื่อไปลงยังเมืองอะไรไม่รู้ จำไม่ได้เพราะไม่ได้วางแผนเอง (แล้วแกจะเล่าท๊ามมม๊ายยยย)
บรรยากาศเมืองที่รถมาจอด
จากนั้นก็ต้องเดินไปข้ามแพ
อร๊ายยยยย...ตื่นเต้นนนนน ข้ามแพด้วยยยยย
บรรยากาศการเดินไปท่าแพ
แม้จะหนาวสักเพียงใด ยังไง๊ก็ยังชอบภาพที่มีหิมะอยู่ดี
โชคดีที่ช่วงนั้นเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ไม่หนาวมาก 11 องศาเบาๆ
ขณะเดินก็ตื่นเต้น บ้านเราก็มีแพขนานยนต์ข้ามฟาก มีท่าเรือน้ำลึก
แพขนานยนต์ที่นี่จะเป็นยังไงน๊าาาาาา....
ตัดภาพมา
อุ้ยยยย...คงไม่ใช่เวลาการให้บริการมั้ง ไม่มีคนเลย
ประเดี๋ยวเดียวคงจะมีเพื่อนร่วมทางแหละออเจ้า
เอ๊ะ...หรือว่าวันนี้เค้าจะไม่เปิดทำการ 555+
คิดสภาพมาคนเดียวหรือไม่ได้มากับคนในพื้นที่ ก็คงจะกลับตั้งแต่ตรงนี้เป็นแน่แท้
เหงา...ไม่มีใครเลย 555+
แพมาล๊าววววววววว!!!
แพเคเบิ้ล เพหมุนมือ
แพมาแล้ว น่ารักจุ๊บุ๊ๆ ชักรอกมากับเคเบิ้ล โดยแรงงานคน น่าร๊อกอ่ะ (555+) สีสันน่ารัก
มีลุงกะพี่คนนึงดูแลแพอันนี้ โดยลุงเก็บตังค์ และพี่อีกคนก็ขับเคลื่อนแพด้วยพลังงานมือหมุน 555+
ขณะนั้นมีรถร่วมทางมาหนึ่งคัน โดยก่อนจะลงจากแพ my favorite one ก็บอกว่าจากนี้ไม่มีรถโดยสารไปยังสถานที่ที่เราจะไป
ซึ่งประมาณ 10 กิโลเมตรจะถึงที่หมาย
ตอนฟังเค้าเล่าก็ฟังแบบ อ๋อ...สบาย เดินได้ ชิวๆ ปกติก็เดินกันเป็นบ้าเป็นหลังมากกว่า 10 กิโลเมตรอีกมั้ง
แต่ในขณะนั้นมโนว่าเป็นการเดินผ่านเมือง
ตัดภาพมา
สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนนนน!!!
นี่ถ้าซัมเมอร์คงตับแล่บ โชคดีสปริงเบาๆ
ซึ่งเค้าก็ไม่เคยมาเหมือนกัน กูเกิ้ลมันบอกมาแบบนี้
คิดสภาพถ้ามากับเพื่อนคนอื่น ถ้ามากับพี่ไทย คำถามแรกก็คงจะแบบ
“แกมาหา (พระแสง) อะไรที่นี่?” 555+
แต่พี่โปลิชของเราไม่มีทีท่าประหลาดใจหรือหงุดหงิดแต่อย่างใด
พร้อมทั้งยังบอกว่า เราอาจจะลองพยามโบกรถกันถ้าคุณเดินไม่ไหวนะ
เดินอ่ะไหว แต่เราจะกลับมาทันแพนี้หยุดบริการมั้ยนี่สิ
มา...มาลองเป็น Hitchhiker กัน
เจอร่องรอยเมืองแล้วววว
หมู่บ้านที่นี่น่ากลัวมาก ไม่เก๋าจริงมาไม่ได้ เจ้าถิ่นเค้าแรงส์
ยังไม่ทันจะได้เดินไปถึงสามแยก (เอ๊ะ...หรือสี่แยก) ก็มีเสียงขู่จากเจ้าถิ่นให้ได้ยินแว่วววๆ
เจ้าถิ่นมาแล้ววววว
พุ่งมาแล้ววววว จะกัดมั้ยยยยยย be aware of (cute) dogs
ไม่ไหววววแล้วววว...ขอกลับบ้านได้มั้ย
โรคหัวใจกำเริบ เลิฟ...เลิฟยูววววว น่ากลัวไปอี๊กกกกกก
วิ่งมาเหมือนรู้จักกันแต่ชาติปางก่อน พร้อมหงายท้องให้เกาอย่างเป็นกันเอง
แหน่ะ...ยังจะมาแลบลิ้นใส่อีกกกกกก แค่นี้...มีความสุขแระ
ฟินแระ ป่ะ...กลับกันนนนนน 555+
ไม่ต้องไปดูหรอกหมู่บ้านที่เพ้นท์ดอกไม้ตามฝาผนังบ้าน อิอิ
เมื่อลองเช็คตารางรถเมล์ข้างทางแล้วพบว่า เดินไปจะเร็วกว่ารอ
ก็เริ่มการเดิน ณ บัดดล โดยพยายามโบกรถที่นานๆ จะผ่านมาสักคัน
โหมดคิดในใจ: ที่นี่ที่ไหนฟร่ะ ฉันมาทำอะไรที่นี่ คนที่มารีวิวเค้าต้องมีรถส่วนตัวแน่ๆ มาไงหว่า
ระหว่างเดินก็ทักทายหมาทุกบ้าน
ก็ไม่เลวร้ายนะ แค่ดูเหมือนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเท่านั้นเอง
มีหมาแทบทุกบ้าน บันเทิงมาก ชอบบบบบๆ
อยากเห็นหมามีความสุขในพื้นที่กว้างๆ
ขณะนั้นโบกไปแล้วสามคันไม่มีใครรับ 555+ (ขอบใจ)
จนมีพี่ๆ ที่ทำงานด้านบริการซ่อมเสาไฟหรืออะไรบางอย่าง เพราะมีอุปกรณ์เต็มรถ
พี่ๆ รับเราขึ้นไป โดยไปส่งได้แค่ปากทางเข้า เพราะว่าพี่ๆ ไปอีกทาง
แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ #กราบบบบบบบบบบบ
มีการแซว ถามว่าไปไหน
เพื่อนบอกไปหมู่บ้านที่เพ้นท์ดอกไม้บนฝาผนัง
พี่คนขับหันไปชวนคนนั่งข้างๆ อยากดูดอกไม้มั้ย? (555+) แล้วคนข้างๆ คือผู้ชายด้วยกัน
ก็ฮากันเบาๆ โดยที่เราไม่เข้าใจ
จิ๋นคุ๋ยยยเย๋ บาร์ดโซ่ = ขอบคุณมากค่ะ
อ่ะ...เดินกันต่อไป เจอป้ายยยยย หมู่บ้านนนแล้ววววในที่สุด
แต่...หนทางยังอีกยาวไกล
หันไปบอกเพื่อนร่วมทาง
นี่เทอโชคดีนะที่เราเป็นนักธรณีกันทั้งคู่ ไม่งั้นเราคงไม่เดินกันบ้าพลังขนาดนี้
นี่ถ้าเทอมากับคนอื่นเค้าคงจะยกเลิกทริปไปนานแล้ว
โหมดคิดในใจ :เอ๊ะ...เดี๋ยวววว แกชวนเค้ามานะ เค้านะมาเป็นเพื่อนนน 555+ ควรจะขอบคุณเค๊าาาสิ
เจอร่องรอยภาพวาดแล้วววว
สวยงามตามท้องเรื่อง
การเพ้นท์รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน จากผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการปกปิดร่องรอยที่ไม่สวยงามที่ผนังบ้านนั่นเอง
ตกแต่งพอขลุกขลิกน่ารักๆ
ในที่สุดเราก็มาเจอสำนักงานหมู่บ้านแห่งนี้
ดูดี ในดินแดนอันไกลโพ้นนนน
ข้อดีของที่นี่คือสถานที่ต่างๆ มีการจัดวางที่สวยงาม
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้านเราละเลย แต่เค้ากลับมาทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของท้องถิ่นเอาไว้ได้
มีนิทรรศการ ถ่ายรูปบ้านที่มีฝีมืองานเพ้นท์ของตนเอง เราไปช่วงที่มีการเพ้นท์สำหรับงานอีสเตอร์อยู่ด้านในพอดี
ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกินนนนน แม้จะไม่ชอบลายดอกก็ตามมมม
คนขายถึงกับทาบ อก! แกจะเลือกอีกนานม๊ายยยย
สบายใจแระ ภารกิจสำเร็จ
กลับบ้านไงอ่ะ ถามเค้ามั๊ยยยอ่ะเทออออ
มันน่าจะมีทางอื่นนะ
ระหว่างทางก็ลองแวะเข้าไปชมโบสถ์นิสนุงงงง
ความจริงจะไปพิพิธภัณฑ์แต่ดันปิดปรับปรุง เอาเถอะ แค่นี้ พอแระ
ได้เจอน้องหมา มีความสุขแล้วววว ♥
ในโบสถก็มีการเพ้นท์กระจุ๊กกระจิ๊ก
เยี่ยมชมโบสถ์เสร็จก็กลับกันเต๊อะ
หันไปดูตารางเวลาป้ายรถเมล์
เฮ้ยยยย! ตกใจ นี่มันตารางรถหรือลายแทง
ดูไงหว่า...
มีเลขยกกำลังด้วยยย ขอเครื่องคิดเลขหน่อย 555
ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถโดยสารมายังอีกเมือง ที่สะดวกกว่าการมาจากทางที่เรามาเย๊อะ 555+
แต่มาทางที่มานะดีแล้ว ตื่นเต้นดี มีสตอรี่เบาๆ
ลากันไปด้วยภาพนี้
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มากับคนรู้ใจ อะไรก็ดี๊ดี
เฮ้ยยยย...หมายถึงมากับคนที่คิดบวกและไม่บ่น ชีวิตก็จะดี อิอิ
[CR] Zalipie : ทริปที่ทดสอบว่าเพื่อนร่วมทางสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
อร๊ายยยยย...ตื่นเต้นนนนน ข้ามแพด้วยยยยย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น