จรดไว้ในทรวงว่า... (๒)

ตอน ๑
https://pantip.com/topic/41966906

(๒)
วิมุขมาศ - อักขระกานต์                                          

พ.ศ. ๒๕๑๓   

หญิงสาวบรรจงแต่งใบหน้าอย่างงดงาม  แต้มสีแดงทาริมฝีปากแล้วรอยยิ้มฉีกขึ้นบนใบหน้า  พิศโฉมก็กระหยิ่มยิ้มให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ  หญิงสาวในกระจกเงาล้อมกรอบทองแกะสลักลายอ่อนช้อย...หม่อมราชวงศ์รัมภาเพียงพิศ วิมุขมาศ  

        รัมภาเพียงพิศ...ชื่อนี้แม่ตั้งให้ 
       
        แม่...

        กระจกสะท้อนภาพเหมือนสีน้ำมันของมารดาในวัยสาวจากผนังเบื้องหลัง  วงหน้าอ่อนโยนด้านข้างแลดูเล็กในกรอบกระจก  รูปแม่สวมชุดยาวสีขาวงาช้างยืนเท้าแขนกับเปียโนวาดโดยจิตรกรเอก  เธอผละจากเงาในกระจกลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งไปหยิบเดรสคอปีนใหม่เอี่ยมที่แขวนรอ  เปลี่ยนชุดแล้วผูกโบต้นคอตบท้าย  

        ก้าวจากห้องส่วนตัวยังโถงบันได  หยุดมองพระรูปเสด็จในกรมฯ พระนามเดิมวิมุขมาศรังสฤษฎิ  ผู้ทรงเป็นเสด็จทวด  พระรูปบนสุดผนังฟากตรงข้ามใช่ว่าใหญ่โตมโหฬาร  รังสีสง่างามแผ่ด้วยพระประวัติสลักในใจว่าทรงมุ่งมั่นพากเพียรทำราชการเจริญสืบเนื่องตลอดพระชนม์ชีพ  สองมือเกาะราวระเบียงชั้นบนมองลงห้องนั่งเล่นข้างล่างเห็นตู้ไม้โบราณหลังใหญ่  จัดวางเครื่องถ้วยเบญจรงค์แต่น้อยชิ้นจนดูโหรงเหรง  

        ก้าวลงบันไดวนสู่ส่วนนั่งเล่นก่อนทะลุยังโถงหน้า  เธอหยุดตรงมุขหน้าต่างทรงครึ่งวงกลมเปิดสู่สวนซึ่งโอบรอบตึก  โต๊ะทรงพระอักษรของผู้ครองวังพระองค์แรกย้ายมาตั้งตรงนี้  พื้นผนังเหนือโต๊ะติดพระรูปในกรอบโลหะสีทองเรียงลงมา  เหนือสุดคือเสด็จในกรมฯ กับพระองค์หญิงสิรมารคมงคลพระชายา  ถัดลงมาเป็นพระโอรส - พระองค์ชายสลักอักษรา  กรอบล่างสุดคือพระธิดา - พระองค์หญิงฉันท์ฉินจำรัสหล้า  เลื่อนสายตาลงถึงตรงกลางหัวโต๊ะ  ตั้งพระรูปของพระองค์ชายสลักอักษราคู่หม่อมเจ้านวลนฤดีในวันเสกสมรส  จากตรงกลางพระรูปใหญ่เล็กในกรอบเงินรูปไข่เรียงเป็นปีกซ้ายขวา  ล้วนเป็นเชื้อสายในราชสกุลวิมุขมาศ

        ทายาทของพระองค์ชายสลักอักษรากับหม่อมเจ้านวลนฤดี  มีพระนามว่าหม่อมเจ้าสลักพันธ์ 

        ท่านพ่อ...  

        ขณะนี้หม่อมเจ้าสลักพันธ์ทรงเปิดประตูมุขหน้าตึกเข้ามาและรับทราบว่าธิดาคนเล็กของท่านพร้อมแล้ว  รัมภาเพียงพิศพินิจพระรูปของพระองค์หญิงฉันท์ฉินจำรัสหล้าบนผนังอีกครา  ช่างภาพฉายพระรูปตอนพระชันษา 17 ปี  พระพักตร์อ่อนหวานละมุนละไม  พระรูปครึ่งองค์เพียงพอจะแสดงทรวดทรงพระวรกายงามแน่งน้อย  เธอละสายตาจากพระรูปอันขนาบด้วยพื้นผนังซีดหมองและผละมือจากผิวสึกกร่อนของโต๊ะไม้  ตามท่านพ่อออกสู่หน้ามุขของตำหนักใหญ่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษเมื่อเกือบแปดสิบปีก่อน  ตำหนักสีรงทองมรดกตกทอดจากพระองค์ต้นสกุลเคยเรืองอร่ามเดี๋ยวนี้ซีดโรย   

        คุณหญิงรัมภาเพียงพิศก้าวจากหน้ามุขสู่ภายนอก  สวนของวังยังสดเขียวร่มรื่น  ดีจริง...ตาปรุงคนสวนเก่าแก่รักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ  ขยันปลูกขยันบำรุงรักษาของแกไปเรื่อย ๆ  ท่านชายสลักพันธ์ทรงย้ำเตือนบุตรีผู้เป็นความหวังสุดท้าย  อักขระกานต์กับวิมุขมาศต้องสมัครสมานเป็นปึกแผ่นและศรีสง่าแก่กัน  เธอแย้มยิ้มรับความปรารถนาของท่านพ่อ  

       หม่อมราชวงศ์รัมภาเพียงพิศ วิมุขมาศต้องไปวังอักขระกานต์แล้ว
 
       
เมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์หม่อมเจ้าประกายมาสทรงกลด  ท่านย่าของคุณชายทั้งสาม ณ เรือนหน้าวังอักขระกานต์  รัมภาเพียงพิศรู้สึกราวกับว่าท่านพ่อทรงพาองค์เองกับเธอมาเป็นแขกของที่นี่  ท่านหญิงทรงทักทายทั่วไปแล้วตรัสถามท่านชายสลักพันธ์ถึงบุตรีคนโตกับคนกลาง

        “คุณหญิงตาณโพยมกับสามี  เอ้อ...นาย  ชื่อนาย...นายอะไรนะ”

        “ชนิด  กระหม่อม” 

        “สบายดีกันใช่ไหม  ท่านชาย”

        “ขอบพระทัยฝ่าบาท  ทั้งสองไม่เจ็บไม่ไข้”

        “ขนมล่ะท่านชาย  ขายดีไหม”

        “รสมือของลูกน้ำตาล  ทำขายไม่ทัน”

        “คุณหญิงสลิลทิชล่ะ  นานแล้วนี่...รอยจางสมานสนิทแล้วกระมัง  ไม่ถึงขนาดเสียโฉมหาคู่ไม่ได้”  

        พระพักตร์ท่านหญิงไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อยเมื่อเฉือนความนัยซึ่งมีแต่คนในเข้าใจ  ท่านชายเชือดกลับพระเนตรไม่กะพริบเช่นกันขณะทรงตอบราวกับไม่รู้ความนัยนั้น  

        “ขอบพระทัยที่ทรงเป็นกังวลถึงลูกน้ำหอม  แผลเป็นเล็กน้อยเท่านั้น”

        “คุณหญิงรัมภาเพียงพิศเรียนถึงชั้นไหนแล้ว”  ท่านหญิงตรัสถามเจ้าตัว  ทรงแสดงแจ่มแจ้งว่าไม่คร้านจะเรียกชื่อเต็มของสามสาวพี่น้อง  ขอเพียงมันไม่แสดงความสนิทชิดเชื้อ  

        “ทูลฝ่าบาท  อีกหนึ่งปีลูกน้ำว้าเรียนจบ”  ท่านชายทรงตอบ

        “อ้อ  ถึงเวลามาทวงสัญญาหมั้นสินะ”  สายพระเนตรท่านหญิงจับนิ่งที่หญิงสาวอย่างจะตัดโอกาสไม่ให้ท่านพ่อของเธอตรัสใด ๆ แทน  “แหม  ดูสิ...อายจนนั่งตัวแข็งไม่กระดิกเชียว  ไม่ต้องอายหรอก  อักขระกานต์รอต้อนรับคุณหญิงวิมุขมาศอยู่แล้ว  คงได้สมหมายที่สะใภ้เล็กกันเสียที  จะอีกเป็นปีหรือจะเพิ่งเรียนจบก็ไม่ดูเร่งรัดหรอก”  

        “ฝ่าบาททรงใส่พระทัยจำ”  หม่อมเจ้าสลักพันธ์ตรัสแทรก  “เรื่องของพวกเราสองวัง”  สีพระพักตร์ท่านหญิงเข้มขึ้นพอกันกับท่านชายผู้ทรงเน้นเสียง  “อักขระกานต์กับวิมุขมาศ  กระหม่อมซาบซึ้ง”  

        การตอบโต้วาจาจบลงเมื่อแม่ผันคนของพระองค์หญิงมาทูลเชิญท่านชายสลักพันธ์กับบุตรีขึ้นบนตำหนัก  รัมภาเพียงพิศกราบลาหม่อมเจ้าประกายมาสทรงกลด  และถึงแม้ปั้นหน้าไว้ดิบดียังชาทั้งตัวเมื่อท่านตรัสว่า

        “รีบไปเถอะ  คุณชายธเจตรอเจอคุณหญิงรัมภาเพียงพิศจะแย่แล้ว”
 

หญิงรุ่นยายร่างตุ้ยนุ้ยประสานมือค้อมตัวเดินเยื้องนำเสด็จท่านชายและธิดาไปตามสะพานไม้เชื่อมระหว่างเรือนหน้ากับตำหนักใหญ่  ราวโปร่งสองข้างกั้นสะพานใต้หลังคาขอบฉลุลายขนมปังขิง  ถึงครึ่งทางสะพานทอดข้ามสระบัวแล้วไปสุดปลายชิดพื้นชานนอกตัวตึก  ก้าวต่อเนื่องจากชานเข้าภายในแล้วเลี้ยวขึ้นบันไดเลียบผนังฝั่งขวาสู่ชั้นบนตำหนัก  

        ผนังสีเขียวน้ำไหลจากพื้นล่างจรดเพดานชั้นสองโอฬารเป็นผืนเดียว  เหยียบบันไดทีละขั้นจะเห็นรูปถ่ายติดผนังเป็นแนวเฉียงขึ้นไป  ภาพเชื้อสายของตระกูลเรียงจากกรอบรูปเล็กไปใหญ่  รุ่นเยาว์สู่อาวุโส  ปัจจุบันย้อนอดีต  คือ  หม่อมราชวงศ์ธเจต -- หม่อมราชวงศ์ธพุฒิ -- หม่อมราชวงศ์ธภูมิ -- หม่อมเจ้าธไทธำรง  ตรงพื้นพักกลางบันได  พระองค์หญิงกนิษฐ์นภเกตน์ -- พระองค์ชายฐิติสมาน-มโนมัย  ถึงหัวบันไดคือพระรูปของต้นสายราชสกุล  กรมพระอักขระกานต์ปโยธร  

        สุดปีกขวาเหนือหน้าต่างบานใหญ่ติดพระรูปของกรมพระอักขระกานต์ปโยธรกับพระองค์หญิงเสมอเสาวภาคย์พระชายา  หน้าต่างเปิดโล่งสู่ทิวทัศน์สนามหญ้าเขียวขจีประดับพรรณไม้งามนานาแผ่ไกลจรดริมแม่น้ำ  ห่างริมน้ำมาหน่อยมีศาลาแปดเหลี่ยมสามขั้นบันได

        แม่ผันหยุดริมประตูห้องโอ่โถงทางซ้ายซึ่งกินพื้นที่ทั้งปีกขวา  คนในวังเรียกห้อง ‘นวลจันทร์’ ด้วยเป็นห้องที่อาบนวลแสงจันทร์งามล้ำและชมจันทร์ลอยเหนือผืนน้ำได้สวยสุด  หม่อมเจ้าสลักพันธ์ทรงดำเนินนำบุตรีเข้าสู่ภายในห้องพระสำราญส่วนพระองค์ของเจ้าของวังอักขระกานต์  พระองค์หญิงกนิษฐ์นภเกตน์  

        พระองค์หญิงผู้ทรงมีศักดิ์เป็นพระอัยยิกาของคุณชายทั้งสาม  พระราศีผุดผ่อง  พระสุรเสียงยังใสกังวาน  มีพระดำรัสต้อนรับ   

        “ขอบ’ทัยท่านชายสลักพันธ์  รับคำเชิญฉันมาที่นี่”

        “มิได้  กระหม่อมยินดีเสมอ”

        “เพียงพิศด้วยนะ  มาหาย่า” 

        “เป็นพระกรุณามังคะ”

        พระองค์หญิงกนิษฐ์นภเกตน์แย้มพระสรวล  ด้วยพระชันษาย่าง 72 ปี  ทรงตระหนักว่าเหลือเวลาไม่มากนัก  เมื่อเจ็ดปีที่แล้วทรงหวังได้เห็นงานสมรสระหว่างธภูมิกับตาณโพยม  หลานชายใหญ่กับบุตรีคนโตของท่านชายสลักพันธ์  แต่ต้องพ่ายแพ้ต่อความจริงที่ว่าหนุ่มสาวต่างมอบใจให้คนอื่นแล้ว  ถัดมาสองปีคู่ของหลานชายกับบุตรีคนกลางของสองวัง  ธพุฒิกับสลิลทิชวัยกำลังงามพร้อมหมั้นหมาย  ปีนั้นธเจตหลานคนเล็กจะได้ติดยศนายเรืออากาศตรี  มีงานมงคลควบงานยินดีในปีเดียวกันน่าปลื้มปีติยิ่ง  หากก่อนหน้านั้นไม่เกิดเรื่องรุนแรงจนความหวังขาดสะบั้นเสียก่อน  ธเจตกับรัมภาเพียงพิศเป็นคู่สุดท้ายแล้วที่จะสมประสงค์ในพระชนม์ชีพได้ 

        ทรงพิศหญิงสาวตรงหน้าพระพักตร์  แต่งตัวแต่งหน้าจัดจ้านไปสักหน่อยออกไปทางสลิลทิช  แต่ก็อย่างว่าสาว ๆ รักสวยรักงาม  จะถือเป็นข้อติก็จะอคติเกินไป  เสียดายตาณโพยม...  รัมภาเพียงพิศนิสัยไปทางพี่สาวใหญ่จะไม่น่าวิตก  เกรงจะค่อนทางพี่สาวคนรองมากกว่า  เสียงลือกระพือเข้าพระกรรณเป็นพัก ๆ ทั้งเรื่องวางตัวก๋ากั่นเกินงามกับคุณชายธเจตและอื่น ๆ  แต่เท่าที่เห็นรัมภาเพียงพิศด้วยองค์เองก็ไม่ถึงกับขวางตาติดขัด  และในเมื่อทรงปักพระทัยมั่นว่าคู่สุดท้องต้องไม่คลาดแคล้วจึงตรัสกับหญิงสาว 

        “ย่าอยากให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่”  ทรงผินพระพักตร์ยังท่านชาย  “หรือฝ่าบาทว่าอย่างไร  เห็นดีด้วยไหม”

        “กระหม่อมเห็นงามตามพระองค์หญิงรับสั่ง”

        “แหม  ปีนี้ฉันอายุครบ 6 รอบว่าจะทำบุญใหญ่  คิดถึงงานบุญเลยนึกอยากให้มีงานมงคลติด ๆ กัน  ทูลเชิญท่านชายมาวันนี้เราผู้ใหญ่จะได้พูดจาเป็นมั่นเป็นเหมาะอีกครั้ง  ไม่ต้องรอเพียงพิศเรียนจบ  เราจัดพิธีหมั้นก่อนดีไหมท่านชาย”  
หม่อมเจ้าสลักพันธ์ค้อมพระเศียรน้อมรับพระดำรินั้นพองาม  ทรงข่มกิริยาแม้ดีพระทัยจนเนื้อเต้น  ตรงข้ามกับธิดาของท่านซึ่งนั่งสงบเสงี่ยมต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ไหวอีกต่อไป  ขยับตัวแก้อึดอัดเล็กน้อยแทบจะพร้อมกับที่พระองค์หญิงรับสั่ง

        “เพียงพิศไปคุยกับพี่ชายหมอกสิลูก”  

        พี่ชายหมอก...  

        เช้าวันที่หม่อมราชวงศ์ธเจตเกิดหมอกลงจัดเป็นปรากฏการณ์ทั่วพระนคร  คุณชายหมอกจึงเป็นชื่อลำลองเรียกขานกันเฉพาะคนในวังและผู้ใกล้ชิดเรื่อยมา 

        “ย่าบอกแล้วว่าน้องหญิงจะมา  พี่เขารอเจอหนูอยู่”  พระสุรเสียงดังขึ้นอีก  

        “ขอประทานพระอนุญาตมังคะ”

        “ไปเถอะจ้ะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่