เดิมตั้งใจว่าเที่ยวเสร็จจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง
เหมือนที่ตั้งใจจะทำทุกๆครั้ง แต่ไม่เคยทำได้เลย เพราะงานยุ่งบ้าง จำข้อมูลไม่ได้แต่ที่สำคัญคือขี้เกียจ มาครั้งนี้เลยจะเที่ยวเสร็จแต่ละวันก็จะมารีวิวเล่าให้เพื่อนๆฟัง
โปรแกรมการเที่ยว มีดังนี้
8/4/2566
6:35-9:45 ดอนเมือง-Klia2 มาเลเซีย
เพื่อต่อเครื่องไปSydney ไปAirasia
23:30-9:45 Klia2 - Sydney Kingsford
เที่ยว Opera house
10/4 เช่ารถ Apex carrental ไปBlue mountain
11/4 Bondi beach ,Coogee beach
12/4 Sydney Kingsford-Tullamarine Melburne บินด้วย Jetstar เช่ารถApex carrental ไป Phillip Island
13/4 เที่ยว Phillip Island
14/4 Great Ocean Road
15/4 ขับกลับ Melburne และหาที่เที่ยวระหว่างทาง
16/4 City tour Melburne
17/4 Shopping Melburne คืนรถ
21:20-3:30 Tullamarine -Changi Singapore
18/4 City tour Singapore
17:30-19:30 Changi-สุวรรณภูมิ
การเที่ยวครั้งนี้มากับครอบครัวรวมทั้งหมด 4คน โดยตั้งใจว่าจะมาครั้งเดียวเที่ยว
ให้ครบ และพยามจะให้สบายและถูก ซึ่งในที่สุดจะทำได้หรือเปล่า ยังไม่ทราบ เพราะยังเที่ยวไม่เสร็จ
ขั้นตอนการขอวีซ่าออสเตรเลียรายละเอียด ขอข้ามไป แต่อยากบอกว่าควรมีประวัติการเดินทางมาต่างประเทศบ้าง มิฉะนั้นจะถูกปฏิเสธ เพราะว่าที่ลูกสะไภ้ก็ไม่ผ่าน
มาเริ่มรายละเอียดการเดินทางกัน
เมื่อเดินทางมาถึง Klia2 เนื่องจากมีเวลารอเครื่องนานมาก ถ้าเราอยากออกมาเที่ยวข้างนอก สามารถเดินผ่านตม.ให้เขาตรวจเอกสารได้เลย แต่ควรเช็คกับสายการบินก่อนว่ากระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องไปรับปลายทาง
นะ มิฉะนั้นต้องแบกกระเป๋าใบใหญ่ไปเที่ยวด้วยและขากลับมาต้องโหลดกระเป๋าใหม่คงจะไม่สนุกแน่
หลังผ่านตม.แล้ว เดิมจะเข้าไปเที่ยวในกัวลาลัมเปอร์ แต่เพราะได้นอนกันน้อย และเคยไปเที่ยวแล้ว สมาชิกในกลุ่มอยากนอนมากกว่า จึงหาที่พักใกล้ๆสนามบิน
ได้ที่พัก N Rose hotel ราคา 966 บาท 1ห้อง 2เตียง พักได้ 4คน จองผ่าน Agoda
จะหา taxi ไป ก็มีคนมาสอบถามและจิ้มapp grab บอกราคา 180 ริงกิต (1ริงกิต 7.8บาท ) พร้อมเอามือถือจองเขาให้ดูเส้นทางและราคา ซึ่งราคานี้แพงมาก จึงไม่ไปและหาทางไปเอง โดยใชื Google map ในสนามบิน Klia2 มีรถไฟไปกัวลาลัมเปอร์ 2แบบคือ klia express จอดปลายทางเลย เร็วและแพง อีกแบบคือ klia transit จอดทุกป้าย ช้าและถูกกว่ามาก ออกรถทุก 30นาที ทั้งคู่อยู่ที่เดียวกันที่ชั้น 2 ของสนามบิน เนื่องจากเราจะไปลงที่ Salak Tinggi station จึงไปด้วย Klia transit ใช้เวลา 15นาทีและเดินอีก 1กม.ใข้เวลา 15นาที ราคาตั๋ว Klia transit 4.9 ริงกิตเท่านั้น
พอมาถึงบริเวณที่พักไม่ที่เที่ยวอะไรเลย และดูมีการก่อสร้างปรับปรุงตึกเก่าอยู่หลายตึก
เวลาเช็คอิน 14:00 แต่เราไปถึง 12:00 จึงขอเช็คอิน ก่อนและบอกเขาว่าจะออกตอน 18:00
เขาไม่ยอมจะคิดเพิ่ม 10 ริงกิตและยังมีค่าภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10 ริงกิตไม่ว่าจะเข้าพักตอนไหน ทั้งๆที่ดูแล้วห้องก็ว่าง เราเลยฝากกระเป๋าเขาไว้ก่อนและไปหาร้านกินข้าวก่อนและตะกลับมาเช็คอินตอน 14:00 เขาก็เลยบอกว่าหลังเรากินจ้าวเสร็จก็มาเช็คอินได้เลยไม่คิดเงินเพิ่มแล้ว หลังกินข้าวเสร็จก็มานอนพักในรร. สภาพรร.ด้านนอกและข้างล่างพอดูได้ แต่ภายในห้องดูไม่ค่อยดี ความสะอาดไม่ดี พอทำใจได้แล้ว จะนอนก็นอนไม่หลับเพราะอยู่ๆก็มีเสียงสว่านเจาะผนังเสียงค้อนทุบพื้น ทุบผนัง เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ เริ่มต้นก็ไม่ราบรื่นแล้ว แต่เพราะเราก็เหนื่อยจากการเดินทางผสมกับคนงานก่อสร้างก็เหนื่อยหมดแรงทุบ
เราก็หลับไป แต่ในสิ่งที่แย่ๆก็มีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ นั้นคือ อาหารอร่อย ร้าน Restoran Nor Falah อยู่ห่างจากรร.สัก 100 เมตร มีโรตีจิ้มนมข้นหวานอร่อยมากๆ เขาทำเป็นแผ่นแล้วม้วนเป็นรูปกรวยสามเหลี่ยม ตรงปลายกรวยแป้งจะบางกรอบ ตรงปากกรวยแป้งจะหนาขึ้นจะกรอบบางส่วนนุ่มบางส่วน อร่อยมาก
และมี naan เป็นแป้งคล้ายโรตีแต่หนากว่าผสมผักและเครื่องเทศ มี 2แบบ แบบเค็มและแบบหวาน เอามาจิ้มกินกับแกงคล้ายๆแกงกะหรี่ อร่อยเหมือนกัน น้ำแกงเนื้อเปื่อยก็อร่อย เนื้อผสมเอ็นเปื่อยกำลังดี
ทานเสร็จก็ไปเอาของที่รร. เดินทางกลับสนามบินด้วย Klia transit เหมือนเดิม ดูเวลารถไฟมาถึงสถานนีได้ทาง google map เลย
จาก Klia2 บินมาถึง Sydney แอร์ตะแจกใบผ่านตม.ให้กรอกข้อมูล เมื่อลงเครื่อง เดินมาตามทาง ก็จะมีจนท.สนามบินบอกให้ไปกรอกข้อมูลของเราที่เครื่อง แล้วจะได้กระดาษแข็งใบเล็กมา 1ใบ ใช้เสียบเครื่อง พร้อมถ่ายรูปตอนผ่านตม. ไม่ต้องไปตอบคำถามอะไรกับตม.อีก ดูเหมือนเขาไม่เข้มงวดที่สนามบิน แต่เป็นเพราะเขาพิจารณาอย่างละเอียดแล้วตอนขอวีซ่า
ผ่านตม.มาแล้วก็หาซื้อซิม Octus เพราะไม่แน่ใจว่า Sim true travel จะใช้ได้ดีที่ออสเตรเลียไหม แต่ที่มาเลเซีย ไม่มีปัฯหา ใช้ได้ดี แม้แต่ตอนนี้ที่ ซิดนีย์ก็ใช้ได้ดี ไม่มีปัฯหาและที่สำคัญถูกกว่า มาก แต่จะดีตลอดหรือเปล่าไม่รู้ ตอนจบทริปจะสรุปให้ฟังอีกที
จากสนามบินเดินทางไปที่รร. Sydney central Inn ด้วย Taxi แบบ van (เขาไม่ยอมให้ใช้ taxi ธรรมดา เพราะมีกระเป๋าใบใหญ่ด้วย) ราคา 70 dollar aus.(1dol เท่ากับ 22.9 บาท) ราคาตามมิเตอร์เลย เราสามารถเปิด google map ดูเทียบกับ map ของ taxi ได้เลยว่า เขาพาอ้อมหรือเปล่า (ถ้าใช้ app. taxi เช่น Didi ต้องกรอกเลขบัตรเครดิต ไม่อยากเสี่ยงเลยใช้ taxi meter ที่สนามบินดีกว่า)
มาถึงก่อนเวลาก็ฝากกระเป๋าไว้แล้ว ก็ไปเที่ยวOpera house
เข้าพัก 1คืน 1ห้อง เตียง 2ชั้น 1เตียง ชั้นล่างนอนได้ 2คน และเตียงเดี่ยวอีก 1เตียง ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้า 1ตู้และผ้าเช็ดตัว 4ผืน ไม่มีตู้เย็น ทีวี อะไรทั้งสิ้น ห้องน้ำรวม ไม่มีแอร์แต่ก็ไม่จำเป็นเพราะอากาศหนาว จองผ่าน agoda ราคา 2,849 บาท ความสะอาดภายในห้องดี ภายในห้องน้ำใช้ได้ สบู่มีป้ายแจ้งว่าขอได้ที่เคาเตอร์ด้านล่างแต่ไม่รู้จะขอจากใครเพราะไม่มีมนุษย์อยู่เลย แต่ที่ดีเลิศมากสำหรับที่นี้คือทำเล อยู่กลางเมืองSydney ใกล้china town และสังเกตเห็นว่า แถวนี้มีป้าย ภาษาไทย อยู่หลายร้าน จึงรู้ว่าแถวนี้เรียกว่า Thai town ดังน้นจึวหาอาหารไทยกินได้ง่ายมากแต่ราคาต่างจากไทยมากๆๆๆ เห็นป้ายชุดส้มตำ 40 กว่าเหรียญ กินไม่ลง
ราคาอาหารที่ Sydney แพงมากๆ นี่ยังไม่รู้ว่า
เงินที่แลกมาจะพอไหม
กลางวันเมื่อวานเดินไปทานอาหารที่ China town ที่ Sussex centre ชั้น 2 มีfood cort
มีอาหารหลายร้าน ราคาเฉลี่ย 20 เหรียญ
คนกินมหาศาล ก่อนจะกินต้องเล่นเก้าอี้ดนตรี
จองที่นั่งให้ได้ก่อน มิฉะนั้นต้องถือจานเดินจนเมื่อยมือ ตัวเองก็หมายตาว่าโต๊ะหนึ่งกำลังตะกินเสร็จก็ยืนห่างจากเก้าอี้เขาไม่ไกลแต่ก็ไม่ให้เขาอึดอัด แต่มีเจ๊คนหนึ่งมาจากไหนไม่รู้แม้ว่าจะเห็นเรายืนจองไว้ แกให้ลูกไปซื้ออาหารแล้วเอาถาดอาหารมาวางใกล้ๆคนที่กำลังกินอยู่ เพื่อจองซะเลย เราก็เลยต้องไปหาที่ใหม่
กินเสร็จก็จะไป Opera house ที่อยู่ไม่ไกล
ดูจาก google map เดิน 3km 40 นาที แต่คิดว่าเก็บแรงไว้เดินวันอื่นดีกว่า เลยจะขึ้นรถรางไป ตั้งใจว่าจะใช้เงินสด แต่ไม่แน่ใจว่ามีคนเก็บเงินบนรถไหม และก็ไม่มีสถานนีให้จ่ายเงิน มีแค่ป้ายและคนที่จะขึ้นก็เอาบัตรโดยส่ี Opal ไปแตะที่ป้าย ถึงจะขึ้นรถราง เราเลยถามผู้โดยส่รคนหนึ่งว่าใช้เงินสดได้ไหม เขายอกว่าไม่ได้ ต้องใช้บัตร เราจอบคุณเขาแล้วก็คุยกันว่าต้องไปหาซื้อบัตรopal แต่ที่ไหนไม่รู้ เขาได้ยินเราคุยภาษาไทยเขาก็เลยบอกว่าเจาเป็นคนไทยเหมือนกัน เพิ่งมาได้ไม่กี่วัน บัตรที่ใช้ก็เป็นของเพื่อน แต่คิดว่าสามารถซื้อได้ที่ 7/11 แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ขึ้นเลย ไม่มีคนตรวจ เขาขอบคุณเขาอีกครั้งแต่ไม่กล้าขึ้นโดยไม่มีบัตร ก็ต้องหาร้าน 7/11 เพื่อซื้อบัตร พอเจอร้านเขาก็ถามว่าจะเติมเงินในบัตรเท่าไหร่ มีขั้นต่ำ 10 เหรียญ เราตัดสินใจว่าเอา 20 เหรียณเพราะไม่รู้ว่าค่าโดยส่รเท่าไหร่ กลัวไม่พอหรือต้องคอยหาร้านเติมเงิน
การใช้บัตรopal ให้แตะบัตรที่ป้ายข้างทางตอนจะขึ้น เวลาลงก็แตะอีกที ที่หน้าจอก็จะบอกค่าโดยสารที่ใช้ไปและเงินในบัตรที่เหลือ
ค่าเดินทางจาก china town ไปลงป้ายสุดท้าย Circular quar เหรียญกว่าๆ จากนั้นเดินไป opera house ระหว่างทางมีท่าเรือข้ามฝาก ไปสถานที่ต่างๆหลายท่า ค่าเรือก็ไม่แพงไม่เกิน 10 เหรียญ ใช้บัตร opal ได้ ที่สำคัญคือได้วิวถ่าย opera house จากเรือ เราเองก็ตั้งใจว่าจะนั่งแต่สมาชิกไม่มีใครอยากนั่ง ก็เลยไม่ได้นั่ง
เดินไปถึง opera house ก็สวยดีแต่ก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไรมากมาย ถ่ายรูปออกมาที่ประทับใจกลับเป็นท้องฟ้า ท้องฟ้าใสมากเป็นสีฟ้าจริงๆ ไม่มีเมฆอะไรเลย กดดูค่าคุณภาพอากาศ ได้ 0 ในขณะที่เชียงใหม่ 190 คนที่เมืองไทยอย่าอิจฉา 555
จริงๆมีที่เดินเล่นแถวนี้มากมาย แต่สมาชิกเป็นคนขี้เกียจะเดิน ก็เลยได้ไปแค่ opera house แล้วก็กลับรร.
ตอนเย็นก็เดินไปแถว china town อากาศหนาวต้องใส่เสื้อแขนยาวและเสื้อหนาว ไปกินอาหารเวียดนาม หมดไป 70 เหรียณ
แถวนี้อาหารเอเชียมากกว่าอาหารฝรั่ง และโดยรวมๆ ดูเหมือนมีคนเอเชียเยอะกว่าคนฝรั่งด้วย
จากนั้นก็กลับที่พัก นอนหลับสบาย ตื่นอีกที ตีสามกว่านั่งพิมพ์มาจนถึงตอนนี้ 8โมง ต้องไปรับรถเช่าที่สนามบินแล้ว วันนี้จะไป Blue moutain แล้วถ้าไม่ขี้เกียจจนเกินไปจะมาเล่าให้ฟัง พร้อมกับรูปต่างๆที่ถ่ายไว้ ตั้งแต่วันแรกๆ ถ้าใครมีอะไรจะเสริม จะบอก จะแนะนำ
จะถามก็ยินดี ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ โดยที่ยังไม่มีรูปเลย
เที่ยวไป รีวิวไป Sydney,Melburne
เหมือนที่ตั้งใจจะทำทุกๆครั้ง แต่ไม่เคยทำได้เลย เพราะงานยุ่งบ้าง จำข้อมูลไม่ได้แต่ที่สำคัญคือขี้เกียจ มาครั้งนี้เลยจะเที่ยวเสร็จแต่ละวันก็จะมารีวิวเล่าให้เพื่อนๆฟัง
โปรแกรมการเที่ยว มีดังนี้
8/4/2566
6:35-9:45 ดอนเมือง-Klia2 มาเลเซีย
เพื่อต่อเครื่องไปSydney ไปAirasia
23:30-9:45 Klia2 - Sydney Kingsford
เที่ยว Opera house
10/4 เช่ารถ Apex carrental ไปBlue mountain
11/4 Bondi beach ,Coogee beach
12/4 Sydney Kingsford-Tullamarine Melburne บินด้วย Jetstar เช่ารถApex carrental ไป Phillip Island
13/4 เที่ยว Phillip Island
14/4 Great Ocean Road
15/4 ขับกลับ Melburne และหาที่เที่ยวระหว่างทาง
16/4 City tour Melburne
17/4 Shopping Melburne คืนรถ
21:20-3:30 Tullamarine -Changi Singapore
18/4 City tour Singapore
17:30-19:30 Changi-สุวรรณภูมิ
การเที่ยวครั้งนี้มากับครอบครัวรวมทั้งหมด 4คน โดยตั้งใจว่าจะมาครั้งเดียวเที่ยว
ให้ครบ และพยามจะให้สบายและถูก ซึ่งในที่สุดจะทำได้หรือเปล่า ยังไม่ทราบ เพราะยังเที่ยวไม่เสร็จ
ขั้นตอนการขอวีซ่าออสเตรเลียรายละเอียด ขอข้ามไป แต่อยากบอกว่าควรมีประวัติการเดินทางมาต่างประเทศบ้าง มิฉะนั้นจะถูกปฏิเสธ เพราะว่าที่ลูกสะไภ้ก็ไม่ผ่าน
มาเริ่มรายละเอียดการเดินทางกัน
เมื่อเดินทางมาถึง Klia2 เนื่องจากมีเวลารอเครื่องนานมาก ถ้าเราอยากออกมาเที่ยวข้างนอก สามารถเดินผ่านตม.ให้เขาตรวจเอกสารได้เลย แต่ควรเช็คกับสายการบินก่อนว่ากระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องไปรับปลายทาง
นะ มิฉะนั้นต้องแบกกระเป๋าใบใหญ่ไปเที่ยวด้วยและขากลับมาต้องโหลดกระเป๋าใหม่คงจะไม่สนุกแน่
หลังผ่านตม.แล้ว เดิมจะเข้าไปเที่ยวในกัวลาลัมเปอร์ แต่เพราะได้นอนกันน้อย และเคยไปเที่ยวแล้ว สมาชิกในกลุ่มอยากนอนมากกว่า จึงหาที่พักใกล้ๆสนามบิน
ได้ที่พัก N Rose hotel ราคา 966 บาท 1ห้อง 2เตียง พักได้ 4คน จองผ่าน Agoda
จะหา taxi ไป ก็มีคนมาสอบถามและจิ้มapp grab บอกราคา 180 ริงกิต (1ริงกิต 7.8บาท ) พร้อมเอามือถือจองเขาให้ดูเส้นทางและราคา ซึ่งราคานี้แพงมาก จึงไม่ไปและหาทางไปเอง โดยใชื Google map ในสนามบิน Klia2 มีรถไฟไปกัวลาลัมเปอร์ 2แบบคือ klia express จอดปลายทางเลย เร็วและแพง อีกแบบคือ klia transit จอดทุกป้าย ช้าและถูกกว่ามาก ออกรถทุก 30นาที ทั้งคู่อยู่ที่เดียวกันที่ชั้น 2 ของสนามบิน เนื่องจากเราจะไปลงที่ Salak Tinggi station จึงไปด้วย Klia transit ใช้เวลา 15นาทีและเดินอีก 1กม.ใข้เวลา 15นาที ราคาตั๋ว Klia transit 4.9 ริงกิตเท่านั้น
พอมาถึงบริเวณที่พักไม่ที่เที่ยวอะไรเลย และดูมีการก่อสร้างปรับปรุงตึกเก่าอยู่หลายตึก
เวลาเช็คอิน 14:00 แต่เราไปถึง 12:00 จึงขอเช็คอิน ก่อนและบอกเขาว่าจะออกตอน 18:00
เขาไม่ยอมจะคิดเพิ่ม 10 ริงกิตและยังมีค่าภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10 ริงกิตไม่ว่าจะเข้าพักตอนไหน ทั้งๆที่ดูแล้วห้องก็ว่าง เราเลยฝากกระเป๋าเขาไว้ก่อนและไปหาร้านกินข้าวก่อนและตะกลับมาเช็คอินตอน 14:00 เขาก็เลยบอกว่าหลังเรากินจ้าวเสร็จก็มาเช็คอินได้เลยไม่คิดเงินเพิ่มแล้ว หลังกินข้าวเสร็จก็มานอนพักในรร. สภาพรร.ด้านนอกและข้างล่างพอดูได้ แต่ภายในห้องดูไม่ค่อยดี ความสะอาดไม่ดี พอทำใจได้แล้ว จะนอนก็นอนไม่หลับเพราะอยู่ๆก็มีเสียงสว่านเจาะผนังเสียงค้อนทุบพื้น ทุบผนัง เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ เริ่มต้นก็ไม่ราบรื่นแล้ว แต่เพราะเราก็เหนื่อยจากการเดินทางผสมกับคนงานก่อสร้างก็เหนื่อยหมดแรงทุบ
เราก็หลับไป แต่ในสิ่งที่แย่ๆก็มีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ นั้นคือ อาหารอร่อย ร้าน Restoran Nor Falah อยู่ห่างจากรร.สัก 100 เมตร มีโรตีจิ้มนมข้นหวานอร่อยมากๆ เขาทำเป็นแผ่นแล้วม้วนเป็นรูปกรวยสามเหลี่ยม ตรงปลายกรวยแป้งจะบางกรอบ ตรงปากกรวยแป้งจะหนาขึ้นจะกรอบบางส่วนนุ่มบางส่วน อร่อยมาก
และมี naan เป็นแป้งคล้ายโรตีแต่หนากว่าผสมผักและเครื่องเทศ มี 2แบบ แบบเค็มและแบบหวาน เอามาจิ้มกินกับแกงคล้ายๆแกงกะหรี่ อร่อยเหมือนกัน น้ำแกงเนื้อเปื่อยก็อร่อย เนื้อผสมเอ็นเปื่อยกำลังดี
ทานเสร็จก็ไปเอาของที่รร. เดินทางกลับสนามบินด้วย Klia transit เหมือนเดิม ดูเวลารถไฟมาถึงสถานนีได้ทาง google map เลย
จาก Klia2 บินมาถึง Sydney แอร์ตะแจกใบผ่านตม.ให้กรอกข้อมูล เมื่อลงเครื่อง เดินมาตามทาง ก็จะมีจนท.สนามบินบอกให้ไปกรอกข้อมูลของเราที่เครื่อง แล้วจะได้กระดาษแข็งใบเล็กมา 1ใบ ใช้เสียบเครื่อง พร้อมถ่ายรูปตอนผ่านตม. ไม่ต้องไปตอบคำถามอะไรกับตม.อีก ดูเหมือนเขาไม่เข้มงวดที่สนามบิน แต่เป็นเพราะเขาพิจารณาอย่างละเอียดแล้วตอนขอวีซ่า
ผ่านตม.มาแล้วก็หาซื้อซิม Octus เพราะไม่แน่ใจว่า Sim true travel จะใช้ได้ดีที่ออสเตรเลียไหม แต่ที่มาเลเซีย ไม่มีปัฯหา ใช้ได้ดี แม้แต่ตอนนี้ที่ ซิดนีย์ก็ใช้ได้ดี ไม่มีปัฯหาและที่สำคัญถูกกว่า มาก แต่จะดีตลอดหรือเปล่าไม่รู้ ตอนจบทริปจะสรุปให้ฟังอีกที
จากสนามบินเดินทางไปที่รร. Sydney central Inn ด้วย Taxi แบบ van (เขาไม่ยอมให้ใช้ taxi ธรรมดา เพราะมีกระเป๋าใบใหญ่ด้วย) ราคา 70 dollar aus.(1dol เท่ากับ 22.9 บาท) ราคาตามมิเตอร์เลย เราสามารถเปิด google map ดูเทียบกับ map ของ taxi ได้เลยว่า เขาพาอ้อมหรือเปล่า (ถ้าใช้ app. taxi เช่น Didi ต้องกรอกเลขบัตรเครดิต ไม่อยากเสี่ยงเลยใช้ taxi meter ที่สนามบินดีกว่า)
มาถึงก่อนเวลาก็ฝากกระเป๋าไว้แล้ว ก็ไปเที่ยวOpera house
เข้าพัก 1คืน 1ห้อง เตียง 2ชั้น 1เตียง ชั้นล่างนอนได้ 2คน และเตียงเดี่ยวอีก 1เตียง ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้า 1ตู้และผ้าเช็ดตัว 4ผืน ไม่มีตู้เย็น ทีวี อะไรทั้งสิ้น ห้องน้ำรวม ไม่มีแอร์แต่ก็ไม่จำเป็นเพราะอากาศหนาว จองผ่าน agoda ราคา 2,849 บาท ความสะอาดภายในห้องดี ภายในห้องน้ำใช้ได้ สบู่มีป้ายแจ้งว่าขอได้ที่เคาเตอร์ด้านล่างแต่ไม่รู้จะขอจากใครเพราะไม่มีมนุษย์อยู่เลย แต่ที่ดีเลิศมากสำหรับที่นี้คือทำเล อยู่กลางเมืองSydney ใกล้china town และสังเกตเห็นว่า แถวนี้มีป้าย ภาษาไทย อยู่หลายร้าน จึงรู้ว่าแถวนี้เรียกว่า Thai town ดังน้นจึวหาอาหารไทยกินได้ง่ายมากแต่ราคาต่างจากไทยมากๆๆๆ เห็นป้ายชุดส้มตำ 40 กว่าเหรียญ กินไม่ลง
ราคาอาหารที่ Sydney แพงมากๆ นี่ยังไม่รู้ว่า
เงินที่แลกมาจะพอไหม
กลางวันเมื่อวานเดินไปทานอาหารที่ China town ที่ Sussex centre ชั้น 2 มีfood cort
มีอาหารหลายร้าน ราคาเฉลี่ย 20 เหรียญ
คนกินมหาศาล ก่อนจะกินต้องเล่นเก้าอี้ดนตรี
จองที่นั่งให้ได้ก่อน มิฉะนั้นต้องถือจานเดินจนเมื่อยมือ ตัวเองก็หมายตาว่าโต๊ะหนึ่งกำลังตะกินเสร็จก็ยืนห่างจากเก้าอี้เขาไม่ไกลแต่ก็ไม่ให้เขาอึดอัด แต่มีเจ๊คนหนึ่งมาจากไหนไม่รู้แม้ว่าจะเห็นเรายืนจองไว้ แกให้ลูกไปซื้ออาหารแล้วเอาถาดอาหารมาวางใกล้ๆคนที่กำลังกินอยู่ เพื่อจองซะเลย เราก็เลยต้องไปหาที่ใหม่
กินเสร็จก็จะไป Opera house ที่อยู่ไม่ไกล
ดูจาก google map เดิน 3km 40 นาที แต่คิดว่าเก็บแรงไว้เดินวันอื่นดีกว่า เลยจะขึ้นรถรางไป ตั้งใจว่าจะใช้เงินสด แต่ไม่แน่ใจว่ามีคนเก็บเงินบนรถไหม และก็ไม่มีสถานนีให้จ่ายเงิน มีแค่ป้ายและคนที่จะขึ้นก็เอาบัตรโดยส่ี Opal ไปแตะที่ป้าย ถึงจะขึ้นรถราง เราเลยถามผู้โดยส่รคนหนึ่งว่าใช้เงินสดได้ไหม เขายอกว่าไม่ได้ ต้องใช้บัตร เราจอบคุณเขาแล้วก็คุยกันว่าต้องไปหาซื้อบัตรopal แต่ที่ไหนไม่รู้ เขาได้ยินเราคุยภาษาไทยเขาก็เลยบอกว่าเจาเป็นคนไทยเหมือนกัน เพิ่งมาได้ไม่กี่วัน บัตรที่ใช้ก็เป็นของเพื่อน แต่คิดว่าสามารถซื้อได้ที่ 7/11 แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ขึ้นเลย ไม่มีคนตรวจ เขาขอบคุณเขาอีกครั้งแต่ไม่กล้าขึ้นโดยไม่มีบัตร ก็ต้องหาร้าน 7/11 เพื่อซื้อบัตร พอเจอร้านเขาก็ถามว่าจะเติมเงินในบัตรเท่าไหร่ มีขั้นต่ำ 10 เหรียญ เราตัดสินใจว่าเอา 20 เหรียณเพราะไม่รู้ว่าค่าโดยส่รเท่าไหร่ กลัวไม่พอหรือต้องคอยหาร้านเติมเงิน
การใช้บัตรopal ให้แตะบัตรที่ป้ายข้างทางตอนจะขึ้น เวลาลงก็แตะอีกที ที่หน้าจอก็จะบอกค่าโดยสารที่ใช้ไปและเงินในบัตรที่เหลือ
ค่าเดินทางจาก china town ไปลงป้ายสุดท้าย Circular quar เหรียญกว่าๆ จากนั้นเดินไป opera house ระหว่างทางมีท่าเรือข้ามฝาก ไปสถานที่ต่างๆหลายท่า ค่าเรือก็ไม่แพงไม่เกิน 10 เหรียญ ใช้บัตร opal ได้ ที่สำคัญคือได้วิวถ่าย opera house จากเรือ เราเองก็ตั้งใจว่าจะนั่งแต่สมาชิกไม่มีใครอยากนั่ง ก็เลยไม่ได้นั่ง
เดินไปถึง opera house ก็สวยดีแต่ก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไรมากมาย ถ่ายรูปออกมาที่ประทับใจกลับเป็นท้องฟ้า ท้องฟ้าใสมากเป็นสีฟ้าจริงๆ ไม่มีเมฆอะไรเลย กดดูค่าคุณภาพอากาศ ได้ 0 ในขณะที่เชียงใหม่ 190 คนที่เมืองไทยอย่าอิจฉา 555
จริงๆมีที่เดินเล่นแถวนี้มากมาย แต่สมาชิกเป็นคนขี้เกียจะเดิน ก็เลยได้ไปแค่ opera house แล้วก็กลับรร.
ตอนเย็นก็เดินไปแถว china town อากาศหนาวต้องใส่เสื้อแขนยาวและเสื้อหนาว ไปกินอาหารเวียดนาม หมดไป 70 เหรียณ
แถวนี้อาหารเอเชียมากกว่าอาหารฝรั่ง และโดยรวมๆ ดูเหมือนมีคนเอเชียเยอะกว่าคนฝรั่งด้วย
จากนั้นก็กลับที่พัก นอนหลับสบาย ตื่นอีกที ตีสามกว่านั่งพิมพ์มาจนถึงตอนนี้ 8โมง ต้องไปรับรถเช่าที่สนามบินแล้ว วันนี้จะไป Blue moutain แล้วถ้าไม่ขี้เกียจจนเกินไปจะมาเล่าให้ฟัง พร้อมกับรูปต่างๆที่ถ่ายไว้ ตั้งแต่วันแรกๆ ถ้าใครมีอะไรจะเสริม จะบอก จะแนะนำ
จะถามก็ยินดี ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ โดยที่ยังไม่มีรูปเลย