ขอเกริ่นก่อนนะครับ ก่อนหน้านี้ผมนับถือศาสนาพุทธครับ ที่บ้านก็เป็นคนจีน คนในครอบครัวไม่มีใครนับถือศาสนาคริสต์เลยครับ แต่ผมได้เรียนในโรงเรียนคริสต์ช่วงมัธยมมาตลอด วันนึงผมมีความความคิดอยากจะเข้าคริสต์ครับ โดยที่ไม่มีใครมาชวน แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่อยากจะเข้าหาพระเจ้า (อ่อ ผมเรียนจบมาหลายปีแล้วครับ ทำงานแล้ว) ผมเลยลองถามเพื่อนที่เป็นคริสต์ดูครับว่าอยากเข้าโบสถ์ ต้องทำยังไงบ้าง เพื่อนแนะนำให้เข้าไปวันอาทิตย์ครับ เป็นวันทำพิธีมิสซาอยู่แล้ว ผมก็เลยเข้าไปดูครับ แต่เพื่อนบอกว่าห้ามเข้าแถวกินขนมปัง เพราะผมยังไม่ได้เป็นคริสตชน
ที่โบสถ์คนเยอะมากครับ ผมเข้าไปก็ไม่รู้จักกับใครเลย อยู่จนจบมิสซา เลยเดินเข้าไปถามคนที่เล่นดนตรีที่โบสถ์ ว่าผมจะมาเข้าคริสต์ เค้าเลยพาผมมาพบกับคุณพ่อครับ(คุณพ่อ ก็คือ เจ้าอาวาสครับ) ซึ่งคุณพ่อมีความยินดีมากครับ ที่จะเข้ามาเป็นลูกพระเจ้า แกเลยพาผมไปนั่งคุยในห้องเจ้าอาวาส เพื่อนัดวันเรียนคำสอนครับ ผมได้เรียนอาทิตย์ละ2วัน โดยแกก็ถามเหตุผลที่มาเข้าคริสต์ครับ ผมก็ตอบแกไปว่าอยากรู้จักกับพระเจ้า
ช่วงที่เรียนคำสอน ผมอยากจะบอกว่า ไม่น่าเบื่อครับ คัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นอะไรที่ดีมากๆ เป็นคำสอนที่พระเจ้ามอบให้กับมนุษย์ทุกคนในการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ เหมือนเราได้ฟังเรื่องเล่าผ่านนักบุญต่างๆ และโดยเฉพาะพระเยซู เราจะได้เห็นความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งคุณพ่อได้สอนเรื่องการใช้วิถีชีวิตของคริสตชน อันนี้ผมชอบมากโดยเฉพาะเรื่องชีวิตคู่ เป็นอะไรที่น่ารักมากๆครับ สำหรับชาวคริสต์
ผมใช้เวลาเรียนอยู่เกือบ1ปี จนคุณพ่อบอกว่า ในเทศกาลปัสกาปีนี้ ผมจะได้รับศีลล้างบาปแล้วนะ พร้อมกับคนอื่นๆ ที่มาเรียนคำสอน อยากจะบอกว่าดีใจมากๆครับ เพราะช่วงที่เรียนคำสอน ผมก็มาเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ แล้วก็เข้าร่วมวันพิธีสำคัญอยู่ประจำ แต่ก็รู้สึกว่า ผมยังไม่ใช่คริสตชนเต็มตัวเหมือนคนอื่น เป็นแค่ลูกครึ่ง เวลาวันอาทิตย์มิสซา ผมก็ไปเข้าแถวเหมือนคนอื่น แต่คนอื่นจะรับขนมปัง แต่ผมจะเอามือประกบอกเพื่อรับพร
ในช่วงก่อนปัสกา ประมาน1 เดือน คุณพ่อก็จะนัดคนที่มาเรียนคำสอน มาพร้อมกันที่โบสถ์ในพิธีมิสซาวันอาทิตย์ เพื่อประกาศให้คนในโบสถ์ทราบว่า ปัสกาปีนี้ จะมีคนที่จะรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนมีกี่คน โดยจะมีการกล่าวคำเล็กๆน้อยๆก่อนต่อหน้าคริสตชนทั้งหลาย
ก่อนถึงวันรับศีลล้างบาป
จนปัสกาวันเสาร์ที่ผ่านมา คนที่มารับศีลบ้างบาป ศีลกำลัง และศีลมหาสนิท ทางคุณพ่อได้นัดให้มาก่อนพิธีจะเริ่ม โดยแต่งตัวสุภาพเสื้อขาว กางเกงและกระโปรง รองเท้าสุภาพทุกคน อ่อ…ผมลืมบอกไปทุกคนจะต้องมีพ่อแม่ทูนหัวครับ โดยต้องเป็นคริสตชนเหมือนกันและมีความเป็นผู้ใหญ่ (ผมหาจากในโบสถ์ครับ) โดยวันพิธีแต่ละคนจะมีพ่อแม่ทูนหัวมาด้วย ในพิธีซึ่งเป็นงานกลางคืน คนมาร่วมงานเยอะมากครับ และทุกคนที่มาเรียนคำสอนจะออกไปด้านหน้าเพื่อทำพิธี โดยทุกคนจะการกล่าวถึง ความเต็มใจในการเป็นคริสชน (เป็นคำกล่าวตามพิธีครับ) จากนั้นคุณพ่อก็จะเอาน้ำที่เสกแล้วมาล้างศีรษะของเรา และเอาน้ำมันมาเจิมที่หน้าผาก และเอาเสื้อคลุมสีขาวส่วมให้ ในพิธีเราจะรับขนมปังครั้งแรกครับ คุณพ่อจะเป็นคนหยิบใส่ปากเราให้ พร้อมกับสายประคำไว้ให้เราไปนำกลับสวดที่บ้าน (เสื้อคลุมเราคืนกลับครับ แค่ส่วมใส่ในพิธีเท่านั้น)พ่อทูนหัวผมดูแลดีมากๆครับ ให้ความเอาใจใส่ตลอดในพิธี แล้วผมก็ค่อนข้างตื่นเต้นครับ หลังเสร็จพิธีทุกคนก็ถ่ายรูปรวมกับคุณพ่อเป็นที่ระลึกครับ พร้อมกับพ่อแม่ทูนหัว
อยากจะบอกว่า วันนี้ผมเป็นคริสตชนเต็มตัวแล้วครับ เป็นลูกของพระเจ้า และพร้อมจะนำพระวาจาของพระองค์ไปปฏิบัติ เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกคนที่กำลังสนใจและอยากจะเข้าคริสต์ครับ 🙏
อยากแชร์ประสบการณ์การเข้าศาสนาคริสต์
ที่โบสถ์คนเยอะมากครับ ผมเข้าไปก็ไม่รู้จักกับใครเลย อยู่จนจบมิสซา เลยเดินเข้าไปถามคนที่เล่นดนตรีที่โบสถ์ ว่าผมจะมาเข้าคริสต์ เค้าเลยพาผมมาพบกับคุณพ่อครับ(คุณพ่อ ก็คือ เจ้าอาวาสครับ) ซึ่งคุณพ่อมีความยินดีมากครับ ที่จะเข้ามาเป็นลูกพระเจ้า แกเลยพาผมไปนั่งคุยในห้องเจ้าอาวาส เพื่อนัดวันเรียนคำสอนครับ ผมได้เรียนอาทิตย์ละ2วัน โดยแกก็ถามเหตุผลที่มาเข้าคริสต์ครับ ผมก็ตอบแกไปว่าอยากรู้จักกับพระเจ้า
ช่วงที่เรียนคำสอน ผมอยากจะบอกว่า ไม่น่าเบื่อครับ คัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นอะไรที่ดีมากๆ เป็นคำสอนที่พระเจ้ามอบให้กับมนุษย์ทุกคนในการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ เหมือนเราได้ฟังเรื่องเล่าผ่านนักบุญต่างๆ และโดยเฉพาะพระเยซู เราจะได้เห็นความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งคุณพ่อได้สอนเรื่องการใช้วิถีชีวิตของคริสตชน อันนี้ผมชอบมากโดยเฉพาะเรื่องชีวิตคู่ เป็นอะไรที่น่ารักมากๆครับ สำหรับชาวคริสต์
ผมใช้เวลาเรียนอยู่เกือบ1ปี จนคุณพ่อบอกว่า ในเทศกาลปัสกาปีนี้ ผมจะได้รับศีลล้างบาปแล้วนะ พร้อมกับคนอื่นๆ ที่มาเรียนคำสอน อยากจะบอกว่าดีใจมากๆครับ เพราะช่วงที่เรียนคำสอน ผมก็มาเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ แล้วก็เข้าร่วมวันพิธีสำคัญอยู่ประจำ แต่ก็รู้สึกว่า ผมยังไม่ใช่คริสตชนเต็มตัวเหมือนคนอื่น เป็นแค่ลูกครึ่ง เวลาวันอาทิตย์มิสซา ผมก็ไปเข้าแถวเหมือนคนอื่น แต่คนอื่นจะรับขนมปัง แต่ผมจะเอามือประกบอกเพื่อรับพร
ในช่วงก่อนปัสกา ประมาน1 เดือน คุณพ่อก็จะนัดคนที่มาเรียนคำสอน มาพร้อมกันที่โบสถ์ในพิธีมิสซาวันอาทิตย์ เพื่อประกาศให้คนในโบสถ์ทราบว่า ปัสกาปีนี้ จะมีคนที่จะรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนมีกี่คน โดยจะมีการกล่าวคำเล็กๆน้อยๆก่อนต่อหน้าคริสตชนทั้งหลาย
ก่อนถึงวันรับศีลล้างบาป
จนปัสกาวันเสาร์ที่ผ่านมา คนที่มารับศีลบ้างบาป ศีลกำลัง และศีลมหาสนิท ทางคุณพ่อได้นัดให้มาก่อนพิธีจะเริ่ม โดยแต่งตัวสุภาพเสื้อขาว กางเกงและกระโปรง รองเท้าสุภาพทุกคน อ่อ…ผมลืมบอกไปทุกคนจะต้องมีพ่อแม่ทูนหัวครับ โดยต้องเป็นคริสตชนเหมือนกันและมีความเป็นผู้ใหญ่ (ผมหาจากในโบสถ์ครับ) โดยวันพิธีแต่ละคนจะมีพ่อแม่ทูนหัวมาด้วย ในพิธีซึ่งเป็นงานกลางคืน คนมาร่วมงานเยอะมากครับ และทุกคนที่มาเรียนคำสอนจะออกไปด้านหน้าเพื่อทำพิธี โดยทุกคนจะการกล่าวถึง ความเต็มใจในการเป็นคริสชน (เป็นคำกล่าวตามพิธีครับ) จากนั้นคุณพ่อก็จะเอาน้ำที่เสกแล้วมาล้างศีรษะของเรา และเอาน้ำมันมาเจิมที่หน้าผาก และเอาเสื้อคลุมสีขาวส่วมให้ ในพิธีเราจะรับขนมปังครั้งแรกครับ คุณพ่อจะเป็นคนหยิบใส่ปากเราให้ พร้อมกับสายประคำไว้ให้เราไปนำกลับสวดที่บ้าน (เสื้อคลุมเราคืนกลับครับ แค่ส่วมใส่ในพิธีเท่านั้น)พ่อทูนหัวผมดูแลดีมากๆครับ ให้ความเอาใจใส่ตลอดในพิธี แล้วผมก็ค่อนข้างตื่นเต้นครับ หลังเสร็จพิธีทุกคนก็ถ่ายรูปรวมกับคุณพ่อเป็นที่ระลึกครับ พร้อมกับพ่อแม่ทูนหัว
อยากจะบอกว่า วันนี้ผมเป็นคริสตชนเต็มตัวแล้วครับ เป็นลูกของพระเจ้า และพร้อมจะนำพระวาจาของพระองค์ไปปฏิบัติ เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกคนที่กำลังสนใจและอยากจะเข้าคริสต์ครับ 🙏