[Spoil+Review] The Mandalorian S3 Ep.6 >>ผลลัพธ์ของ การปรับทัศนคติ

[ความเดิมของ โบคาทาน เดอะ ซีรีส์] เจ้าหญิงตระกูลครีซ แห่งดาวแมนดาลอร์, ช่วยชีวิตพ่อลูกอ่อนรูปหล่อ จากแก๊งชาวประมงเจ้าเล่ห์
ก่อนชวดโอกาสทวงคืน กระบี่แสงสีดำอันเป็น สัญลักษณ์แห่งผู้นำ จากอริเก่า, ก็เพราะเขา
เหล่าบริวารจึงตีตัวออกห่าง หิ้วกองยานรบอิมพีเรียล (ที่ขโมยมา), ขอลาไปอยู่แบบ ทหารรับจ้าง
บูชาสตางค์มากกว่า, เจ้านายสตรีที่ประสบ ช่วงขาลงของชีวิต

แต่ลิขิตฟ้าช่างเล่นตลก เพราะดิน จาร์ริน, ตัวการที่ผลักเธอตกลง จุดต่ำสุดโดยมิตั้งใจ 
กำลังจะกลายเป็นผู้ ฉุดดึงหล่อนขึ้นสู่ จุดสูงสุดใหม่, ซึ่งอาจยิ่งใหญ่กว่าเก่า
หลังโบอดใจอ่อน ช่วยชีวิตดินจากศัตรู ที่เกือบฆ่าเขามิได้
ก็ถูกกระแส เหตุการณ์ชักนำ, ทำให้ต้องหนีตามชายคนนี้
ไปพึ่งพิงพวกลัทธิหัวโบราณ, ที่ยึดติดกะกฎแปลกๆ (สำหรับคนนอก) อย่างการห้ามถอดหมวก ต่อหน้าผู้อื่น

ทว่าพอเปิดใจรับ, เธอก็เข้าถึงความสำคัญของ หลักศรัทธาแห่งศาสนา อย่างที่ไม่เคยประจักษ์
เมื่อประกอบกับการโชว์ทักษะผู้นำ และการวางแผน, นำพวกพ้องใหม่ข้ามผ่าน สถานการณ์อันตราย
ได้ชัยชนะในสงคราม ปลดแอกดาวชื่อเนอร์วาโร่, จากกลุ่มโจรสลัดวายร้าย

เธอจึงถูกยอมรับอย่างเต็มที่, ผู้นำกลุ่มหัวโบราณแต่เดิมที ถึงขั้นอนุญาตให้ถอดหมวก
เพื่อเดินทางท่องอวกาศ ในฐานะผู้เข้าใจและเข้าถึง, ความเชื่ออันหลากหลาย ของชาวแมนดาลอร์
ออกไปตามเหล่า บริวารทหารรับจ้าง, กลับมาอาศัยภายใต้สังกัด
-
-
-
[สปอยล์ เดอะ แมนดาลอเรี่ยน] ดินกับลูก ติดสอยห้อยตามองค์หญิงโบ 
มุ่งสู่ดาวแถวเขตชายแดน ชื่อพลาเซียร์-15 ซึ่งผู้นำคือราชวงศ์ ที่มาจากการเลือกตั้ง
ดัชเชสของอาณาจักรนี้ อภิเษกสมรสกับ ผู้กองบอมบาเดียร์
อดีตทหารของอิมพีเรียล ซึ่งผ่านโครงการปรับทัศนคติ (แอมเนสตี้) ของสาธารณรัฐใหม่ เป็นที่เรียบร้อย

รัฐใหม่ยอมให้พลาเซียร์ ตั้งตนเป็นอิสระ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องใช้ระบบ ประชาธิปไตย, และไม่มีกองทัพของตัวเอง
ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย ของดาว, พลาเซียร์จึงใช้วิธีจ้าง 
กองทหารเสรีที่ทำตามคำสั่ง เมื่อได้รับเงิน, มาประจำไว้
ซึ่งไม่ใช่ใครนอกจาก กลุ่มบริวารเก่าของโบ, ที่ปัจจุบันลูกน้องชื่อ 'แอคซ์ วูฟส์' เถลิงอำนาจขึ้นเป็นหัวหน้า

ด้านสังคมของดาว ถือว่าใกล้เคียงภาพฝัน ในอุดมคติ
คือนำอดีตหุ่นดรอยด์ทหาร ของฝ่ายแบ่งแยกจำนวนมหาศาล, มาโปรแกรมใหม่ 
ให้เหล่าพลเมืองมนุษย์ ใช้สอยพวกมัน, ในฐานะแรงงาน
ผู้คนที่นี่ไม่ต้องตรากตรำลำบาก สามารถอุทิศตัวเองกับ การพัฒนาศาสตร์และศิลป์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก

ทว่าสังคมอุดมคติ กำลังส่อเค้าว่าอาจ ถึงกาลล่มสลาย
เมื่อหุ่นยนต์บางส่วน เริ่มทำงานผิดพลาด, อาละวาดทำร้ายประชาชน โดยมิทราบสาเหตุ
ไอ้ครั้นจะใช้ พรรคพวกของแอคซ์วูฟส์ ตรวจสอบ
ก็ขัดกะนโยบาย รักษาความสงบโดยสมบูรณ์ แยกส่วนการเรือนกับการทหาร
ดัชเชสและพระสวามี จึงวิงวอนแกมบีบบังคับ, ให้ดินกับโบ ไขคดีนี้
เพราะสำหรับสังคมที่ยอมรับ พหุวัฒนธรรม, ย่อมกล่าวได้ว่าพวกเขา 
ควรรับได้ที่ ชาวแมนดาลอร์ทั้งสอง จะหิ้วอาวุธเดินท่อมๆ กลางเมือง
เนื่องจากศัสตราคือ แก่นความเชื่อทางศาสนา ของคนทั้งคู่

โบกะดิน เลยรับงานนักสืบจำเป็น, คู่ชาวแมนดาลอร์ ฝากโกรกูไว้กะดัชเชส
แล้วจัดการหุ่นเหล็ก ที่ทำงานผิดพลาด ตัวล่าสุด
พวกเค้าแกะรอยจากเจ้าหุ่น จึงรู้ว่าควรบ่ายหน้าเยือน 'เดอะรีซิสเตอร์' บาร์ของพวกดรอยด์

พวกกระป๋อง ยอมร่วมมือ, แจ้งข้อมูลที่มีประโยชน์ โดยดี
เนื่องเพราะเจ้าพวกนี้คิดว่า การรับใช้ผู้สร้างชีวิตให้ มิใช่เรื่องเสียหาย
จึงอยากให้สังคมอุดมคติ ยังดำเนินสืบต่อไปได้, เช่นเดียวกะมนุษย์
โบ & ดินพบความจริงเบื้องหลัง ว่าผู้บัญชาการเฮลเกท แห่งสำนักความปลอดภัย, คือคนร้าย
นายคนนี้วางยา ใส่หม้อเครื่องดื่มในบาร์พวกดรอยด์
เพราะความยึดติดกับ อุดมการณ์เสรีที่แท้ของฝ่ายแบ่งแยก, ไม่ต้องเลียแข้งเลียขารัฐใหม่
แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ โดนเนรเทศออกนอกดาวไป

ดัชเชสและพระสวามี พอใจในความสำเร็จ 
จึงยอมรับแมนดาลอร์ เป็นประชาธิปไตย และจะยื่นเรื่องให้รัฐใหม่, ยอมรับเช่นกัน
รวมทั้งทำพิธีมอบกุญแจเมือง เป็นเครื่องมือแสดงออก, ว่ายินดีต้อนรับครอบครัวดิน อีกทุกเมื่อ

โบ & ดินถูกอนุญาต ให้เจอกองทหาร ของแอคซ์วูฟส์เสียที
โบล้มแอคซ์วูฟส์ลง, แต่หมอนั่นยังคงแคลงใจ ในความเหมาะสมที่จะนำ ของโบคาทาน
ดินจึงป่าวประกาศว่า ข้าเคยเกือบตาย ระหว่างสำรวจดาวแมนดาลอร์

โบคือผู้ช่วยชีพ ด้วยการหยิบกระบี่ดำ ไปสังหารผู้โค่นล้มข้า
การที่หล่อนปราบ ศัตรูที่เหนือกว่าข้า, ย่อมหมายความว่า สิทธิขาดเหนือกระบี่ ย่อมกลายเป็นของนางผู้นี้แทน
แอควูฟส์เลยจำนนด้วยเหตุผล กองยานบริวารเก่าของโบ หวนคืนสังกัดเดิมซ้ำ
-
-
-
[วิจารณ์] สะกิดใจนิดหน่อย เมื่อเห็นช่วง ย้อนความเดิมในซีรีส์ (ของแท้) ที่ผู้ผลิตเอาฉากของตอน 2 
อันพระเอกบ้อท่า แล้วโบต้องเซฟ, มาเล่าซ้ำ
ซึ่งเมื่อถึงช่วงท้าย ก็กลายเป็น, อย่างที่สังหรณ์ไว้จริง
คือสิทธิ์ครอบครอง เหนือกระบี่แห่งผู้นำ ตกสู่นางเรียบร้อย, ตั้งกะก่อนที่เจ้าตัว จะทันรู้ซะอีก

คนประกาศแบบดิน คงตระหนักมาตลอด, แต่เลือกรอจังหวะเหมาะ ค่อยเผยไต๋
อาจเป็นสาเหตุที่คุณพระเอก ร่วมทางกับโบ มุ่งสู่พลาเซียร์ 15
ทั้งที่การรวบรวมชาวแมนดาลอร์, ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา ซะทีเดียวด้วย
-
-
นับแต่ซีซั่น 3 เข้าตอน 2, บทอวยโบเสมอ 
แต่ก็เพราะเธอคือ คนที่ผู้แต่งละครชี้ว่า ควรรับงานรวมแมนดาลอร์เป็นหนึ่ง
ซึ่งการเด่นต่อเนื่อง, ส่งผลให้พันธกิจฟื้นฟูศาสนา อันเคยดูห่างไกลในความรู้สึก คืบหน้าด้วยความเร็วสูง
 
จนถ้าจะเร่งเครื่องต่อ พอตอนถัดไป, มอฟกีเดี้ยนคืนสังเวียน (พร้อมไอ้เวนสลัด ?) เปิดตัวแมนดาลอร์แปรพักตร์
และตอนจบเกิดสงคราม ที่ใหญ่กว่าในตอน 5, ปิดท้ายซีซั่นอย่างดุเดือด 
อะไรเทือกๆ นี้ก็สามารถ, อุบัติได้โดยไม่ขัดหูขัดตา หรือว่าแลรีบร้อนเกินเหตุ
-
-
อีกอย่างที่สังเกต คือพลาเซียร์เป็นด้านสว่าง, ผลลัพธ์เชิงสัมฤทธิ์ ของโครงการปรับทัศนคติ (แอมเนสตี้)
ซึ่งซีรีส์เลือกโชว์ให้เห็น หลังแฉด้านมืดเต็มเหนี่ยว, ในตอนของคุณหมอเพอร์ชิ่ง
ยิ่งพอรวมกับการที่ ฉากเฉิกอะไรต่างๆ ของพลาเซียร์ ดูลงทุนสร้าง, มีความงดงาม
และการที่วางบทไว้ ให้เมื่อจบตอนนี้, ครอบครัวดิน แลชาวแมนดาลอร์ ถูกยอมรับจากประมุข

ผมก็เชื่อว่า The Mandalorian จะพาพวกเรา, ย้อนกลับมาสำรวจ 
มุมมองของผู้คน, หุ่นยนต์, สถานที่ ของดาวดวงนี้ 
ที่สะท้อนยุคสมัยของ กาแล็คซี่สตาร์วอร์ส ณ ยุคคาวบอย
ในอนาคต อีกหลายคำรบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่