ทริปนี้เกิดจาก ไถ IG เจอภาพพระพุทธรูปขนาดใหญ่ท่ามกลางชุมชน ดูจากรายละเอียดเลยรู้ว่าอยู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เราอยากไปถ่ายรูป เลยหาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับดู Google Map เลยเห็นว่าย่านนั้นเป็นชุมชนเก่า มีวัดเก่าแก่ที่สร้างสมัยอยุธยาหลายแห่ง เราเลยวางแผนเที่ยวย่านนั้นไปด้วยเลยจะได้คุ้ม ได้เส้นทางแบบนี้
1. เจอกันที่ BTS วุฒากาศ ประมาณ 9.00-9.30 น.
2. เดิน 500 เมตรไปวัดนางชีโชติการาม พระอารามหลวง
3. เดิน 150 เมตร ไปวัดนาคปรก
4. เดิน 800 เมตร ไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ
5. เดิน 50 เมตร แวะกินกาแฟ Meili Cafe
6. เดิน 300 เมตร ไปวัดประดู่ฉิมพลี (หลวงปู่โต๊ะ)
7. เดิน 900 เมตร ไป MRT ท่าพระ กลับบ้าน
เดือนมีนาคมแบบนี้ไม่ต้องห่วงร้อนแน่ๆ ชวนเพื่อนชาวกรุงที่เดินเก่งทนร้อนชอบของเก่า ชอบไหว้พระ มาเดินเที่ยวด้วยกัน เรานัดเพื่อนที่
BTS วุฒากาศ ทางออก 2



เดินข้ามถนน จะเข้าซอย พอดีหน้าปากซอยมีกาแฟขายอยู่ คุณเพื่อนผู้หิวโหยคาเฟอีน เลยแวะอุดหนุน แล้วก็เดินเข้าซอยไปนิดเดียวเดินตาม GPS ถึงจุดหมายแรกของเรา
วัดนางชีโชติการาม
วัดนางชีโชติการามเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีเจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรี พระยาฤาชัยณรงค์ และออกหลวงเสนาสุนทร ได้ร่วมกันสร้างขึ้น สำหรับชื่อวัดนางชี มีเรื่องเล่าว่า เจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรี มีลูกสาวชื่อแม่อิ่ม ที่ป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย วันหนึ่งท่านเจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรีได้ฝัน ว่าท่านชีปะขาวให้เจ้าพระยาฯ บนให้ลูกสาวหายป่วย โดยการให้บวชชี เมื่อลูกสาวหายป่วย เจ้าพระยาฯ จึงให้ลูกสาวบวชชี พร้อมกับสร้างวัดนี้




ต่อมาวัดได้เป็นวัดร้างในช่วงปลายแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศ จนมาในสมัยรัชกาลที่ 1 พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (เถียน) พ่อค้าชาวจีนต้องการบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางชี จีน เมื่อสร้างเสร็จได้ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระราชทานพระนามว่า วัดนางชีโชติการาม และในสมัยรัชกาลที่ 3 พระยาราชานุชิต (จ๋อง) ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอีกครั้ง โดยรื้อของเก่าแล้วสร้างใหม่ เป็นวัดที่สร้างสไตล์พระราชนิยม (ศิลปะแบบจีน) สมัยรัชกาลที่ 3 กาลเวลาที่ผ่านไปทำให้วัดชำรุดทรุดโทรมลง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้ร่วมกับทางวัดทำโการบูรณปฏิสังขรณ์ ในปี 2556 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2559
พระวิหาร
หน้าบันวิหารเป็นกระเบื้องเคลือบรูปเรือสำเภา รัชกาลที่3 พระราชทาน
พระอุโบสถ
พระประธานในพระอุโบสถ ด้านหลังพระประธานมีพระปางไสยาสน์
เดินออกไปทางด้านหลังของพระวิหาร และพระอุโบสถเป็นท้าวเวชสุวรรณ พญาปุริสารทและแม่ยักษิณี วัดนางชี มีพิธีบวงสรวงเมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มาถึงแล้วก็ต้องขอพรกัน
เราเดินย้อนกลับไปตรงทางที่เราเข้ามาเพื่อจะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม 5 ปาง และแม่ชีศาลาท่าน้ำของวัด
เดินกลับไปทางหลังพระอุโบสถทางเดิมเพื่อจะไปวัดนาคปรก ระหว่างทางก็ทำบุญสร้างพระ กินขนม กินขนมจีนน้ำเงี้ยว พักคลายร้อนสักครู่
ก่อนเข้าไปใน
วัดนาคปรกเจอวิหารหลวงพ่อโตก่อน ที่นี่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต และ หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปที่สร้างโดยหลวงปู่ชู คงชูนาม เพื่อขอโชคลาภ การงาน และสวดถอนสิ่งไม่ดี
วัดนาคปรก เป็นวัดโบราณสันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ประมาณปี พ.ศ. 2291 ก่อนการเสียกรุงครั้งที่ 2 หลังจากเสียกรุงวัดจึงถูกทิ้งร้าง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 พ่อค้าคหบดีเชื้อสายจีน “เจ้าสัวพุก” (ต่อมาดำรงตำแหน่งเป็น พระยาโชฏึกราชเศรษฐี (พุก แซ่ตัน)) ได้เข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์ทำให้วัดมีสถาปัตยกรรมไทยผสมผสาน
นอกจากนี้ เจ้าสัวพุก ยังได้อัญเชิญ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย อายุมากกว่า ๗๐๐ ปี จำนวน ๒ องค์ ประดิษฐานในอุโบสถ และวิหาร
ด้านหน้าทางเข้าวัดมีพญานาคสีขาวองค์ใหญ่ เราก็จะเข้าไปในวิหารกราบไหว้ หลวงพ่อนาคปรก องค์ใหญ่ ซึ่งสวยงาม สีทองสุกใส
ถัดไปเป็นพระอุโบสถมีลักษณะโค้งแอ่นคล้ายท้องเรือสำเภาจีน ภายในอุโบสถมีจิตรกรรมซึ่งได้จ้างจิตกรชาวจีนมาเขียนภาพลงผนังซึ่งมีการจัดเรียงเป็นช่องเป็นเครื่องมงคล2555 ได้บูรณะอุโบสถโดยยกขึ้นเป็น 2 ชั้น เพื่อให้พื้นอุโบสถสูงกว่าระดับน้ำในคลอง พร้อมกับซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกน้ำซึมเข้ามาจนเสียหาย ทำการบูรณะยกพื้นเสร็จสิ้นในปี 2557 บันไดทางขึ้นอุโบสถมีราวบันไดพญานาคราชคู่
พระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย อายุมากกว่า 700 ปี เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “หลวงพ่อเจ้าสัว” โดยมีการบูรณะใหม่หลังจากยกอุโบสถขึ้นแล้ว ได้มีการปิดทององค์พระประธานและสร้างฐานพระใหม่ เป็นมังกร ๘ ตัว พันเกลียวกันขึ้นเป็นฐานพระ หมายถึง มรรคมีองค์ ๘ เป็นทางไปสู่พระนิพพาน
ไหว้พระเสร็จเราลอดโบสถ์ต่อ ด้านล่างคนเยอะ มีหลวงพ่อนั่งให้ศีลให้พร นำสวดมนต์ ว่ากันว่าการลอดโบสถ์เพื่อล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต รวมถึงเสริมความเป็นสิริมงคล บารมี แคล้วคลาดจากโรคภัยไข้เจ็บ พบเจอแต่ความโชคดีในด้านต่าง ๆ
[CR] ภาษีเจริญ ไปเที่ยว ไปมู ไปดูวัด
2. เดิน 500 เมตรไปวัดนางชีโชติการาม พระอารามหลวง
3. เดิน 150 เมตร ไปวัดนาคปรก
4. เดิน 800 เมตร ไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ
5. เดิน 50 เมตร แวะกินกาแฟ Meili Cafe
6. เดิน 300 เมตร ไปวัดประดู่ฉิมพลี (หลวงปู่โต๊ะ)
7. เดิน 900 เมตร ไป MRT ท่าพระ กลับบ้าน
เดือนมีนาคมแบบนี้ไม่ต้องห่วงร้อนแน่ๆ ชวนเพื่อนชาวกรุงที่เดินเก่งทนร้อนชอบของเก่า ชอบไหว้พระ มาเดินเที่ยวด้วยกัน เรานัดเพื่อนที่ BTS วุฒากาศ ทางออก 2
ด้านหน้าทางเข้าวัดมีพญานาคสีขาวองค์ใหญ่ เราก็จะเข้าไปในวิหารกราบไหว้ หลวงพ่อนาคปรก องค์ใหญ่ ซึ่งสวยงาม สีทองสุกใส
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้