คือ ถ้าสังเกตทุกเกมของทีมชาติไทยชุดใหญ่ แต่ล่ะนัดที่ผ่านๆมา ครองบอลแทบไม่เคยต่ำกว่า 60% ไม่ว่าเจอคู่ต่อสู้ระดับไหน ครองบอล จ่ายบอลเยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นทีมระดับอาเซียน หรือเอเชีย แร็งค์กิ้งสูงกว่า หรือต่ำกว่า คู่แข่งเวลาเจอไทยต้องเป็นฝ่ายตั้งรับแล้วรอโต้ตลอด
แต่!! ความต่างมันอยู่ที่ว่า ทีมที่แร็งค์กิ้งต่ำกว่า หรือทีมในอาเซียน จะมีลูกโต้กลับ สวนกลับ
ที่มีประสิทธิภาพและมีความเด็ดขาดสู้กับทีมที่แร็งค์กิ้งสูงกว่าไทยไม่ได้เท่านั้นเอง พูดง่ายๆทีมระดับเอเชีย หรือพวกแร็งค์กิ้งสูงๆ เขาก็จะปล่อยให้เราครองบอลไป วางแผนเน้นมาโต้กลับลูกเดียว สังเกตได้ เช่น เกมตอนเจออุซเบ หรือยูเออีสองนัดล่าสุดที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งเกมที่เจอญี่ปุ่น ตอนคัดบอลโลก
อย่างเกมนี้ที่เจอซีเรีย เห็นหลายคนบอกในกระทู้เชียร์สด ว่าซีเรียดูไม่มีอะไร แต่ความเป็นจริง คิดว่าเขาน่าจะศึกษาทีมไทยมาพอควร ไทยเป็นทีมที่ชอบเร่งบุกเอาสกอร์ตั้งแต่ช่วงต้นเกมเลย ไล่บีบเอาบอลคืนไล่เพรสตลอดอย่างรวดเร็วทันที (สไตล์มาโน่ คือ บุกเดิมพันเลย ถ้าได้ก่อน ได้เร็ว ก็เตรียมปิดเกมได้เลย) ซึ่งมันเสี่ยงอยู่ ถ้าได้ก็คุ้ม ซีเรีย เลยเน้นมารับแน่นๆ เพราะถ้าเปิดเกมบุกใส่ไทยคงไม่รอดแน่ และพอเขาเผอิญได้ประตูตามต้องการ ช่วงกลางๆครึ่งหลัง เขารู้ว่าไทยใช้พลังงานไปเยอะมากในช่วงครึ่งแรก คิดว่าแรงน่าจะหาย เขาเปลี่ยนทีเดียว 4-5 คนมาไล่บดเราเลย ท้ายๆเกมเลยตื้อไปพอควร เร่งไม่ขึ้น
ยอมรับว่าสไตล์มาโน่นี่บุกมันส์จริง แต่มีความเสี่ยง ถ้าได้เร็วคือแทบจะปิดเกมได้ แต่ถ้าไม่ได้ แล้วโดนเขาสวนตูมเดียวมานี่แหละ น่ากลัว
แต่ที่น่าชื่นชม คือ เกมเรากดซีเรียได้แทบอยู่หมัด ครองบอล ได้เกิน 70% ในการบุกไปเยือนทีมจากตะวันออกกลาง แถมบุกอยู่ในแดนเขาซะเยอะด้วย
อันนี้ขนาดบุกมาเยือนทีมที่อันดับโลกสูงกว่าน่ะ เขายังหาบอลแทบไม่เจอ (เกมที่เคยเจอกันในอดีต ขนาดแข่งในบ้านเรา ยังกดเขาไม่ได้ขนาดนี้เลย) แต่ติดนิดเดียวเรื่องการจบสกอร์ ไม่งั้นมันจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์แล้ว
ขอติงนิดนึงสำหรับเกมนี้ คือ ในการอุ่นกับทีมที่อันดับสูงกว่า แล้วในเกมที่ไทยต้องการคะแนนฟีฟ่า
ไม่ควรเสี่ยงใช้ผู้รักษาประตูหน้าใหม่ หรือประสบการณ์น้อยเลยในเกมนั้นๆ เพราะความกดดันมันจะเยอะทันที สำหรับประตูหน้าใหม่ควรจะเริ่มจากเวลาแข่งกับทีมที่อันดับโลกต่ำกว่า หรือ ทีมในระดับอาเซียน ก็เป็นจุดเริ่มที่ดี ค่อยๆไล่ขึ้นมา อย่างเกมนี้ มีความผิดพลาดเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ และสาเหตุส่วนนึงคือ ยั
งสื่อสารไม่เข้าใจกันกับผู้เล่นแนวรับนั่นแหละ จังหวะที่พลาดทั้งหมดล้วนเกิดจากสื่อสารไม่เข้าใจกัน แล้วเจอเกมที่คู่ต่อสู้ค่อนข้างเหนือกว่า เลยผลเป็นอย่างที่เห็น
ก็ยังคงเป็นปัญหาต่อไปของทีมชาติไทย คือเรื่องความเด็ดขาดในการจบสกอร์ อย่างอื่นแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย ดีมากๆแล้วสำหรับเกมนี้
ไม่ว่าจะเป็นทีมระดับอาเซียน หรือเอเชีย แร็งค์กิ้งสูงกว่า หรือต่ำกว่า คู่แข่งเวลาเจอไทยต้องเป็นฝ่ายตั้งรับแล้วรอโต้ตลอด แต่!! ความต่างมันอยู่ที่ว่า ทีมที่แร็งค์กิ้งต่ำกว่า หรือทีมในอาเซียน จะมีลูกโต้กลับ สวนกลับที่มีประสิทธิภาพและมีความเด็ดขาดสู้กับทีมที่แร็งค์กิ้งสูงกว่าไทยไม่ได้เท่านั้นเอง พูดง่ายๆทีมระดับเอเชีย หรือพวกแร็งค์กิ้งสูงๆ เขาก็จะปล่อยให้เราครองบอลไป วางแผนเน้นมาโต้กลับลูกเดียว สังเกตได้ เช่น เกมตอนเจออุซเบ หรือยูเออีสองนัดล่าสุดที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งเกมที่เจอญี่ปุ่น ตอนคัดบอลโลก
อย่างเกมนี้ที่เจอซีเรีย เห็นหลายคนบอกในกระทู้เชียร์สด ว่าซีเรียดูไม่มีอะไร แต่ความเป็นจริง คิดว่าเขาน่าจะศึกษาทีมไทยมาพอควร ไทยเป็นทีมที่ชอบเร่งบุกเอาสกอร์ตั้งแต่ช่วงต้นเกมเลย ไล่บีบเอาบอลคืนไล่เพรสตลอดอย่างรวดเร็วทันที (สไตล์มาโน่ คือ บุกเดิมพันเลย ถ้าได้ก่อน ได้เร็ว ก็เตรียมปิดเกมได้เลย) ซึ่งมันเสี่ยงอยู่ ถ้าได้ก็คุ้ม ซีเรีย เลยเน้นมารับแน่นๆ เพราะถ้าเปิดเกมบุกใส่ไทยคงไม่รอดแน่ และพอเขาเผอิญได้ประตูตามต้องการ ช่วงกลางๆครึ่งหลัง เขารู้ว่าไทยใช้พลังงานไปเยอะมากในช่วงครึ่งแรก คิดว่าแรงน่าจะหาย เขาเปลี่ยนทีเดียว 4-5 คนมาไล่บดเราเลย ท้ายๆเกมเลยตื้อไปพอควร เร่งไม่ขึ้น
ยอมรับว่าสไตล์มาโน่นี่บุกมันส์จริง แต่มีความเสี่ยง ถ้าได้เร็วคือแทบจะปิดเกมได้ แต่ถ้าไม่ได้ แล้วโดนเขาสวนตูมเดียวมานี่แหละ น่ากลัว
แต่ที่น่าชื่นชม คือ เกมเรากดซีเรียได้แทบอยู่หมัด ครองบอล ได้เกิน 70% ในการบุกไปเยือนทีมจากตะวันออกกลาง แถมบุกอยู่ในแดนเขาซะเยอะด้วย
อันนี้ขนาดบุกมาเยือนทีมที่อันดับโลกสูงกว่าน่ะ เขายังหาบอลแทบไม่เจอ (เกมที่เคยเจอกันในอดีต ขนาดแข่งในบ้านเรา ยังกดเขาไม่ได้ขนาดนี้เลย) แต่ติดนิดเดียวเรื่องการจบสกอร์ ไม่งั้นมันจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์แล้ว
ขอติงนิดนึงสำหรับเกมนี้ คือ ในการอุ่นกับทีมที่อันดับสูงกว่า แล้วในเกมที่ไทยต้องการคะแนนฟีฟ่า ไม่ควรเสี่ยงใช้ผู้รักษาประตูหน้าใหม่ หรือประสบการณ์น้อยเลยในเกมนั้นๆ เพราะความกดดันมันจะเยอะทันที สำหรับประตูหน้าใหม่ควรจะเริ่มจากเวลาแข่งกับทีมที่อันดับโลกต่ำกว่า หรือ ทีมในระดับอาเซียน ก็เป็นจุดเริ่มที่ดี ค่อยๆไล่ขึ้นมา อย่างเกมนี้ มีความผิดพลาดเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ และสาเหตุส่วนนึงคือ ยังสื่อสารไม่เข้าใจกันกับผู้เล่นแนวรับนั่นแหละ จังหวะที่พลาดทั้งหมดล้วนเกิดจากสื่อสารไม่เข้าใจกัน แล้วเจอเกมที่คู่ต่อสู้ค่อนข้างเหนือกว่า เลยผลเป็นอย่างที่เห็น