สวัสดีค่ะ เราเป็นวิศกร ทั้งแผนกเรามี 11 คนค่ะ เป็นผู้ชายทั้งหมดยกเว้นเราคนเดียวค่ะ แผนกเราเป็นแผนกใหม่ที่มีมาได้ 5 ปีกว่าๆค่ะ ซึ่งเราคือพนักงานรุ่นแรกๆที่ได้มาทำงานที่แผนกนี้และเป็นการทำงานที่นี่ที่แรกหลังจากเรียนจบค่ะ
การทำงานเร่วมกับผู้ชายไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เราเลยค่ะ กลับกันเรากลับรู้สึกว่ามันทำงานง่ายกว่าและรู้สึกสบายใจมากกว่าทำงานกับพวกผู้หญิง เรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเมื่อได้อยู่ร่วมกับพวกผู้ชาย ไม่ว่าจะทั้งตอนเรียนหรือตอนทำงานค่ะ เพื่อนส่วนใหญ่ที่เรามีก็จะมีแต่ผู้ชายและทอมค่ะ ส่วนเพื่อนผู้หญิงถือว่ามีน้อยมาก ความสัมพันธ์กับคนในทีมเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ ทุกคนเข้ากันดีและสนิทสนมกันหมด ผู้ชายทุกคนในทีมให้เกียรติเราและไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ไม่เคยถูกลวนลามหรือคุกคาม ทั้งสายตา คำพูด หรือการกระทำเลยค่ะ
บุคลิกของเราจะไม่ใช่ผู้หญิงหวานจ๋าหรือสายเซ็กซี่ค่ะ เราจะออกเป็นคนนิ่งๆ แมนๆคุยกันได้ แต่ไม่ได้ห้าวขนาดทอมบอยค่ะ ในทีมเรามีคนที่อายุเท่ากันอยู่ 5 คนค่ะ เรามีเพื่อนสนิทหนึ่งคนที่เข้างานมาไล่เลี่ยกันและจบมาจากมอเดียวกัน ชื่อ A (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่เราไว้วางใจและสามารถปรึกษากันได้ทุกๆเรื่องค่ะ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ถือว่าสนิทแต่ไม่ได้ถึงขั้นที่จะปรึกษาปัญหาชีวิตทุกเรื่องได้
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับทีมเราจะนอนรวมกันหลายๆคนค่ะ บางครั้งมีการนอนร่วมห้องกับเพื่อนผู้ชายในทีมแบบสองต่อสอง แต่ว่าไม่เคยมีอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ สำหรับเราแล้วถือว่าคนในทีมนั้นไว้ใจเรื่องพวกนี้ได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครแสดงพฤติกรรมที่ทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาคิดอะไรเกินเลยกับเราเลย และเราก็ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับคนในทีมหรือเกิดความรู้สึกหวั่นไหวอะไรเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจมาจากการที่เราเลิกกับแฟนค่ะ ซึ่งทำให้เรานั้นตัดสินใจย้ายออกมาอยู่หอพักคนเดียว ใกล้ๆที่ทำงานค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนในทีมรู้ แถมเพื่อนๆพี่ๆในทีมยังช่วยตะเวนหาหอพักที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุดให้อีก
หลังจากที่เราย้ายมาอยู่หอได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อนในทีมคนหนึ่ง (สมมุติว่าชื่อ B ) ได้โทรมาหาเรากลางดึกแล้วบอกว่าจะแวะมาหาที่หอและซื้อเบียร์ติดมาด้วยหนึ่งขวด เราเลยรีบออกจากห้องแล้วมาหา B ที่หน้าหอ นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยที่ม้านั่งด้านหน้าหอ คืนนั้นเราไม่ได้ดื่ม (ปกติเราไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว ) ส่วน B นั้นดื่มคนเดียว ( B เป็นคนดื่มจัด ) เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้วเราจึงบอกให้ B รีบกลับ เพราะสภาพของ B นั้นเริ่มเมามากแล้ว (B ดื่มมาจากที่อื่นก่อนแวะมาหาเราค่ะ ) หลังผ่านคืนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรค่ะ
จนผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ค่ะ ประมาณ สองทุ่ม B ไลน์มาหาเราว่า ขอมานั่งกินเบียร์ที่ห้องได้มั้ย ด้วยความที่เราไม่กล้าปฏิเสธบวกกับไม่ได้คิดมากอะไรเลยตอบตกลงค่ะ B เข้ามาในห้องก็นั่งดื่มเบียร์ตามปกติค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เรากับ B ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่ B ไม่ได้มีการล่วงเกินหรืออะไรเรานะคะ เพียงแต่ว่า B คะยั้นคะยอให้เราดื่ม แต่เราปฏิเสธค่ะ เรานั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องงาน และเรื่องทั่วๆไปค่ะ จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน B เห็นว่าเราง่วงเลยยอมกลับไปค่ะ
หลังจากคืนนั้นสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจก็คือ เราตั้งใจจะถ่ายรูป B ส่งไปในไลน์กลุ่มเพื่อบอกทุกๆคนว่า B แวะมากินเบียร์ที่ห้องเรา แต่ว่า B กลับบอกว่าไม่ต้องบอกคนอื่นหรอก (แต่เราเลือกที่จะแอบบอก A ไว้ ) และ B ยังเอาเพลงที่เราบอกว่าชอบ 3 เพลง ไปลงสตอรี่ไอจีในวันถัดมาอีก
เราเริ่มคิดมากกับพฤติกรรมของ B และรู้สึกสับสนเล็กน้อยว่า B คิดอะไรเกินเลยกับเราหรือเปล่า แต่เราไม่อยากคิดไปในแนวทางนั้น เพราะที่ผ่านมา B ไม่เคยแสดงอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาคิดกับเราแบบนั้นเลย เราเลยลองปรึกษากับ A ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในทีม A บอกว่า รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่ B ไปหาเราที่ห้องแบบนั้น แต่ A ก็ไม่อยากกล่าวหาว่า B จะคิดไม่ดีกับเรา ซึ่งเราก็ไม่อยากคิดมากไปเองเช่นกันค่ะ
สองวันต่อมา B ไลน์มาหาตอนเย็นว่า ขอมากินเบียร์ที่ห้อง แต่เราไม่ว่างเพราะเข้าไปซื้อของในตัวเมืองค่ะ เราเลยตอบ B กลับไปว่า ให้มาพรุ่งนี้แทน พอถึงวันเราชวน A และคนในทีมคนอื่นๆไปด้วยค่ะ เพราะเราไม่อยากอยู่กับ B แค่สองต่อสอง A รู้ว่าเราไม่สบายใจเลยบอกกับทุกคนว่าให้นั่งกินที่ม้านั่งด้านหน้าหอค่ะ หลังจากเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว พวกเราเลยชวนกันแยกย้าย เรารีบปลีกตัวกลับขึ้นห้องและบอกให้ทุกคนส่งข่าวด้วยเมื่อกลับถึงบ้าน แต่หลังจากเรากลับขึ้นห้องได้ไม่ถึง 10 นาที B ก็ไลน์มาบอกว่า ยังอยู่ที่หน้าหอเรา เขายังไม่อยากกลับบ้านเพราะทะเลาะกับแฟนเลยจะดื่มต่อ
เราเห็นข้อความเขาแล้วแต่เราเลือกที่จะไม่ตอบค่ะ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที B ก็โทรไลน์มาหาเรา แต่เราไม่รับค่ะ B โทรหาเราหลายสายมากๆ ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ยันเกือบเที่ยงคืน แต่เราเลือกที่จะไม่รับและไม่อ่านไลน์เลยค่ะ เรารู้สึกกลัวและสับสนมากๆกับการกระทำของ B โชคดีที่หอพักของเราเป็นระบบแสกนลายนิ้วมือเวลาเข้าออกประตู เราโทรหา A ว่าให้ทักไลน์ไปหา B ว่าถึงบ้านหรือยัง แต่ B อ่านไม่ตอบ A ค่ะ (แต่โทรหาเราได้ ) พอเป็นแบบนั้นเลยยิ่งทำให้ เราและ A ไม่สบายใจมากขึ้นเข้าไปใหญ่ค่ะ
สิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจกว่าเดิมเลยก็คือ เมื่อเราไม่อ่านไลน์ B ก็ยกเลิกข้อความที่เขาพิมพ์มา และยังมีการลงสตอรี่ไอจีที่ตั้ง Close Friend ให้เราเห็นแค่คนเดียว ( เอาไอจี A ดูและคนอื่นๆดูแต่สตอรี่ไม่ขึ้น ) เราเลยอยากถามความคิดเห็นจากทุกคนในพันทิปค่ะ ว่า B มีแนวโน้มที่จะคิดเกินเลยและคิดไม่ดีกับเราใช่หรือเปล่าคะ ตอนนี้เราคิดมากและกระอักกระอ่วนเวลาเจอหน้า B ค่ะ เราพยายามทำตัวปกติ และพยายามมองในแง่ดีอยู่ค่ะ และกำลังจะบอก B ไปว่าไม่ต้องมาหาเราที่หออีกค่ะ
เพื่อนแสดงพฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้เขาคิดอะไรกับเรารึเปล่าคะ ?
การทำงานเร่วมกับผู้ชายไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เราเลยค่ะ กลับกันเรากลับรู้สึกว่ามันทำงานง่ายกว่าและรู้สึกสบายใจมากกว่าทำงานกับพวกผู้หญิง เรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเมื่อได้อยู่ร่วมกับพวกผู้ชาย ไม่ว่าจะทั้งตอนเรียนหรือตอนทำงานค่ะ เพื่อนส่วนใหญ่ที่เรามีก็จะมีแต่ผู้ชายและทอมค่ะ ส่วนเพื่อนผู้หญิงถือว่ามีน้อยมาก ความสัมพันธ์กับคนในทีมเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ ทุกคนเข้ากันดีและสนิทสนมกันหมด ผู้ชายทุกคนในทีมให้เกียรติเราและไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ไม่เคยถูกลวนลามหรือคุกคาม ทั้งสายตา คำพูด หรือการกระทำเลยค่ะ
บุคลิกของเราจะไม่ใช่ผู้หญิงหวานจ๋าหรือสายเซ็กซี่ค่ะ เราจะออกเป็นคนนิ่งๆ แมนๆคุยกันได้ แต่ไม่ได้ห้าวขนาดทอมบอยค่ะ ในทีมเรามีคนที่อายุเท่ากันอยู่ 5 คนค่ะ เรามีเพื่อนสนิทหนึ่งคนที่เข้างานมาไล่เลี่ยกันและจบมาจากมอเดียวกัน ชื่อ A (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่เราไว้วางใจและสามารถปรึกษากันได้ทุกๆเรื่องค่ะ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ถือว่าสนิทแต่ไม่ได้ถึงขั้นที่จะปรึกษาปัญหาชีวิตทุกเรื่องได้
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับทีมเราจะนอนรวมกันหลายๆคนค่ะ บางครั้งมีการนอนร่วมห้องกับเพื่อนผู้ชายในทีมแบบสองต่อสอง แต่ว่าไม่เคยมีอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ สำหรับเราแล้วถือว่าคนในทีมนั้นไว้ใจเรื่องพวกนี้ได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครแสดงพฤติกรรมที่ทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาคิดอะไรเกินเลยกับเราเลย และเราก็ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับคนในทีมหรือเกิดความรู้สึกหวั่นไหวอะไรเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจมาจากการที่เราเลิกกับแฟนค่ะ ซึ่งทำให้เรานั้นตัดสินใจย้ายออกมาอยู่หอพักคนเดียว ใกล้ๆที่ทำงานค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนในทีมรู้ แถมเพื่อนๆพี่ๆในทีมยังช่วยตะเวนหาหอพักที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุดให้อีก
หลังจากที่เราย้ายมาอยู่หอได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อนในทีมคนหนึ่ง (สมมุติว่าชื่อ B ) ได้โทรมาหาเรากลางดึกแล้วบอกว่าจะแวะมาหาที่หอและซื้อเบียร์ติดมาด้วยหนึ่งขวด เราเลยรีบออกจากห้องแล้วมาหา B ที่หน้าหอ นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยที่ม้านั่งด้านหน้าหอ คืนนั้นเราไม่ได้ดื่ม (ปกติเราไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว ) ส่วน B นั้นดื่มคนเดียว ( B เป็นคนดื่มจัด ) เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้วเราจึงบอกให้ B รีบกลับ เพราะสภาพของ B นั้นเริ่มเมามากแล้ว (B ดื่มมาจากที่อื่นก่อนแวะมาหาเราค่ะ ) หลังผ่านคืนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรค่ะ
จนผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ค่ะ ประมาณ สองทุ่ม B ไลน์มาหาเราว่า ขอมานั่งกินเบียร์ที่ห้องได้มั้ย ด้วยความที่เราไม่กล้าปฏิเสธบวกกับไม่ได้คิดมากอะไรเลยตอบตกลงค่ะ B เข้ามาในห้องก็นั่งดื่มเบียร์ตามปกติค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เรากับ B ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่ B ไม่ได้มีการล่วงเกินหรืออะไรเรานะคะ เพียงแต่ว่า B คะยั้นคะยอให้เราดื่ม แต่เราปฏิเสธค่ะ เรานั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องงาน และเรื่องทั่วๆไปค่ะ จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน B เห็นว่าเราง่วงเลยยอมกลับไปค่ะ
หลังจากคืนนั้นสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจก็คือ เราตั้งใจจะถ่ายรูป B ส่งไปในไลน์กลุ่มเพื่อบอกทุกๆคนว่า B แวะมากินเบียร์ที่ห้องเรา แต่ว่า B กลับบอกว่าไม่ต้องบอกคนอื่นหรอก (แต่เราเลือกที่จะแอบบอก A ไว้ ) และ B ยังเอาเพลงที่เราบอกว่าชอบ 3 เพลง ไปลงสตอรี่ไอจีในวันถัดมาอีก
เราเริ่มคิดมากกับพฤติกรรมของ B และรู้สึกสับสนเล็กน้อยว่า B คิดอะไรเกินเลยกับเราหรือเปล่า แต่เราไม่อยากคิดไปในแนวทางนั้น เพราะที่ผ่านมา B ไม่เคยแสดงอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาคิดกับเราแบบนั้นเลย เราเลยลองปรึกษากับ A ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในทีม A บอกว่า รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่ B ไปหาเราที่ห้องแบบนั้น แต่ A ก็ไม่อยากกล่าวหาว่า B จะคิดไม่ดีกับเรา ซึ่งเราก็ไม่อยากคิดมากไปเองเช่นกันค่ะ
สองวันต่อมา B ไลน์มาหาตอนเย็นว่า ขอมากินเบียร์ที่ห้อง แต่เราไม่ว่างเพราะเข้าไปซื้อของในตัวเมืองค่ะ เราเลยตอบ B กลับไปว่า ให้มาพรุ่งนี้แทน พอถึงวันเราชวน A และคนในทีมคนอื่นๆไปด้วยค่ะ เพราะเราไม่อยากอยู่กับ B แค่สองต่อสอง A รู้ว่าเราไม่สบายใจเลยบอกกับทุกคนว่าให้นั่งกินที่ม้านั่งด้านหน้าหอค่ะ หลังจากเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว พวกเราเลยชวนกันแยกย้าย เรารีบปลีกตัวกลับขึ้นห้องและบอกให้ทุกคนส่งข่าวด้วยเมื่อกลับถึงบ้าน แต่หลังจากเรากลับขึ้นห้องได้ไม่ถึง 10 นาที B ก็ไลน์มาบอกว่า ยังอยู่ที่หน้าหอเรา เขายังไม่อยากกลับบ้านเพราะทะเลาะกับแฟนเลยจะดื่มต่อ
เราเห็นข้อความเขาแล้วแต่เราเลือกที่จะไม่ตอบค่ะ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที B ก็โทรไลน์มาหาเรา แต่เราไม่รับค่ะ B โทรหาเราหลายสายมากๆ ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ยันเกือบเที่ยงคืน แต่เราเลือกที่จะไม่รับและไม่อ่านไลน์เลยค่ะ เรารู้สึกกลัวและสับสนมากๆกับการกระทำของ B โชคดีที่หอพักของเราเป็นระบบแสกนลายนิ้วมือเวลาเข้าออกประตู เราโทรหา A ว่าให้ทักไลน์ไปหา B ว่าถึงบ้านหรือยัง แต่ B อ่านไม่ตอบ A ค่ะ (แต่โทรหาเราได้ ) พอเป็นแบบนั้นเลยยิ่งทำให้ เราและ A ไม่สบายใจมากขึ้นเข้าไปใหญ่ค่ะ
สิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจกว่าเดิมเลยก็คือ เมื่อเราไม่อ่านไลน์ B ก็ยกเลิกข้อความที่เขาพิมพ์มา และยังมีการลงสตอรี่ไอจีที่ตั้ง Close Friend ให้เราเห็นแค่คนเดียว ( เอาไอจี A ดูและคนอื่นๆดูแต่สตอรี่ไม่ขึ้น ) เราเลยอยากถามความคิดเห็นจากทุกคนในพันทิปค่ะ ว่า B มีแนวโน้มที่จะคิดเกินเลยและคิดไม่ดีกับเราใช่หรือเปล่าคะ ตอนนี้เราคิดมากและกระอักกระอ่วนเวลาเจอหน้า B ค่ะ เราพยายามทำตัวปกติ และพยายามมองในแง่ดีอยู่ค่ะ และกำลังจะบอก B ไปว่าไม่ต้องมาหาเราที่หออีกค่ะ