มาแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวกับน้องหมาลูกรัก การเตรียมตัว เทคนิค และอุปสรรคต่างๆ
ทริปนี้หลักๆคือไป conference ที่ USC และแวะเที่ยว LA นิดๆหน่อยๆ แต่ไฮไลของทริปคือเอาลูกไปด้วย 2 ตัว อยากพาเขาไปเล่นน้ำทะเล และช้อปปิ้งของเล่นของกิน นี่เป็น road trip ครั้งแรกของเขา ปกตินั่งรถไม่เกิน 30 นาที ไปหา vet หรือไป dog park
วิธีการเตรียมตัวโดยทั่วไป ก็คล้ายๆมีเด็กอ่อนไปด้วย แผ่นรองฉี่ กระป๋องน้ำ พรมประจำตัว ผ้าห่ม car seat stroller อาหาร ขนม ของเล่น เมลาโทนิน อื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Hotel: ก็ต้องเลือก pet friedly hotel ที่เราชอบคือโรงแรมในเครือ Kimpton เพราะมัน pet friendly จริงๆ แบบมีเบาะ มี bowl มาเสิร์ฟถึงห้อง ไม่มี pet fee แต่เนื่องจากเราต้องอยู่ใกล้ USC เลยไม่ได้ใช้บริการ แต่ไปได้อีกโรงแรม ซึ่งก็ค่อนข้างดีเป็น suite ไม่ต้องมาลุ้นว่า อาจมีเด็กมาแอบอึ๊ในห้องนอน ก็ล็อกห้องนอน ให้เขาอยู่ในส่วน living ไป ข้างล่างเป็น Whole Foods ที่อนุญาตให้หมาไปเดินช้อปได้ พอจองห้องมุม มันก็ดูกว้างขึ้น ทำให้เขาเครียดน้อยลง ตอนอยู่กันเอง ด้านความปลอดภัย เรา install Pet GPS ที่ปลอกคอ และ CCTV ไว้ในโรงแรม ค่อยเช็กเป็นระยะๆ แขวนป้าย DND ไม่ให้เมดมาทำ กลัวหมาวิ่งสวน ละหายไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Carrier: เราเอามาหลายแบบมาก ที่เป็นกระเป๋าเอามาคือไม่ได้ใช้ แต่ pet stroller มีประโยชน์มาก ไม่จำเป็นต้องหมาแก่ หมาพิการใช้ ประโยชน์ 1. ไม่ต้องห่วงเรื่องขึ้นลิฟ ข้ามถนนใหญ่ 2. เอาเข้าร้านอาหารได้เกือบทุกร้านที่มี patio บางร้านเขาก็บอกเองว่าเอาเข้ามาในร้านก็ได้ ประเด็นคือลูกเราไม่ได้ well-trained มาก การจำกัดพื้นที่ ในพื้นที่สาธารณะจึงจำเป็น stroller ก็ช่วยให้เขาได้งีบด้วย เวลาเราไปเดินช้อปปิ้ง เข้าร้านอาหาร จริงๆประโยชน์ใช้สอย ก็คล้ายของมนุษย์เด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากิจกรรม: ส่วนตัวไป LA มาหลายรอบแล้ว รอบนี้ไปเพื่อสปอยลูกๆโดยเฉพาะ ซึ่งลูกคือหมา ก็อาจจะไม่ได้มีกิจกรรมมาก เหมือนลูกคน ที่วางแผนไว้ก็คือ park ต่างๆ และ หาดหมา ที่ Long Beach (Rosie's Dog Beach)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนออกเดินทาง ก็พาไปเดิน ไปฉี่ ขึ้นรถก็แจกยาผ่อนคลายคนละเม็ด จอดรถแวะให้ฉี่ทุกๆ 2-3 ชม เวลาแวะสตาบัค ก็ขอ Puppuccino ให้เด็กๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ถ้วยน้ำ แนะนำทืเป็นซิลิโคน ที่มัน offset angle มาให้ เผื่อว่าโหลดเข้า car seat แล้วน้ำจะได้ level พอดี และมีขอบงุ้มกันน้ำกระฉอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 
ถึงโรงแรมก็ set ให้เหมือนบ้านและ introduce จุดต่างๆ เช่น พรม bowls pee pad etc. พอทุกอย่างเสร็จเราก็พร้อมลุย!
ก่อนกลับบ้าน เราแวะ Woofpak Pet Kitchen ร้านน่ารักมาก มีอาหารให้ชิมหลายแบบด้วย แนะนำให้ไป เป็น pet shop ที่มีหลายอย่าง เช่น เบเกอรี่อบสดใหม่ แคปหมู (ห๊ะ?!) ไอศครีม เราได้ steak cheese กับ treats นิดหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Road trip แรกกับเด็กๆเกือบจะราบรื่นดี เว้นแต่ว่าลูกๆไปกัดพรมขาด!!! เขาน่าจะต้องเปลี่ยนพรมใน living ใหม่ ตอนแรกคิดว่าเขาจะหักจาก pet fee $300 และอาจจะหักจาก hotel deposit ปรากฏว่าไม่โดนเพิ่มอะไรเลย แม้กระทั่ง pet fee?! คือไม่ได้ซ่อน หมา 2 ตัว ก็นั่งตาแป๋วใน stroller กำลังสงสัยว่าเขาเปลี่ยน policy หรือไม่เขาคิดว่านั่นคือ human baby?!
รีวิว Road Trip กับน้องหมาใน California
ทริปนี้หลักๆคือไป conference ที่ USC และแวะเที่ยว LA นิดๆหน่อยๆ แต่ไฮไลของทริปคือเอาลูกไปด้วย 2 ตัว อยากพาเขาไปเล่นน้ำทะเล และช้อปปิ้งของเล่นของกิน นี่เป็น road trip ครั้งแรกของเขา ปกตินั่งรถไม่เกิน 30 นาที ไปหา vet หรือไป dog park
วิธีการเตรียมตัวโดยทั่วไป ก็คล้ายๆมีเด็กอ่อนไปด้วย แผ่นรองฉี่ กระป๋องน้ำ พรมประจำตัว ผ้าห่ม car seat stroller อาหาร ขนม ของเล่น เมลาโทนิน อื่นๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Hotel: ก็ต้องเลือก pet friedly hotel ที่เราชอบคือโรงแรมในเครือ Kimpton เพราะมัน pet friendly จริงๆ แบบมีเบาะ มี bowl มาเสิร์ฟถึงห้อง ไม่มี pet fee แต่เนื่องจากเราต้องอยู่ใกล้ USC เลยไม่ได้ใช้บริการ แต่ไปได้อีกโรงแรม ซึ่งก็ค่อนข้างดีเป็น suite ไม่ต้องมาลุ้นว่า อาจมีเด็กมาแอบอึ๊ในห้องนอน ก็ล็อกห้องนอน ให้เขาอยู่ในส่วน living ไป ข้างล่างเป็น Whole Foods ที่อนุญาตให้หมาไปเดินช้อปได้ พอจองห้องมุม มันก็ดูกว้างขึ้น ทำให้เขาเครียดน้อยลง ตอนอยู่กันเอง ด้านความปลอดภัย เรา install Pet GPS ที่ปลอกคอ และ CCTV ไว้ในโรงแรม ค่อยเช็กเป็นระยะๆ แขวนป้าย DND ไม่ให้เมดมาทำ กลัวหมาวิ่งสวน ละหายไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Carrier: เราเอามาหลายแบบมาก ที่เป็นกระเป๋าเอามาคือไม่ได้ใช้ แต่ pet stroller มีประโยชน์มาก ไม่จำเป็นต้องหมาแก่ หมาพิการใช้ ประโยชน์ 1. ไม่ต้องห่วงเรื่องขึ้นลิฟ ข้ามถนนใหญ่ 2. เอาเข้าร้านอาหารได้เกือบทุกร้านที่มี patio บางร้านเขาก็บอกเองว่าเอาเข้ามาในร้านก็ได้ ประเด็นคือลูกเราไม่ได้ well-trained มาก การจำกัดพื้นที่ ในพื้นที่สาธารณะจึงจำเป็น stroller ก็ช่วยให้เขาได้งีบด้วย เวลาเราไปเดินช้อปปิ้ง เข้าร้านอาหาร จริงๆประโยชน์ใช้สอย ก็คล้ายของมนุษย์เด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากิจกรรม: ส่วนตัวไป LA มาหลายรอบแล้ว รอบนี้ไปเพื่อสปอยลูกๆโดยเฉพาะ ซึ่งลูกคือหมา ก็อาจจะไม่ได้มีกิจกรรมมาก เหมือนลูกคน ที่วางแผนไว้ก็คือ park ต่างๆ และ หาดหมา ที่ Long Beach (Rosie's Dog Beach)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนออกเดินทาง ก็พาไปเดิน ไปฉี่ ขึ้นรถก็แจกยาผ่อนคลายคนละเม็ด จอดรถแวะให้ฉี่ทุกๆ 2-3 ชม เวลาแวะสตาบัค ก็ขอ Puppuccino ให้เด็กๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ถ้วยน้ำ แนะนำทืเป็นซิลิโคน ที่มัน offset angle มาให้ เผื่อว่าโหลดเข้า car seat แล้วน้ำจะได้ level พอดี และมีขอบงุ้มกันน้ำกระฉอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงโรงแรมก็ set ให้เหมือนบ้านและ introduce จุดต่างๆ เช่น พรม bowls pee pad etc. พอทุกอย่างเสร็จเราก็พร้อมลุย!
ก่อนกลับบ้าน เราแวะ Woofpak Pet Kitchen ร้านน่ารักมาก มีอาหารให้ชิมหลายแบบด้วย แนะนำให้ไป เป็น pet shop ที่มีหลายอย่าง เช่น เบเกอรี่อบสดใหม่ แคปหมู (ห๊ะ?!) ไอศครีม เราได้ steak cheese กับ treats นิดหน่อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Road trip แรกกับเด็กๆเกือบจะราบรื่นดี เว้นแต่ว่าลูกๆไปกัดพรมขาด!!! เขาน่าจะต้องเปลี่ยนพรมใน living ใหม่ ตอนแรกคิดว่าเขาจะหักจาก pet fee $300 และอาจจะหักจาก hotel deposit ปรากฏว่าไม่โดนเพิ่มอะไรเลย แม้กระทั่ง pet fee?! คือไม่ได้ซ่อน หมา 2 ตัว ก็นั่งตาแป๋วใน stroller กำลังสงสัยว่าเขาเปลี่ยน policy หรือไม่เขาคิดว่านั่นคือ human baby?!