กัมพูชาไม่หลงเหลือวัฒนธรรมของตัวเอง กับ8ทศวรรษแห่งหายนะ สาเหตุและประวัติศาสตร์

สวัสดีครับนี้เป็นกระทู้แรกของผม ผมตัดสินใจมาตั้งกระทู้นี้เพราะอยากบอกเล่าปัญหาข้อพิพาทต่างๆของไทย - กัมพูชา อาจจะดูคลั่งชาติไปหน่อย แต่ผมมาตั้งกระทู้นี้เพราะความรักและหวงแหนในวัฒนธรรมอันมีค่าของเรา ใครเอาไปใช้ เอาไปส่งต่อความสวยงามเราก็ภูมิใจ แต่เพื่อนบ้าน 3 นาฬิกาของเราดันเอากระแสในความเป็นไทยไปใช้เป็นของตน กลับกลายเป็นว่าตอนนี้พวกเค้ากำลังถูกเกลือนด้วยวัฒนธรรมไทยไปแล้ว วันนี้ผมจะย้อนอดีตตั้งแต่มนุษย์ยุคหิน - ยุคปัจจุบัน จะเรียงตามลำดับมา แล้วคุณผู้อ่านจะทราบว่าทำไมคนพวกนี้ถึงไม่เหลืออะไรเป็นของตัวเองให้ภูมิใจ 

**สำหรับใครที่ไม่อยากอ่านผมได้ทำคลิปไว้ในยูทูปนะครับ คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ย้อนไปตั้งแต่ 4พันปีก่อนศริสตกาล ผู้คนในระแวกนี้ใช้ชีวิตโดยการใช้เครื่องมือที่ทำจากหินและอาศัยในถ้ำ โดยมีหลักฐานทางโบราณคดีที่ถูกค้นพบในถ้ำทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ผู้คนในระแวกนั้นมีการรู้จักการปลูกข้าวทำนามาตลอดในช่วงก่อนคริสตกาล โดยชนกลุ่มแรกที่เป็นชาวพื้นเมืองในปัจจุบันเชื่อกันว่าอพยพมาจากตอนใต้ของประเทศจีนในช่วงก่อนคริสตศวรรษที่1  ในช่วงต้นคริสตกาลได้มีพราหมณ์เข้ามาในดินแดนนี้และได้ทำการตกลงกับชนเผ่านาค ชนเผ่าในพื้นที่ โดยให้ลูกสาวหัวหน้าเผ่าทำการอภิเษกกับพราหมณ์ผู้นั้น จนเกิดการสถาปณาอาณาจักรฟูนันหรือเมืองนครพนมขึ้น โดยมีอำนาจบนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิตั้งแต่คริสตศควรรษที่1 ไปจนถึง ตั้งแต่คริสตศควรรษที่6 เป็นเวลาถึง600ปี ก่อนจะเสื่อมอำนาจลง

               หลังอาณาจักรฟูนันเสื่อมอำนาจลง ก็ได้มีการแยกย้ายไปตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นอย่างอาณาจักรเจนละ โดยอาณาจักรนี้เรืองอำนาจมากๆในช่วง ค.ศ.550-ค.ศ.707 เป็นเวลา157ปี ก่อนจะเกิดสงครามการแย่งชิงอำนาจขึ้นภายในอาณาจักร ทำให้อาณาจักรนี้ต้องแยกออกจากกันเป็นอาณาจักรเจนละบกและอาณาจักรเจนละน้ำ ซึ่งในขณะนั้นต่างฝ่ายต่างอ่อนแอและรอวันเสื่อมอำนาจลง ผ่านไป70ปี วันเสื่อมอำนาจก็เกิดขึ้นแก่สองอาณาจักรนี้ในปี ค.ศ.707 เมื่อราชวงศ์ไศเลนทร์แห่งอาณาจักรศรีวิชัยเข้ามารุกรานและปกครองผู้คนในอาณาจักรแห่งนี้ 

               ในปี ค.ศ.802 พระชัยวรมันที่2 ได้ทำการปลดแอกจากอาณาจักรศสรีวิชัยแล้วนำเอาอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่างๆที่ได้จากอาณาจักรศรีวิชัย มาพัฒนาเป็นอารยธรรมขอมที่รุ่งเรืองในพื้นที่อุษาอาคเนย์แห่งนี้  จึงเป็นผลให้ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆอย่างนครวัด ผลงานของพระสุริยะวรมันที่2 มีความคล้ายกับสถาปัตยกรรมของศรีวิชัยในอินโด 
 
               ต่อมาในปี ค.ศ.1177 อาณาจักรพระนครได้ถูกยึดครองโดยอาณาจักรจามปา ทั้งโดนปล้นสะดมและถูกสร้างความเสียหายภายในอาณาจักรอย่างมากมาย // หลังจากนั้น4ปี พระเจ้าชัยวรมันที่7ได้ปลดแอกจากการปกครองโดยจามปา และได้ย้ายราชธานีไปสร้างนครธม ราชธานีสุดท้ายของจักรวรรดิขอม ภายหลังจากการสวรรคตของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พระเจ้าอินทรวรมันที่2 ได้ขึ้นปกครองแทนพระราชบิดา และได้สวรรคตในปี คศ1243 // จากนั้นราชสมบัติได้ตกไปเป็นของกษัตริย์ผู้คลั่งใคล่ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูอย่างหาที่สุดไม่ได้ กษัตริย์ผู้นั้นคือพระเจ้าชัยวรมันที่8 ผู้กวาดล้างพระพุทธศาสนาในอาณาจักรจนหมดสิ้น ทั้งทำลายพระพุทธรูปและศาสนสถานต่างๆที่ถูกสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 จนเหลือเพียงซาก พระพุทธรูปประธานในปราสาทบายนถูกทุบทำลายแล้วโยนทิ้งลงบ่อน้ำ นอกจากนั้นยังพบพระพุทธรูปสำริดถูกซ่อนไว้ในไหฝังดินจำนวนมากมาย ในพื้นที่ตั้งแต่สนามบินเมืองเสียมเรียบไปจนถึงเมืองประโคนชัยในจังหวัดบุรีรัมย์ปัจจุบัน /จากนั้น เมืองพระนครก็ได้เสื่อมอำนาจนับตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่8เป็นต้นมา 

               ในปี คศ1336 ภายในอาณาจักรเสื่อมอำนาจเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นของกองกำลังทาสและนายทาสทั้งหลายในอาณาจักร นำโดยตระซอกประแอม หรือพระเจ้าแตงหวาน ผู้กำจัดราชบัลลังก์ของตระกูลชัยวรมันจนหมดสิ้น ซึ่งในขณะนั้นพระเจ้าชัยวรมันที่9 เป็นผู้ปกครองเมืองพระนครพระองค์สุดท้ายของตระกูล หลังจากเหตุการณ์นี้ ทำให้อำนาจของกษัตริย์ขอมหมดอำนาจลง และเริ่มต้นสู้ยุคกษัตริย์เขมรตั้งแต่ปี คศ1336-คศ1419

               อาณาจักรเขมรได้เข้าสู่ยุคมืดตั้งแต่ปีคริสต์ศตวรรษที่ 15 ไปจนถึงปีคริสต์ศตวรรษที่19 โดยการถูกรุกรานจากสยามและเวียดนาม และได้ตกเป็นเมืองภายใต้การปกครองของทั้งสองประเทศโดยผลัดกันไปมาเป็นเวลาถึง 400 ปี

               ในปี คศ1867 กัมพูชาได้ตกเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสไปจนถึงปี คศ1953 ซึ่งเป็นช่วงของสงครามโลกครั้งที่2 กัมพูชาได้ถูกยึดครองพื้นที่โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว และได้มีการปลดอำนาจต่างๆของฝรั่งเศสและผู้นิยมฝรั่งเศสออกไป 

               หลังสงครามโลกครั้งที่2ยุติลง เจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสต้องเจอกับสงครามอินโดจีนซ้ำเข้าและได้แพ้ไปในสงครามครั้งนั้น ทำให้เหล่าประเทศเมืองขึ้นของฝรั่งเศสได้รับเอกราชรวมถึงประเทศกัมพูชาในปี คศ1953 รวมระยะเวลาของการตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศต่างๆถึง 617ปี ตั้งแต่การบุกรุกของสยามและเวียดนาม ไปจนถึงการล่าอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส

               หลังจากพบกับความสงบเพียง 17 ปี ยุคคอมมิวนิสต์ในกัมพูชาก็ได้ก่อกำเนิดขึ้น //ในปี คศ1970 กัมพูชามีการปฏิวัติรัฐบาลและเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองนำโดยนายพล ลอนนอล ผู้นำเผด็จการ และเปลี่ยนชื่อประเทศจากราชอาณาจักรเขมรเป็นสาธารณรัฐเขมร ในระยะเวลาดำรงตำแหน่งของประธานาธิปดีนายพล ลอนนอลนั้นก็ได้มีการขู่เข็ญประชาชนเพื่อผูกขาดสินค้าทางการเกษตรทั้งหลายโดยตรงกับรัฐบาล 

               ในปี คศ1975 ได้เกิดการปฏิวัติขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นของพรรคกัมพูชาประชาธิปไตยหรือเขมรแดงที่นำโดยนายพลพต ในระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของรัฐบาลนายพลพต ถือเป็นความหายนะที่สุดของประชาชนชาวกัมพูชา ได้มีการล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น ผู้คนล้มตายประมาณ 1ล้าน-3ล้านคน เป็นจำนวน 1ใน3 ของประชากรทั้งประเทศในขณะนั้น แต่เพียง4ปีภายใต้การนำโดยนายพลพตก็ได้จบสิ้นลง 

               ในปี คศ 1979 กองกำลังเวียดนามได้เข้ามากำจัดอำนาจของเขมรแดงจนราบคาบ โดยมีการขอร้องช่วยจากกลุ่มอดีตทหารเขมรแดง หนึ่งในนั้นก็คือนายฮุนเซน //ประเทศกัมพูชาได้สิ้นสุดยุคอันโหดร้าย โดยเวียดนามได้จัดตั้งคณะรัฐบาลและแทรกแซงทางการเมืองทุกอย่างภายในประเทศ ซึ่งนายกเฮงสัมริน นายกรัฐมลตรีที่นั่งบนตำแหน่งนั้น เป็นแค่เพียงหุ่นเชิดของเวียดนาม และต่อมาในปี คศ.1989 กองทัพทหารและเหล่านักการเมืองเวียดนาม ที่เข้ามามีอำนาจในกัมพูชา ก็ได้ถอนกำลังออกไป     

               ในปี คศ.1993 ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นอีกครั้งโดยการควบคุมขององค์การสหประชาชาติ และพรรคฟูชินเปคของเจ้านโรดมรณฤทธิ์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งไปในครั้งนั้น ทำให้นายฮุนเซนไม่พอใจกับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นอย่างมากถึงขั้นจะประกาศแยกดินแดน แต่ภายหลังเจ้าสีหนุได้ทำการประนีประนอมจึงเกิดการจัดตั้งนายกรัฐมนตรี 2 คนครั้งแรกในโลกเกิดขึ้น จากนั้นนายฮุนเซนได้ทำการรัฐประหารและขับไล่เจ้านโรดมรณฤทธิ์เป็นการชั่วคราว นายฮุนเซนก็ได้รวบอำนาจทั้งหมดและปกครองกัมพูชาตั้งแต่นั้นมา จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 40 ปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่