‘ชูวิทย์’ เผย 2 รพ. ‘ศิริราช-ธรรมศาสตร์’ ขอคืนเงินบริจาค
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3890416
2 รพ. ‘ศิริราช-ธรรมศาสตร์’ ประสานขอคืนเงินที่ชูวิทย์บริจาค หลังทนายตั้มกล่าวหาที่มาเงินผิดกม. ชูวิทย์ เตรียมคืนตร.เกษียณ
จากกรณีที่นาย
ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวหา นาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง ว่านาย
ชูวิทย์เรียกรับเงินจากผู้ทำเว็บพนันออนไลน์และธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนออกมาแฉเรื่องนี้ ขณะที่นาย
ชูวิทย์ ชี้แจงว่าได้รับเงิน 2 ถุงรวม 6 ล้านบาทจากตำรวจเกษียณราชการ ชื่อ อ. และอีกนายชื่อ ป. ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยทำอาบอบนวด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 66 แต่ไม่สะดวกใจที่จะรับ ขณะที่อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะรับคืน จึงได้ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 66 และ รพ.ศิริราช วันที่ 15 มีนาคม 66 แต่ถ้าทั้ง 2 รพ.ไม่สบายใจก็สามารถคืนเงินตนได้นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม นาย
ชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
“ศิริราช กับ ธรรมศาสตร์ ประสานมาแล้วนะครับ จะคืนเงินบริจาค ผมก็จะเอาเงินไปให้ตำรวจ รู้สึกสบายใจขึ้นมั้ยครับ”
‘ชลน่าน’ จวก ‘ป้อม-อนุทิน’ แอบคุยตั้งรบ. ‘ชัยวุฒิ’ สวนแค่กินข้าว ย้ำพวกเดียว ‘บิ๊กตู่’
https://www.matichon.co.th/election66/news_3890309
‘ชลน่าน’ เปิดหน้าจวก ‘ป้อม-อนุทิน’ แอบตกลงตั้ง รบ.ร่วม ใช้ 203 เสียง ในขณะที่ ‘ชัยวุฒิ’ ออกมาสวนกลับทันทีแค่กินข้าวกันเฉยๆ ยืนยันยังเป็นพวกเดียวกับ ‘บิ๊กตู่’
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ลานกิจกรรม ตลาดน้ำอโยธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวระหว่างการขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เราไม่คิดใหญ่ไม่ได้ เพราะหลังจากที่พวกเราถูกยึดอำนาจไป 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติย่ำแย่ ถ้าปล่อยไว้ไม่คิดใหญ่ ประชาชนไม่มีโอกาสฟื้น
โดยคิดใหญ่เรื่องแรกคือเราต้องเอาต้นเหตุความย่ำแย่ทั้งหลายออกจากประเทศไปก่อน เพราะมีคำว่า 3 ป.มายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ จึงขอแรงเอา 3 ป.กลับบ้านไป วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้ไปเลือกตั้งกา พท.ทั้งคนทั้งพรรคยกจังหวัดทั้ง 5 เขตของ จ.พระนครศรีอยุธยา
นพ.
ชลน่านกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ได้มีพรรคการเมืองสองพรรคไปกินข้าวด้วยกัน เจตนาถ่ายรูปโชว์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันตั้งรัฐบาล ทั้งที่ประชาชนยังไม่มอบอำนาจให้ ทั้งสองพรรคนี้จะรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งรัฐบาลให้ได้ 203 เสียง ถ้าประชาชนไม่เอาก็ขอให้เลือก พท.
ในวันเดียวกัน นาย
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างแกนนำพรรค พปชร. และพรรค ภท. ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ก็กินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส.และนักการเมืองเข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงทานข้าวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม อาจเป็นประเด็นเพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาและเป็นพรรคใหญ่ มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามากินข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงกินข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน
เมื่อถามว่า เป็นการส่งสัญญาณการจับมือกันในอนาคตหรือไม่ นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า สัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทํางานร่วมกันมาก็ราบรื่นดี สามารถประสานงานกันได้ด้วยดี ก็ไม่อยากเปลี่ยน
เมื่อถามว่า การจับมือในอนาคต จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า “
ความจริงพรรค รทสช.ก็ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ พรรค รทสช.จะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่พรรค พปชร. ความจริงทุกพรรคการเมืองจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจะทำงานกันต่อ ก็ต้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละ มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรอก ก็ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ” นาย
ชัยวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า ที่กินข้าวกันบ่อย อาจจะมีการแถลงข่าวจับมือกันเป็นไปได้หรือไม่ นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า เขาไม่ทำกันหรอก แถลงไม่ได้ มันเป็นกติกาประชาธิปไตย เลือกตั้งก็หาเสียงแข่งกันหมด ไม่มีจับมือกันหรอก บางจังหวัดเราก็แข่งกับพรรค ภท. บางจังหวัดก็แข่งกับพรรค รทสช. หรือบางจังหวัดก็แข่งกับพรรค พท. ไม่มีมาจับมือกันหรอก บางทีพรรคจับมือกัน แต่ผู้สมัครแข่งกันก็มี เพราะฉะนั้นบางพื้นที่ไม่เกี่ยวกับพรรค ในสนามยังสู้กันเต็มที่เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนนาย
อนุทินจะเหยียบเรือสองแคม ไปหาทั้งลุง
ป้อมและลุง
ตู่ นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า “
ทั้งลุงป้อม ลุงตู่ ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน” เมื่อถามว่า แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน จะแยกกันทําไมให้เหนื่อย นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า ตอนนี้ปิดประตูไม่ร่วมกับพรรค พท.แล้วใช่หรือไม่ นาย
ชัยวุฒิกล่าวว่า สมัยก่อนก็อยู่พรรคเดียวกัน แล้วก็แยกออกมากันตั้งเยอะตั้งแยะ เมื่อถามว่า มั่นใจว่าพรรค พท. จะเป็นฝ่ายค้านต่อใช่หรือไม่ นาย
ชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง
ก้าวไกล หวั่นประชาชนเสียสิทธิเลือกตั้ง จี้ กกต.เร่งตีปี๊บหย่อนบัตรล่วงหน้า
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7575910
ก้าวไกล หวั่น ประชาชนเสียสิทธิเลือกตั้ง เหตุกำหนดวันกาบัตร ไม่ตรงวันหยุดยาว-ประชาสัมพันธ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตน้อยเกินไป
เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลกและอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า การเลือกตั้งนอกเขต และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรน้อยเกินไป
นาย
ปดิพัทธ์กล่าวว่า จากการที่ กกต. กำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งไม่ตรงกับช่วงวันหยุดยาว 4-7 พ.ค. อาจทำให้ประชาชนหลายคน ไม่ว่าคนที่ไปทำงานต่างจังหวัด นักเรียน-นักศึกษา เกิดความไม่สะดวกในการกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ กกต.กลับประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตน้อยมาก ทำให้ประชาชนที่ไม่สะดวกใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. เสมือนเสียสิทธิเลือกตั้งไปโดยปริยาย
รวมทั้งระยะเวลาที่เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 25 มี.ค.-5 เม.ย. 66 ถือว่าน้อยเกินไป เพราะห่างจากวันเลือกตั้งจริงมากกว่า 1 เดือน และกระแสการเลือกตั้งยังเพิ่งเริ่มต้น ประชาชนยังไม่มีความตื่นตัวเรื่องเลือกตั้งมากนัก อาจทำให้ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไม่สามารถลงทะเบียนได้ทัน
“
สิ่งที่กกต. ควรดำเนินการโดยเร่งด่วน คือการประชาสัมพันธ์การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าให้มากกว่านี้ เพื่อรักษาสิทธิประชาชนในการเลือกคนที่ตัวเองรัก เลือกพรรคที่ตัวเองชอบในการเลือกตั้งรอบนี้” นาย
ปดิพัทธ์กล่าว
นาย
ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขอเสนอให้ กกต. สร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ช่องทางการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ หรือมูลนิธิอย่างไอลอว์ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนรับรู้ในการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เลือกตั้งนอกเขต และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในวงกว้างขึ้น
JJNY : ‘ชูวิทย์’เผย 2 รพ.ขอคืนเงิน│‘ชลน่าน’จวก‘ป้อม-อนุทิน’│ก้าวไกลหวั่นปชช.เสียสิทธิเลือกตั้ง│นอร์เวย์ส่งรถถังให้เพิ่ม
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3890416
2 รพ. ‘ศิริราช-ธรรมศาสตร์’ ประสานขอคืนเงินที่ชูวิทย์บริจาค หลังทนายตั้มกล่าวหาที่มาเงินผิดกม. ชูวิทย์ เตรียมคืนตร.เกษียณ
จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวหา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง ว่านายชูวิทย์เรียกรับเงินจากผู้ทำเว็บพนันออนไลน์และธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนออกมาแฉเรื่องนี้ ขณะที่นายชูวิทย์ ชี้แจงว่าได้รับเงิน 2 ถุงรวม 6 ล้านบาทจากตำรวจเกษียณราชการ ชื่อ อ. และอีกนายชื่อ ป. ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยทำอาบอบนวด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 66 แต่ไม่สะดวกใจที่จะรับ ขณะที่อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะรับคืน จึงได้ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 66 และ รพ.ศิริราช วันที่ 15 มีนาคม 66 แต่ถ้าทั้ง 2 รพ.ไม่สบายใจก็สามารถคืนเงินตนได้นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
“ศิริราช กับ ธรรมศาสตร์ ประสานมาแล้วนะครับ จะคืนเงินบริจาค ผมก็จะเอาเงินไปให้ตำรวจ รู้สึกสบายใจขึ้นมั้ยครับ”
‘ชลน่าน’ จวก ‘ป้อม-อนุทิน’ แอบคุยตั้งรบ. ‘ชัยวุฒิ’ สวนแค่กินข้าว ย้ำพวกเดียว ‘บิ๊กตู่’
https://www.matichon.co.th/election66/news_3890309
‘ชลน่าน’ เปิดหน้าจวก ‘ป้อม-อนุทิน’ แอบตกลงตั้ง รบ.ร่วม ใช้ 203 เสียง ในขณะที่ ‘ชัยวุฒิ’ ออกมาสวนกลับทันทีแค่กินข้าวกันเฉยๆ ยืนยันยังเป็นพวกเดียวกับ ‘บิ๊กตู่’
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ลานกิจกรรม ตลาดน้ำอโยธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวระหว่างการขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เราไม่คิดใหญ่ไม่ได้ เพราะหลังจากที่พวกเราถูกยึดอำนาจไป 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติย่ำแย่ ถ้าปล่อยไว้ไม่คิดใหญ่ ประชาชนไม่มีโอกาสฟื้น
โดยคิดใหญ่เรื่องแรกคือเราต้องเอาต้นเหตุความย่ำแย่ทั้งหลายออกจากประเทศไปก่อน เพราะมีคำว่า 3 ป.มายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ จึงขอแรงเอา 3 ป.กลับบ้านไป วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้ไปเลือกตั้งกา พท.ทั้งคนทั้งพรรคยกจังหวัดทั้ง 5 เขตของ จ.พระนครศรีอยุธยา
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ได้มีพรรคการเมืองสองพรรคไปกินข้าวด้วยกัน เจตนาถ่ายรูปโชว์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันตั้งรัฐบาล ทั้งที่ประชาชนยังไม่มอบอำนาจให้ ทั้งสองพรรคนี้จะรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งรัฐบาลให้ได้ 203 เสียง ถ้าประชาชนไม่เอาก็ขอให้เลือก พท.
ในวันเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างแกนนำพรรค พปชร. และพรรค ภท. ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ก็กินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส.และนักการเมืองเข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงทานข้าวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม อาจเป็นประเด็นเพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาและเป็นพรรคใหญ่ มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามากินข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงกินข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน
เมื่อถามว่า เป็นการส่งสัญญาณการจับมือกันในอนาคตหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า สัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทํางานร่วมกันมาก็ราบรื่นดี สามารถประสานงานกันได้ด้วยดี ก็ไม่อยากเปลี่ยน
เมื่อถามว่า การจับมือในอนาคต จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า “ความจริงพรรค รทสช.ก็ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ พรรค รทสช.จะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่พรรค พปชร. ความจริงทุกพรรคการเมืองจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจะทำงานกันต่อ ก็ต้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละ มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรอก ก็ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ” นายชัยวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า ที่กินข้าวกันบ่อย อาจจะมีการแถลงข่าวจับมือกันเป็นไปได้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เขาไม่ทำกันหรอก แถลงไม่ได้ มันเป็นกติกาประชาธิปไตย เลือกตั้งก็หาเสียงแข่งกันหมด ไม่มีจับมือกันหรอก บางจังหวัดเราก็แข่งกับพรรค ภท. บางจังหวัดก็แข่งกับพรรค รทสช. หรือบางจังหวัดก็แข่งกับพรรค พท. ไม่มีมาจับมือกันหรอก บางทีพรรคจับมือกัน แต่ผู้สมัครแข่งกันก็มี เพราะฉะนั้นบางพื้นที่ไม่เกี่ยวกับพรรค ในสนามยังสู้กันเต็มที่เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนนายอนุทินจะเหยียบเรือสองแคม ไปหาทั้งลุงป้อมและลุงตู่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า “ทั้งลุงป้อม ลุงตู่ ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน” เมื่อถามว่า แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน จะแยกกันทําไมให้เหนื่อย นายชัยวุฒิกล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า ตอนนี้ปิดประตูไม่ร่วมกับพรรค พท.แล้วใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า สมัยก่อนก็อยู่พรรคเดียวกัน แล้วก็แยกออกมากันตั้งเยอะตั้งแยะ เมื่อถามว่า มั่นใจว่าพรรค พท. จะเป็นฝ่ายค้านต่อใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง
ก้าวไกล หวั่นประชาชนเสียสิทธิเลือกตั้ง จี้ กกต.เร่งตีปี๊บหย่อนบัตรล่วงหน้า
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7575910
ก้าวไกล หวั่น ประชาชนเสียสิทธิเลือกตั้ง เหตุกำหนดวันกาบัตร ไม่ตรงวันหยุดยาว-ประชาสัมพันธ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตน้อยเกินไป
เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลกและอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า การเลือกตั้งนอกเขต และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรน้อยเกินไป
นายปดิพัทธ์กล่าวว่า จากการที่ กกต. กำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งไม่ตรงกับช่วงวันหยุดยาว 4-7 พ.ค. อาจทำให้ประชาชนหลายคน ไม่ว่าคนที่ไปทำงานต่างจังหวัด นักเรียน-นักศึกษา เกิดความไม่สะดวกในการกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ กกต.กลับประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตน้อยมาก ทำให้ประชาชนที่ไม่สะดวกใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. เสมือนเสียสิทธิเลือกตั้งไปโดยปริยาย
รวมทั้งระยะเวลาที่เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 25 มี.ค.-5 เม.ย. 66 ถือว่าน้อยเกินไป เพราะห่างจากวันเลือกตั้งจริงมากกว่า 1 เดือน และกระแสการเลือกตั้งยังเพิ่งเริ่มต้น ประชาชนยังไม่มีความตื่นตัวเรื่องเลือกตั้งมากนัก อาจทำให้ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไม่สามารถลงทะเบียนได้ทัน
“สิ่งที่กกต. ควรดำเนินการโดยเร่งด่วน คือการประชาสัมพันธ์การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าให้มากกว่านี้ เพื่อรักษาสิทธิประชาชนในการเลือกคนที่ตัวเองรัก เลือกพรรคที่ตัวเองชอบในการเลือกตั้งรอบนี้” นายปดิพัทธ์กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขอเสนอให้ กกต. สร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ช่องทางการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ หรือมูลนิธิอย่างไอลอว์ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนรับรู้ในการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เลือกตั้งนอกเขต และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในวงกว้างขึ้น