Fanfiction - การเดินทางของซิลฟี่



นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านบูเอนา หลังจากที่รูเดียสได้ออกจากหมู่บ้านไปที่ป้อมปราการโรอาแล้วเป็นเวลาเกือบปี

เด็กหญิงซิลฟีเอ็ต ยังคงไปที่บ้านของอัศวินประจำหมู่บ้านทุกวันไม่เคยขาด เพื่อฝึกฝนมารยาทและการทำอาหารตามตำหรับบ้านเกรย์แรท

เธอมุ่งมั่นมากที่จะเป็นเจ้าสาวของรูเดียส เกรย์แรท เพื่อนของเธอที่จากไปไกลแสนไกล

“ความจริงก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่หรอกนะ” เปาโลบอกซิลฟี่ “เมืองป้อมปราการนี่นั่งรถม้าไปแค่ประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว”

นั่นถือว่าไกลมากสำหรับเด็ก 8 ขวบอย่างเธอที่ยังอ่านตัวอักษรไม่คล่องด้วยซ้ำ

“คุณเปาโลพาหนูไปเยี่ยมรูดี้บ้างไม่ได้หรือคะ” ซิลฟี่ถาม

“ไม่ได้หรอก ที่จับพวกเธอแยกกันเพราะอะไร เธอก็รู้ดีนี่ รอลส์อธิบายให้ฟังแล้วใช่ไหมล่ะ” เปาโลพูด เกาคออย่างลำบากใจเมื่อเห็นเด็กหญิงทำหน้าจะร้องไห้

“แม้แต่จดหมายก็ไม่ให้ส่งมาสักฉบับ หนูคิดถึงรูดี้มากนะคะคุณเปาโล!” ซิลฟี่ว่า “ขอให้เห็นว่ารูดี้ยังสบายดีกับตาก็พอ!”

เปาโลถอนหายใจ ลูกชายของเรามันเนื้อหอมขนาดนี้เลยรึ

ในใจก็เวทนาสาวน้อยนัก แต่คิดว่าความรักของซิลฟีเอ็ตคงเหมือนรักลูกหมาทั่วไปที่ไม่นานก็จะจางลงไปเองเมื่อเด็กหญิงโตขึ้นและมีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่า

แต่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็คือเธอกลับมาที่บ้านนี้ทุกวัน ทำความสนิทสนมกับภรรยาทั้งสองคนของเขา ขอให้สอนวิชาทำอาหารให้ เพราะเธอต้องการรู้ว่ารูเดียสชอบทานอะไร ยิ่งไปกว่านั้นยังให้สอนมารยาทแบบขุนนางให้อีก เพราะเธอรู้ว่ารูเดียสเป็นขุนนาง พอถามก็บอกว่าต้องพยายาม เวลาเดินข้าง ๆ รูเดียสจะได้ไม่เสียหน้า

ความทะเยอทะยานของซิลฟี่ช่างน่าประทับใจ

“เข้าใจแล้วล่ะ ถ้าไปแอบดูเฉย ๆ ล่ะก็คงพอได้ แต่ห้ามเข้าไปทักเด็ดขาดเลยนะ”

ซิลฟี่ไม่อยากจะเชื่อหู ดวงตาเธอเปล่งประกายด้วยความดีใจ หูยาว ๆ กระดิกขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น

“ขอบคุณค่ะ!!”

หลังจากนั้น เปาโลก็จัดแจงส่งจดหมายถามกีแลนถึงวันหยุดครั้งต่อไปที่รูเดียสจะเข้าไปในเมือง เขากับรอลส์จะพาซิลฟี่ไปดูรูเดียสห่าง ๆ

ซิลฟี่เฝ้ารอวันนัดอย่างใจจดใจจ่อ รอลส์กับภรรยาเห็นก็สงสารลูกสาวจับใจ เขารู้ดีว่าความฝันของลูกจะไม่เป็นจริงเพราะรูเดียสไม่ใช่เด็กธรรมดา เป็นถึงอัจฉริยะที่ใช้เวทย์มนต์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แถมยังมีนามสกุลเหมือนขุนนางชั้นสูงที่ทำงานใกล้ชิดพระราชา ไม่มีทางเลยที่สาวชาวบ้านอย่างซิลฟี่จะสมหวัง

แต่มันก็เร็วเกินไปที่จะบอกเรื่องนี้กับซิลฟี่วัย 8 ขวบ ที่ดูเหมือนจะรักลูกชายของบ้านนั้นหมดหัวใจ จนแม้เขาจะจากไปเป็นปีเธอก็ยังไม่ทำความรู้จักกับเด็กคนอื่นในหมู่บ้าน และยังถามพ่อแม่ทุกวันว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมา

อะไรทำให้เธอรักเด็กชายคนนี้ขนาดนั้นกันนะ เป็นเพราะใช้เวลาร่วมกันทุกวัน? เป็นเพราะเขาเป็นเพื่อนคนแรก? เป็นเพราะเขาช่วยเธอไว้จากการโดนรังแก? รอลส์ก็หาคำตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าในใจของลูกสาวไม่เหลือที่ว่างให้ใครคนอื่นเลย

วันที่นัดหมายมาถึง ซิลฟีเอ็ตใส่หมวกใบใหญ่ปิดบังเส้นผมสีเขียวสะดุดตาของเธอ ซิลฟี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปพบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี

วันนั้นคนที่เดินทางไปด้วยกันก็มีเปาโล กับรอลส์ เดินทางด้วยม้าสองตัว ออกเดินทางตั้งแต่แสงแรกของวัน เพื่อไปให้ถึงเมืองป้อมปราการในตอนบ่าย ที่กีแลนบอกเปาโลว่ามักเป็นช่วงที่รูเดียสไปเดินเล่นในเมือง

เปาโลเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เห็นลูกชายของตนเติบโตขึ้นจากที่ไม่ได้เห็นมาเป็นปี แต่เพื่อไม่ให้เสียหน้า เขาจะให้รูเดียสเห็นตัวเองไม่ได้

การเดินทางราบรื่นดีตลอด เมื่อมาถึงเมืองป้อมปราการ ซิลฟี่ดูเหนื่อยล้าเพราะไม่เคยนั่งม้าติดกันนานขนาดนี้ แต่เธอก็สนุก

“ชอบไหม ขี่ม้า?” รอลส์ถามลูกสาว

“ชอบค่ะ!”

“ไว้ว่างๆ พ่อจะสอนขี่ม้าให้แล้วกัน แต่หนูต้องขายาวกว่านี้ก่อน”

“ค่ะ!” ซิลฟี่เอ็ตตอบรับอย่างกระตือรือร้น ถือว่าเป็นภาพที่น่าเอ็นดูในสายตาผู้ใหญ่ทั้งสอง

ทั้งสามคนไปนั่งรอเวลาที่ร้านนั่งดื่มในละแวกนั้นที่มีพื้นที่นั่งอยู่ชั้น 2 และมีหน้าต่างสามารถมองลงมาเห็นร้านรวงต่างๆ ได้จนสุดถนน

ซิลฟี่กับเปาโลคอยมองหาผู้คนที่เดินไปมามากมาย เวลาผ่านไปสิบนาที ยี่สิบนาที จนเป็นชั่วโมง

“นั่นไง!” ซิลฟีเอ็ตร้องด้วยความดีใจจนแขกคนอื่นในร้านหันมามอง เธอชี้นิ้วลงไปข้างล่าง

เห็นเด็กผู้ชายแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าดูแพง ผมสีทรายตัดสั้น ดวงตาสีเขียวมรกต มีไฝเม็ดหนึ่งที่ใต้ตาซ้าย รูเดียส เกรย์แรทนั่นเอง

รูเดียสเดินมาเพียงคนเดียว ในมือถือห่อผ้าสีขุ่น ๆ ขนาดใหญ่กว่ามือของเขาไม่มากนัก เขาเดินทอดน่องอย่างสบายใจและยิ้มเล็ก ๆ ดูท่าทางมีความสุขดี

ซิลฟี่เอาหน้าเข้าไปชิดหน้าต่าง เขาอยู่นั่น! ยังสบายดี! รูเดียสเป็นคนที่มีตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่ความฝันที่เธอสร้างขึ้นมา!

ซิลฟี่ดีใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา

รูเดียสเอาห่อผ้าไปวางที่หน้าร้านขายของแห่งหนึ่ง เปิดห่อผ้าออก ข้างในมีตุ๊กตาหินตัวเล็ก ๆ มองจากตรงนี้ทั้งสามคนมองไม่เห็นว่ามันเป็นรูปอะไร หลังจากเจรจาอะไรกันเรียบร้อย รูเดียสก็หันหลังแล้วเดินหายไปในฝูงชน

หลังจากที่แน่ใจแล้วว่ารูเดียสจะไม่กลับมาอีก ทั้งสามคนก็ลงไปที่ร้านนั้น

“เมื่อกี้มีเด็กผู้ชายคนนึงเดินมาขายของใช่ไหม ขอดูของที่เขาขายหน่อยสิ” 

“โอ้ ได้สิครับ ได้เลย” พ่อค้ายิ้มต้อนรับ แล้วหยิบของชิ้นนั้นออกมา

มันคือตุ๊กตาหินที่มีรายละเอียดปรานีตงดงาม เป็นรูปของเด็กผู้หญิงผมสั้น ในมือถือช่อดอกไม้ ชุดกระโปรงที่เธอใส่พลิ้วไหวเหมือนมีลมพัด

ตุ๊กตาของซิลฟี่….

ซิลฟี่เห็นแล้วก็ยกมือปิดปาก

พ่อค้าก็สังเกตเห็น

“โอ้คุณหนู ตุ๊กตาตัวนี้หน้าตาเหมือนคุณหนูเลยนะครับ เห็นความละเอียดในงานนี่ไหม ต้องใช้ความตั้งใจและเวลาเป็นอย่างมากในการสร้างมันขึ้นมาเลยนะ ตุ๊กตาตัวนี้เหมาะกับคุณหนูที่สุดเลยนะครับ ทั้งความปราณีตและพลิ้วไหวของเสื้อผ้า เป็นงานแกะสลักชั้นเซียนเลยทีเดียว” พ่อค้าสาธยาย “ผมจะขายให้ในราคา 2 เหรียญทองอัสราว่าอย่างไรครับ”

2 เหรียญทองอัสรา…

จำนวนนั้นมากเกินกว่าเงินเดือนของรอลส์ทั้งเดือนเสียอีก แต่เธออยากได้ อยากได้มาก ๆ มันเป็นของที่ผ่านมือรูเดียสมาเชียวนะ ถึงไม่รู้ว่าเขาได้มาจากไหนและทำไมถึงขาย เธอก็อยากได้มันอยู่ดี

คนที่อยากได้ยิ่งกว่าก็คือรอลส์ ในโลกที่ไม่มีรูปถ่ายนี้ ตุ๊กตาที่หน้าตาเหมือนลูกสาวของเขาแบบนี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว

แต่…

“ขอโทษนะซิลฟี่.. พ่อไม่มีเงินมากขนาดนั้น” รอลส์ขอโทษซิลฟี่ ซิลฟี่พอจะคาดเดาได้อยู่แล้ว เธออดผิดหวังไม่ได้ แต่ซิลฟี่ไม่ได้เป็นเด็กเอาแต่ใจ

“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูเข้าใจดี ความจริงวันนี้ได้มาเห็นว่ารูดี้สบายดีหนูก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ” ซิลฟี่ยิ้มแย้ม

“รู้จักคุณหนูรูเดียสด้วยหรือครับ” พ่อค้าถาม

ซิลฟี่หน้าแดงทันทีแบบเห็นได้ชัด

“แหะ ๆ เด็กคนนั้นคือลูกชายของผมเองครับ” เปาโลบอกพ่อค้า

“อ้อ คุณมีลูกชายที่ดีนะครับ เป็นคนขยันมากเลย ปั้นตุ๊กตามาขายเพื่อเก็บเงินซื้อหนังสือ เขาเคยบอกผมว่าเขาสนใจหนังสือในร้านขายหนังสือตรงนั้น เลยทำงานเพิ่มเติมเพื่อเก็บเงินซื้อหนังสือ” พ่อค้าอธิบายให้ฟัง “แถมตุ๊กตาแต่ละตัวที่เขาหามาให้นี่ก็งานดี ๆ ทั้งนั้น ต้องขอบคุณลูกชายคุณจริง ๆ ที่ทำให้ผมมีสินค้าไปเปิดร้านในต่างแดน”

เปาโลได้ฟังอย่างนั้นก็หน้าบาน อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

ส่วนซิลฟี่พอได้ยินเรื่องราวของรูเดียสเธอก็ดีใจ ถึงแม้จะไม่ได้ฟังจากเจ้าตัวก็ตาม

อืม.. เก็บเงินซื้อหนังสืองั้นเหรอ สมกับเป็นรูเดียสจริง ๆ

รูเดียสในความทรงจำของเธอก็มักจะพกหนังสืออยู่ตลอดเวลา อ่านท่องจนจำได้ขึ้นใจ แถมยังรู้เรื่องราวมากมายเต็มไปหมด มองอย่างไรก็เป็นคนที่น่าชื่นชม

“ตกลงซื้อครับ” เปาโลว่าอย่างนั้นแล้วหยิบสองเหรียญทองมาจ่ายให้พ่อค้า

การเดินทางกลับนั้นอิ่มเอมใจ ซิลฟี่ดีใจที่ได้แอบมองรูเดียสจากไกล ๆ ทรมานใจที่เข้าไปคุยไม่ได้ก็จริง แต่เธอก็พอใจแค่นี้แหล่ะ

แล้วยังเรื่องเล่าที่ฟังจากพ่อค้า เธอก็มั่นใจได้ว่ารูเดียสที่เธอชอบยังคงเป็นคนขยัน เก่ง และต็มไปด้วยความสามารถเหมือนเดิม

ตุ๊กตาตัวนั้นเปาโลซื้อไป และวางไว้ที่บ้านเกรย์แรท ซึ่งไอชาชอบมาก ๆ

ซิลฟี่ได้มองตุ๊กตาตัวนั้นทีไร เธอก็จะระลึกได้ถึงเด็กชายผู้เป็นที่รักของเธอที่จากไปอยู่ที่ไกลแสนไกล และความรักของเธอก็ไม่เคยลดลงเลย

---

จบแล้วค่ะ เรื่องสั้นเบา ๆ เกี่ยวกับนางเอกที่จะกลับมาในอีกไม่ช้า ในอนิเมะ SS2 ที่จะฉายในปี 2023 นี้ 

อีกไม่กี่วันทาง official จะมีประกาศเกี่ยวกับอนิเมะ SS2 แล้วนะคะ ใครที่อ่านสปอยมาแล้วคงจะรู้ว่า ภาคนี้มีอะไรที่น่าดูเยอะแยะเลย เราเป็นคนนึงที่ชอบ School Arc มาก ๆ อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ้ม 

เราไม่ได้แต่งฟิคการ์ตูนนานมาแล้ว มีอะไรติชมได้นะคะ

ลงไว้อีกที่ใน ReadAWrite ไปติดตามกันได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่