มันเป็นเรื่องปรกติของผู้ปกครองมั้ย?

เรามีอาการป่วยทางจิตค่ะ รู้ตัวตอน3ปีให้หลังจากการสังเกต ตอนแรกเราเป็นADHDหรือที่คนไทยน่าจะนึกออกในชื่อ โรคสมาธิสั้น ถ้าเป็นตอนเด็กน่าจะเป็นเรื่องปรกติแต่จนถึงตอนนี้เราเป็นวัยรุ่นแล้วเราก็ยังไม่หายและอาการมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เรารู้ตัวว่าเรามีอาการแต่ตอนแรกเราไม่รู้ตัวเลยว่ามันคืออะไร ทำให้เรากดดันและเกลียดตัวเองมากๆที่ตั้งใจทำอะไรไม่ได้เหม่อลอยและทำตัวเหมือนอยู่ดีๆก็หลุดออกไปอีกรอบ เราชอบเอาความคิดและคำพูดของพ่อแม่เราหรือคนอื่นๆมาคิดจนเราจำเรื่องดีๆไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ทำให้เรามีอีกโรคนึงขึ้นมาคือซึมเศร้า (เสริมจากการโดนบอยคอต/บูลลี่ตอนม.ต้น ทำให้เราไม่อยากจะไว้ใจเพื่อนมากนักซึ่งก็ช่วยอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว) เรารู้สึกว่าเรามีความสุขยากขึ้นมากๆจากที่แต่ก่อนกินข้าวอร่อยเราก็มีความสุขแต่ตอนนี้ต่อให้เราทำสิ่งที่ชอบกินสิ่งที่ชอบเราก็ไม่มีความสุขแล้ว เราร้องไห้บ่อยมากๆจากที่แต่ก่อนไม่เคยร้องไห้ เราหมดแรงจูงใจในงานอดิเรกที่เคยทำ เราทรมาณกับสิ่งที่เราเป็นตอนนี้ เราคิดว่าตัวเองไร้คุณค่า จนเราตัดสินใจคุยกับครอบครัวในครั้งแรกเราพยายามบอกอ้อมๆทั้งเปิดคลิปเด็กเป็นโรคซึมเศร้า อธิบายว่าทำไมคนที่ฆตต.ถึงทำอย่างงั้น สิ่งที่พ่อแม่เราตอบมากคือ "พวกโง่ไม่รักตัวเองอย่างน้อยไม่รักตัวเองก็รู้จักรักพ่อแม่บ้างเลี้ยงยากขนาดใหนมาตายเอาเพราะแค่เรื่องเรียน" "อย่าทำแบบนั้นนะ" เราจำชัดเจนไม่ได้นัก แต่ก็ค่อนข้างประมาณนนี้ แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันค่อยข้างฝังในใจเราพอควร เราเลิกพูดเรื่องนี้ไปพักนึง จนเราพยายามจะพูดกับเขาอีกรอบ พยายามพูด แต่สิ่งที่ได้กลับมารอบที่2คือ "ถ้าเป็นบ้ากูไม่เป็นหนักกว่าแล้วเหรอ"  จิตใจเราตอนนั้นพังไม่เหลือชิ้นดี เรารู้สึกหมดหนทาง เราพยายามลืมและสร้างจิตใจให้เข้มแข็งขึ้น แต่มันก็ไม่เป็นผลด้วยเรายังคงพยายามพูดกับเจาอีกหลายรอบ แต่ก็เหมือนเดิม เรารู้สึกผิดและแย่ยิ่งกว่าเดิมที่เราเป็นลูกที่ไม่ปรกติสำหรับเขา เราเริ่มทำร้ายจัวเองด้วยการทุบตีในตอนที่เราเหมือนเวลาเราทำงานแล้วไม่ได้สติ เอาหัวโขกพื้นเอาของทุบหน้าจนช้ำ แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้สนใจ เขารู้ด้วยซ้ำว่าเราพยายามฆตต.มาแล้ว3ครั้ง (แต่เราไม่กล้าพอที่จะตาย เราไม่ได้อยากตาย) แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร จนครั้งล่าสุดเราอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจนแต่พยายามรักษาน้ำใจพวกเขา เราไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านและวันดีๆพัง เขาพยายามเลี่ยงคำพูดว่าจะพาเราไปหาหมอ จนเรารู้สึกว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์เราเลยพูดว่า "ไม่เป็นไรงั้นถ้าหนูสอบเค้ามหาลัยได้หนูอาจจะลองไปหาหมอเอง" เขาบอกว่า "เออ รอโตค่อยไปเอง" เรารู้สึกสงสัยในบางทีว่าเอ้ะ กูยังสำคัญอยู่ป่าววะ ก็เข้าใจนะว่าการพาไปหาหมอมันลำบากเหนื่อยรอ แต่บ้านอื่นเขาก็พาลูกไปได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมพากูไปไม่ได้ ต้องให้คนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวพาไปเหรอ รึการมีลูกป่วยมันรับไม่ได้ เราสงสัยมากๆแต่เราก็ไม่ถามอะไรต่อ 
เสริม
พ่อแม่เรามีปัญหาด้วยอารมณ์โกรธและการระงับอารมณ์มาก แต่เราไม่ยอมรับ พ่อเราเป็นคนหัวสูงไม่ฟังใครเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิดและไม่ขอโทษทำให้เราไม่อยากมีเรื่องเขาโกรธง่ายมากแค่เราทำอาหารไหม้เขาก็จะด่าเราเหมือนเราทำอะไรที่ผิดหนักมากๆ ส่วนแม่เรามีอาการโกรธแล้วไม่ค่อยระวังการกระทำไม่ระวังคำพูดและไม่ขอโทษ เขารู้สึกผิดเวลาเราเล่าว่าเราเจออะไรมาบ้างแต่เขาก็ยังคงไม่ทำอะไร และแม่มันจะไม่อยากเถียงอะไรกับพ่อ ไม่เคยมีการทำร้ายกันทางกาย บ้านเราไม่ได้รวยแต่ก็ไม่จน เป็นข้าราชการปรกติไม่มีหนี้สิน
เราไม่ได้เป็นเด็กที่มีเพื่อนเยอะค่อนข้างไม่มีปัญหาในการเข้าสังคมแต่เราไม่ค่อยไว้ใจคนอื่นทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีใครที่เราอยากจะให้ช่วย ไม่รู้จักรุ่นพี่ไม่สนิทกับครู

คำถามคือ เราจะทำยังไงต่อไป เราควรขอให้คนที่เราไม่สนิทช่วยรึเราควรพยายามพูดกับครอบครัวต่อรึยังไง และมันเป็นเรื่องปรกติมั้ยที่ผู้ปกครองจะทำอย่างงี้  ขอคำแนะนำและความคิดเห็นหน่อยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่