ดีฮะ มีเรื่องอยากระบายและปรึกษากับเพื่อนๆครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็นทหารเกณฑ์ ซึ่งตอนนี้ใกล้ปลดแล้ว ทำเรื่องวางบัตรออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ออกมาทำงานที่ได้เงินเดือนเยอะกว่าเดิมไม่กี่พัน แลกกับการไม่ต้องอยู่ในค่าย ใครเคยเป็นทหารเกณฑ์จะรู้ดีว่าข้างในเป็นยังไง ไม่มีใครอยากอยู่แน่นอน
ครับ ผมออกมาทำงานข้างนอก ก็ได้งานมางานนึง กำลังทำอยู่นี้ ปัญหามันเกิดขึ้นตอนที่ย่าโทรมาคุย อยากให้เป็นทหาร สอบติดยศไปเลย ซึ่งผมไม่ได้อยากเป็น ไม่อยากเดินในสายงานนี้เพราะเอือมระอาตั้งแต่ตอนเป็นทหารเกณฑ์ ถ้าอยู่ต่อแล้วต้องทำงานภายใต้สังคมแบบนั้น ศุ้ผมขอออกมาทำงานข้างนอกดีกว่า
เกริ่นก่อนว่า ผมโตมากับย่า ย่าเลี้ยงผมเหมือนแม่คนนึง ย่าเป็นคนที่หัวแข็ง ทิฐิสูงมาก แต่อีกด้านกลับเป็นคนใจดีที่ใครเห็นก็รักก็ชอบ ย่าคงเป็นเฉพาะกับผมนะแหละ หัวแข็ง ทุกอย่างต้องได้ตามที่ขอ ถ้าไม่ทำตามก็ไม้เรียว ฟาดเขียวฟกช้ำ เลือดออก โดนมาครบแล้วเป็นความทรงจำวัยเด็กที่พอกลับไปคิดก็เครียด
มาต่อที่ปัจจุบันนะครับ ผมปฏิเสธย่าไปเรื่องการเป็นทหาร ย่าก็พูดดีด้วยขอให้ผมเป็นให้ได้ (ย่าบอกว่า ถ้าผมไม่ได้เป็นทหาร ย่าคงตายตาไม่หลับ) ย่าเห็นลูกคนนั้น คนนี้ติดยศได้เป็นนายทหาร ย่าคงอยากให้ผมเป็นแบบนั้นบ้าง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่อยากเป็น ราชการมันสบาย ป่วยก็เบิก เงินเดือนมั่นคง ใช่ครับ ผมไม่เถียง ตอนแรกมีความคิดว่าไม่อยากทำงานส่วนราชการ ตอนนี้มีงานอื่นทำแล้ว ขอทำงานเก็บตังสักก้อน แล้วเอาไปลงทุน ซึ่งระหว่างทำงาน ก็ศึกษาเรื่องการลงทุนไปด้วย แต่ย่าบอกไงรู้ไหมครับ ย่าด่าผมว่า ผมฝันลมๆแล้งๆ ผมบอกย่าว่าอยากรวย อยากลงทุนก็โดนด่ากลับมาแบบนั้น
สุดท้ายผมปฏิเสธสุดใจ ว่าไม่อยากเป็นทหาร แต่จะสอบบรรจุราชการให้ มีสวัสดิการเหมือนกัน ย่าก็บอกผมว่า "ไม่ต้องมาพูดกันอีก ในเมื่อคิดว่าตัวเองวิเศษ มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ไม่ได้อยากให้เท่ที่เป็นทหาร แค่อยากให้อยู่รอดตลอดรอดฝั่ง แต่เมื่อคิดได้แค่นี้ เชิญไปตามทาง ไม่ต้องเจอะไม่ต้องเจอกันอีกไปหาฝันลมๆแล้งๆเลย ไม่ต้องพบเจอกันอีก"
ใช่ครับ ย่าพิมตัดความสัมพันธ์กับผม เพียงแค่เพราะผมไม่อยากเป็นทหาร ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องสอบบรรจุเข้าราชการ แต่ยืนยันแน่ๆอีกที ว่าไม่เป็นทหาร ผมอยากทำงานแบบที่อยากทำ ลองคิดภาพคนที่ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบไปทั้งชีวิตสิครับ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้แน่นอน
ผมให้เหตุผลของผมไปแล้วว่า ความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่งาน มันอยู่ที่คน ว่าคนนั้นจะวางแผนกับชีวิตยังไง นั้นแหละคือความมั่นคงในความหมายของผม เพื่อนๆคิดว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า มีอะไรแนะนำไหม
ตัดความสัมพันธ์กับคนที่บ้าน เพราะแค่ไม่อยากเป็นทหาร
ครับ ผมออกมาทำงานข้างนอก ก็ได้งานมางานนึง กำลังทำอยู่นี้ ปัญหามันเกิดขึ้นตอนที่ย่าโทรมาคุย อยากให้เป็นทหาร สอบติดยศไปเลย ซึ่งผมไม่ได้อยากเป็น ไม่อยากเดินในสายงานนี้เพราะเอือมระอาตั้งแต่ตอนเป็นทหารเกณฑ์ ถ้าอยู่ต่อแล้วต้องทำงานภายใต้สังคมแบบนั้น ศุ้ผมขอออกมาทำงานข้างนอกดีกว่า
เกริ่นก่อนว่า ผมโตมากับย่า ย่าเลี้ยงผมเหมือนแม่คนนึง ย่าเป็นคนที่หัวแข็ง ทิฐิสูงมาก แต่อีกด้านกลับเป็นคนใจดีที่ใครเห็นก็รักก็ชอบ ย่าคงเป็นเฉพาะกับผมนะแหละ หัวแข็ง ทุกอย่างต้องได้ตามที่ขอ ถ้าไม่ทำตามก็ไม้เรียว ฟาดเขียวฟกช้ำ เลือดออก โดนมาครบแล้วเป็นความทรงจำวัยเด็กที่พอกลับไปคิดก็เครียด
มาต่อที่ปัจจุบันนะครับ ผมปฏิเสธย่าไปเรื่องการเป็นทหาร ย่าก็พูดดีด้วยขอให้ผมเป็นให้ได้ (ย่าบอกว่า ถ้าผมไม่ได้เป็นทหาร ย่าคงตายตาไม่หลับ) ย่าเห็นลูกคนนั้น คนนี้ติดยศได้เป็นนายทหาร ย่าคงอยากให้ผมเป็นแบบนั้นบ้าง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่อยากเป็น ราชการมันสบาย ป่วยก็เบิก เงินเดือนมั่นคง ใช่ครับ ผมไม่เถียง ตอนแรกมีความคิดว่าไม่อยากทำงานส่วนราชการ ตอนนี้มีงานอื่นทำแล้ว ขอทำงานเก็บตังสักก้อน แล้วเอาไปลงทุน ซึ่งระหว่างทำงาน ก็ศึกษาเรื่องการลงทุนไปด้วย แต่ย่าบอกไงรู้ไหมครับ ย่าด่าผมว่า ผมฝันลมๆแล้งๆ ผมบอกย่าว่าอยากรวย อยากลงทุนก็โดนด่ากลับมาแบบนั้น
สุดท้ายผมปฏิเสธสุดใจ ว่าไม่อยากเป็นทหาร แต่จะสอบบรรจุราชการให้ มีสวัสดิการเหมือนกัน ย่าก็บอกผมว่า "ไม่ต้องมาพูดกันอีก ในเมื่อคิดว่าตัวเองวิเศษ มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ไม่ได้อยากให้เท่ที่เป็นทหาร แค่อยากให้อยู่รอดตลอดรอดฝั่ง แต่เมื่อคิดได้แค่นี้ เชิญไปตามทาง ไม่ต้องเจอะไม่ต้องเจอกันอีกไปหาฝันลมๆแล้งๆเลย ไม่ต้องพบเจอกันอีก"
ใช่ครับ ย่าพิมตัดความสัมพันธ์กับผม เพียงแค่เพราะผมไม่อยากเป็นทหาร ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องสอบบรรจุเข้าราชการ แต่ยืนยันแน่ๆอีกที ว่าไม่เป็นทหาร ผมอยากทำงานแบบที่อยากทำ ลองคิดภาพคนที่ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบไปทั้งชีวิตสิครับ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้แน่นอน
ผมให้เหตุผลของผมไปแล้วว่า ความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่งาน มันอยู่ที่คน ว่าคนนั้นจะวางแผนกับชีวิตยังไง นั้นแหละคือความมั่นคงในความหมายของผม เพื่อนๆคิดว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า มีอะไรแนะนำไหม