เลือกตั้ง66 ประชาชนเทใจหนุน อิ๊งค์ นั่งนายกฯ เลือกเพื่อไทย ทั้งสส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7566543
นิด้าโพล เผยผลสำรวจ ศึกเลือกตั้ง 66 ประชาชนหนุน อุ๊งอิ๊ง นั่งนายกฯ เลือกเพื่อไทย ทั้งส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ส่วน บิ๊กตู่ รั้งอันดับ 3
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “
นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “
ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-8 มี.ค. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.20 น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 15.75 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 15.65 พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 9.45 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 5.10 คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 4.45 พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1.60 นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.55 นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.40 นาย
กรณ์ จาติกวณิช พรรคชาติพัฒนากล้า อันดับ 11 ร้อยละ 1.15 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และร้อยละ 3.35 ระบุอื่นๆ ได้แก่ น.ส.
กัญจนา ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา นาย
เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ
นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ นาย
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นาย
เทวัญ ลิปตพัลลภ พรรคชาติพัฒนากล้า นพ.
วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี นาย
ชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ นาย
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นาย
สมศักดิ์ เทพสุทิน และนาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์
สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.75 พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.40 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 11.75 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 5.40 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 2.95 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.70 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.60 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.15 พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 2.95 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคกล้า พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคเพื่อชาติ
ด้านพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.85 พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.15 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 12.15 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 4.95 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 2.85 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.60 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.55 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.30 พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 3.25 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคกล้า พรรคเพื่อชาติ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
18 องค์กร ส่งเสียงแทนแรงงาน 40 ล้าน โหมความหวังเลือกตั้ง ดัน ‘8 ข้อเสนอ’ ถึงหูพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3880542
18 องค์กร ส่งเสียงแทนแรงงาน 40 ล้านคน โหมความหวังเลือกตั้งครั้งใหม่ ดัน ‘8 ข้อเสนอ’ ถึงหูพรรค
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่ห้องประชุม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ สหภาพคนทำงาน จัดเวทีแถลงนโยบายคนทำงาน สร้างประชาธิปไตย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน ส่งแนวคิด 99 เปอร์เซ็นต์ เข้าสู่สังคมและรัฐสภา โดยนำเสนอนโยบาย ต่อพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง ท่ามกลางผู้ใช้แรงงานกลุ่มอาชีพต่างๆ ร่วมรับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหา
สหภาพคนทำงาน ระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรราว 71 ล้านคน จากข้อมูลรายงานผลการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชาชนไทยในเดือน ก.ค. 2565 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าประชากรไทยที่อยู่ในวัยแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 40.1 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่มีงานทำ 39.48 ล้านคน ผู้ว่างงาน 5.14 แสนคน และผู้ว่างงานที่รอฤดูกาล 0.21 แสนคน และถ้านับครอบครัวของพวกเขา คนกลุ่มนี้คือคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เป็นเจ้าของที่แท้จริงของประเทศนี้ พวกเขาสมควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ประชาชน
แม้ว่าคนทำงานจะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะเป็นกลุ่มคน 99% ของประเทศ แต่ด้วยการถูกกีดกัน ไม่ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม และคุ้มครองให้สามารถรวมตัวกันได้ ทำให้แม้คนทำงานจะเป็นคนส่วนใหญ่ แต่กลับมีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การกำหนดนโยบาย การบริหารประเทศน้อยมาก พรรคการเมืองในประเทศส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลและการสนับสนุนจากฝ่ายทุน หรือกลุ่มคน 1% ทำให้การกำหนดนโยบาย การออกกฎหมาย มาตรการ การบริหารประเทศเป็นไปในทิศทางที่ผู้ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองเหล่านั้นต้องการ พรรคการเมืองส่วนใหญ่จะขาดความรู้ความเข้าใจในประเด็นปัญหาของผู้ใช้แรงงานกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งมีสภาพปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
สหภาพคนทำงาน ชี้ว่า ปี 2566 ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง พรรคการเมืองต่างๆ กำลังจัดทำนโยบายพรรคเพื่อที่จะใช้ในการหาเสียงจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง พวกเราคนทำงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่พรรคการเมืองต่างๆ ต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับพวกเราคนทำงานสาขาอาชีพต่างๆ ที่จะต้องสะท้อนปัญหาและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อดูว่าพรรคการเมืองใดบ้างที่จะยินดีที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาและรัฐบาลเพื่อนำเอาข้อเสนอของพวกเราไปดำเนินการให้ปรากฎเป็นจริง
สหภาพคนทำงาน จึงร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ รวม 17 องค์กรที่ทำงานร่วมกันจึงได้สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นโดยมีผู้แทนจากหลากหลายองค์กร และคนทำงานจากหลากหลายอาชีพ จนในที่สุดก็ได้จัดทำชุดข้อเสนอเชิงนโยบาย “ความหวัง ความฝันและข้อเสนอของคนทำงาน” เพื่อนำเสนอต่อพรรคการเมืองเพื่อนำไปจัดทำเป็นนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนี้ผู้แทนองค์กรต่างๆ จะเดินสายไปยื่นข้อเสนอกับพรรคการเมืองทั้งหลาย
สำหรับความหวัง และข้อเสนอ 8 หมวดของคนทำงาน ได้แก่
1. การเลือกทำงาน รวมกลุ่ม-ต่อรองและมีรายได้ที่เป็นธรรม
2. การเรียนรู้ รับข้อมูลและพัฒนาตนเอง
3. การมีชีวิตและความปลอดภัยในสังคมและที่ทำงาน
4. การมีปัจจัยดำรงชีวิตพื้นฐานของตนและครอบครัว
5. การมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการยอมรับทางสังคม
6. เสรีภาพในการแสดงออกต่อสังคมและที่ทำงาน
7. การมีส่วนร่วมในประชาธิปไตยทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและที่ทำงาน
8. การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมสำหรับทุกอัตลักษณ์ เพศสภาพ สภาพร่างกาย สภาวะสุขภาพ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม
อ่านรายละเอียด : ชุดนโยบายคนทำงาน
โดย 18 องค์กรผู้ร่วมเสนอ มีดังนี้
สหภาพแรงงานสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย (CUT), สหภาพไรเดอร์, สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน (สพง.), Nurses Connect, เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (We Fair), Equal Asia Foundation, สมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย), มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (HomeNet Thailand), สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนัง แห่งประเทศไทย (สพท.), เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, Swing Thailand, Empower Foundation, กลุ่มทำทาง, เครือข่ายแรงงานข้ามชาติ (MWG), พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย และสหภาพคนทำงาน
JJNY : ปชช.เทใจหนุน อิ๊งค์ นั่งนายกฯ│18 องค์กร ส่งเสียงแทนแรงงาน│คนไทยมีเงินฝากในบัญชีเท่าไหร่│รัสเซียขู่สอยเครื่องบินรบ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7566543
นิด้าโพล เผยผลสำรวจ ศึกเลือกตั้ง 66 ประชาชนหนุน อุ๊งอิ๊ง นั่งนายกฯ เลือกเพื่อไทย ทั้งส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ส่วน บิ๊กตู่ รั้งอันดับ 3
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-8 มี.ค. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.20 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 15.75 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 15.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 9.45 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 5.10 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 4.45 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1.60 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.55 นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.40 นายกรณ์ จาติกวณิช พรรคชาติพัฒนากล้า อันดับ 11 ร้อยละ 1.15 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และร้อยละ 3.35 ระบุอื่นๆ ได้แก่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ พรรคชาติพัฒนากล้า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี นายชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์
สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.75 พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.40 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 11.75 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 5.40 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 2.95 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.70 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.60 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.15 พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 2.95 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคกล้า พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคเพื่อชาติ
ด้านพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.85 พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.15 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 12.15 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 4.95 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 2.85 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.60 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.55 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.30 พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 3.25 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคกล้า พรรคเพื่อชาติ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
18 องค์กร ส่งเสียงแทนแรงงาน 40 ล้าน โหมความหวังเลือกตั้ง ดัน ‘8 ข้อเสนอ’ ถึงหูพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3880542
18 องค์กร ส่งเสียงแทนแรงงาน 40 ล้านคน โหมความหวังเลือกตั้งครั้งใหม่ ดัน ‘8 ข้อเสนอ’ ถึงหูพรรค
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่ห้องประชุม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ สหภาพคนทำงาน จัดเวทีแถลงนโยบายคนทำงาน สร้างประชาธิปไตย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน ส่งแนวคิด 99 เปอร์เซ็นต์ เข้าสู่สังคมและรัฐสภา โดยนำเสนอนโยบาย ต่อพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง ท่ามกลางผู้ใช้แรงงานกลุ่มอาชีพต่างๆ ร่วมรับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหา
สหภาพคนทำงาน ระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรราว 71 ล้านคน จากข้อมูลรายงานผลการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชาชนไทยในเดือน ก.ค. 2565 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าประชากรไทยที่อยู่ในวัยแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 40.1 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่มีงานทำ 39.48 ล้านคน ผู้ว่างงาน 5.14 แสนคน และผู้ว่างงานที่รอฤดูกาล 0.21 แสนคน และถ้านับครอบครัวของพวกเขา คนกลุ่มนี้คือคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เป็นเจ้าของที่แท้จริงของประเทศนี้ พวกเขาสมควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ประชาชน
แม้ว่าคนทำงานจะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะเป็นกลุ่มคน 99% ของประเทศ แต่ด้วยการถูกกีดกัน ไม่ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม และคุ้มครองให้สามารถรวมตัวกันได้ ทำให้แม้คนทำงานจะเป็นคนส่วนใหญ่ แต่กลับมีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การกำหนดนโยบาย การบริหารประเทศน้อยมาก พรรคการเมืองในประเทศส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลและการสนับสนุนจากฝ่ายทุน หรือกลุ่มคน 1% ทำให้การกำหนดนโยบาย การออกกฎหมาย มาตรการ การบริหารประเทศเป็นไปในทิศทางที่ผู้ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองเหล่านั้นต้องการ พรรคการเมืองส่วนใหญ่จะขาดความรู้ความเข้าใจในประเด็นปัญหาของผู้ใช้แรงงานกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งมีสภาพปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
สหภาพคนทำงาน ชี้ว่า ปี 2566 ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง พรรคการเมืองต่างๆ กำลังจัดทำนโยบายพรรคเพื่อที่จะใช้ในการหาเสียงจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง พวกเราคนทำงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่พรรคการเมืองต่างๆ ต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับพวกเราคนทำงานสาขาอาชีพต่างๆ ที่จะต้องสะท้อนปัญหาและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อดูว่าพรรคการเมืองใดบ้างที่จะยินดีที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาและรัฐบาลเพื่อนำเอาข้อเสนอของพวกเราไปดำเนินการให้ปรากฎเป็นจริง
สหภาพคนทำงาน จึงร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ รวม 17 องค์กรที่ทำงานร่วมกันจึงได้สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นโดยมีผู้แทนจากหลากหลายองค์กร และคนทำงานจากหลากหลายอาชีพ จนในที่สุดก็ได้จัดทำชุดข้อเสนอเชิงนโยบาย “ความหวัง ความฝันและข้อเสนอของคนทำงาน” เพื่อนำเสนอต่อพรรคการเมืองเพื่อนำไปจัดทำเป็นนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนี้ผู้แทนองค์กรต่างๆ จะเดินสายไปยื่นข้อเสนอกับพรรคการเมืองทั้งหลาย
สำหรับความหวัง และข้อเสนอ 8 หมวดของคนทำงาน ได้แก่
1. การเลือกทำงาน รวมกลุ่ม-ต่อรองและมีรายได้ที่เป็นธรรม
2. การเรียนรู้ รับข้อมูลและพัฒนาตนเอง
3. การมีชีวิตและความปลอดภัยในสังคมและที่ทำงาน
4. การมีปัจจัยดำรงชีวิตพื้นฐานของตนและครอบครัว
5. การมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการยอมรับทางสังคม
6. เสรีภาพในการแสดงออกต่อสังคมและที่ทำงาน
7. การมีส่วนร่วมในประชาธิปไตยทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและที่ทำงาน
8. การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมสำหรับทุกอัตลักษณ์ เพศสภาพ สภาพร่างกาย สภาวะสุขภาพ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม
อ่านรายละเอียด : ชุดนโยบายคนทำงาน
โดย 18 องค์กรผู้ร่วมเสนอ มีดังนี้
สหภาพแรงงานสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย (CUT), สหภาพไรเดอร์, สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน (สพง.), Nurses Connect, เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (We Fair), Equal Asia Foundation, สมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย), มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (HomeNet Thailand), สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนัง แห่งประเทศไทย (สพท.), เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, Swing Thailand, Empower Foundation, กลุ่มทำทาง, เครือข่ายแรงงานข้ามชาติ (MWG), พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย และสหภาพคนทำงาน