JJNY : ‘โรม’หนุนแถลงการณ์ 3 สมาคมตร.│‘จักรพล’ถาม‘ตู่’│หุ้นเปิดตลาดดิ่ง 25 จุด│ตรวจสอบข่าว:'อเมริกันรักล้นใจให้ปูติน'

กระทู้ข่าว

พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ข่าวเศรษฐกิจ สงครามรัสเซีย-ยูเครน รัฐบาล

‘โรม’ หนุนแถลงการณ์ 3 สมาคมตร. โดดป้องจนท.น้ำดี ออกหมายจับทำคดีส.ว.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3875569

‘โรม’ หนุน 3 สมาคมขรก.ตร.ปกป้อง พ.ต.ท.มาสะพงษ์ มือปราบ ‘ทุน มิน ลัต’

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีเอกสาร แถลงการณ์จากสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสมาคมพนักงานสอบสวน ปรากฏลายเซ็นประธานสมาคมทั้ง 3 สมาคม ลงนาม พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ นายไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ออกจดหมายแถลงให้กำลังข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติชอบและยืนหยัดตามหลักการของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ว่า เอกสารฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นเอกสารที่ยืนยันว่า พ.ต.ท. มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ในฐานะสารวัตรที่ทำคดีทุน มิน ลัต และนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการกระทำที่พิสูจน์ว่าตำรวจรายนี้เป็นตำรวจน้ำดี ตั้งใจทำคดี

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในเอกสารดังกล่าวปรากฏ 6 ประเด็น
ประเด็นแรกยืนยันว่าการร้องขอให้ศาลออกหมายจับเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ประเด็นที่สอง ปัญหาการออกหมายลอยที่มีข้อกล่าวอ้างกันอยู่ ไม่มีทางเกิดขึ้น
ประเด็นที่สาม คือการออกหมายจับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอให้ผู้บังคับบัญชา ระดับผู้กำกับ ก่อนการพิจารณาขอหมายจับแต่อย่างใด
ประเด็นที่สี่ ลำดับกระบวนการซึ่งยืนยันว่ามีการขอหมายจับก่อนและแจ้งต่อเลขาธิการป.ป.ส. เป็นสิ่งที่ทำได้
ประเด็นที่ห้า ในเรื่องของคำสั่งปร. 419/2556 เป็นงานคำสั่งภายในที่ใช้ภายในสตง. ใช้กับพนักงานสอบสวนเท่านั้นไม่ได้ใช้กับหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
และประเด็นสุดท้าย ในอดีตมีการเพิกถอนหมายจับอดีตอธิบดี DSI แต่ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นอำนาจเฉพาะของผู้พิพากษา เมื่อสั่งคำร้องโดยชอบแล้วมิเพิกถอนได้ และสอดคล้องกับกรณีศาลพิจารณาออกหมายจับส.ว.คนดังกล่าวแล้ว การสั่งเลิกถอนภายหลังจะต้องมีเหตุตามกฏหมายบังคับหรือระเบียบเป็นหลักในการพิจารณาหาได้อ้างเพียงเหตุหลงผิดไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอบคุณทั้งสามองค์กรที่ออกจดหมายยืนยันว่า การทำงานของพ.ต.ท.มานะพงษ์เป็นการกระทำที่ถูกต้องและนำไปสู่การขจัดคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมตั้งคำถามว่า หลังจากมีจดหมายจากสามองค์กรออกมาเช่นนี้แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งปส.3 ศาล ฯลฯ ทำอะไรกันอยู่ พร้อมย้ำว่าความยุติธรรมที่ล้าช้า คือความอยุติธรรม พร้อมทั้งกังวลว่า สุดท้ายแล้วจะเกิดการล้มคดีวิ่งเต้นให้เรื่องเงียบไป พร้อมจี้ไปยังนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจสั่งการตำรวจและเป็นผู้บังคับบัญชาจะไม่ตอบคำถามสังคมเลยหรือ

“ผมเชื่อว่าตำรวจน้ำดีในประเทศของเรามีอีกหลายคน ผมเห็นถึงความพยายามของคนที่ต่อสู้กับระบบที่ไม่ชอบแบบนี้ แล้วผมคิดว่าการที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ออกมาแบบนี้ คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และผมหวังว่าจะไม่ได้มีแค่ตำรวจที่ออกมาเป็นกบฏกับระบบที่ฟอนเฟะ ผมหวังว่าศาล อัยการ คนที่เป็นข้าราชการน้ำดีทั้งหมด อยากให้ทุกคนออกมาช่วยกันทำให้ประเทศของเราดีขึ้น เอาสิ่งปฏิกูล ที่อยู่ในระบบราชการออกไป วันนี้ถึงเวลาที่พวกเรา ทุกคนจะช่วยกันปัดกวาดกระบวนการยุติธรรมให้มันสะอาดกว่าที่เป็นอยู่” นายรังสิมันต์กล่าว

‘จักรพล’ ถาม ‘บิ๊กตู่’ เชียงใหม่เป็นพื้นที่ฝ่ายค้านหรือ ถึงเมินแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3875658

‘จักรพล’ ถาม ‘บิ๊กตู่’ เชียงใหม่เป็นพื้นที่ฝ่ายค้านหรือ ถึงเมินแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษเกินมาตรฐานทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบกับปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาในสมัยประชุมสภา ที่ผ่านมาพรรค พท.ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาด เข้าสู่ที่ประชุมสภา แต่ก็มีการตีความว่าเป็นกฎหมายการเงิน ต้องได้รับการอนุมัติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สุดท้ายร่างกฎหมายดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ก็เตะถ่วงนานนับปีจนสภาหมดวาระ ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทราบดีอยู่แล้วว่า ปัญหาจาก PM 2.5 ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อสุขภาพและสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง และมีผู้ที่เสียชีวิตจากสารพิษสะสมนี้ ดังนั้น อากาศสะอาดควรเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ แต่รัฐบาลกลับปล่อยปละละเลยปัญหา อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกิดมาจากการออกมาตรการที่เอื้อต่อนายทุนอ้อยและข้าวโพด ให้ปลูกกันเยอะๆ ทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน การแก้ปัญหาจึงไม่จบเพราะเกรงใจนายทุน โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน ที่ต้องเจรจาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับเมินเฉยปล่อยให้ประชาชนต้องรับกรรมกับปัญหาที่หนักหน่วง และเสี่ยงต่อชีวิตทุกวัน

นายจักรพลกล่าวต่อว่า ความเลวร้ายของระบอบประยุทธ์ คือการเอาตัวรอดสั่งการในห้องแอร์ไม่ยอมรับทราบถึงความลำบากของประชาชน ทั้งนี้ มีหลักฐานยืนยันว่าฝุ่น PM 2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ องค์การอนามัยโลกประกาศว่าทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ 7 ล้านคน โดยเกิดจากมลพิษจากอากาศภายนอกอาคาร 4.2 ล้านคน โดยร้อยละ 91 เกิดในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิกตะวันตก โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ผู้มีโรคระบบการหายใจเรื้อรัง เด็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังเจริญไม่เต็มที่ แต่มีอัตราการหายใจมากกว่าผู้ใหญ่ รวมถึงทารกในครรภ์ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในระยะยาว

“ประชาชนในพื้นที่เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงกำลังเผชิญปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง เพราะปัญหาฝุ่นพิษได้ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวลงอย่างสิ้นเชิง ถึงเวลานี้อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ตื่นจากฝันแล้วมาดูความจริงที่เกิดขึ้นเพราะฝุ่นพิษ PM 2.5 ไม่ได้ทำลายแค่เศรษฐกิจ แต่กำลังทำลายชีวิตประชาชนด้วย อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า เพราะเชียงใหม่เป็นพื้นที่ของพรรคฝ่ายค้านใช่หรือไม่เลยไม่เหลียวแล หากเป็นเช่นนั้นจริง พล.อ.ประยุทธ์อำมหิตมาก ที่นำชีวิตประชาชนมาเล่นเกมการเมือง สงสารคนไทยที่ได้ผู้นำใจอำมหิตเช่นนี้” นายจักรพลกล่าว

หุ้นเปิดตลาดดิ่ง 25 จุด หลังดัชนีดีดตัวได้วันเดียว แรงแพนิกแบงก์สหรัฐกดดันขึ้นไม่ไหว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3875770

หุ้นเปิดตลาดดิ่ง 25 จุด หลังดัชนีดีดตัวได้วันเดียว แรงแพนิกแบงก์สหรัฐกดดันขึ้นไม่ไหว

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,565.00 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,543.40 จุด ปรับลดลง 21.60 จุด หรือ 1.38% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,550.89 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,539.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 20,601.93 ล้านบาท

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นปรับฐานลง จากความกังวลปัญหาภาคธนาคารฝั่งยุโรป หลังจากวันที่ 14 มีนาคม ดัชนีลดลงกว่า 50 จุด ก่อนวันที่ 15 มีนาคม จะดีดตัวขึ้นมา 41 จุด เพราะนักลงทุนคลายกังวลต่อภาคธนาคารสหรัฐ ตามการฟื้นตัวของราคาหุ้นธนาคารสหรัฐ ที่กำลังเผชิญปัญหา จากนั้นในวันที่ 16 มีนาคม ก็เปิดตลาดมาลดลงแรงกว่า 25 จุด เพราะปัจจัยต่างประเทศเมื่อช่วงคืนวันที่ 16 มีนาคม กลับมาเป็นลบ ได้แก่ หุ้นธนาคารในยุโรปลดลงแรง นำลงโดย ธนาคาร Credit Suisse หลังจากผุ้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ได้แก่ Saudi National Bank แถลงว่าจะไม่เพิ่มทุนให้กับธนาคารอีกต่อไป เนื่องจากติดเพดานการถือหุ้น 10% แล้ว ส่งผลให้มีแรงขายกระจายในหุ้นธนาคารทั่วโลกอีกครั้ง รวมถึงภาวะ risk-off เมื่อคืน ยังกดดันให้ราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ลดลงเกือบ 5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน และน่าจะส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานตัวหลักๆ ในตลาดหุ้นไทยด้วย

นายรักพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติสวิสฯ แถลงแล้วว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับธนาคาร Credit Suisse และสถาบันการเงินที่มีปัญหา ส่งผลให้แรงกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้น่าจะไม่รุนแรงมากนัก ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำให้รอดูสถานการณ์เพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันนี้ที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการ รวมทั้งติดตามผลการประชุม ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ค่ำวันที่ 16 มีนาคมนี้ ซึ่งตลาดยังให้น้ำหนักว่า อีซีบีจะยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25-0.50%